The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1066 สัมปทานจากจักรวรรด

　　กึก กึก…
　　เสียงเครื่องจักรประกอบกันดังก้องในโรงงานส่วนตัวและพลังจักรกลก็กะพริบเหมือนหนวดสีฟ้ายืดหยุ่น ควบคุมแขนหุ่นยนต์เพื่อสร้างชุดจักรกลราชาใหม่
　　หานเซี่ยวซึมซับอย่างเต็มที่ เฝ้าดูรายละเอียดของชุดจักรกลในมือเขาทีละขั้นตอน
　　เมื่อแผ่นเกราะด้านนอกชิ้นสุดท้ายประกอบตรงหน้าอก หน้าต่างสถานะเขาก็แจ้งเตือน
　　ท่านได้สร้างอุปกรณ์เกรดทอง (สมบัติจักรวาล)
　　“ฮู่..”
　　สีหน้าตึงเครียดของหานเซี่ยวผ่อนคลายลง เขาหายใจออกช้า ๆ
　　นี่คือชุดจักรกลเกรดทองชิ้นสอง ด้วยประสบการณ์จากครั้งก่อนรวมถึงโบนัสที่ได้รับจาก[ผู้สร้างสมบัติจักรวาล]และ[เครื่องมือจิตวิญญาณ] เขายังพยายามห้าครั้งก่อนถึงสำเร็จ
　　เขาตั้งใจส่งต่อชุดจักรกลนี้ให้ฮีล่า แม้นี่จะเป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับช่างกลและฮีล่าก็ไม่สามารถเพลิดเพลินกับโบนัสได้ หนาเซี่ยวก็แค่อยากใช้ฟังก์ชั่นส่งผ่านเพื่อรับประกันความปลอดภัยของฮีล่า
　　ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ตั้งใจหยุดที่สองชิ้น หานเซี่ยวต้องสร้างชุดสำรองสำหรับตัวเองและอาจจะหนึ่งชุดสำหรับเอเมส เวลาการผลิตไม่ใช่ปัจจัยจำกัดตอนนี้ แต่เป็นค่าใช้จ่าย
　　ราชาเทียบเท่ากับต้นทุนของทั้งกองยาน และถ้ามันไม่ถึงเกรดทอง มันก็จะเป็นการขาดทุนก้อนโต ปัจจุบันเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะผลิตสมบัติจักรวาลได้ทุกครั้งและต้องเสียอีนาสจำนวนมาก ต่อให้กองทัพแบล็คสตาร์รวย มันก็ยังทำให้เขาเจ็บปวดกับต้นทุน　　หานเซี่ยวอดถอนหายใจไม่ได้”ในฐานะช่างกล นายไม่มีทางไม่รู้วิธีทำเงิน”
　　เขาเหลือบมองหน้าต่างสถานะ เพราะมันเป็นครั้งสองที่เขาสร้างราชา [เครื่องมือจิตวิญญาณ]จึงไม่มอบแต้มการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพใหม่ให้ ไม่ได้ปลดล็อกโบนัสชั้นใหม่สำหรับเขา มีแค่ผลประโยชน์ของการจัดสรรใหม่สำหรับแต้มสถานะ
　　นอกจากนี้ เนื่องจากมันเป็นพิมพ์เขียวเดียวกัน ประสิทธิภาพของการจัดสรรแต้มสถานะจึงลดลงด้วย จากเดิม200เป็น160 มันน่าเสียดายที่โชคเขาไม่ได้รับการจัดสรรใหม่ แต่เขาได้รับการจัดสรรจากเสน่ห์ ซึ่งไม่เลวนัก ยังไงก็ตาม เขามักหน้าด้าน เขาไม่สนใจหน้าตาเขาอยู่แล้ว
　　แต้มสถานะ 160 แต้มฟรีเพิ่มขึ้นและหานเซี่ยวยังยัดราชาตัวที่สองเข้ากล่องรักษาสำหรับชุดจักรกล ส่งทหารจักรกลสุ่มมอบให้ฮีล่า
　　มันเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวว่ากล่องนี้เป็นอุปกรณ์เกรดส้ม ซึ่งทำหน้าที่บำรุงรักษษชุดจักรกล การวางชุดจักรกลภายในนั้นเป็นเวลานานจะพัฒนาสถานะพื้นฐานของชุดจักรกล ในฐานะช่างกลระดับสูงสุด ทุกอย่างที่หานเซี่ยวใช้นั้นดีสุด
　　หลังเสร็จสิ้นงานทั้งหมด หานเซี่ยวก็ขยี้ตาและเหยียดเอว เขาไม่ได้ทำอะไรในค่าย และนอกจากการจัดการกับงานประจำวัน เขาจะอยู่แค่นโรงงานเพื่อซ่อมอาวุธอัครฑูตและสร้างสมบัติจักรวาลเท่านั้น
　　“เวลาพักผ่อน ฉันควรไปดูคนอื่นเล่นไพ่”
　　ขณะที่หานเซี่ยวกำลังจะเดินไป อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดัง มันเป็นสายจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจักรวรรดิ
　　“ในที่สุดจักรวรรดิก็เต็มใจติดต่อฉัน ในที่สุดพวกเขาก็ได้ข้อสรุปว่าจะจัดการกับฉันยังไง?”
　　ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย เขารับสาย ภาพฉายระยะไกลของเจ้าหน้าที่ระดับสูงปรากฏ นี่คือคนที่รับผิดชอบการติดต่อกับหานเซี่ยว เขาจึงคุ้นหน้าดี
　　“ท่านแบล็คสตาร์”เจ้าหน้าที่พยักหน้า”ไม่พบกันนานเลยนะครับ”
　　“ดีใจที่ได้พบคุณ”หานเซี่ยวพยักหน้า และถาม”คุณมีอะไรให้ผม?”
　　“ฮี่ ผมรู้ว่าท่านชอบให้เข้าเรื่องตรงๆ ผมไม่ควรทำให้ท่านเสียเวลา เบื้องบนของจักรวรรดิวางแผนปล่อยแผนที่เกี่ยวกับท่าน ผมอยากได้รับความคิดเห็นและเจรจากับท่าน”
　　“แผนแบบไหน?”
　　“จักรวรรดิตั้งใจเปิดการขายโทเท็มวิวัฒนาการชั่วคราว ไม่จำกัดเฉพาะพันธมิตรอีก แต่ทว่า เพราะลูกบาศก์วิวัฒนาการมีแหล่งพลังงานของมัน และมันก็อยู่ในมือท่าน จักรวรรดิจึงอยากรู้ท่าทีของท่าน”เจ้าหน้าที่ยิ้ม
　　หัวใจของหานเซี่ยวเต้นกระหน่ำ และสีหน้ายินดีก็แผ่ซ่านไปทั่วหน้า　　แม้เขาจะรู้ว่ามีความน่าจะเป็นเช่นนี้ การได้รับการยืนยันก็ทำให้เขาตื่นเต้นมาก
　　ตลอดเวลา จักรวรรดิคริมสันได้ควบคุมช่องทางการขายโทเท็มวิวัฒนาการและไม่อนุญาตมันให้เข้าตลาดเสรี แต่อนุญาตให้พันธมิตรเธอซื้อได้ นี่คือข้อตกลงระหว่างหานเซี่ยวกับจักรวรรดิ ถ้าข้อจำกัดเหล่านี้ถูกยกออก ทุกอารยธรรมในจักรวาลกลายเป็นลูกค้าเขา ซึ่งทำให้เขาได้รับกำไรมหาศาล
　　นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่การขายครั้งเดียว โทเท็มวิวัฒนาการสามารถขายได้นานถึงยี่สิบปี หลังจากนั้นมันจะต้องชาร์จใหม่ด้วยลูกบาศก์วิวัฒนาการ เหมือนกับการเติมเชื้อเพลิง ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ตามมาจึงถือได้ว่าเป็นผลกำไรมหาศาล ซ่งเหมือนโอกาสทางธุรกิจของผลกำไรไร้สิ้นสุด
　　จักรวรรดิคริมสันได้ตัดสิทธิ์ขายมัน อยากควบคุมผลกำไร ทางเดียวที่จะทำแบบนั้นคือได้รับลูกบาศก์วิวัฒนาการจากหานเซี่ยว เนื่องจากไม่เต็มใจให้พันธมิตรที่ไม่ใช่สายตรงควบคุมสมบัติจักรวาลชินสำคัญ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงทะเลาะกันในเรื่องนี้
　　ตอนนี้ จักรวรรดิเต็มใจเปิดช่องทางขายมันและในที่สุดก็ปล่อยสัมปทาน ริเริ่มบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เหตุผลเบื้องหลังการกระทำต้องเป็นเพราะอิทธิพลของหานเซี่ยว พวกเขาจึงเต็มใจมอบผลกำไรมหาศาลให้หานเซี่ยวชั่วคราว
　　ขณะตื่นเต้น หานเซี่ยวยังจับประเด็นสำคัญได้”ชั่วคราว?แล้วมันจะนานแค่ไหน?”
　　เจ้าหน้าที่ส่ายหัว”ผมไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แม้กระทั่งเบื้องบนก็คงยังไม่กำหนดวัน”
　　นั่นหมายความว่า วินาทีที่เขาทำอะไรผิด นี่อาจจบลง…
　　หานเซี่ยวรู้ว่ำการเคลื่อนไหวของจักรวรรดิไม่เพียงเป็นสถานการณ์ที่ได้ทั้งสองแต่ยังเป็นวิธีการควบคุมทางอ้อมด้วย วินาทีที่เขาคุ้นเคยกับผลกำไรมหาศาลหรือการขยายตัวอย่างรวดเร็วหรือตอนกองทัพเขาไม่สามารถแยกตัวเองออกจากกระแสเงินทุนที่เกิดจากธุรกิจได้ จักรวรรดิจะมีวิธีควบคุมเขาใหม่ เขาเข้าใจประเด็นนี้ สุดท้าย จักรวรรดิคืออารยธรรมจักรวาลและจะไม่มีวันยอมถอย ตอนนี้ที่พวกเขาเต็มใจให้สัมปทานและแสดงความเคารพ มันก็ดีพอแล้ว
　　“เอาละ ผมไม่คัดค้าน เราจะเริ่มตอนไหน?”หานเซี่ยวเห็นด้วย
　　“ระยะเวลายังไม่ถูกกำหนด แต่ระยะเวลาควรเป็นประมาณครึ่งปีเพื่อเตรียมการ แต่ทว่า ภายในเวลาสามวันถึงครึ่งเดือน สัมปทานนี้จะประกาศต่อจักรวาล เราควรตกลงกันอย่างรวดเร็ว”
　　เพราะการร่วมมือก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวกับจักรวรรดิและพันธมิตร จึงมีส่วนลดพิเศษมากมาย สำหรับการขายให้ส่วนที่เหลือของจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นหานเซี่ยวหรือจักรวรรดิ ทั้งคู่อยากเพิ่มราคาให้สูงเพื่อให้คนนอกได้รับ จึงต้องมีการปฏิรูปแผนการจัดจำหน่าย　　หานเซี่ยวคิดสักพักก่อนตอบกลับ”ในกรณีนี้..ฉันจะให้ทีมุรกิจภายใต้ผมติดต่อคุณโยดตรง และเราควรเจรจาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมสุด”
　　กลุ่มการเงินต้นกำเนิดภายใต้กองทัพได้ระดมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการเจรจาธุรกิจ ที่สามารถช่วยเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้ เขายังมีเลพตัส
　　เพราะเขาถือครองลูกบาศก์วิวัฒนาการ กำไรส่วนใหญ่จึงเป็นของเขา แต่จักรวรรดิยังคงต้องการได้รับมัน เหนือสิ่งอื่นใด มันช่วยแบกรับแรงกดดันมานาน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำเหมือนพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น จักรวรรดิยังช่วยด้านขนส่ง และให้วัสดุในอนาคต เหนือสิ่งอื่นใด ตลาดของทั้งจักรวาลใหญ่เกิน และกองทัพแบล็คสตาร์ปัจจุบันก็ไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งจักรวาลเพียงลำพัง
　　ทั้งสองฝ่ายคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนวางสาย ช่วงเวลาที่หานเซี่ยวคิดว่ากองทัพกำลังจะได้รับช่องทางทำกำไรมหาศาลที่มีกระแสเงินมั่นคง อารมณ์เขาก็ดีขึ้น
　　ทันใดนั้น อดีตก็แวบผ่านหัว ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
　　“วินาทีที่จักรวรรดิประกาศ ฉันสามารถไปกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดได้…คิดว่าหลังข่มฉันมานาน ทุกอย่างจะกลับเป็นปกติได้?”
　　…
　　ในกลุ่มดาวมรกต ภายในสนามฝึกต่อสู้จริงของฐานบรรพชนอสูร…
　　บูม!หมัดที่ใช้นิ้วม้วนงอเหมือนกรงเล็บของเสือดาวถูกพันด้วยพลังงานสีดำ และมันก็เชื่อมต่อกับท้องของร่างกาย ผิวและกล้ามเนื้อระลอกเนื่องจากพลังมหาศาล และผลกระทบก็ซัดเป้าหมายออกไปเหมือนกระสุนปืนใหญ่ กระแทกกำแพงสนามฝึกอย่างแรง
　　ชไนเดอร์ถอนหมัดและพลังงานพิษที่วนรอบเขาก็หายไป เขาพูดอย่างไม่แยแส”พอแค่นี้แหละ” 　　เขาไม่คิดมองคู่ต่อสู้เขาจากฝ่ายภักดีที่มาท้าทายเขาแต่ก็ถูกทุบตีง่ายๆ เขาแค่หยิบชุดกันลมที่โยนทิ้งไว้ก่อนเดินออกสนามฝึก
　　โดยปกติ ชไนเดอร์ไม่คิดตอบรับคำท้า แต่ตอนนี้ เขาอารมณ์ไม่ดี
　　ชไนเดอร์คร่ำครวญถึงความจริงที่ทุกคนถูกควบคุมโดยปรมาจารย์เร้นลับและถูกสั่งห้ามออกฐาน
　　ปี้บ ปี้บ!
　　ขณะนี้ อุปกรณ์สื่อสารเขาดังขึ้น เขาเห็นว่ามันเป็นสายจากพี่สาวโจติน่า
　　วินาทีที่เชื่อมต่อสาย โจติน่าก็ตะโกนด้วยความไม่พอใจ”ตอนฉันชวนนายให้ออกองค์กรมาด้วยกัน นายบอกว่าอยากรอดู ตอนนี้ นายก็ยังไม่พาคนของนายออกมาอีก!?เกิดอะไรขึ้น?!’
　　ชไนเดอร์เผยสีหน้าหน่ายใจ”พี่หญิงใหญ่ มันไม่ใช่ว่าผมไม่อยาก แต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น” 　　“อะไร?”โจติน่าขมวดคิ้ว
　　“มันเป็นท่านปรมาจารย์เร้นลับ”ชไนเดอร์ลังเลเมื่อนึกถึงรอยประทับที่ปรมาจารย์เร้นลับประทับ แต่ก็ยังตัดสินใจพูดความจริง”เขาแสดงเจตนาช่วยจัดการกองทัพบรรพชนอสูร และใช้เราให้ทำงานให้เขา ตอนนี้ ไม่มีใครออกฐานได้’
　　โจติน่าโกรธมาก”ฉันบอกนายแต่แรกแล้ว แต่นายก็ปฏิเสธ ดูตอนนี้สิ!นายมันไร้ประโยชน์!”
　　เธอพูดจาโผงผางและชไนเดอร์ก็ทำได้แค่ยอมรับคำด่า
　　เพราะแหล่งความเกลียดของฝ่ายกบฏมีพื้นฐานจากสภาพน่าสังเวชของแม่ผู้ให้กำเนิด พวกเขาจึงมีมนุษยธรรมมากกว่าอีกสองฝ่าย พวกเขามีความผูกพันแบบพี่น้องกันอย่างแท้จริง และชไนเดอร์กับโจติน่าก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาโตมาด้วยกันและชไนเดอร์ก็กลัวเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก
　　โจติน่าก่นด่าต่อไปสักพักก่อนหยุดเมือ่เห็นสีหน้าดำมืดของชไนเดอร์ เธอถาม.”ถ้านายไม่เต็มใจทำงานให้ปรมาจารย์เร้นลับ นายควรหาทางหนี”
　　ชไนเดอร์ส่ายหัวและถอนหายใจ.”ปรมาจารย์เร้นลับบอกว่าการหนีโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือเป็นการทรยศ เขายังทิ้งรอยประทับเวทย์ไว้กับเรา ต่อให้เราหนีได้ แต่เราจะหนีเร็วกว่าผู้อยู่เหนือได้ยังไง?”
　　โจติน่าหัวใจอ่อนยวบและไม่สามารถทนเห็นสภาพของชไนเดอร์ได้”นายเต็มใจเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์ไหม?”
　　“แน่นอน แต่ไม่มีโอกาสอีกแล้ว”ชไนเดอร์ถอนหายใจ
　　เมื่อได้ยิน โจติน่าก็กัดฟัน”อย่าเพิ่งหมดหวัง ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากผู้บัญชาการกองทัพ!”
　　หลังเธอพูดจบ เธอก็ตัดสายไปทันที
　　ชไนเดอร์ถืออุปกรณ์สื่อสารไว้ ทำอะไรไม่ถูก　　“ขอให้แบล็คสตาร์ช่วย?นั่นเป็นไปไม่ได้”
　　เขาถอนหายใจ ไม่คิดหวัง
　　….
　　วังเดิมของบรรพชนอสูรถูกแปลงเป็นสถานที่พักผ่อนของปรมาจารย์เร้นลับ
　　บัลลังก์ใหญ่โตของโกรูตันถูกเก็บไว้ในขวดเล่นแร่แปรธาตุเป็นถ้วยรางวัลและเขาก็แทนมันด้วยบัลลังก์เขา
　　ตอนนี้ ปรมาจารย์เร้นลับนั่งบนบัลลังก์ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ในองค์กร ขณะที่ไบรัมยืนอยู่ด้านข้าง พร้อมตอบคำถามถ้าจำเป็น
　　อุปกรณ์สื่อสารเขาดังและเมื่อปรมาจารย์เร้นลับเหลือบมอง สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
　　สีหน้าเขาราวกับเขาพบกับสถานการณ์คุกคามชีวิต และไบรัมก็เริ่มเดาได้ลับๆว่าใครเป็นคนที่ทำให้ปรมาจารย์เร้นลับหน้าเปลี่ยนสี
　　ขณะนี้ ปรมาจารย์เร้นลับโบกมือ พูดอย่างเย็นชา.”ออกไป”
　　ไบรัมทำได้แค่กล่าวลาและออกไปแม้จะอยากรู้
　　เมื่ออยู่ลำพังในห้อง ปรมาจารย์เร้นลับก็เชื่อมต่อกับช่องทางสื่อสารด้วยสีหน้าอึมครึม
　　“แบล็คสตาร์ มีอะไร?”
　　เสียงหัวเราะของแบล็คสตาร์ดังลั่น
　　“ฮ่าๆๆ ปรมาจารย์เร้นลับ ดูเหมือนนายจะประหม่านะ”
　　“นายคิดมากไป”
　　สมองของปรมาจารย์เร้นลับทำงานอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะอยากเป็นมิตรกับแบล็คสตาร์ เขาก็อดรู้สึกผิดไม่ได้
　　หานเซี่ยวยิ้ม”แม้เราจะมีความขัดแย้งกันในเรื่องพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม แต่เรื่องนี้ก็ลุล่วงแล้ว นอกจากนี้ เราไม่มีความเป็นศัตรูต่อกัน ถ้าต้องบอก ฉันยังมอบผลประโยชน์ให้นาย”
　　“ผลประโยชน์อะไร?” 　　“ยังต้องถามอีก?มันคือบรรพชนอสูร นายเตือนฉันนี่?พวกนายสองคนเป็นผู้พิทักษ์ มันจึงต้องมีความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ การช่วยนายกำจัดเขาหมายความว่านายสามารถยึดตลาดเขาได้ นั่นไม่ใช่ว่านายเป็นหนี้ฉัน?”
　　“นายช่วยฉันไว้ทางอ้อมจริงๆ”ปรมาจารย์เร้นลับไม่ปฏิเสธ
　　“ในเมื่อฉันช่วยนาย นายก็ต้องช่วยฉัน”หานเวี่ยวกะพริบตา”ฉันได้ยินว่านายยึดกองทัพบรรพชนอสูร ไม่ต้องห่วง ฉีนไม่สนใจ แต่ทว่า มันดูเหมือนจะมีบางคนที่อยากแปรพักตร์ ฉันอยากขอให้นายไม่ขัดคนที่อยากมาหาฉัน”
　　ดวงตาของปรมาจารย์เร้นลับเปลี่ยนไป เขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยภัยพิบัติไปอย่างนั้น
　　นอกจากนี้ ถ้าเขาเลือกยอม จะต้องมีเจ้าหน้าที่คนอื่นที่มใช้แบล็คสตาร์มาเป็นข้ออ้าง ตอนนั้น เขาควรปล่อยไปด้วย?แบบนี้ ผลกำไรที่เขาได้จากการยึดองค์กรบรรพชนอสูรคงลดไปมาก
　　แต่เนื่องจากแบล็คสตาร์โทรมา มันก็หมายความว่าเขารู้ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย เขาคงจบด้วยการตอแยแบล็คสตาร์ และด้วยท่าทีแข็งกร้างของอีกฝ่าย มันอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง เขายังอย่างเป็นมิตรกับแบล็คสตาร์ แต่ก็ไม่เต็มใจยอมสูญเสีย
　　ขณะที่เขากำลังคิด ปรมาจารย์เร้นลับก็ไม่ลังเลอีก เขาไม่เต็มใจตอแยแบล็คสตาร์ด้วยคนไม่กี่คน”ได้ ฉันจะปล่อยตัวเฉพาะคนที่อยากไปหานาย”
　　“เยี่ยม!”หานเซี่ยวระเบิดหัวเราะลั่น
　　ทั้งสองระงับอารมณ์ภายในไว้ แสร้งทำเป็นพี่น้องกัน คุยเล่นสักพักก่อนวางสาย
　　วินาทีที่เขาวางอุปกรณ์สื่อสารลง สีหน้าของปรมาจารย์เร้นลับก็ดำมืด เขาเรียกไบรัมและสั่ง”นำพวกชไนเดอร์มา”
　　ไบรัมสับสนแต่ก็ทำตาม
　　อย่างรวดเร็ว ชไนเดอร์และกลุ่มกบฏมาถึง จ้องปรมาจารย์เร้นลับบนบัลลังก์ด้วยสีหน้าซับซ้นอ
　　ปรมาจารย์เร้นลับพูด”ใครที่อยากไปหากองทัพแบล็คสตาร์บ้าง?’
　　ฝูงชนปั่นป่วน ทุกคนมองหน้ากัน ปรมาจารย์เร้นลับคิดทำอะไร?
　　หรือนี่จะเป็นการทดสอล การฆ่าไก่ให้ลิงดู? novel-lucky
　　ทุกคนรู้สึกระวังตัว และรีบแสดงความภักดี
　　“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันครับ?เราเต็มใจทำงานให้ท่าน”
　　“เราเป็นพี่น้องและสามารถคุยกันได้ง่ายๆ ผมชอบที่นี่มาก”
　　เมื่อเห็นฉากนี้ ปรมาจารย์เร้นลับก็เริ่มปวดหัว
　　ถ้ามันเป็นคนอื่น เขาคงใช้คำพูดปัจจุบันของเขาเป็นข้ออ้างตอบสนองอย่างหยาบคายได้ แต่ปรมาจารย์เร้นลับไม่ตั้งใจเล่นลูกไม้กับแบล็คสตาร์
　　“ท่านพ่อปรมาจารย์เร้นลับ เราไม่อยากไปหาแบล็คสตาร์”
　　ปรมาจารย์เร้นลับพูด”ไม่ คิดให้ดีใหม่”
　　เขาสูดหายใจลึก ฟื้นคืนสติ ปล่อยแรงกดดันออกมาและพูดอย่างเคร่งขรึม”เลิกตอแหลได้แล้ว ใครที่อยากไปหาแบล็คสตาร์ ฉันจะไม่หยุด หรือเล่นกับพวกแก คนที่อยากไป ให้รีบไสหัวไป”
　　เหล่าคนที่ยังอยากแสดงความภักดีพลันรู้สึกถึงแรงกดดันยากจะต้านทานและพบว่าปรมาจารย์เร้นลับไม่ได้กำลังทดสอบพวกเขา พวกเขาหยุดตอแหลและตกตะลึง
　　เกิดอะไรขึ้น?
　　ปรมาจารย์เร้นลับเป็นพวกสองจิตสองใจ?
　　ดวงตาของไบรัมไหววูบและเขาก็คิดถึงสายโทรก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายน่าจะเป็นแบล็คสตาร์　　ถึงกับโน้มน้าวปรมาจารย์เร้นลับได้ด้วยคำพูด หรือปรมาจารย์เร้นลับจะกลัวแบล็คสตาร์?
　　ไบรัมแปลกใจ
　　ภายในฝูงชน ชไนเดอร์พลันคิดถึงโจติน่า
　　“ไม่ผิดแน่ แบล็คสตาร์ต้องมีส่วนร่วม ไม่งั้นคงไม่มีทางอื่นให้อธิบาย”
　　เขาพบว่าสีหน้าของปรมาจารย์เร้นลับดูน่าเกลียด ราวกับเขาไม่เต็มใจ
　　ในมุมมองของชไนเดอร์ โจติน่าเพิ่งเข้าร่วมกองทัพและเธอก็ไม่มีเสียงนัก การให้แบล็คสตาร์ช่วยเธอโดยไม่ลังเล มันต้องเพราะพวกเขามีความสำคัญอยู่บ้าง
　　แม้เขาจะไม่รู้ว่าข้อสรุปเขาถูกไหม ชไนเดอร์ก็อดรู้สึกประทับใจไม่ได้ เขาถึงขั้นมีความคิดตายเพื่อแบล็คสตาร์
　　มันดูเหมือนโจติน่าจะพูดถูก แบล็คสตาร์คู่ควรจริงๆ　　..
　　เพราะมันเป็นการตกลงส่วนตัว การเดินทางของพวกชไนเดอร์จึงไม่ทำให้เกิดความปั่นป่วน
　　7 – 8วันต่อมา เมื่อรัฐบาลจักรวรรดิประกาศสัมปทานโดยไม่มีการเตือน ทั้งจักรวาลก็ปะทุ!
　　เนื้อหาของสัมปทานเรียบง่าย จักรวรรดิตัดสินใจเปิดสิทธิ์ขายโทเท็มวิวัฒนาการให้จักรวาล ซึ่งจะเริ่มในหนึ่งปี!
　　การต่อสู้ระหว่างสามอารยธรรมจักรวาลเพื่อโทเท็มวิวัฒนาการไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นวันหรือสองวันก่อน ดังนั้น เมื่อข่าวนี้ปล่ยอออกมา มันจึงทำให้เกิดความโกลาหล
　　จักรวรรดิยอมแล้ว!
　　แต่ทั้งจักรวาลรู้ดีว่าจักรวรรดิคงไม่เคลื่อนไหวเช่นนี้โดยไม่มีเหตุจูงใจ สำหรับพวกเขาที่ตัดสินใจแบบนี้ มันน่าจะเกี่ยวกับข่าวล่าสุด　　และทุกคนก็รู้ว่าเรื่องสำคัญนั้นต้องเป็นศึกทวยเทพของแบล็คสตาร์!
　　ทุกคนเข้าใจเหตุผลและผล
　　ด้วยบันทึกน่าตกใจนั้น จักรวรรดิจึงย้อมประนอมและปล่อยให้แบล็คสตาร์ควบคุมธุรกิจโทเท็มวิวัฒนาการ!
　　อารยธรรมจักรวาล โดยเฉพาะพวกหัวรั้นเช่นจักรวรรดิคริมสันถึงกับยอมประนอม!
　　ครั้งสุดท้ายเป็นตอนไหน?!
　　เมื่อพวกเขาคิดออก อารยธรรมนับไม่ถ้วนก็ตกใจ
　　แต่ในทางกลับกัน ศาสนจักรอาร์เคนและสหพันธ์แห่งแสงต่างรู้สึกยินดี
　　ด้วยการแสดงศักดิ์ศรี แบล็คสตาร์ถึงกับทำให้จักรวรรดิยอมเปิดสิทธิ์ขาย
　　เรากำลังเดินบนเส้นทางที่ผิดมาตลอด!
　　ถ้าพวกเขารู้ว่าการกดดันจักรวรรดิจะไม่เกิดผลประโยชน์ พวกเขาคงส่งกลุ่มคนไปหาแบล็คสตาร์ ยอมให้เขาสร้างสถิติต่อสู้น่าทึ่งจากนั้นพวกเขาก็คงได้รับมันก่อนหน้านี้!
　　สัมปทานของจักรวรรดิทำให้เกิดกระแสความคิดเห็นทั่วทั้งจักรวาล ทำให้บันทึกส่วนตัวของหานเซี่ยวสูงขึ้นไปอีก
　　ขณะที่ข่าวและข่าวลือกระจายออกไปเหมือนไฟป่า สาขาของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดภายในโลกริบหรี่ก็ได้ต้อนรับแขกที่ไม่คาดคิด