The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1063 เพื่อช่วยจักรวาล ฉันตัดสินใจเป็น
ในกลุ่มดาวมรกตคือหนึ่งในดาวฐานของบรรพชนอสูร
กองยานสองกองยานที่มีสัญลักษณ์ของบรรพชนอสูรประชันหน้ากันในอวกาศ บรรยากาศตึงเครียดมาก
สถานการณ์ชัดเจน กองยานขนาดเล็กกว่าต้องการออกฐานและถูกหยุดโดยกองยานคุ้มกัน
ภายในยานบัญชาการของกองยานคุ้มกัน ไบรัมมองกองยานที่กำลังหลบหนีด้านหน้าที่เตรียมพร้อมสู้ด้วยอารมณ์ซับซ้อน
“โจติน่า รู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไร?นี่คือการแปรพักตร์!”
ทันทีที่เขาพูดจบ สิ่งมีชีวิตเพศหญิงก็ปรากฏบนจอตรงหน้าเขา เธอมีผิวสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าดูตัณหา และมีลวดลายอสูรร้ายสีดำตรงหางตาเธอและขมับ รวมถึงเส้นสีขาวบนแก้มเหมือนหนวดแมว เธอดูคล้ายเสือดาว
ตอนนี้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหนักแน่น
“โกรูตันจบสิ้นแล้ว เราตัดสินใจแล้ว ถ้านายอยากหยุดเรา ก็ลองดู”
เมื่อมองเธอบนจอ ไบรัมก็ถอนหายใจ
เธอชื่อโจติน่า เธอมีสายเลือดอสูรและเป็นหนึ่งในสี่พลเอกภายใต้บัญชาของบรรพชนอสูร เหมือนขุนพลและองครักษ์แบล็คสตาร์ เธอคือนักสู้เก่งกาจที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในหมู่พี่น้อง เธอยังเป็นเมล็ดพันธุ์ผู้อยู่เหนือ ด้วยนิสัยดุร้าย พี่น้องหลายคนจึงกลัวเธอ
แต่ทว่า หลายคนรู้ว่าโจติน่าอยู่ฝ่ายกบฏและเกลียดโกรูตัน แต่โกรูตันไม่สนใจเรื่องนี้ ลูกหลานเป็นแค่เครื่องมือสำหรับเขา ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิต เขาไม่กลัวว่าใครจะหลบหนีการควบคุมของเขา
เขายังควบคุมองค์กรด้วยพลังของเขาเอง และเมื่อเขาจากไป มันจึงเริ่มแตกทันที
วันนี้ โจติน่านำสมาชิกกลุ่มกบฏจำนวนมากและวางแผนออกองค์กร
ไบรัมอยู่ฝ่ายเป็นกลาง ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจงรักภักดีมากนัก เขาถอนหายใจ”เราเป็นพี่น้องกัน จะสู้กันไปให้ได้อะไร?พ่อแค่ถูกจับ เขาอาจกลับมาในอนาคต ทำไมไม่อยู่และช่วยกันผ่านความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน?”
“หุบปาก!”โจติน่าตะดกน”ฉันรอวันนี้มานานแล้ว ถ้านายไม่ปล่อยเราไป อย่าโทษว่าฉันโหดร้าย”
ไบรัมเงียบ เขาหันไปสั่งคนของเขา”ปล่อยพวกเธอไป”
ถ้าปราศจากพลังของโกรูตัน องค์กรเขาต้องไร้ความสามัคคีแน่ และทุกคนต่างก็มีแผนของตน ไบรัมไมเต็มใจสู้
แต่ทว่า ฝ่ายภักดีไม่ยอมรับมัน จากที่พวกเขามอง การทิ้งพ่อในเวลาลำบากเป็นการกระทำของพวกทรยศอย่างแท้จริง แม้ไบรัมจะเป็นผู้บัญชาการ หลายคนก็ไม่เชื่อฟังเขาและจู่ๆก็ยิง เริ่มการต่อสู้
ยานอวกาศระเบิดทีละลำ สร้างพลุไฟในอวกาศ ภัยพิบัติพุ่งออกไปสู้กันอย่างไร้ความปรารี
หลังผ่านไปนาน ในที่สุดการต่อสู้ก็ยุติ ซากยานอวกาศจำนวนมากลอยในอวกาศ
หลังจ่ายราคาแพง กองยานทรยศก็หนีไปได้ ฝ่ายภักดีเสียหายหนัก หลายคนถูกฆ่าโดยโจติน่า ไม่มีใครไล่ตามเธอต่อ
โดยปราศจากพ่อ จะมีผู้อยู่เหนือคนอื่นมารับตัวเราไป ฝ่ายภักดีจะถูกเก็บกวาดในไม่ช้า ฉันควรหาทางออกโดยเร็วที่สุด
ไบรัมมองซากยานและถอนหายใจ เขารู้ว่าองค์กรของบรรพชนอสูรไม่มีอีกแล้ว
ในขณะเดียวกัน
“ในที่สุดเราก็ออกมาได้ พวกเขาไม่ล่าล่าเรา..”
ภายในยานบัญชาการที่เต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้ โจติน่านั่งบนพื้น พิงกำแพง เธอเหนื่อยและเต็มไปด้วยแผลกับบ่อเลือดใต้ตัวเธอ
เธอถูกล้อมโจมตี หลังการปะทะรุนแรง ทุกคนก็มีแผล
ภัยพิบัติคนหนึ่งหันมาหาโจติน่าหลังทำแผลให้เพื่อน”พี่ใหญ่ เราจะไปไหนกัน?”
เนื่องจากโจติน่าเป็นผู้ริเริ่มปฏิบัติการนี้และแข็งแกร่งสุด เธอจึงกลายเป็นหัวหน้าไปโดยปริยาย
“การหลบหนีแค่ก้าวแรก อย่าลืมเป้าหมายเรา เราไม่สามารถพึ่งพาตัวเราเองได้ เราต้องไปหาองค์กรใหญ่”โจติน่าพูด
“เราควรไปหาใคร?”
“คนที่เอาชนะโกรูตันได้”โจติน่าพยายามลุกขึ้น มองออกนอกหน้าต่าง”แบล็คสตาร์…”
….
ไม่กี่วันต่อมา นอกวังแบล็คสตาร์…
“ฉันรบกวนพวกนายมามากพอแล้วขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ”
เงาเงินยืนตรงหน้ายานเขา พยักหน้าแสดงความขอบคุณหานเซี่ยว
ไม่นานมานี้ เขาใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการและอยู่ในฐานะแขก ผูกพันกับหานเซี่ยว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาพัฒนาขึ้น จากคนคุ้นหน้าเป็นเพื่อน
หลังอยู่หลายวัน เขายังมีเรื่องอื่นต้องทำ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจอำลา
“ได้ ถ้าอนาคตเหงาก็อย่าลืมมาเล่นที่นี่ละ”หานเซี่ยวยิ้ม
เงาเงินพยักหน้า จับมือกับหานเซี่ยว นำกลุ่มลูกน้องเขาขึ้นยาน
ตัวขับของยานพ่นไฟขณะเร่งความเร็ว พุ่งออกท่าจอด หายลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองยานหายไป หานเซี่ยวก็พยักหน้าพอใจ
เวลาที่เขาใช้กับเงาเงินทำให้เขาชนะใจเงาเงินได้ ด้วยความโปรดปรานที่เขาเป็นหนี้อย่างน้อยก็คงขี่เขาได้อีกสามครั้ง
หานเซี่ยวออกท่า กลับไปห้องทำงานเขา
“ฟิลลิป มีข่าวจากสามอารยธรรมจักรวาลไหม?”
“ยังครับ ฮึ่ม”
“มันก็หลายวันแล้ว มันควรได้เวลาที่พวกเขาจะติดต่อฉัน”
หานเซี่ยวส่ายหัว ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขารอให้สหพันธ์และศาสนจักรติดต่อเขา มันดูเหมือนว่าทั้งสองยังพิจารณษว่าพวกเขาจะเสนออะไรถึงยังไม่มีใครโทรมา
บนดาวประภาคาร เขาส่งมอบเชลยให้จักรวรรดิและจักรวรรดิก็เป็นฝ่ายเจรจา แต่ครั้งนี้ เขาจับทั้งหมดด้วยตัวเอง แถม เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้น หานเซี่ยวจึงบอกจักรวรรดิว่าเขาอยากเจรจากับสหพันธ์และศาสนจักรเอง
ครั้งนี้ ฟิลลิปหยุดและรายงาน”นายท่าน..ฮึ่ม…มีคำขอสื่อสารใหม่ มันมาจากศาสนจักร”
พูดถึงปีศาจ..ปีศาจก็มา
ไม่ช้า ภาพฉายก็ปรากฏในห้อง นี่คือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของศาสนจักรที่รับผิดชอบการฑูต เขาก้มหัวทันทีที่ปรากฏ ดูเคารพมาก
“ท่านแบล็คสตาร์ ผมคือฑูตของศาสนจักรอาร์เคน ประการแรก ในนามของศาสนจักร ผมอยากขอโทษสำหรับเรื่องทั้งหมด..”
“อืม ข้ามไป”หานเซี่ยวจ้องฑูตตรงหน้า”ถ้าอยากได้ตัวโทเลน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกนายจริงใจแค่ไหน ฉันต้องเน้นสิ่งหนึ่งว่า ค่าชดเชยต้องมีการขอโทษต่อสาธารณะด้วย”
อีกฝ่ายกะพริบตาปริบๆ และพูดเสียงเบา”นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ แต่เราสามารถวางเรื่องโทเลนไว้ได้ก่อน ผมอยากคุยเรื่องเชลยของสหพันธ์..”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว ศาสนจักรไม่รีบประกันตัวโทเลนแต่กลับอยากได้รับเชลยของสหพันธ์ก่อน
แม้เขาจะเข้าใจเหตุผล เขาก็ยังรู้สึกสงสารโทเลน
เขาส่ายหัว”ศาสนจักรอยากซื้อเชลยผู้อยู่เหนือของสหพันธ์?”
“ไม่ใช่หนึ่งครับ ยิ่งมากยิ่งดี ผมมั่นใจว่าท่านคาซูยิคงพูดกับท่านไว้แล้ว ศาสนจักรอยากได้บางสิ่งเพื่อรับเอาคฑาหมื่นเทพคืน ท่านแบล็คสตาร์ เรามีความจริงใจมาก เราเต็มใจจ่าย”
“มากแค่ไหน?”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
“นี่คือเงื่อนไขเริ่มต้นของเรา”
อีกฝ่ายแสดงรายการ
หานเซี่ยวมองอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเงื่อนไขจะรวมถึงทรัพยากรจำนวนมาก แต่ศาสนจักรยังเต็มใจใช้สมบัติจักรวาลเพื่อแลก เงื่อนไขนับว่าใจกว้างมาก
แต่ทว่า เขาไม่คิดตกลงง่ายๆ เขาทำเหมือนเขากำลังพิจารณา “ฉันจะต้องทนแรงกดดันจากสหพันธ์ถ้าขายเชลยให้พวกนาย และนี่ก็คือข้อเสนอทั้งหมด?มันไม่พอ”
“งั้นท่านลองเสนอมาได้เลย ทางเรา….”
หานเซี่ยวกล่าวแทรก”ว่ามา เปลี่ยนเงื่อนไขจนกว่าฉันจะพอใจ”
การที่เขาไม่ใช่คนระบุเงื่อนไขจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกลำบากได้ ไม่งั้น ทั้งสองอาจไม่ได้รับบทเรียน นอกจากนี้ มันไม่เป็นประโยชน์ที่เขาจะตกลงง่ายๆ
“งั้นก็ได้ครับ เราจะกลับไปและเปลี่ยนเงื่อนไข ผมจะถือว่าท่านไม่ปฏิเสธเรื่องนี้?”อีกฝ่ายถาม
“นั่นขึ้นอยู่กับอารมณ์ฉัน”หานเซี่ยวไม่รับรอง
เมื่อเห็นหานเซี่ยวไม่ให้ความชัดเจน อีกฝ่ายก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตัดการสื่อสารและรายงานเบื้องบน
ทันทีที่ตัดสาย คำขอสื่อสารของสหพันธ์ก็มา
“บังเอิญจริงๆ”หานเซี่ยวพึมพำและรับสาย
“สวัสดี ท่านแบล็คสตาร์ ผม…”
“เอาละ เอาละ ฉันรู้ว่านายเป็นใคร เข้าเรื่องได้เลย บอกเงื่อนไขประกันตัวมา”
คำพูดของฑูตสหพันธ์ถูกกลืนลงคอไป เขาไม่มีทางเลือกนอกจากแสดงเงื่อนไขอย่างเชื่อฟัง
ราคาที่สหพันธ์มอบให้ไม่สูงเท่าศาสนจักร เหนือสิ่งอื่นใด นี่แค่การประกันตัวธรรมดาสำหรับพวกเขา
จิ๊จิ๊ หน้าด้านเหมือนเคย แกเสียคนไปสาม แต่ไม่อยากจ่ายราคาสูง?
ฝันไปเถอะ!
หานเซี่ยวหรี่ตา เคาะโต๊ะ”ตอนนี้ ศาสนจักรได้ติดต่อหาแน และให้ข้อเสนอน่าสนใจ”
“ข้อเสนออะไรครับ?” “พวกเขาอยากซื้อเชลยผู้อยู่เหนือของสหพันธ์จากฉัน..และเต็มใจจ่ายราคาที่สูงมาก”
หานเซี่ยวมองอย่างมีความหมาย
ฑูตสหพันธ์ตกใจ”ทะ-ท่านตอบตกลงหรือยัง?”
“อืม ฉันยังพิจารณาอยู่ แต่ ราคาที่ศาสนจักรมอบให้ก็สูงมาก”
“ท่านไม่สามารถตัดสินใจขายพันธมิตรคนสำคัญของสหพันธ์ให้ศาสนจักรได้ ไม่งั้น….”ฑูตสหพันธ์กำลังจะข่มขู่หานเซี่ยวแต่ก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับแบล็คสตาร์ ผู้เพิ่งทำให้พวกเขาเสียหายและรีบเปลี่ยนน้ำเสียง”ยังไงก็ตาม ตราบเท่าที่ท่านไม่ตกลงกับศาสนจักร เราก็เต็มใจจ่าย”
“นั่นขึ้นอยู่กับว่าพวกนายจริงใจแค่ไหนและยอมจ่ายมากแค่ไหน”หานเซี่ยวยิ้ม
“เข้าใจแล้ว..เข้าใจแล้วครับ ผมจะถ่ายทอดความคิดของท่านให้เบื้องบนรับทราบ”
ฑูตสหพันธ์ปาดเหงื่อบนหน้าผากและรีบตัดการเชื่อมต่อ
เขารู้ว่าแบล็คสตาร์กำลังผลักดันราคา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเขาเห็นผ่านเจตนาของแบล็คสตาร์ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเชื่อฟัง
หลังกำจัดสองคนนี้ หานเซี่ยวก็เอนพิงเก้าอี้และยิ้มเยาะ
ถ้านี่เกิดขึ้นในอดีต ความเสี่ยงของการทำแบบนี้คงสูงมาก แต่ทว่า หลังศึกนี้ เขาได้แสดงให้เห็นถึงพลังที่มากเกินไป จากนั้น
ศาสนจักรและสหพันธ์คงเต็มใจเจรจากับเขาแทน
ด้วยเชลยเหล่านี้ในมือ เขาจึงมีสิทธิ์เรียกราคา ถึงแม้เขาจะบอกชัดเจนว่าเขาอยากให้สหพันธ์กับศาสนจักรแข่งขันกัน แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทน
ความรู้สึกของการเหนือกว่านั้นเยี่ยมจริงๆ..หานเซี่ยวยิ้ม
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดัง มันมาจากซิลเวีย
“ผู้บัญชาการกองทัพ ผู้กำกับดวงดาวทั่นบอกก่อนหน้าได้มาถึงแล้ว”
“เร็วขนาดนี้?” novel-lucky
“พวกเขาอยู่ในโลกริบหรี่แต่แรก ฉันได้ส่งคนไปรับตัวพวกเขามา ฉันควรพาพวกเขาไปห้องรับรองเลยไหมคะ?”
“อืม ฉันะจไปพบเขาเดี๋ยวนี้”หานเซี่ยวยืนขึ้น
…
ยานอวกาศพลเรือนจอดที่ท่าด้านนอกวังแบล็คสตาร์และกลุ่มคนก็เดินออกมา
ด้านหน้าคือชายชราไว้หนวดเคราและหัวกลม ให้ความรู้สึกร่ำรวย ผมยาวเขาสะบัดไปมา เขาเหมือนไข่ต้มที่มีผม
คนคนนี้คือผู้กำกับยอดเยี่ยมที่เกิดในจักรวรรดิคริมสัน เบนี่ ทราโวล ทันทีที่พวกเขาลงจากยาน พวกเขาก็มองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง
“งั้น นี่ก็คือฐานกองทัพแบล็คสตาร์ คนเหล่านี้เป็นทหารรับจ้าง?”
“พวกเขากำลังมองเรา เบาลงหน่อย..”
เมื่อได้ยินผู้ช่วยคุยกันด้านหลัง เบนี่ก็ขมวดคิ้วและตะโกน”หุบปาก ถ้าดูถูกคนของแบล็คสตาร์ ผลที่ตามมาคงไม่สวยแน่’
คนเหล่านี้รีบเงียบ
พวกเขาติดตามเบนี่มานานและเป็นผู้อาวุโสในวงการบันเทิง มีคนทั่วทุกแห่งที่อยากประจบพวกเขา แม้พวกเขาจะไม่ถือว่าหยิ่ง แต่ก็ยังมีความภาคภูมิ
แต่ทว่าคนเหล่านี้ไม่กล้าทำตัวอวดดีที่นี่ กองทัพแบล็คสตาร์คือกองกำลังติดอาวุธระดับสูงสุดที่อยู่กันคนละระดับกับพวกเขา ตอนนี้พวกเขาเข้าศูนย์ใหญ่ของขุมกำลังเช่นนั้น พวกเขาจึงหวาดกลัว
พวกเขารู้ดีว่าอิทธิพลของพวกเขาเทียบอะไรไม่ได้กับคนอย่างนี้ที่กุมอำนาจแท้จริง ทุกคนซุกหางไว้ระหว่างขาและทำตัวอ่อมน้อม
ไม่นานหลังจากนั้น พนักงานต้อนรับของกองทัพก็มาด้วยรอยยิ้มสดใส”สวัสดีค่ะ ผู้กำกับเบนี่ ทราโวล โปรดตามฉันมาเลยค่ะ ผู้บัญชาการกองทัพกำลังรอท่านอยู่”
“ขอบคุณที่นำทาง”เบนี่ตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้ช่วยก็พากันประหลาดใจ พวกเขารู้จักเจ้านายตัวเองดี เขามักภาคภูมิ หายากที่เขาจะแสดงรอยยิ้มประจบแบบนี้
พวกเขาเดินไปห้องรับแขก และเห็นหานเซี่ยวนั่งรออยู่ พวกเขาจึงรีบทักทาย
เบนี่ ทราโวลรีบเดินไปหาหานเซี่ยวและยื่นมือ”ท่านแบล็คสตาร์ ขอบคุณที่ตอบตกลงพบผม”
“คุณไม่ต้องทำตัวเป็นทางการนัก นั่งเถอะ”
หานเซี่ยวจับมือและเชิญทุกคนให้นั่งลง
กลุ่มนั่งลงทีละคน ยืดหลังตรง ดูตื่นตัวมาก
ในเวลาเดียวกัน พวกเขายังจ้องหานเซี่ยวด้วยความเคารพ รวมถึงรอยยิ้มประจบสอพลอบนหน้า หลายคนเป็นคนสำคัญ แต่ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่ยิ้ม
หานเซี่ยวส่ายหัว ตำแหน่งหมายถึงอำนาจ ถึงแม้เขาจะไม่ทำอะไร คนอื่นก็มักรู้สึกประหม่า
เขาหันไปมองเบนี่ด้วยรอยยิ้มและถาม”ผู้กำกับเบนี่ ผมได้ยินว่าคุณอยากถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับผม?”
เบนี่ทราโวลตัดบทและเริ่มอธิบายแรงจูงใจ
เมื่อเขามาถึงส่วนน่าตื่นเต้น ใบหน้าเขาก็ยิ่งแดง เขายืนขึ้นเพื่อแสดงท่าทาง
หานเซี่ยวสังเกตสักพักและตระหนักว่าผู้กำกับคนนี้ไม่ได้มาแค่เพื่อยกย่องเขา แต่ต้องการสร้างสารคดีจริงๆ นี่อาจเป็นผลกระทบอย่างหนึ่งของแต้มตำนาน นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับคนอื่น สิ่งที่เขาทำนั้นเป็นตำนานจริงๆ ดังนั้นการที่ผู้กำกับอยากถ่ายทำสารคดีของเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
หลังได้รับคำชมต่อเนื่องสักพัก หานเซี่ยวก็รู้สึกดี จากนั้นก็โบกมือ ขัดจังหวะ
“งั้น คุณก็มาแค่เพื่อขออนุญาตจากผมเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับไหม?”
“ไม่ใช่แค่นั้นครับ”เบนี่กระวนกระวาย”ผมมีอีกคำขอ ผมหวังว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์นี้ในฐานะไข่อีสเตอร์..”
คำพูดเหล่านี้ต้องใช้ความกล้า เขารู้ว่าตำแหน่งแบล็คสตาร์สูงมาก สำหรับคนที่มีอำนาจเช่นนี้ แบล็คสตาร์ถือได้ว่าเป็นบุคคลทางการเมือง นี่เหมือนกับการขอให้ผู้ปกครองจักรวรรดิมาเป็นแขกรับเชิญในภาพยนตร์เขา ซึ่งเกือบเหมือนฝันกลางวัน
หานเซี่ยวหรี่ตา เคาะโต๊ะช้าๆ แต่ไม่ตอบกลับทันที สีหน้าเขาเปลี่ยนไป บรรยากาศหนาวเย็น หัวใจของทุกคนเต้นเร็วขึ้น ไม่มีใครกล้าหายใจ
ขณะที่หานเซี่ยวกำลังพูด การแจ้งเตือนภารกิจก็ปรากฏ
คำเชิญจากผู้กำกับ
คำแนะนำภารกิจ : ผู้กำกับชือ่ดังหวังว่าท่านจะมีส่วนร่วมในการถ่ายทำ
รางวัล : ค่าประสบการณ์ 1.8 ล้าน สุ่มเพิ่มชื่อเสียงของทุ่งดาวต่างๆ
รางวัลโบนัส : พรสวรรค์[ดารา]
[ดารา] คนอื่นจะรู้สึกใกล้ชิดท่านและขอโทษท่านง่ายขึ้น
ปากหานเซี่ยวบิดเล็กน้อย
อะไร?บังคับให้ฉันกลายเป็นดารา?