The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1093 คลื่นจากที่ห่างไกล
ยานอวกาศนับไม่ถ้วนล้อมดาวแซฟไฟร์ไว้ แสงหลากสีเจาะเข้าชั้นบรรยากาศเทียมและทำให้ท้องฟ้าของดาวนี้สวยงามราวกับแสงเหนือ
นี่คือหนึ่งในดาวร้าง มันถูกสร้างใหม่เป็นสถานที่สำหรับงานแข่งแบล็คสตาร์ สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากมายนับไม่ถ้วนเช่นเวที สนามกีฬาขนาดใหญ่และสนามแข่งรถ ซึ่งมองได้เห็นด้วยตาเปล่าแม้จากภายนอกชั้นบรรยากาศ นอกจากการสร้างบนผิวดาว ยังมีเวทีลอยฟ้า ที่นั่งVIPบางที่มีไว้ให้สมาชิกกองทัพที่เหนือกว่าเกรดC
ตอนนี้ ยานของกองทัพและกลุ่มสื่อทั้งหมดจับจ้องบนเวทีลอยฟ้าขนาดใหญ่สุด บนนั้นเป็นแท่นบรรยาย
วันนี้คือวันเปิดพิธี ในฐานะผู้นำกองทัพ ผู้ก่อตั้งงานแข่ง หานเซี่ยวต้องพูดต่อคนทั้งจักรวาลที่นั่น ประชากรนับไม่ถ้วนของจักรวาลมองดูอุปกรณ์สื่อสารพวกเขาตาแทบไม่กะพริบ สุดท้าย เวลาสำหรับการเปิดพิธีก็มาถึง
หือ!
ด้วยการเฝ้าดูของคนนับไม่ถ้วน ร่างสีดำดิ่งลงมาเหมือนอุกกาบาต ค่อยๆลดความเร็วและลงบนขอบเวที ด้วยการหมุนเล็กน้อย เสื้อคลุมสีดำขลอบทองจึงหมุนเหมือนพายุสีดำ กำจัดเปลวไฟตอนทะลุชั้นบรรยากาศ
หานเซี่ยวค่อยๆเดินไปที่แท่นพูดและแหงนมองฟ้า แสงสปอตไลท์จากยานนับไม่ถ้วนด้านบนเหมือนดวงดาวที่ห่างไกล มีสายตานับไม่ถ้วนเฝ้าดูเขาผ่านการถ่ายทอดสด
มือของเขาวางบนแท่นบรรยาย หานเซี่ยวกวาดตามองทั่วและพูด ผ่านลำโพงพิเศษ เสียงของเขาดังไปทั่วดาว
“วันที่ 2 ตุลาคม ปี 688ของปฏิทินกาแล็กซี่ นั่นคือวันที่กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ก่อตั้งขึ้น ย้อนกลับไป ฉันเป็นแค่พลเมืองอารยธรรมพื้นผิวที่เพิ่งก้าวออกดาว เพื่อช่วยดาวแม่ฉัน เหมือนกับสัตว์เกิดใหม่ ฉันเข้าจักรวาลอย่างไร้เดียงสา สำหรับฉัน นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่ทว่า เพื่อช่วยดาวบ้านเกิดและเพื่อความปลอดภัยของพวกพ้องบนนั้น โดยไม่ลังเล ฉัน..”
สุนทรพจน์ถูกเล่าสดในทุ่งดาวต่างๆ สำหรับคนดาวอความารีนที่เฝ้าดูการถ่ายทอด ความทรงจำเก่าๆนี้เริ่มผุด ความภาคภูมิใจปรากฏในหัวใจพวกเขา
ไม่ว่าตำแหน่งของแบล็คสตาร์ในจักรวาลจะเป็นอย่างไร ในสายตาชาวอความารีน เขามีแค่ตัวตนเดียว ชายที่ยิ่งใหญ่สุดของดาวพวกเขา ผู้บุกเบิกดาวอความารีนให้ก้าวสู่จักรวล นั่นเป็นก้าวเล็กๆสำหรับแบล็คสตาร์ แต่เป็นก้าวใหญ่สำหรับดาวอความารีน
ภายในห้องทำงานของสหพันธ์อความารีน เบนเน็ตผลักการประชุมออกไปและดูการถ่ายทอดสด
ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว แต่ก็ยังคงหวีอย่างเรียบร้อย ริ้วรอยบนหน้าก็มีมากขึ้นเช่นกัน เขากลายเป็นชายชรา หลังครอบครองอำนาจสูงสุดของดาวมาหลายปี เขาก็พัฒนากลิ่นอายของผู้มีอำนาจแล้ว
แต่ทว่า ครั้งนี้ ริมฝีปากของเบนเน็ตยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ริ้วรอยบนหน้ายิ่งมีมาก
หลายสิบปีก่อน ตอนเขาพบหานเซี่ยวครั้งแรก ชายโดดเดี่ยวในความทรงจำเขานั้นดูเหมือนจะซ้อนทับกับแบล็คสตาร์ที่สูงส่งและแข็งแกร่งในตอนนี้
คำพูดนับพันพุ่งเข้าหัว แต่ทั้งหมดก็กลายเป็นการถอนหายใจด้วยความพึงพอใจ
ฉันดีใจที่ได้พบนาย…
คำพูดยังดำเนินต่อไป น้ำเสียงของหานเซี่ยวยิ่งมีอารมณ์มากขึน้
“ตอนฉันอ่อนแอ ฉันเจออันตราย และพบกับยอดคน ระหว่างทาง ฉันพบทั้งศัตรูและมิตร ประสบการณ์ที่ฉันได้รับตอนนั้นยังสดใหม่ในหัว” “ฉันฝึกหนักและใช้เวลากว่า 40 ปีเพื่อพัฒนากองทัพแบล็คสตาร์ให้เป็นอย่างทุกวันนี้ ฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์ภาคภูมิใจมัน…”
สมาชิกกองทัพหลายคนพยักหน้านชื่นชม
สมาชิกกองทัพเกือบทุกคนต่างเห็นถึงการเติบโตของกองทัพ
เมื่อมองทั้งกาแล็กซี่ จะมีคนมากแค่ไหนที่สามารถเริ่มจากศูนย์และสร้างขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ในเวลาอันสั้น?มันไม่มีเลยสักคน!
แน่นอน มีคนที่บรรลุมากกว่าแบล็คสตาร์ แต่พวกเขาใช้เวลานานมาก แบล็คสตาร์คือคนเดียวที่เติบโตได้เร็วขนาดนี้
ในฐานแนวหน้าการสำรวจที่เขตแข่งขันเสรี ฮีล่าดูหานเซี่ยวจากจอ การผจญภัยที่พวกเธอร่วมกันในอดีตฉายผ่านหัว และสายตาเธอก็อ่อนยวบ
แมนิสัน คาซูยิ โซโรคินและผู้อยู่เหนือคนอื่นก็ดูมันเช่นกัน แม้กระทั่งเออแรนเรลก็ยังบีบเวลาแสนน้อยนิดมาดูมัน เมือ่ได้ยินคำพูดของหานเซี่ยว คนเหล่านี้ก็อดอนหายใจไม่ได้
แบล็คสตาร์อาจขัดแย้งกับพวกเขา แต่จากก้นบึ้งของหัวใจ พวกเขายังชื่นชมความสำเร็จของแบล็คสตาร์ ไม่มีใครรู้สึกว่าพวกเขาสามารถทำได้ดีกว่าแบล็คสตาร์
“ฉันทำอะไรตอนเด็กกว่านี้ร้อยปี?ยังดูแลโลจิสให้อดีตหัวหน้า?”
แมนิสันระลึกอดีต
หลังหานเซี่ยวเล่าความสำเร็จของกองทัพ น้ำเสียงเขาก็กลายเป็นทางการ
“อย่างที่ฉันเพิ่งพูดไป แม้กองทัพแบล็คสตาร์จะประสบความสำเร็จมามาก การมีส่วนร่วมต่อจักรวาลก็ยังน้อยไป และฉันก็ละอายใจ ดังนั้น ฉันรู้สึกว่าฉันควรเริ่มแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้ ฉันจะพยายามสุดความสามารถเพื่อให้คนมีความสามารถมีโอกาสแสดงศักยภาพ และนั่นทำให้ฉันก่อตั้งงานแข่งแบล็คสตาร์ขึ้นมา…” “ไม่เลว..”เออแรนเรลพยักหน้าเห็นด้วย
เธอชอบเห็นผู้อยู่เหนือเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษโดยไม่ลืมมีส่วนร่วมกับจักรวาล น่าเศร้า ส่วนใหญ่ไม่มีความตั้งใจแบบนี้ แม้แบล็คสตาร์จะมุ่งเน้นผลกำไรอย่างน่าไม่อาย แต่เธอก็มีความสุขที่เขามีความคิดแบบนี้
เมื่อการพูดจบ หานเซี่ยวก็ยิ้ม”ฉันพูดมามากพอแล้ว ตอนนี้ เวทีนี้ควรมอบให้เด็กๆของกองทัพแบล็คสตาร์ ฉันขอประกาศว่า ฤดูกาลแรกของงานแข่งกองทัพแบล็คสตาร์จะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้!”
เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งดาว!
นี่คือเอฟเฟกต์เสียงที่เพิ่มเข้ามา
ถ้าการพูดจบและไม่มีใครปรบมือ นั่นคงน่าอึดอัด แถม สมาชิกกองทัพยังอยู่ในยานกันหมด เสียงปรบมือพวกเขาจึงไม่สามารถมาถึงได้
ด้วยเสียงเชียร์และปรบมือ หานเซี่ยวจึงหายตัวออกไป ผู้จัดงานแข่งแสดงตัวทันทีหลังจากนั้นและเริ่มพาผู้เข้าร่วมไปสถานที่จัดงาน
ผู้ชมยังจับจองที่นั่ง สถานที่จัดงานเริ่มอึกทึก
ตามแผนที่ซิลเวียวางไว้ เธอจ้างผู้จัดงานมืออาชีพมาทำงาน จะมีงานแสดงใหญ่เป็นพิธีเปิด และมีรายการแข่งขันสำคัญน้อยกว่า
แน่นอน งานที่เกี่ยวกับการต่อสู้ต้องมี โดยอ้างจากโปรลีก หานเซี่ยวยังตั้งการแข่งเดี่ยว กลุ่ม สลับ โหมดชิงธงและอื่นๆ เขายังนำโหมดที่จะปรากฏในโปรลีกหลังๆมาใช้ล่วงหน้า
มีกลุ่มคนธรรมดาไปจนถึงกลุ่มภัยพิบัติและกลุ่มอมตะ ทุกกลุ่มต้องเลือกตัวแทนเพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดและแสดงความสามารถ
สำหรับรายการกีฬาและบันเทิง อันที่ได้รับความนิยมมากสุดจะถูกนำไปใช้
รายการกีฬาและบันเทิงไม่มีการจัดกลุ่มและไพ่เวย์นก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้จะไม่มีการจัดกลุ่ม มันก็มีคนเข้าร่วมมากสุด มันจึงได้รับเลือกให้แสดงในพิธีเปิด
ผู้เล่นไพ่เวย์นสองคนที่กำลังจะเล่นในพิธีเปิดคือเฮอลัส ผู้คร่ำหวอดในวงการไพ่มานาน และเฮดาวี่ ผู้โดดดังในวงการพนันของกองทัพ
ภายในสถานที่จัดงาน สนามไพ่เวย์นถูกตั้ง ทันทีที่ผู้เล่นสองคนเหยียบสถานที่จัด ความแตกต่างในการปฏิบัติพวกเขาก็ชัดเจน
วินาทีที่เฮอลัสปรากฏ เสียงเชียร์จากแฟนๆไพ่นับไม่ถ้วนก็ดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขามีเพื่อนมาก แต่ทว่า เฮดาวี่กลับไม่ได้รับเสียงเชียร์เลย ผู้ชมต่างให้ความเคารพอย่างจริงใจกับนักพนันอย่างเขา
“พวกโง่”เฮดาวี่กลอกตา
ครั้งนี้ เฮอลัสมองมา ศัตรูคู่อาฆาตทั้งสองที่ดวลไพ่กันมานับครั้งไม่ถ้วนจ้องตากัน พวกเขาเห็นความคิดเดียวกันในดวงตาอีกฝ่าย
โดยปราศจากเฟย์ดินและเนโร่ ราชาแห่งไพ่ในกองทัพจะเป็นของฉัน! ในเวลาเดียวกัน เวทีเกรดDก็เริ่มแล้ว มันคือการต่อสู้ระหว่างผู้จบการศึกษาสถาบันผู้ใช้พลังและผู้เล่นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมเวอร์ชั่นสี่
“จำกฏไว้ อย่าโจมตีต่อตอนศัตรูเสียความสามารถต่อสู้ การจงใจทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บสาหัสถือเป็นข้อห้าม ไม่อนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้เด็ดขาด ผู้ชนะจะถูกตัดสินเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกเวทีหรือยอมแพ้…”
ผู้ตัดสินจักรกลอธิบายกฏจากด้านข้าง โดยปกติ นอกจากการจงใจทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส ไม่มีกฏอื่น
อย่างไรก็ตาม มีกฏพิเศษสำหรับผู้เล่น ตราบเท่าที่ผู้เล่นไม่ยอมแพ้ คู่ต่อสู้ก็สามารถทุบตีผู้เล่นได้ตามต้องการ ผู้เล่นจะไม่ตายอยู่แล้ว
“เริ่มได้.!”
เมื่อผู้ตัดสินประกาศเริ่ม ผู้จบการศึกษาก็กระทืบพื้น พุ่งใส่คู่ต่อสู้โดยไม่ลังเล เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นใหม่ขาดประสบการณ์ ต่อหน้าคู่ต่อสู้ที่ดุดัน เขาตื่นตระหนก เขายกมือขึ้น เรียกปืนสองกระบอก และชุดจักรกลคุณภาพสูงที่เขาซื้อจากแผนกโลจิสเพื่อปกคลุมตัว เขาเปลี่ยนเป็นเหมือนผี เคลื่อนที่รอบศัตรูอย่างว่องไวขณะยิงปืน เขาคือผู้ใช้ปืนใหญ่
“โล่!”
ผู้จบการศึกษาเปิดใช้ชุดจักรกลด้วย โล่โลหะพับได้ยื่นออกจากแขนและพลังงานบางก็เคลือบอยู่บนนั้น สะท้อนลำแสงสีฟ้าของผู้เล่นใหม่ออกไป
ในเวลาเดียวกัน มืออีกข้างของเขายังดึงหอกจักรกลออกมา ปลายหอกแยกเปิด เผยให้เห็นปากกระบอกปืนภายในและยิงกระสุนระเบิดออกมาทีลันด ไล่ตามอีกฝ่าย เวทีนี้เต็มไปด้วยฝุ่นและระเบิด
ชายคนนี้คือนักสู้จักรกล
ด้วยความที่แผนกโลจิสของกองทัพแบล็คสตาร์มีอาวุธจักรกลคุณภาพสูงมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือสมาชิกธรรมดา หลายคนเต็มใจเป็นช่างกล เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาสามารถซื้ออุปกรณ์ที่ดีสุดได้ในกองทัพ
ตราบเท่าที่พวกเขามีเงิน พวกเขาสามารถข้ามอาวุธดินปืนและซื้ออาวุธพลังงานได้
จริงๆแล้ว ต่อหน้าพวกอมตะ ผู้จบการศึกษานี้ประหม่ามาก
ภายในกองทัพ ผู้เล่นคือกลุ่มสิ่งมีชีวิตพิเศษ ในสายตาสมาชิกระดับต่ำส่วนใหญ่ พวกเขาลึกลับมาก มีข่าวลือว่าพวกเขากำลังครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่
การฆ่าไม่ได้ก็ยากพอแล้ว แต่ตามข่าวลือ พวกอมตะคือพวกบ้าที่ไม่สนชีวิตตน ซึ่งน่ากลัวมาก..
ทั้งสองสู้กันอย่างรุนแรง ไฟและสายฟ้าปรากฏขึ้นทั่ว
ผู้จบการศึกษาสู้อย่างระวังตัว แต่แปลกใจที่พบว่าอีกฝ่ายขาดประสบการณ์ต่อสู้ นี่ทำให้เขามั่นใจขึ้น การโจมตีของเขายิ่งเกรี้ยวกราด และในที่สุดเขาก็เหนือกว่า
“ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะแพ้..”
ผู้เล่นใหม่มองพลังชีวิตที่ลดลง หน้ามุ่ยและนำตรากองทัพแบล็คสตาร์ออกมา
“โฮก!’
วินาทีต่อมา สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ก็ปรากฏตัวบนเวที!
สัตว์ประหลาดกล้ามโตกระโจนไปข้างหน้า กดผู้จบการศึกษาลงกับพื้นทันที จับการเคลื่อนไหวของเขาอย่างสมบูรณ์
สัตว์ประหลาดที่มีความสามารถต่อสู้เกรดBเรียกได้ว่าไร้เทียมทานในกลุ่มเกรดD
ครั้งนี้ สัตว์ประหลาดเปิดปากใหญ่ เผยฟันแหลมและดูเหมือนกำลังจะกัด
“ฉันยอมแพ้!ชะ-ช่วยด้วย!”
ผู้จบการศึกษาหวาดกลัว มองปากที่ใกล้เข้ามา และหลับตาโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่า การกัดไม่มาตาดคาด เขากลับรู้สึกถึงลิ้นเปียกชื้นและนุ่มที่เลียเขาจากบนลงล่าง
“การต่อสู้จบลงแล้ว สีฟ้าชนะ!”ผู้ตัดสินประกาศ
“ฉันชนะ!”
ผู้เล่นใหม่กระโดดโลดเต้น ส่ายก้นอย่างยั่วยวนเล็กน้อย วิ่งไปที่ขอบเวทีลอยและกระโดดลง ใช้วิธีที่เร็วสุดเพื่อออกไปจากสายตาเหล่านี้
การเต้นของสัตว์ประหลาดงดงามเกินไป ผู้ชมที่เห็นมันต่างอยากควักลูกตาตัวเองออกมา
ในเวลาเดียวกัน ผู้ชมนับไม่ถ้วนยังรู้สึกเสียวสันหลัง
ข่าวลือเป็นจริง พวกอมตะเป็นพวกบ้า
บนเวที ผู้จบการศึกษาสถาบันนอนอยู่บนพื้น ดวงตาของเขาสั่นไหว เขาเริ่มสงสัยนิยามของชีวิต มันเป็นการชนะที่แน่นอน แต่โต๊ะกลับถูกพลิกทันทีที่อีกฝ่ายแปลงร่าง
โธ่ ชีวิต…
ตราบเท่าที่ไม่มีการสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ของสามารถใช้ได้อย่างอิสระในงานแข่งแบล็คสตาร์ ผู้เล่นพอใจกับกฏนี้มาก
ในโปรลีก อาวุธที่ทรงพลังต่างๆของกองทัพถูกห้ามหมด ตอนนี้พวกเขาใช้มันได้อย่างอิสระ มันจึงรู้สึกดีมาก
แม้นี่จะไม่ยุติธรรมสำหรับสมาชิกกองทัพ นี่ก็เป็นสิ่งที่หานเซี่ยวต้องการ เขามีหลายเหตุผล เหตุผลแรกคือเพื่อแสดงโลกภายนอกว่าผู้เล่นน่ากลัวแค่ไหน
สองคือเพื่อกระตุ้นยอดขายตราวิวัฒนาการ ถ้าผู้เล่นในการแข่งขันเกรดต่ำเห็นว่าตราวิวัฒนาการสามารถทำให้พวกเขาไร้เทียมทานได้ พวกเขาก็ต้องซื้อมันแน่
นอกจากนี้ ตราวิวัฒนาการไม่ใช่ของใช้ครั้งเดียว แต่มันต้องเติมพลังงานใหม่ เหตุผลสุดท้ายคือหานเซี่ยวอยากให้ผู้เล่นได้รับรางวัลสำหรับการแข่งขันเกรดต่ำ เหนือสิ่งอื่นใด เขาจะได้รับจากสมาชิกปกติไม่มากนัก และการมอบรางวัลแก่ผู้เล่นเหล่านี้ก็เป็นการใส่ปุ๋ยทางอ้อม
อะไรนะ สมาชิกทั่วไปไม่พอใจ?งั้นก็ใช้ของแบบผู้เล่นสิ
ต่อให้มีคนทำจริงๆ ผู้ตัดสินก็คงไม่เห็นด้วย การฆ่าตัวตายบนเวทีไม่ได้รับอนุญาต อ้อ ยกเว้นพวกที่ตายไม่ได้
ไม่ยุติธรรม?การไม่ตายคือพรสวรรค์ของพวกเขา เช่นเดียวกับคนที่มีพลังรักษา พวกนายจะไม่ปล่อยให้พวกเขาใช้พลังนี้ด้วย?นั่นไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขาหรือเปล่า?
ถ้าต้องการโทษบางสิ่ง ก็โทษความจริงที่พวกนายไม่เป็นอมตะ
ดังนั้น ต่อให้สมาชิกกองทัพเกรดต่ำจะไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ พวกเขาก็อาจคิดว่ามันสมเหตุสมผล โดยไม่ต้องเตรียมการอื่น กฏนี้มีเพื่อให้ช่างหานบรรลุผลลัพธ์ที่เขาต้องการ
…
ตอนพิธีเปิดงานแข่งแบล็คสตาร์ดำเนิน ในเวลาเดียวกัน ในทุ่งดาวทะเลทรายโบราร ทีมโบราณคดีลงจอดบนดาวร้างไร้คนมาเยือน
มันถูกเรียกว่าทีมโบราณคดี แต่จริงพวกเขาคือพวกกินซาก
ทะเลทรายโบราณเก่าแก่มาก หลายสถานที่เป็นสนามรบโบราณ มีซากปรักหักพังและของเสียมากมาย ดังนั้น ทุ่งดาวนี้จึงเต็มไปด้วยพวกกินซากที่อยากเสี่ยงโชค หวังหาของดี ขายมันตลาดมืด
ท่ามกลางพายุทรายกัดกร่อน พวกกินซากสวมชุดป้องกัน
สมาชิกทีมคล้ายลิงผอมจิ้ม ๆ หน้าจอสักพัก จากนั้นก็ตะโกน
“พวกเราโชคดีแล้ว!มีชั้นหินโบราณบนดาวนี้และไม่สามารถระบุอายุได้ นี่หมายความว่ามันเก่าแก่จนเกิดขีดจำกัดของอุปกรณ์เรา ตอนนี้ฉันกำลังใช้คลื่นตรวจจับเพื่อวาดแผนที่ใต้ดิน…เสร็จแล้ว!”
โพรงใต้ดินซับซ้อนปรากฏบนหน้าจอ มันมีรอยแยกและมุมต่างๆมากมายที่ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้คนที่เข้ามาสับสน
“ไม่มีร่องรอยการค้นพบ! เราอาจพบเจอซากอารยธรรมโบราณที่ยังไม่ถูกค้นพบ!”
“หรืออาจเต็มไปด้วยโลหะขึ้นสนิม”อีกคนยักไหล่
“ไม่ว่ายังไง ก็มาขุดกันก่อน”บางคนที่ดูเหมือนหัวหน้าทีมพูดขึ้น”ให้ยานส่งแท่นขุดเจาะมา”
ขณะที่พวกเขากำลังจะลงมือ สมาชิกทีมคนหนึ่งพลันดึงแขนหัวหน้า ใช้มืออีกข้างเช็ดฝุ่นที่เกาะบนหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ทั้งหนุ่มและหล่อ เขากำลังขมวดคิ้วและกังวล “อย่าเพิ่งลงไปเลยครับ..”
น้ำเสียงของชายคนนี้ดูลังเล
“ผมมีความรู้สึกว่าเราอาจขุดบางอย่างที่ไม่ควรขึ้นมา”
ถ้าหานเซี่ยวอยู่ เขาต้องจำใบหน้านี้ได้แน่
นี่คือนักสำรวจชื่อดังในเวอร์ชั่นต้นไม้โลก
คนแรกที่พบร่างหลักของต้นไม้โลก!