The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1024 สละเรือ

　　ขณะที่กองยานเคลื่อนผ่านดินแดนกองทัพแบล็คสตาร์ ลีไซค์ก็ถูกตบหน้า
　　เมื่อเขามาถึงดาวประตูดำ พวกอมตะที่เขาคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันจากขอบหลุมดำก็ทำการกบฏครั้งใหญ่!
　　ผู้เล่นเหล่านี้ชอบอะไรที่มีประโยชน์สูงสุด ในเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจจะไปแล้ว พวกเขาจึงใช้ประโยชน์ของอีกฝ่าย แถม การเดินทางโดยไม่มียานคงลำบาก ผู้เล่นหลายคนยึดการควบคุมยานที่บรรทุกพวกเขา มุ่งตรงไปกองทัพแบล็คสตาร์
　　แม้แต่ผู้เล่นที่ไม่วางแผนสละเรือยังถูกบังคับให้ร่วมด้วย เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว และถ้าพวกเขาสู้และระเบิดยาน มันคงไม่ดีต่อทั้งสองฝ่าย
　　ด้วยผู้เล่นจำนวนมากในแต่ละยาน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุความเป็นเจ้าของ คนส่วนใหญ่จะติดตามยานไปสถานีขนส่งเท่านั้นจากนั้นพวกเขาก็จะกระจายตัว ทำตัวเป็นอิสระ นี่คือข้อเสียของการขาดคนนำ
　　เนื่องจากผู้เล่นจำนวนมากก่อกบฏ ขนาดของกองทัพลีไซค์จึงลดลงไปครึ่งและการเสียยานกับเสบียงก็สำคัญมาต่อลีไซค์ ทำให้เขารู้สึกเหมือนเลือดไหล
　　“พวกมันบ้าไปแล้ว!พวกมันไม่มีศีลธรรมเลย!’
　　ภายในห้องบัญชาการ ลีไซค์กระโดดโลดเต้นด้วยความโกรธ
　　เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้หลุดความคาดหมายเขาไป เขาหมกมุ่นอยู่กับความฝันที่จะบรรลุผลงานดีๆ ไม่คิดว่าผู้เล่นจะแทงข้างหลังเขา
　　ตอนพวกเขายังอยู่ขอบหลุมดำ พวกอมตะเหล่านี้ยังคงปฏิบัติตามกฏ ทำไมพวกมันถึงคลุ้มคลั่งตอนมาถึงโลกริบหรี่?
　　เขาพบว่ามันยากที่จะเข้าใจและโดยจิตใต้สำนึก เขารู้สึกราวกับเรื่องทั้งหมดนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิด ต้องมีบางองค์กรลอบยื่นมือเข้ามา เขาไม่ได้คำนึงถึงแรงจูงใจส่วนตัวด้วยซ้ำ
　　ท้ายที่สุด ลีไซค์ไม่เข้าใจผู้เล่น ในมุมมองเขา มันต้องเกิดอะไรลับหลัง ไม่มีเหตุผลที่ผู้เล่นเหล่านี้จะก่อจลาจลพร้อมกัน
　　ยานที่ถูกขโมยแยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว หายไปจากเรดาห์พวกเขา ดังนั้น ลีไซค์จึงยอมแพ้การไล่ล่า พลังของพวกอมตะยังดึงรั้งเขาไว้ และด้วยยานอวกาศที่มีความเร็วเท่ากัน มันจึงยากจะไล่ตาม ด้วยพื้นที่นี้ที่เป็นดินแดนของกองทัพแบล็คสตาร์ เขาจึงไม่กล้าดึงดูดความสนใจมากนัก
　　“ระยำ!”
　　ลีไซค์รู้สึกเจ็บปวดใจและโกรธ ผู้เล่นกลุ่มนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือของเขาลดลง
　　จากนั้นเขาก็ระงับอารมณ์ลง เมื่อเห็นพวกอมตะครึ่งหนึ่งยังอยู่ เขาก็รู้สึกขอบคุณเล็กน้อย　　“อย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็ยังอยู่ ต่อให้ฉันจะมีความน่าเชื่อถือลดลง แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง”
　　แต่ทว่า ลีไซค์ไม่กล้าผ่อนคลาย”แยกพวกอมตะที่เหลือ เพิ่มการป้องกันของยานแต่ละลำ..”
　　หลังจากประสบการณ์นี้ เขาจึงระวังต่อผู้เล่น
　　แต่ทว่า แม้จะระวังตัว การทรยศอีกรอบก็เกิดขึ้นเมื่อเขามาถึงเขตแข่งขันเสรี กองกำลังส่วนใหญ่ของลีไซค์ประกอบด้วยผู้เล่น ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะให้ลูกยานที่เหลือปกป้องแค่ไหน พวกมันก็ยังไร้ประโยชน์ต่อหน้าจำนวน ผู้เล่นที่เหลือต่างใช้ตั๋วฟรีเพื่อมาเขตแข่งขันเสรีเฉยๆ
　　ผู้เล่นที่เขานำมาจากขอบหลุมดำหายไปเกือบหมด ลีไซค์แทบโกรธจนอกแตกตาย
　　ดีมาก พ่อคนนี้พาพวกแกมาโลกริบหรี่ฟรีๆ คิดว่าจะได้ความดีความชอบ แต่กลับไม่ได้อะไรเลย เหมือนกับการตักน้ำโดยใช้ตะกร้าหวาย　　ข่าวร้ายหลั่งไหลเข้ามาทีละนิด ลีไซค์พบอย่างรวดเร็วจากข้อมูลเขาว่ายังมีกองกำลังชั้นนำที่รับตัวพวกอมตะเหล่านี้ไป ส่วนใหญ่คือกองทัพแบล็คสตาร์
　　ลีไซค์พบว่าเรื่องทั้งหมดยากจะยอมรับ ราวกับเขาถูกรังแก หัวใจเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต!
　　ทำไม!
　　ชีวิตบัดซบ!
　　สิ่งที่เขาไม่รู้คือ ผู้เล่นกลุ่มน้อยที่ยังเหลือคือคนอย่างมวยไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นสายและคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของกองยาน ส่งกลับไปยังกองทัพ
　　ในแง่ของแรงดึงดูด ช่องหว่างระหว่างเขากับกองทัพแบล็คสตาร์สูงเกินไป ต่อให้เขาสามารถได้รับตัวผู้เล่นมาชั่วคราว เขาก็ไม่มีทางได้หัวใจ novel-lucky
　　…
　　มีองค์กรมากกว่าหนึ่งที่ประสบกับเหตุการณ์นี้ หลังเข้าโลกริบหรี่ องค์กรขอบหลุมดำเหล่านี้ก็ถูกผู้เล่นทอดทิ้งและกองทัพแบล็คสตาร์ก็คือสถานที่หลักที่ผู้เล่นเหล่านี้จะไป
　　แรงดึงดูดของกองกำลังเขาสั่งสมมาหลายเวอร์ชั่น ส่งผลให้ผู้เล่นอยากมาเข้าร่วม ไม่จำเป็นที่หานเซี่ยวต้องทำอะไรเลย
　　ภายในวังแบล็คสตาร์ หานเซี่ยวเหลือบมองแถบค่าประสบการณ์ ดวงตาเขาเป็นประกาย
　　“ค่าประสบการณ์ระลอกนี้พุ่งสูงขึ้นเร็วมาก”
　　แผนเขาเพื่อขยายทุ่งกระเทียมหอมเริ่มออกผลผลิต
　　ผู้เล่นจากประเทศต่างๆมีทางเลือกของตนและส่วนน้อยถึงเข้าร่วมกองทัพ แต่จำนวนนี้ก็ยังถือว่ามาก ตามการประเมินของเขา ผู้เล่นจากขอบหลุมดำ 17-24%ได้เข้าร่วมกับกองทัพเขา ซึ่งนับเป็นล้านคน ส่วนใหญ่คือผู้เล่นธรรมดา　　“นี่แค่กลุ่มแรก เมื่อผู้เล่นจากทุ่งดาวอื่นมา ขนาดของกองทัพจะเพิ่มขึ้นมาก”หานเซี่ยวลอบยินดี
　　มีผู้มาใหม่มากมายจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้เล่นเหล่านี้มีความต้องการเรื่องความรู้สายอาชีพสูง มันจึงทำให้แถบค่าประสบการณ์เขาพลุ่งพล่าน
　　ทุกครั้งที่ผู้มาใหม่มาถึง ค่าประสบการณ์จำนวนมากจะตามมา
　　“เดาว่าสโมสรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คงแทรกซึมเข้ามาในกองทัพด้วย”
　　หานเซี่ยวลอบยิ้ม เขาไม่มีเจตนาหยุด
　　เขาสามารถขายอุปกรณ์ได้เพิ่ม ทำไมต้องหยุด?เขาสามารถได้รับเงินจากตรงนั้น ราวกับเขาเป็นพ่อค้าอาวุธ ใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจ
　　นอกจากนี้ ถ้าพวกเขาอยากเพลิดเพลินกับส่วนลด พวกเขาก็ต้องมีตำแหน่ง ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องมีส่วนร่วมในกองทัพ สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ
　　“ตัดสินจากความเร็วนี้ ฉันต้องการผู้เล่นเพิ่มขึ้นอีกนิดเพื่อได้รับค่าประสบการณ์มากพอเลื่อนเป็นระดับ 320”หานเซี่ยวตื่นเต้น
　　สำหรับผู้เล่นจำนวนมากที่ทิ้งองค์กรตน เขาคาดไว้นานแล้ว ความน่าเชื่อถือของผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างฉายา มะเร็งแห่งจักรวาล พวกเขาไม่เคยมีชื่อดี สิ่งนี้ยังรวมถึงความกลัวและความระมัดระวังที่โลกภายนอกรู้สึกต่อพวกเขา
　　หนึ่งในสัญญาณสำคัญสำหรับผู้เล่นที่เข้าสู่เวทีจักรวาลคือโลกริบหรี่ ตอนนี้การดำรงอยู่ของพวกเขาเป็นที่มองเห็น ดึงดูดความสนใจองคืกรหลายแห่ง
　　ในชีวิตก่อนหน้าเขา ขณะที่ผู้เล่นสร้างความวุ่นวาย ทำให้ชื่อเสียงโดยรวมลดลง มันยังถึงจุดที่องค์กรขนาดเล็กไม่กล้ารับผู้เล่นเข้าร่ว มผลที่ตามมาคือผู้เล่นรวมกันที่องค์กรชั้นนำแทน　　สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หานเซี่ยวเห็นและเข้าใจว่าไม่มีทางที่เขาสามารถบังคับผู้เล่นให้อยู่อย่างเชื่อฟังได้ ยิ่งผู้เล่นแกร่ง พวกเขายิ่งมีความคิดและควบคุมได้ยากขึ้น
　　ผู้เล่นจะแนบติดกับตัวละครที่พวกเขาคุ้นเคยและเพื่อการพัฒนา และความได้เปรียบ พวกเขาต้องปล้นเพื่อให้ได้ผลประโยชน์และทรัพยากร จุดชนวนสงคราม
　　ด้วยการเพิ่มขึ้นของพลัง ความวุ่นวายจึงเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หานเซี่ยวจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรตัวเองมาตลอด หนึ่งในวัตถุประสงค์เหล่านี้ก็คือการจัดการกับสถานการณ์นี้
　　เขาเข้าใจว่าเนื่องจากกองทัพเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้เล่น สถานการณ์นี้จึงต้องถูกพบโดยองค์กรอื่นที่จับตาดูเขา และสุดท้ายก็จะพากันคาดเดาได้
　　สิ่งนี้มีผลกระทบเล็กน้อยต่อเขา อย่างแรก ตำแหน่งเขาศูงพอเช่นเดียวกับพลัง สอง มีผู้เล่นมากมายที่เข้าร่วมองค์กรอื่น ดังนั้นสถานการณ์จึงไม่เกินเลย องค์กรต่างๆอย่างมากก็แค่แปลกใจ แต่ทว่า ยิ่งผู้เล่นต่างชาติเข้าร่วม คุณสมบัติพิเศษของกองทัพจะยิ่งชัดเจน ปัญหาก็จะเริ่มตามมา
　　หานเซี่ยวส่ายหัวเพื่อล้างความคิด
　　“ไม่คิดเลยว่าอีวานจะได้สัมผัสกับพลังงานโกลาหลแรกเริ่มแล้ว…”
　　ไม่นานมานี้ ฟิลลิปที่จับตาดูอีวานอยู่ตลอดได้ส่งรายงานกลับมาและหานเซี่ยวก็ยืนยันได้ว่ากลุ่มแสงสีแดงน่าจะเกี่ยวกับพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม แทว่า สิ่งนี้ปรากฏเร็วกว่าเวลาที่ระบุไว้ในมรดกเทพเอส
　　เขาตั้งสมมติฐานว่านี่น่าจะเป็นเพียงหนึ่งในเศาพลังที่แยกจากพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม มันถูกส่งมาตรวจสอบล่วงหน้าเฉยๆ ในไม่ช้ามันก็ถูกลากกลับไปมิติสองโดยกลุ่มพลังงานหลัก
　　นี่ยังช่วยแก้ข้อสงสัยของหานเซี่ยว ไม่แปลกใจที่พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจะเลือกอีวาน มันกลายเป็นว่าเขาได้สัมผัสกับมันล่วงหน้า
　　วินาทีที่แสงสีแดงเคลื่อนผ่านคน ความไม่ตรงกันจะทำให้คนคนนั้นระเบิดตัวตาย ไม่ใช่แค่อีวานจะไม่บาดเจ็บ เขายังกระปรี้กระเปร่า ดังนั้น พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจึงยืนยันได้ว่าเขามีคุณสมบัติจะเป็นภาชนะ
　　“วันเกิดของพลังงานโกลาหลแรกเริ่มใกล้ขึ้นมาทุกที ตัดสินจากประสบการณ์ฉัน ฉันควรสามารถเลื่อนเป็นระดับ320ได้ก่อนมันเกิด”