The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1075 หนีเสือปะจระเข

　　“ฮ่าๆ ฉันหนีมาได้!”
　　ตอนนี้ เขาไม่อยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งอีก แม้ผิวเขาจะยังซีด เขาก็ไม่ได้ให้กลิ่นอายชั่วร้ายอีก สภาพจิตเขายังกลับเป็นปกติ เต็มไปด้วยความกลัวและโกรธ
　　เพื่อซุ่มโจมตีคล็อตติ นักเดินทางได้รวมเพื่อนเขาในมิติที่สอง เขาคิดว่าด้วยผู้อยู่เหนือสี่คน แถมความจริงที่พวกเขาอยู่ในมิติที่สองการบรรจบของความชั่วร้าย พวกเขาคงสามารถขับไล่จ้าวแห่งความมืดไปได้
　　แต่ทว่า ความเป็นจริงกลับตบหน้าเขา
　　คล็อตติแข็งแกร่งเกินไป เขามีความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง และยังวิวัฒนาการจนระดับสูงมาก ความเสียหายแบบพื้นที่เขารุนแรง ผ่านการจำลองปรากฏการณ์บิ้กแบงขนาดเล็กด้วยพลังงานมืดของเขา เขาทำลายทั้งมิติที่สอง　　ถ้าแค่พลังเขา ทั้งสี่คงพอมีโอกาสหลบหนี แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้นักเดินทางสิ้นหวังคือความจริงที่คล็อตติพกสมบัติจักรวาลมาเป็นจำนวนมาก!
　　ในฐานะผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดภายใต้บัญชาการของจักรวรรดิและเป็นหัวหน้าองครักษ์ผู้ปกครอง คล็อตติจึงไม่ขาดสมบัติจักรวาล เพื่อให้ภารกิจเขาง่าย จักรวรรดิยังมอบสมบัติจักรวาลให้เขาหลายชิ้น
　　ก่อนมาทำภารกิจ คล็อตติเอาสมบัติจักรวาลาห้าชิ้น เพิ่มพลังเขาขึ้นมาก ตอนเขาทุ่มสุดตัว เขาสามารถฆ่าผู้อยู่เหนือสามคนได้ง่ายๆ
　　นักเดินทางเป็นคนเดียวที่หนีรอดด้วยความช่วยเหลือของพายุอวกาศ
　　โดยปราศจากการบรรจบของความชั่วร้าย พลังเขาจะลดลงเป็นระดับผู้อยู่เหนือทั่วไป การทำงานหนักตลอดหลายปีของเขาสูญเปล่า หัวใจเขาเจ็บปวดจนรู้สึกเหมือนมีคนแทงมัน　　แต่ทว่า เรื่องดีคือศัตรูไม่สามารถแกะรอยเขาได้โดยใช้มิติที่สองอีก ตราบเท่าที่เขาซ่อนตัวได้ดี เขาจะปลอดภัย
　　“ขอแค่ฉันรอด มันก็ยังมีโอกาส”
　　หัวใจของนักเดินทางเต็มไปด้วยความโล่งใจ
　　นอกจากนี้ มันยังมีความหวังที่จะผงาดขึ้นใหม่…
　　นักเดินทางลดหัวและหงายฝ่ามือ เศษชิ้นส่วนสีม่วงเขียวทรงสามเหลี่ยมนอนเงียบๆในมือเขาเหมือนเศษกระจก
　　นี่คือเศษแก่นของการบรรจบความชั่วร้าย ตราบเท่าที่เขาวางมันในมิติที่สองด้วยวิธีการพิเศษ จะมีโอกาสสร้างการบรรจบของความชั่วร้ายขึ้นใหม่ แต่นั่นก็ต้องใช้เวลานานมาก
　　“ทั้งหมดที่ฉันต้องทำคือหลีกเลี่ยงจักรวรรดิ เมื่อพวกเขายอมแพ้ ฉันจะมีเวลาฟื้นตัวมากพอ ดูเหมือนฉันต้องซ่อนตัวเป็นสิบปีหรือร้อยปี..โชคดี ฉันยังมีอายุขัยยืนยาว”
　　นักเดินทางถอนหายใจโล่งอก
　　การรอดหายนะหมายความว่าโชคยังอยู่ข้างเขา!
　　ตอนนี้ ภายในพายุ รอยแตกสามรอยในกำแพงอวกาศปรากฏ มันไม่รู้ว่าจะนำเขาไปสู่มิติไหน
　　ภายในพายุ รอยแตกกำแพงเป็นทางออกเดียว หรือจะหายไปตลอดกาลภายในกระแสวุ่นวาย
　　“พบทางออกเร็วขนาดนี้เชียว ดูเหมือนโชคฉันจะไม่เลว”ดวงตาของนักเดินทางเป็นประกาย โดยไม่ลังเล เขาเลือกหนึ่งในรอยแยกและบินเข้าไป
　　วินาทีต่อมา โลกตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นมิติที่สองที่เต็มไปด้วยหลุมนับไม่ถ้วน ด้านในมีเกาะสีดำแตกเต็มไปหมด มันเงียบสนิท
　　นักเดินทางท่องผ่านกำแพงอวกาศและเข้าไปในมิติที่สองแห่งนี้ ก่อนเขาจะได้ดีใจเขาก็พลันเห็นหนึ่งชายหนึ่งหญิงภายในนั้นที่กำลังมองเขา พวกเขาไม่ได้สวมหมวก
　　เมื่อเขาเห็น รอยยิ้มของนักเดินทางก็เปลี่ยนไป
　　แบล็คสตาร์กับจักรพรรดินีมังกร!
　　บ้าอะไร?ทำไมทั้งสองถึงมาที่นี่?
　　ฉันเพิ่งหนีรอดจากคนหนึ่งมา แต่มาเจออีกสอง?!
　　ดวงตาของนักเดินทางแทบถลน ก่อนเขาจะได้คิดอะไร เขาก็รีบหยุดร่างกายและพุ่งกลับไปทางเดิม
　　“อย่าหนี!”เอเมสตอบสนองทันที เธอยื่นมือออกไปและดึง สนามพลังรุนแรงคว้าจับตัวนักเดินทางและดึงเขามาหาเธอ
　　นักเดินทางบาดเจ็บสาหัส แถมยังเสียพลังชั่วร้าย เขาอยู่ในสภาพย่ำแย่และไม่สามารถหลบหนีสนามพลังของเอเมสได้เลย
　　“ฉันจะมาล้มที่นี่ไม่ได้!”นักเดินทางไม่สนใจผลที่ตามมาและใช้เทคนิคลับเพื่อกระตุ้นจิตใจและร่างกายที่เหนื่อยล้า เขาเริ่มร่ายคาถา
　　ประตูเคลื่อนย้ายเริ่มปรากฏข้างเขา
　　แต่ก่อนเขาจะร่ายเสร็จ สนามพลังก็ขัดขวางการร่ายของเขา
　　ด้านล่างเขา ดวงตาของเอเมสที่เกียจคร้านตลอดจับจ้องนักเดินทาง สนามพลังเอ่อล้นจากคิ้วเธอ
　　บูซ!
　　สนามพลัง : เนตรมังกร!
　　ร่างของนักเดินทางแข็งค้างกลางอากาศ!
　　ก่อนเขาจะได้ตอบสนอง เอเมสก็มาปรากฏด้านหน้าเขาโดยใช้ท่องมิติ เธอยกมือและกดเบาๆที่หน้าผากเขา
　　วินาทีต่อมา สนามพลังบ้าคลั่งก็พุ่งออกจากฝ่ามือเอเมสเข้าตัวนักเดินทาง
　　สนามพลัง-โค่นภูเขา!
　　สนามพลังภายในตัวนักเดินทางดึงเขาไปทุกทิศทาง ทำให้เกิดพลังนับไม่ถ้วนที่ตอบสนองกัน
　　เปรี้ย!
　　เสียงกระดูกนับไม่ถ้วนและกล้ามเนื้อแตกดังขึ้น ความเจ็บปวดรุนแรงท่วมท้นในทุกเส้นประสาทของเขา มากจนเขาไม่สามารถควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าเขาได้
　　บูม!
　　ดอกไม้เลือดระเบิกจากทุกส่วนของร่างเขา เขาส่งเสียงกรีดร้องเงียบๆ อ้าปากกว้างขณะที่พ่นเลือดออกมา
　　สภาพเขายิ่งเลวร้ายไปอีก
　　ครั้งนี้ ด้วยความเย็นชาในดวงตา เอเมสยกขาขึ้น สนามพลังควบแน่นเป็นของคม
　　สนามพลัง ขวานมังกร!
　　ซวบ!
　　ขายาวของเอเมสสับลงไหล่นักเดินทาง เหมือนมีดร้อนที่ตัดผ่านเนย แขนของนักเดินทางถูกตัด! 　　เธอไม่ให้เวลานักเดินทางเลย ตามโมเมนตัม เธอเหยียบคอนักเดินทาง กดลงใส่เกาะดำด้านล่าง
　　หานเซี่ยวค่อยๆบินตามมาและมองใบหน้าน่ากลัวของเอเมสด้วยความแปลกใจ
　　“ทำไมเธอถึงรุนแรงขนาดนี้?”
　　โดยไม่หันไปมอง เอเมสจ้องนักเดินทางใต้เท้าเธอด้วยสีหน้าเย็นชา”ตอนฮีล่าถูกโจมตี เขามาโจมตีวังแบล็คสตาร์ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอเดาได้คร่าวๆว่าเขาอยากล่อกายสถิตนายออกมาเพื่อเบี่ยงเบนสมาธินาย แต่ทว่า นายวางแผนไว้ล่วงหน้าและบอกให้ฉันอยู่ในวังแบล็คสตาร์”
　　เมื่อเผชิญหน้ากับนักเดินทาง เอเมสไม่ออมมือเลย ไม่พเยงเพราะนักเดินทางเป็นศัตรูที่พยายามฆ่าฮีล่า แต่ยังเพราะคนเหล่านี้บังคับให้หานเซี่ยวต้องจ่ายราคาแพง เผาผลาญศักยภาพเขา จากวิธีที่เธอมอง หานเซี่ยวไม่พูดถึงมันเพราะเขาไม่อยากให้ฮีล่ารู้สึกแย่ เอเมสเข้าใจเจตนาของหานเซี่ยว แต่เธอก็ไม่มีทางลืม
　　ในสายตาเธอ การเดินทางมามิติที่สองคือเที่ยวกับหานเซี่ยว แต่ก็ยังมีจุดประสงค์รองคือทำให้นักเดินทางต้องชดใช้
　　เมื่อพบ เอเมสจะทุ่มสุดตัวโดยไม่ลังเล
　　หานเซี่ยวหน้ามุ่ย มองนักเดินทางบนพื้นและหัวเราะ”โฮะโฮะ วันนี้ช่างโชคดีเสียจริง ฉันกำลังคิดจะตามหาแก แต่แกก็มาหาฉันแล้ว”
　　เส้นเลือดปูดบนหน้าผากของนักเดินทาง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
　　หลังรอดพ้นจ้าวแห่งความมืด เขาก็เข้าสู่อ้อมกอดของแบล็คสตาร์!
　　นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ!
　　หลังอารมณ์ผันผวนจนถึงขีดสุด นักเดินทางก็เหนื่อยล้าและไม่มีพลังงานพอจะบ่นชีวิตเขา
　　เขาโชคร้ายมาก
　　นี่หมายความว่าโลกอยากให้ฉันตาย! 　　หานเซี่ยวมองแผลที่เกิดจากฝีมือจ้าวแห่งความมืดบนตัวนักเดินทางและถาม”แกไปเจอใครมา?”
　　นักเดินทางเงียบและดูเหมือนเขาไม่กลัวตาย
　　“โอ้ ยังปากแข็ง”หานเซี่ยวหัวเราะ”แต่ฉันสงสัยว่าอารยธรรมประกายดาวจะตอบสนองยังไงต่อการตายของแก แกไม่ต้องปฏิเสธ ในเมื่อฉันพูดชื่ออารยธรรมของแกได้แม่น ฉันต้องมีหลักฐานพอ”
　　วินาทีที่หานเซี่ยวพูดอย่างนั้น สีหน้าของนักเดินทางก็เปลี่ยนไป novel-lucky
　　ตอนเขาออกไปโลกภายนอก เขามักปลอมตัวเป็นผู้อยู่เหนือเป็นกลางที่รับงานจ้างจากอารยธรรมต่างๆ ทั้งหมดเพื่อปกปิดความจริงว่าเขาทำงานให้อารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด ตัวตนจริงเขาเป็นความลับ อารยธรรมประกายดาวคืออารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดที่เขาทำงานให้จริงๆและโลกภายนอกก็ไม่รู้
　　แบบนี้ ไม่ว่าเขาจะทำยังไง ก็ไม่มีอะไรเชื่อมโยงเขากับอารยธรรมเขาได้ นี่เป็นเหตุผลที่เขาปั่นป่วนไปทั่วโดยไม่ต้องกังวล
　　แต่ทว่า ตัวตนที่เขามักซ่อนกลับถูกเปิดเผยโดยหานเซี่ยว
　　โดยไม่รู้ตัว เขาอยากปฏิเสธ แต่การได้ยินน้ำเสียงมั่นใจของหานเซี่ยว มันก็ชัดเจนว่าเขามีหลักฐาน
　　“ดะ-ได้ไง…”
　　“ฉันรู้ได้ไง?”
　　หานเซี่ยวยิ้ม”โซโรคินบอกฉัน”
　　เดิม เขาแค่อยากโยนขี้ให้คนอื่น แต่ทว่า ปฏิกิริยาของนักเดินทางก็ทำให้เขาแปลกใจ
　　“ฉันรู้อยู่แล้ว!”นักเดินทางกัดฟันแน่น”เบื้องบนไม่ควรทำงานกับเขาเลย!’
　　อืม?โซโรคินเกี่ยวด้วยจริงๆ?หานเซี่ยวคือคนที่ตกใจในครั้งนี้
　　เขาคิดว่ามันคืออารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดที่อยากสร้างความขัดแย้งระหว่างสามอารยธรรมจักรวาล ไม่คิดเลยว่าโซโรคินจะมีเอี่ยวด้วย
　　ดูเหมือนฉันจะพบข้อมูลที่น่าสนใจโดยบังเอิญ…
　　บนผิวเผิน การแสดงออกของหานเซี่ยวยังเหมือนเดิม ขณะที่เขายิ้ม”ในเมื่อฉันรู้ตัวตนแก แกก็ควรบอกฉันทุกอย่าง ไม่งั้น แกคงรู้ผลที่ตามมา อารยธรรมประกายดาวจะต้องโทษ แต่ฉันอาจช่วยแกได้”
　　ถ้านักเดินทางอยู่ลำพัง เขาคงไม่กลัวตาย แต่ทว่า ตามข้อมูลที่หานเซี่ยวมีจากชีวิตก่อนหน้าเขา นักเดินทางจงรักภักดีต่ออารยธรรมเขามาก ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจสุดถูกเปิดเผย หานเซี่ยวจึงควบคุมจุดอ่อนเขาไว้
　　นอกจากนี้ นักเดินทางยังเกลียดโซโรคินมากจนบอกแบล็คสตาร์ทุกอย่าง
　　นี่ไม่ใช่แค่การประนอม เขายังพยายามใช้สิ่งนี้เพื่อชักนำความเกลียดชังของแบล็คสตาร์ไปหาโซโรคิน
　　นักเดินทางอธิบายทุกอย่างตามความจริงตั้งแต่ต้น จากนั้นหานเซี่ยวถึงเห็นภาพรวมทั้งหมด เขาลูบคางและพูด”โซโรคิน…งั้นแกก็คือคนที่โน้มน้าวอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด แถม ยังอยู่ตรงข้ามกับสมาคมผู้อยู่เหนือ..”
　　หลังเชื่อมโยงข้อมูลที่นักเดินทางให้กับข้อมูลจากชีวิตก่อนหน้า หานเซี่ยวก็พอเดาเจตนาจริงของโซโรคินได้
　　ทั้งหมดเพื่อรักษาสมดุลจักรวลและผู้อยู่เหนือก็ควรรู้ว่าเมื่อใดควรพอ เขาแค่ซ่อนความทะเยอทะยานของตัวเอง
　　มีสองทางที่จะได้รับอำนาจ หนึ่งคือแกร่งขึ้น อีกหนึ่งคือลดจำนวนคู่แข่ง โซโรคินเลือกอย่างหลัง จากที่หานเซี่ยวมอง ชายคนนี้ชอบให้จักรวาลมีผู้อยู่เหนือน้อยกว่าสิบ เขาอยากรวบอำนาจ
　　ยิ่งผู้อยู่เหนือน้อย แรงต้านทานที่เขาเจอก็ยิ่งน้อย ซึ่งทำให้เขาอยากลดจำนวนผู้อยู่เหนือ
　　หานเซี่ยวมักระวังโซโรคินมาตลอด แต่ไม่เคยรู้เป้าหมายจริง ตอนนี้ที่เขารู้แล้ว นี่จึงหมายความว่าศัตรูที่ทรงพลังคนนี้ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมาตลอดและเขาก็สามารถเตรียมการที่ครอบคลุมมากขึ้นได้เพื่อต่อต้าน เช่นนั้นเขาจึงอารมณ์ดีมาก
　　หานเซี่ยวมองแผลนักเดินทางและถาม.”บาดแผลแกละ?ใครไล่ล่าแก?”
　　นักเดินทางจ้องหานเซี่ยวด้วยความเสียใจและโกรธ เขากัดฟัน”จ้าวแห่งความมืดจากจักรวรรดิคริมสัน!”
　　“หืม?เขาเองก็มาที่นี่?”หานเซี่ยวแปลกใจ
　　มันดูเหมือนผู้ปกครองจะไม่พอใจถึงการร่วมมือชั่วคราวระหว่างสหพันธ์และศาสนจักร แถมยังมีประเด็นโลกริบหรี่และโทเท็มวิวัฒนาการ เธอจึงอยากใช้พลรบระดับสูงเป็นตัวอย่าง ดังนั้น เธอจึงส่งจ้าวแห่งความมืดมาเตือนองค์กรอื่น
　　เมื่อได้ยินว่าคล็อตติทำลายการซุ่มโจมตีของนักเดินทางได้ง่ายๆ หานเซี่ยวก็อดชมเขาไม่ได้　　หานเซี่ยวคิดสักพักและเปิดใช้ระบบสื่อสารของชุดจักรกลราชา เขาพบสถานีด่านA000ของจักรวรรดิและโทรเข้า
　　ไม่เหมือนจักรวาลหลัก มิติที่สองไม่มีเครือข่ายควอนตัม ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไร้สัญญาณ แต่ทว่า หานเซี่ยวได้พกพาสถานีฐานควอนตัมระยะไกลติดตัวไปด้วย นี่จึงไม่ใช่ปัญหา คล็อตติยังสวมชุดจักรกลพิเศษที่ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารที่ช่วยให้เขาติดต่อสถานีด่านของจักรวรรดิได้ตลอดเวลา หานเซี่ยวจึงติดต่อสถานีเพื่อให้ช่วยติดต่อคล็อตติ
　　เนื่องจากนักเดินทางคือเป้าหมายของจ้าวแห่งความมืด หานเซี่ยวจึงรู้สึกว่าเขาควรแจ้งคล็อตติ
　　หลังจากนั้นไม่นาน การสื่อสารก็เชื่อมต่อ ภาพฉายทางไกลของคล็อตติปรากฏตรงหน้าเขา
　　“แบล็คสตาร์ มีอะไร?”
　　พวกเขาต่างเป็นเสาหลักของจักรวรรดิ แต่เนื่องจากตำแหน่งและตัวตนที่ต่างกัน การสื่อสารระหว่างพวกเขาจึงจำกัดมาก
　　“นักเดินทางอยู่กับฉัน ฉันจับเขาได้…”
　　หานเซี่ยวสรุปสถานการณ์
　　หลังพูดจบ คล็อตติก็ตอบ”ฉันจะไปเพื่อยืนยัน”
　　“ได้”หานเซี่ยวส่งพิกัดให้อีกฝ่าย
　　คล็อตติพยักหน้าและพูด”ตอนนักเดินทางหนี เขานำเศษแก่นมิติไปด้วย มันควรอยู่ในมือเขา”
　　จากนั้นภาพฉายเขาก็หายไป
　　“ไร้สังคมมาก”หานเซี่ยวพึมพำ จากนั้นก็หันไปมองนักเดินทาง ยื่นมือออกไป”เศษแกนมิติ เอาออกมา”
　　นักเดินทางกัดฟัน หยิบออกมาโดยไม่เต็มใจและส่งมอบให้หานเซี่ยวเหมือบมอบภรรยาเขาให้
　　หานเซี่ยววางมันในมือเขา
　　นี่คือกุญแจสำคัญสำหรับนักเดินทางเพื่ออัญเชิญการบรรจบของความชั่วร้าย เหมือนแกนหลอดไฟของตะเกียงเงา ด้วยการใช้มันเป็นสื่อกลาง มันถึงสามารถใช้พลังงานพิเศษได้
　　แต่ทว่า ตอนนี้การบรรจบของความชั่วร้ายไม่มีอีก ชิ้นส่วนนี้จึงใช้ได้แค่เป็นเชื้อไฟเท่านั้น
　　หานเซี่ยวเก็บมันไปและคิดถึงวิธีจัดการกับนักเดินทาง
　　ดีสุดคือผนึกเขาในกาลอวกาศแอมเบอร์ แต่ภารกิจของจ้าวแห่งความมืดคือฆ่าเขา มันไม่ดูเหมือนว่าเอเมสจะพอใจกับผลลัพธ์นี้เช่นกัน
　　บูซ!
　　ขณะคิด สัมผัสของทั้งสามก็รู้สึกถึงการปรากฏของสัญญาณใหม่
　　ทั้งสามมองไปและเห็นว่ากำแพงอวกาศแตกเปิดและมีกองยานขนาดเล็กโผล่ออกมา
　　ก่อนทั้งสามจะได้คิด กองยานนี้ก็ปรับทิศทางและหันมาทางทั้งสาม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นมิตร
　　ภายในห้องบัญชาการของยานหลัก ลอว์จับหานเซี่ยวบนจอและตะโกน”เรามาถูก นั่นคือแบล็คสตาร์!กองยานทั้งหมด จับเป้า เตรียมยิง!”