The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1033 ปรมาจารย์เร้นลับ..ฉันไม่เคยเห็นคนที่โชคร้ายขนาดนี้มาก่อน
- Home
- The Legendary Mechanic
- ตอนที่ 1033 ปรมาจารย์เร้นลับ..ฉันไม่เคยเห็นคนที่โชคร้ายขนาดนี้มาก่อน
เมื่อได้ยินคำพูดเย้ยหยัน ใบหน้าของปรมาจารย์เร้นลับก็ดำมืด เขาขี้เกียจเกินกว่าจะตอบ ดวงตาเขามองผ่านไปหานเซี่ยวไปยังลำธารแสงที่มุ่งอกอสนามรบ
ไม่ช้า กองทัพจักรกลก็แยกหน่วยมันเพื่อคุ้มกันพลังงานโกลาหลแรกเริ่มและหายไป
อารมณ์เขาดำดิ่ง
เขาอยากไล่ตาม แต่กายสถิตของแบล็คสตาร์ยืนขวางทางและให้กลิ่นอายที่ทำให้เขาสะดุ้ง เขารู้ว่าทันทีที่เขาทำอะไร เขาจะต้องเจอกับพายุการโจมตี
ดวงตาของปรมาจารย์เร้นลับจับจ้องหานเซี่ยว ผู้อยู่ตรงหน้าเขา สำรวจเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสนใจแต่ก็ไม่พอใจ”แบล็คสตาร์ นี่ควรเป็นครั้งที่สองที่เราพบกันใช่ไหม?” “นับรวมการประชุมทวยเทพ ก็ใช่”หานเซี่ยวพยักหน้า
“ฮึ่ม งั้นเราก็มี…ชะตาต้องกัน!”เขาเค้นคำพูด
เขาหงุดหงิดและโกรธที่พลังงานโกลาหลถูกชิงไป แต่ทุกคนมาที่นี่เพื่อแย่งมัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพลังพวกเขา มันเป็นของใครก็ตามที่สามารถได้รับมัน
เขาอยากได้พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจริงๆ แม้มันจะถูกชิงไปโดยหานเซี่ยว ก็ไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก พวกเขาคือคนดังในจักรวาล ถ้าเขาไม่สามารถได้รับมัน ก็ปล่อยไป
แต่ทว่า ไม่มีทางที่เขาจะถอยทั้งอย่างนี้ เขาต้องสู้บ้าง ปรมาจารย์เร้นลับไม่อยากดูหานเซี่ยวได้มันไปง่ายๆ มันจะดูเหมือนเขากลัวหานเซี่ยว เขาอาย ไม่เหมือนกับเจ้าเจ็ดตาที่ชินแล้ว
เขาแอบร่ายคาถาเคลื่อนย้ายและตระหนักว่ามันถูกยับยั้งโดยคุกมิติ เมื่อพื้นที่นี้ไม่ถูกขัง ก็ยังมีโอกาสไล่ตามผ่านการเคลื่อนย้ายและชิงกลับ ปรมาจารย์เร้นลับคิดขณะปรับอารมณ์ ให้ความสนใจกับสถานการณ์ปัจจุบันและยับยั้งความโกรธตัวเอง สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บ และเริ่มคุย
“ฉันมักอยากรู้เกี่ยวกับแกมาตลอด แม้เราจะไม่ได้ติดต่อกัน ฉันก็ประทับใจแกเสมอมา”
“ในทางไหน?’หานเซี่ยวไม่เสียเวลา มันคือสิ่งที่เขาต้องการเหมือนกัน
‘การกระทำของแกกระจายไปทั่วจักรวาล ในสายตาฉัน แกเป็นนักวางแผน รวมถึงนักฉวยโอกาส โชคคือเหตุผลสำคัญที่แกสามารถสร้างทุกวันนี้ได้ มันช่วยให้แกเลือกโอกาสที่เหมาะสมและทำให้แกพัฒนาเร็วขนาดนี้ แกเป็นคนโชคดี”
เมื่อได้ยินคำพูดเขา หานเซี่ยวก็อดเหล่มองปรมาจารย์เร้นลับไม่ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าฉันโชคดี แกอาจพูดผิดคน…
อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมปรมาจารย์เร้นลับถึงพูดแบบนี้ สำหรับโลกภายนอก การเติบโตของเขาเร็วและราบรื่นเกินไป มีโอกาสมากมายที่ดูเหมือนจะตกลงมารอบเขา ซึ่งดูเหมือนเพราะโชคเขา
แต่ทว่า โอกาสเหล่านี้สร้างขึ้นโดยเขา ไม่ใช่โชค ทั้งหมดเพราะเขาคุ้นเคยกับทิศทางของโลกและมีข้อมูลของอนาคต
แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนั้น
“ฉันเดาได้อยู่แล้วว่าแกจะพูดแบบนั้น”หานเซี่ยวยอมรับ
“ฮี่ๆ แต่จากวันนี้ไป โชคของแกคงหมดลงแล้ว”อักษรรูฯปรากฏในส่วนลึกของดวงตาปรมาจารย์เร้นลับ”แกควรได้ยินฉายาฉัน ฉันสามารถควบคุมโชคของคนได้”
เมื่อเห็นความมั่นใจของเขา หานเซี่ยวก็รู้สึกแปลกๆแต่ก็ยังให้ความร่วมมือ
“แกพยายามจะลดโชคของฉันแบบถาวร?”
ปรมาจารย์เร้นลับแค่นเสียง”แกเอาของของฉันไป แกจะต้องชดใช้”
อันที่จริง เขาไม่เต็มใจตอแยกับหานเซี่ยวเลย เหนือสิ่งอื่นใด หลังการประชุมทวยเทพ ตำแหน่งของหานเซี่ยวก็ค่อนข้างพิเศษภายในแวดวงผู้อยู่เหนือ ในฐานะผู้อยู่เหนือเป็นกลาง มันดีกว่าที่เขาจะไม่ตอแยหานเซี่ยว
แต่ทว่า เขาไม่สามารถทนกับเรื่องนี้ได้ แม้จะแค่เพื่อรักษาหน้าเขาก็ตาม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลงโทษหานเซี่ยวบ้าง
มันยังเป็นการพูดด้วยหมัดสินะ…หานเซี่ยวคาดไว้แล้ว เขาไม่คิดว่าปรมาจารย์เร้นลับจะปล่อยเขาไปง่ายๆ
วินาทีต่อมา แสงเวทย์สีฟ้าก็ส่องประกายจากร่างของปรมาจารย์เร้นลับ
“ทุกคนต่างบอกว่าแกสู้กัน มาดูกันว่าแกจะแน่สักแค่ไหน”
พลังเวทย์ในตัวเขาพุ่งออกมาเหมือนกระแสน้ำ ปะทุขึ้นทันที
บูม!
กายสถิตของหานเซี่ยวถูระเบิดด้วยพลังเวทย์และถอยไปไกล
ปรมาจารย์เร้นลับถือโอกาสทิ้งระยะห่างระหว่างตัวเขากับหานเซี่ยว แต่ทว่า หลังการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ ผลของคุกมิติก็แข็งแกร่งขึ้น ทำให้คนที่ต้องผลมันช้าลงมาก ความสามารถนี้ไม่แยกความแตกต่างของมิตรหรือศัตรู แต่หานเซี่ยว ผู้มีพรสวรรค์เผ่ามิติสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ
ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถทิ้งห่างจากหานเซี่ยวได้ไม่ว่าจะถอยห่างแค่ไหน เขาจึงตัดสินใจไม่ขยับ เริ่มร่ายคาถาอย่างต่อเนื่องเหมือนปืนใหญ่
เพื่อจะชิงพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม กายสถิตจึงใช้การสลับมิติเพื่อสลับมันกับภาชนะผนึก ซึ่งทำให้ต้องแยกมาสู้กับปรมาจารย์เร้นลับลำพัง กองทัพจักรกลอยู่ห่างไป ปัง!
ลำแสงพลังเวทย์สีฟ้าลากไปตามทาง ถล่มใส่หานเซี่ยวไม่หยุด แตกเป็นประกายบนม่านพลังของกายสถิต
โดยไม่มีกองทัพจักรกล หานเซี่ยวชัดเจนว่าเขามีปัญหาด้านการโจมตี ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจพุ่งใส่ทะเลคาถาและปิดระยะห่าง
หลังการยกระดับ พละกำลังและความเชี่ยวชาญเขาก็สูงขึ้น เมื่อเจอกับจอมเวทย์ด้วยกายสถิต การต่อสู้ระยะประชิดจึงเหมาะกว่า
ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว
ในสายตาหานเซี่ยว ใบหน้าใหญ่ของปรมาจารย์เร้นลับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“รับไปซะ!”
เขาเปิดใช้ความสามารถโจมตีจุดตาย กระแทกหัวไปข้างหน้า ปัง!
หน้าผากเหล็กเขาพุ่งใส่หัวของปรมาจารย์เร้นลับผ่านม่านพลังเวทย์โดยตรง
ปรมาจารย์เร้นลับรู้สึกถึงเสียงหึ่งๆในหัวเขาทันที เหมือนมีคนกดกริ่งในหัว เขารีบสะบัดไล่ความมึนมัวออกไป รูนบนตัวเขาพลันส่องสว่าง และมือนับร้อยก็ปรากฏข้างเขา สร้างเป็นภาพติดตาของหมัด
ในฐานะจอมเวทย์ ความสามารถต่อสู้ระยะประชิดไม่ค่อยดีนัก
การต้องสู้ระยะประชิดทำให้ปรมาจารย์เร้นลับลอบตกใจ
เขาเคยต่อสู้กับนักสู้มามาก เขาตระหนักว่าความสามารถต่อสู้ระยะประชิดของกายสถิตหานเซี่ยวเหนือกว่านักสู้ผู้อยู่เหนือบางคนซะอีก การโจมตีดุจพายุยากจะต้านรับ
แบล็คสตาร์แข็งแกร่งกว่าที่ข่าวลือพูด…
ความคิดนี้แวบขึ้นมาก่อนหายไป ปรมาจารย์เร้นลับจดจ่อกับงานตรงหน้าและเบี่ยงความสนใจไปทำสองสิ่งพร้อมกัน เขาต่อสู้กับหานเซี่ยวขณะควบคุมพลังงานเวทย์เขาให้สร้างคาถาลับที่มุ่งเป้าไปยังโชค
โชคไร้รูปแบบและเป็นอะไรที่ลึกลับมาก แต่ตอนนี้ ในมุมมองของปรมาจารย์เร้นลับ หมอกพร่ามัวปรากฏขึ้นรอบทุกสิ่งมีชีวิต บางหมอกหนา บางหมอกบาง
นี่คือคาถาเฉพาะของปรมาจารย์เร้นลับ มันรวมการศึกษาวิญญาณ จิตใจ อนาคต การทำนายดวงชะตาและสาขาเวทย์อื่นๆไว้ เขาสามารถหาโชคของเป้าหมายได้ ความหนาของหมอกแสดงถึงโชค novel-lucky
ยิ่งโชคมาก หมอกยิ่งหนา
“ขอฉันดูหน่อยว่าแกมีโชคมากแค่ไหน!”
ปรมาจารย์เร้นลับตัดสินใจลดโชคของหานเซี่ยว
เมื่อเขามองใกล้ๆ เขาก็ต้องขยี้ตาใหม่
โดยปกติ ผู้อยู่เหนือจะเป็นคนโชคดีมาก สำหรับพวกเขาที่มาถึงจุดสูงสุดของจักรวาลได้ คนไร้โชคจะมาถึงได้ยังไง โชคของแบล็คสตาร์ควรมากเป็นพิเศษ เขาน่าจะมีหมอกหนาปกคลุม
แต่ทว่า สถานการณ์จริงตรงข้ามโดยสิ้นเชิง หมอกรอบตัวหานเซี่ยวบางจนแทบไม่มีอยู่!
ปรมาจารน์เร้นลับเห็นคนมานับไม่ถ้วน แต่นี่คือครั้งแรกที่เขาพบเห็นคนโชคร้ายขนาดนี้!เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง!
มันไม่สมเหตุสมผล!คนแบบนี้จะเป็นผู้อยู่เหนือได้ยังไง?!
ปรมาจารย์เร้นลับตกตะลึง
เดิม เขาอยากลบโชคของแบล็คสตาร์ แต่ตอนนี้…
โชคของชายคนนี้ยังจะลดลงได้อีกงั้นหรอ?!
คาถาเฉพาะมากมายของปรมาจารย์เร้นลับหมุนรอบการสร้างความเสียหายทางวิญญาณผ่านการลดโชคเป้าหมาย แต่ต่อหน้าหานเซี่ยว..เขาตระหนักว่าไพ่ตายเขาเปล่าประโยชน์
ในชั่วพริบตา เขาเสียสมาธิและเผยจุดบอด หานเซี่ยวไม่สนใจความคิดในหัวเขาและคว้าโอกาสนี้ไว้
ปัง ปัง ปัง!
หมัดกระทบใส่ตัวปรมาจารย์เร้นลับอย่างถี่ยิบ
เมื่อถูกทุบตี รูนป้องกันมากมายบนตัวเขาก็แตก ปรมาจารย์เร้นลับไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองฟุ้งซ่านอีก เขาตั้งท่าป้องกันและรับมือภายใต้การโจมตีของหานเซี่ยว
ขณะทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างรุนแรง เรเวนลูดผู้อยู่ในระยะของคุกมิติก็รู้สึกขัดแย้ง
โดยปกติ เรเวนลูดต้องช่วยพันธมิตรจักรวรรดิ แต่ตอนนี้ แบล็คสตาร์ยังเป็นคู่แข่งที่สู้เพื่อพลังงานโกลาหลแรกเริ่มด้วย
“ฉันต้องทำภารกิจให้สำเร็จและรับเอาสมบัติจักรวาลมา” หลังคิด เรเวนลูดก็ตัดสินใจและเริ่มร่ายคาถาเพื่อยกเลิกผลของคุกมิติ
“อืม?”เมื่อสัมผัสถึงความปั่นป่วน หานเซี่ยวก็หันไปจ้องเรเวนลูด
“อย่ามองฉันแบบนั้น ฉันแค่ทำตามภารกิจของจักรวรรดิ”
เรเวนลูดสังเกตเห็นสายตาของหานเซี่ยวและตอบอย่างประหม่า เขาพยายามแยกตัวออกออกจากคุกมิติอย่างเงียบๆ
วินาทีต่อมา คุกมิติก็พังทลาย อวกาศรอบพวกเขากลับเป็นปกติ ขณะที่ทั้งสองสู้กัน เรเวนลูดก็เปิดประตูมิติทันที และหายไป ตรงไปหากองทัพจักรกลที่กำลังคุ้มกันพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม
เมื่อเห็น ปรมาจารย์เร้นลับก็อยากทำเหมือนแต่ แต่กายสถิตจักรกลก็ป้องกันเขาไว้
กองทัพจักรกลที่เหลือของหานเซี่ยวมาถึง พวกมันเปิดใช้อุปกรณ์ปรับเสถียรและอุปกรณ์รบกวนเวทย์ที่ปกคลุมทั่ว หยุดการร่ายคาถาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง ทำให้ปรมาจารย์เร้นลับไม่สามารถหนีได้
“บ้าจริง!”ใบหน้าของปรมาจารย์เร้นลับดำมืด สถานการณ์นี้หมายความว่าเขาถูกตัดออกจากการแข่งขันแล้ว
นอกจากนี้ ปรมาจารย์เร้นลับสามารถเห็นว่าแบล็คสตาร์มีวิธีหยุดเรเวนลูดเหมือนกัน
เขากำหนดเป้ามาที่ฉันโดยเฉพาะ?!
เกินไปแล้ว!
เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย หานเซี่ยวก็หัวเราะ”แกสังเกตเห็นว่าฉันจงใจปล่อยเรเวนลูดไป?ฉันไม่ได้เจาะจงแกแต่เป็นเขา”
เขาจงใจปล่อยเรเวนลูดไปและให้โอกาสเขาไล่ล่ากองทัพจักรกลเพราะเขาอยากทำให้เรเวนลูดเป็นเป้าหมายเพื่อแสดงหมัดเขา
เนื่องจากความไม่พอใจครั้งก่อน หานเซี่ยวจึงอยากแสดงพลังของเขาต่อจักรวรรดิมากขึ้น แต่เขาไม่อยากให้โลกภายนอกรู้ว่าเขาเติบโตขึ้นอีกครั้ง เพื่อกันไม่ให้จักรพรรดิจักรกลมาหาเรื่องเขาอีก ดังนั้น เขาจึงอยากย้ายสนามรบและไม่มีพยานให้เห็น
พันธมิตรจักรวรรดิเป็นเป้าหมายที่ดีสุด
เทียบกับการทุบตีศัตรู การเอาชนะเพื่อนร่วมทีมดูเหมือนจะดีกว่าตอนสร้างชื่อเสียง?เหนือสิ่งอื่นใด หลังทุบตี เพื่อนร่วมทีมก็ยังปิดข้อมูลไว้
แม้กายสถิตจะรั้งปรมาจารย์เร้นลับไว้ อาวุธอัครฑูตทั้งหมดเขาก็อยู่ในกองทัพจักรกล
ด้วยพวกมัน มันแข็งแกร่งพอจะทุบตีเรเวนลูด
การแยกกองกำลังและสู้ในหลายสนามรบพร้อมกันคือวิธีต่อสู้แบบช่างกล