The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1030 การเคลื่อนไหวของคู่แข่ง
“พวกเขาอยากให้ฉันชิงพลังงานโกลาหลแรกเริ่มในนามจักรวรรดิ?”
ในฐานที่มั่นของพันธมิตรจักรวรรดิในเขตแข่งขันเสรี เรเวนลูดแปลกใจที่ได้รับข้อความนี้
ในฐานะสมาชิกกลุ่มคนแก่ชื่อดัง เรเวนลูดได้รับการยกย่องมากในหมู่พันธมิตรผู้อยุ่เหนือ ตำแหน่งเขาเหนือกว่าคนอย่างโคเลอร์และเบโยนี่ แม้เขาจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบล็คสตาร์ แต่ก็ไม่มีความขุ่นเคืองกัน
แน่นอน เรเวนลูดไม่รู้ว่ากาลอวกาศแอมเบอร์ควรจะเป็นของเขา แต่มันถูกชิงไปโดยหานเซี่ยวล่วงหน้า ไม่งั้นเขาคงเข้าร่วม’พันธมิตรต่อต้านแบล็คสตาร์”ซึ่งมีฮีเบอร์เป็นสมาชิกเพียงหนึ่งเดียว
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จักรวรรดิจะขอให้เขาช่วย สิ่งที่เรเวนลูดประหลาดใจคือข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานโกลาหลแรกเริ่มที่ปรากฏ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินถึงมัน
“พลังงานโกลาหลแรกเริ่ม..”ดวงตาของเรเวนลูดเป็นประกาย
พูดตรงๆ เขาถูกล่อลวง
ความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มในรายชื่อความเสี่ยงสูงเช่นนี้หายากมาก ถ้าเขาได้มัน มันก็มากพอจะเพิ่มพลังของลูกน้องเขา หรือเขาสามารถใช้คาถาผนึกเพื่อผนึกพลังงานโกลาหลแรกเริ่มลงในหุ่นเชิดเวทย์พิเศษของเขาให้ใช้พลัง ซึ่งอาจทำให้หุ่นเชิดแข็งแกร่งเท่าสมบัติจักรวาล
แต่ทว่า ความโลภนี้ก็คงอยู่แค่ไม่กี่วินาทีก่อนเขาจะดับมันไป
องค์กรเขาอยู่ในเส้นทางดาว ใกล้กับจักรวรรดิ ไม่จำเป็นต้องขัดต่อเจตจำนงของจักรวรรดิเพียงแค่พลังโกลาหลแรกเริ่ม
จักรวรรดิบอกเขาถึงข้อมูลนี้เพื่อให้เขาช่วย แต่ถ้าเขาโลภ มันคงทำให้จักรวรรดิไม่พอใจมาก สำหรับเขา มีผลเสียมากกว่าได้ “แต่สมบัติจักรวาล…”
เรเวนลูดยังทำใจไม่ได้ มันไม่ใช่เพราะเขาไม่มีความกล้าพอจะปล่อยพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไป แต่หลังเห็นกาลอวกาศแอมเบอร์ของหานเซี่ยว เขาก็รู้สึกถึงความว่างเปล่าในหัวใจ เหมือนเขาพลาดสิ่งสำคัญไป สมบัติจักรวาลจึงกลายเป็นแรงกระตุ้นสำหรับเขา
มันเหมือนเด็กที่เห็นเด็กคนอื่นมีของเล่นสนุกและก็อยากได้บ้าง
คำเดียว อิจฉา!
“ในเมื่อพลังงานโกลาหลแรกเริ่มมีค่าพอๆกับสมบัติจักรวาล จึงเป็นเวลาเหมาะสมที่จะเจรจากับจักรวรรดิ”
จากนั้นเรเวนลูดก็ส่งคำขอไปยังจักรวรรดิ ถ้าพวกเขาอยากให้เขาช่วย จักรวรรดิก็ต้องให้สมบัติจักรวาลกับเขา
ไม่นาน คำตอบของจักรวรรดิก็มา แสดงการอนุมัติต่อคำขอของเรเวนลูดแต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม
ถ้าพลังงานโกลาหลแรกเริ่มปรากฏในพื้นที่อื่น เรเวนลูดจะได้รับแค่ทรัพยากรเป็นรางวัลสำหรับความลำบาก
แต่ถ้าพลังงานโกลาหลแรกเริ่มปรากกในกลุ่มดาวมรกตและเรเวนลูดได้รับมัน เขาจะได้รับสมบัติจักรวาลชิ้นหนึ่งจากคลังของจักรวรรดิ
รายการสมบัติจักรวาลยังถูกแนบมาด้วย ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ต่อสู้ มันเป็นรายการเดียวกับที่มอบให้แบล็คสตาร์เพื่อแลกลูกบาศก์วิวัฒนาการ
เรเวนลูดดูและพยักหน้าพอใจ
หานเซี่ยวไม่สนใจของเหล่านี้ แต่พวกมันมีค่ามากสำหรับเรเวนลูด เหนือสิ่งอื่นใด หานเซี่ยวได้ลูกบาศก์วิวัฒนาการและกาลอวกาศแอมเบอร์มาแล้ว สมบัติจักรวาลทั่วไปจึงไม่อยู่ในสายตาเขา
ด้วยรางวัลที่สัญญา เรเวนลูดจึงมีแรงใจหลังดูรายชื่อคู่แข่งที่จักรวรรดิจัดให้ เขาก็ยิ้มมั่นใจ
มันจะไปยากสักแค่ไหนเชียว?
..
ในพื้นที่ไร้การสำรวจของกลุ่มดาวมรกต กองยานกำลังเคลื่อนด้วยไฮเปอร์ดรฟ์ เกราะชั้นนอกมันไม่มีสัญลักษณ์
ภายในยานหลัก ชายร่างสูงสวมเสื้อคลุมสีม่วงยืนอยู่ตรงหน้าแผงควบคุม ปล่อยกลิ่นอายเย็นเยือกและมองแผนที่ดาวเงียบๆ จุดสีแดงบนนั้นเป็นจุดพิกัดที่พลังงานโกลาหลอาจปรากฏ
ข้างเขา มีสิ่งมีชีวิตคล้ายปลาที่ถูกมัดด้วยเชือกวิเศษพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ”ท่านปรมาจารย์เร้นลับ ผมสาบานว่าข้อมูลนี้เป็นความจริง มันคือมรดกของเทพเอสจริงๆ ไม่ใช่ข่าวปลอมที่ผมแต่ง!”
“ขอให้เป็นจริง ไม่งั้นแกคงรู้ผลที่ตามมา”เขาตอบด้วยเสียงไม่แยแส ชายคนนั้นหันมามองเขา ผิวทั้งหมดที่เขาเผยออกมาด้านนอกปกคลุมด้วยอักษรรูนอันตระการตา ซับซ้อนอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกับ’บรรพชนอสูร’โกรูตัน ชายคนนี้คือผู้พิทักษ์ตลาดมืด เขาคือปรมาจารย์เร้นลับผู้โด่งดังในสมาคมผู้วิเศษ เขาเป็นผู้มีอำนาจในสถาบันรูน สถาบันเล่นแร่แปรธาตุ และสถาบันลับ เหตุผลที่เขาได้ฉายานี้เพราะข่าวลือว่าเขาเชี่ยวชาญคาถาลับที่สามารถควบคุม’โชค’ของคนได้ และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบอกอนาคตและมองอนาคต
รอยสักทั้งหมดบนตัวเขาเป็นรูนเกรดคาถาต้องห้ามที่มอบพลังให้ร่างกายเขามหาศาล องค์กรที่เขาอยู่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีรูนขั้นสูง ซึ่งสามารถเห็นได้จากลูกน้องเขา ทั้งหมดต่างสวมชุดเกราะรูนสวยงามและผิวหนังก็ยังปกคลุมด้วยลวดลายซับซ้อน
ปรมาจารย์เร้นลับหันไปมองแผนที่ดาว ดวงตาเขาสั่นไหวเล็กน้อย
“พลังงานโกลาหลแรกเริ่ม…” ไม่นานมานี้ จู่ๆเขาก็เห็นเหตุการณ์ใหญ่ที่จะเกิดในกลุ่มดาวมรกตว่ามันอาจมีประโยชน์ต่อเขา ดังนั้นเขาจึงใช้พลังเขาในตลาดมืดและตรวจสอบมัน ด้วยโชคแสนโดดเด่น เขาพบองค์กรขนาดเล็กที่สู้แย่งชิงมรดกเทพเอส พวกเขาดันมีพิกัดของพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม หลังพวกเขาถูกจับมาสอบปากคำ ปรมาจารย์เร้นลับก็เริ่มสนใจมัน
เขาคือคนที่ไม่รังเกียจที่จะใช้ตัวแทนภายนอกทั้งหมดเพื่อเพิ่มพลังเขา และรูนทั้งหมดเหล่านี้บนตัวก็คือหลักฐาน ในเวลาเดียวกัน เขายังมีของเวทย์คุณภาพสูงมากมาย ความปรารถนาเขาที่จะสะสมของอยู่ในระดับบ้าคลั่ง ดังนั้น เขาจึงอยากได้พลังงานแสนหายากนี้ด้วย
เนื่องจากระยะทางไกล เขาจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปยังกัดอื่นขณะตรงไปกลุ่มดาวมรกตที่มีความเป็นไปได้สูงสุดเอง
“ฉันสงสัยว่าองค์กรต่างๆคงเข้าร่วมด้วย..” คำถามนี้ผุดขึ้นในหัวเขา แต่ก็ถูกลบไป เขามั่นใจมาก
ไม่ว่าองค์กรไหนจะมา ฉันก็จะจัดการให้หมด มีผู้อยู่เหนือมากแค่ไหนถึงสู้กับฉันได้?
…
ฐานที่มั่นของอารยธรรมโมโดตั้งอยู่ในพื้นที่อื่นของกลุ่มดาวมรกต
ทีมชั้นยอดที่ก่อตั้งโดยภัยพิบัติรวมกันที่ท่าจอดลับและผู้บัญชาการของกองยานโมโด ร็อดดิกกับลากอสก็ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อตรวจสอบ
“ผมจะปล่อยภารกิจพลังงานโกลาหลแรกเริ่มให้เป็นหน้าที่พวกคุณ”ร็อดดิกพยักหน้าให้ทุกคน
อารยธรรมขั้นสูงบางส่วนได้รับข้อมูลจากมรดกเทพเอส ท่ามกลางนั้น อารยธรรมโมโดคือคนที่รู้เรื่องพลังงาน อารยธรรมโมโดไม่มีเหตุผลจะละทิ้งของมีค่านี้ไป
สถานที่อื่นจึงถูกมอบให้คนอื่นดูแล ขณะที่กองยานสำรวจนำโดยร็อดดิกจะไปกลุ่มดาวมรกต
นับตั้งแต่กองยานสำรวจถูกโจมตีโดย’กองกำลังลึกลับ’ แรงกดดันก็ทำให้ร็อดดิกตื่นตัวขึ้นมาก เขาระวังในการจัดหาทรัพยากรใหม่
แต่ทว่า มันไม่ได้มีประโยชน์นัก กำลังเสริมที่จะมาเติมจากวงแหวนดาวกระจายมักถูกโจมตีโดย’กองกำลังลึกลับ’ระหว่างทาง ซึ่งทำให้พวกเขาเสียเวลาไปมาก
โชคดี หลังพวกเขามาถึงเขตแข่งขันเสรี พันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอดก็ช่วยพวกเขาบ้าง ซึ่งทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ดังนั้น ทีมของ
ร็อดดิกจึงไม่ถูกโจมตีอีกในกลุ่มดาวมรกต
ดังนั้น เขาจึงมีเวลารวมทีม เตรียมพร้อมทำภารกิจที่เบื้องบนมอบให้ ยึดพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม
อารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดมีดินแดนกว้างขวางและทรัพยากรมากมายรวมถึงนักสู้ระดับสูง พวกเขามีภัยพิบัติเป็นพัน มากกว่าอารยธรรมระบบดาวที่มีแค่ไม่กี่สิบ
อารยธรรมโมโดหวังไว้สูงกับกองยานสำรวจ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ภัยพิบัติประมาณร้อย ทีมชั้นยอดนี้ที่มุ่งหน้าไปยึดพลังงานโกลาหลกรแกรเมรวมภัยพิบัติของกองยานสำรวจไว้มากถึง 40%ซึ่งประมาณ 40-50คน นี่กองกำลังที่ทรงพลังมาก
สำหรับปฏิบัติการนี้ อารยธรรมโมโดไม่ได้แจ้งพันธมิตรอื่นของกลุ่มดาวชั้นยอด เหนือสิ่งอื่นใด พลังงานโกลาหลมีแค่อันเดียว มันไม่สามารถแบ่งปันได้
บางทีอารยธรรมอื่นก็คงมีข้อมูลเหมือนกัน แต่อารยธรรมโมโดชัดเจนว่าจะไม่บอกใครถึงมัน
เมื่อมองกองยานเข้าสู่โหมดล่องหนและออกเดินทาง ลากอสก็มาหาร็อดดิก ถามอย่างกังวล”มันไม่เสี่ยงเกินไปงั้นหรอที่ส่งคนไปมากขนาดนี้?ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราจะเสียภัยพิบัติไปมาก…”
“ผมบอกพวกเขาให้ระวังตัวเอง ถ้าผู้อยู่เหนือเข้าร่วม พวกเขาจะลงมืออย่างระมัดระวัง ถ้าไม่ พวกเขาก็สามารถบดขยี้องค์กรคู่แข่งได้ทั้งหมด’ร็อดดิกพูด
“แต่ตอนนี้ที่เราส่งพวกเขาออกไป การป้องกันของฐานเราจึงอ่อนแอลง คุณไม่กังวลว่าแบล็….กองกำลังลึกลับจะโจมตีเราอีกครั้งงั้นหรอ?”ลากอสถาม
ร็อดดิกตะคอก พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น”ฮึ่ม ฐานที่มั่นของพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอดจะระวังกันเสมอ เรายังจ้างผู้อยู่เหนือบางคนที่น่าเชื่อถือว่าเกรอซมา กองกำลังของแบล็คสตาร์แข็งแกร่งแล้วยังไง?เขาไม่กล้ามาแตะต้องเราหรอก” novel-lucky
พวกเขาไม่ต้องหดหัวอีก ตอนนั้น พวกเขาไม่มีคนช่วย ดังนั้นจึงทำอะไรไม่ได้ตอนโดนโจมตี แต่ตอนนี้ เพื่อนร่วมทีมทั้งหมดของพวกเขามารวมกัน และ แนวป้องกันก็แข็งแกร่งกว่าเดิม ถ้าแบล็คสตาร์มาสร้างปัญหา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอด เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะกล้า
…
หลังโลกริบหรี่เปิด ไซเคอร์ก็ไม่ยอมแพ้ต่อโอกาสนี้และยังติดตามศาสนจักรมาเพื่อพัฒนากองกำลังเขาและสร้างฐานในเขตแข่งขันเสร่
ด้วยความที่สามอารยธรรมจักรวาลมารวมกัน ไซเคอร์จึงไม่ตกเป็นเป้า วันของเขาค่อนข้างสงบ เมื่อมองกองยานสำรวจที่ทำงานได้ดีขึ้นทุกวัน เขาก็พอใจ
“ฉันควรดูว่าสิ่งต่างๆเป็นยังไงก่อน ถ้าฉันสามารถสร้างดินแดนได้มั่นคง ฉันก็สามารถอพยพคนส่วนหนึ่งมาที่นี่ได้’
ไซเคอร์แหงนมองฟ้า คิดถึงแผนอพยพ
ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รีบเดินมา
“ท่านผู้นำ เรดาห์ฐานพบกองยานสองแห่งกำลังใกล้เข้ามา พวกเขาดูเหมือนจะสู้กัน ฝ่ายหนึ่งเหลือยานแค่สามลำ และก็คงทนได้ไม่นาน ตามทิศทางที่กำลังมุ่ง การต่อสู้พวกเขาจะมาถึงฐานเราในไม่ช้า เราควรทำยังไงดีครับ?’
ไซเคอร์ใช้ดวงตาทั้งเจ็ดของเขามองเรดาห์และสั่ง”ไล่พวกมันไป บอกว่าอย่ามาสู้รอบดินแดนฉัน”
ขณะสั่ง ลูกน้องเขาก็รีบดำเนินการ แต่ทว่า หลังจากนั้น เขาก็วิ่งกลับมาอีกครั้ง
“ท่านผู้นำ พวกเขาถูกไล่ไปแล้ว แต่กลุ่มคนที่เราช่วยไม่เต็มใจไป หนึ่งในนั้นคือภัยพิบัติ เขาคิดว่าท่านช่วยเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงอยากเข้าร่วมกับเรา”
“เข้าร่วมกับเรา?”ไซเคอร์ตกตะลึง เขารู้สึกถึงอารมณ์ซับซ้อนในหัวใจ
เขาพลันจำได้ว่าตั้งแต่เขาตกเป็นเป้าหมายของแบล็คสตาร์ มันก็นานมากแล้วที่ไม่มีใครมาเข้าร่วมกับเขา เขาเกือบลืมไปแล้วว่าการเป็นผู้อยู่เหนือนั้นเป็นอย่างไร
ความรู้สึกที่ห่างหายไปนานนี้…ช่างอบอุ่นเหลือเกิน
“เชิญเขามา ฉันอยากเจอเขา”ไซเคอร์ดีใจ ท่าทีเขาเป็นมิตรขึ้น ไซเคอร์ตัดสินใจพบกับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงความจริงใจ
หลังจากนั้น ภัยพิบัติคนนี้ก็ถูกพามาตรงหน้าไซเคอร์ เขามีแผลมากมายบนตัว เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการต่อสู้ยากลำบาก
“ท่านเนตรม่วง..”ใบหน้าคนคนนี้เต็มไปด้วยความชื่นชม เขาเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดบนตัวและโค้งคำนับ”ท่านช่วยชีวิตผมไว้ ผมเต็มใจเข้าร่วมกองกำลังท่านและทำงานให้ท่าน”
“อืม มันเป็นเรื่องเล็กน้อย”ไซเคอร์ดูสงบ แต่จริงๆแล้วเขากลับชอบมาก ท่าทีเคารพจากคนคนนี้ทำให้เขาจำได้ว่าการเป็นผู้อยู่เหนือนั้นเป็นอย่างไร
“เพื่อตอบแทนท่าน ผมอยากให้ของขวัญกับท่าน มันเป็นข้อมูลที่ล้ำค่ามาก” “ข้อมูลอะไร?”ไซเคอร์ถาม
“เบาะแสเกี่ยวกับความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง พลังงานโกลาหลแรกเริ่ม!”
ไซเคอร์หยุดชะงักและความสนใจก็ฉายผ่านดวงตาทั้งเจ็ดพร้อมกัน
…
ในวังแบล็คสตาร์
“อะไร เขาชวนฉันมา แต่กลับออกไป?!”
เอเมสหรี่ตา อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะลดลงทันที สนามพลังรุนแรงคำรามเหมือนกระแสน้ำ พื้นและกำแพงที่ทำจากโลหะผสมแข็งแรงสั่นสะเทือนไม่หยุด รอยแตกปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขาของออโรร่าอ่อนยวบ เธอก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด
อาจารย์..น่ากลัวมากตอนโกรธ
เธอสามารถรับรู้ได้ถึงความโกรธของเอเมสจากสนามพลัง เธอตอบรับคำเชิญด้วยความตื่นเต้น รีบเดินทางมา แต่พบว่าหานเซี่ยวไม่อยู่ ใครก็ตามก็คงรู้สึกโกรธ…
ไม่ มันแย่กว่า หานเซี่ยวไม่อยู่บ้าน แต่เขายังเรียกเธอมา มันเกือบเหมือนการแกล้ง
แม้แต่คนไม่สนโลกอย่างเอเมสก็ยังรู้สึกโมโห
“อาจารย์ ทำไมไม่อยู่ที่นี่สักพักละ?เดี๋ยวลุงหานก็กลับมาแล้ว”ออโรร่าพุดอย่างระมัดระวัง
เอเมสเหลือบมองและปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว”คิดว่าฉันว่างมากหรือไง?”
จากนั้น ทั้งคู่ก็เงียบไป
ออโรร่าอยากพูดบางอย่างแต่ก็ไม่พูด
ไม่รู้ว่าตัวเองว่างมาก?
ทั้งสองจ้องตากัน และบรรยากาศก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
หลังมองหน้ากันครู่หนึ่ง เอเมสก็ถอยกลับ สนามพลังหดลง โดยไม่เปลี่ยนสีหน้าเธอจงใจใช้น้ำเสียงที่ฟังเหมือนเธอไม่สนใจ”ฉันจะอยู่ต่อสักพัก ฉันมาเพื่อเธออยู่แล้ว ไม่ว่าแบล็คสตาร์จะอยู่หรือไม่ ฉันก็ไม่สนใจ ฉันไม่ได้อยากเห็นหน้าเขาอยู่แล้ว”
ออโรร่าเงียบ ฉันเชื่ออาจารย์นะ