The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1118 พรรคพวก
เปลวไฟแห่งสงครามลุกโชนในอวกาศ และสองเทพจักรกล หนึ่งขาวหนึ่งดำก็ปะทะกัน การปะทะระหว่างอาวุธพวกเขาระเบิดเป็นคลื่นกระจายไปทั่ว
พลังงานไซโอนิคระเบิดกับพลังงานไซโอนิค และเหล็กก็ปะทะกับเหล็ก
ล้อมรอบไปด้วยกองทัพจักรกลขนาดใหญ่ ซึ่งลอยรอบเหมือนอีกา พวกเขาสู้กันเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยเหล็กหลอมที่เกิดจากรังสีพลังงานหนาแน่นสูง ซึ่งเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว ควบแน่นเป็นบล็อกเหล็กทรงแปลกๆ บางชิ้นตกลงบนผิวดาว บางชิ้นเปลี่ยนเป็นเศษซากอวกาศ โคจรรอบดาวเมฆแม่เหล็ก
มันดูเหมือนเทพเจ้าสององค์ที่สามารถทะลุผ่านชั้นฟ้าได้นำกองทัพตนเองเข้าร่วมการต่อสู้ของจักรวาล
การระเบิดพลังของหานเซี่ยวทำให้เขาได้รับพลังมหาศาล สติปัญญาของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 40% และระดับความสัมพันธ์กับเครื่องจักรก็ยังพุ่งทะยาน ด้วยการเพิ่ม 20%จากบัตรอัญเชิญตัวละครแมนิสัน มันจึงขยายความแข็งแกร่งเขาไปอีก
ตามการคำนวณ แต้มสถานะนับหมื่นในสติปัญญาเหล่านี้เสริมความสามารถช่างกลเขาให้มากกว่าตอนช่วยเหลือฮีล่าซะอีก มันอาจบอกได้ว่านี่คือสถานะสูงสุดในปัจจุบันของหานเซี่ยว
เพราะเขาไม่มีเวลาทำความคุ้นเคยกับพลังใหม่ การควบคุมพลังของหานเซี่ยวจึงไม่ดีเท่าที่ควร แต่ทว่า นี่ก็ยังทำให้เขามั่นใจ
แสงคมดาบแหลมระเบิดจากคมดาบลงทัณไม่หยุด ทุกการฟันที่เขาทำจะเต็มไปด้วยพลังหนักหน่วงและดุร้าย เขาดูเหมือนจะรวบรวมจิตวิญญาณของกวนอูไว้ในตัว
พลังจักรกลของเขาทำให้เขาควบคุมเทพจักรกลได้คล่องกว่าเดิม คมดาบลงทัณฑ์ในมือดูเหมือนจะแผ่พลังออกไปในระดับที่สูงขึ้น ทำลายผ่านม่านพลังรอบตัวแมนิสัน ทิ้งบาดแผลไว้บนตัว
แม้แมนิสันจะแปลกใจกับพลังของหานเซี่ยว มันก็ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเขา ด้วยการสนับสนุนของสมบัติจักรวาลทั้งหก ตรีศูลเขาโจมตีสวนอย่างไม่รู้จบ เจาะรูขนาดใหญ่และเล็กบนตัวเทพจักรกลของหานเซี่ยว
ทั้งสองฝ่ายต่างบาดเจ็บ มีเพียงสองร่างเหล่านี้ที่สามารถเห็นได้บนอวกาศ ใช้จักรวาลเป็นสนามรบของพวกเขา ตรีศูลและง้าวปะทะกันหลายสิบครั้งในชั่วพริบตา ระเบิดประกายไฟฟ้าออกไป
แม้มันจะดูเหมือนว่าพวกเขาต่อสู้ประชิดกันอย่างเรียบง่าย ทั้งสองก็ผสมการต่อสู้ระยะประชิดด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคมากมาย สนามพลัง สนามแม่เหล็กไฟฟ้า และการแปลงพลังงาน นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์จักรกลประเภทควบคุมนับไม่ถ้วน ตัวยับยั้งจำนวนมากห่อหุ้มรอบเทพจักรกลแต่ละคนเหมือนใยแมงมุม ยับยั้งการเคลื่อนไหว ในเวลาเดียวกันพวกเขายังระดมยิงปืนใหญ่ของพวกเขา ด้วยปากกระบอกปืนนับไม่ถ้วนรอบตัวที่พ่นลำแสงพลังงานสูงออกมาเหมือนห่าฝน
นี่ดูเหมือนจะเป็นฉากอันงดงาม แต่มันก็มีพลังงานมากพอจะทำลายล้างดาว
อาวุธอัครฑูตของจักรพรรดิจักรกลทรงพลังมาก ชิงความได้เปรียบในการต่อสู้ด้วยกองทัพจักรกล หานเซี่ยวทำได้แค่ดึงกองทัพเขาออกจากกล่องกองทัพมิติที่สองมาเติม ใช้จำนวนกลบ
การต่อสู้ค่อยๆถึงจุดสูงสุด และภายใตสายตาตกใจและตื่นเต้น ทั้งสองสู้กันโดยไม่สนใจอะไร
ซวบ!
ง้าวของหานเซี่ยวกวาดใส่คอของแมนิสัน หั่นลึกเข้าไปถึงสามในสี่ แทบจะตัดหัวจนขาด
ในเวลาเดียวกัน ตรีศูลก็เจาะทะลุหัวหานเซี่ยว ทำให้เศษจักรกลนับไม่ถ้วนแตกกระจาย แต่ทว่า เทพจักรกลทั้งสองทำราวกับว่าไม่บาดเจ็บ พวกเขายกมือขึ้นจับอาวุธอีกฝ่ายที่ฝังอยู่ในตัวเองก่อนดึงออก พวกเขายกขาขึ้นเตะใส่เป้าของอีกฝ่าย การเคลื่อนไหวพวกเขาเหมือนกันอย่างน้อย 90%!ขณะที่พวกเขาลอยไปด้านหลัง พวกเขาก็ปาอาวุธพร้อมกัน อาวุธใหญ่ทั้งสองพุ่งผ่านอวกาศ ปะทะกันกลางทางก่อนกระเด็นออกไป ตรีศูลกระแทกลงบนผิวดาว ทำให้เปลือกดาวแตกร้าว
คมดาบลงทัณฑ์หมุนออกนอกเส้นทาง กระแทกเข้ากับสนามรบของกองทัพจักรกล กวาดทหารจักรกลของทั้งสองฝ่ายไปนับไม่ถ้วน
ตอนนี้ ร่างของแมนิสันไหววูบ หายลับไปผ่านอวกาศ วินาทีต่อมา เขาปรากฏด้านหลังหานเซี่ยว และลำแสงก็ยิงออกจากเอวเขา
ดาบสั้นสีเงินถูกชักออกจากฝัก ตวัดออกมา แสงดาบกวาดเอวของหานเซี่ยว แยกส่วนเทพจักรกลทันที
หานเซี่ยวตอบสนอง เปลี่ยนร่างส่วนบนเป็นแขนแส้ตวัดใส่แมนิสัน มันทำลยม่านพลัง และพลังที่เหลือก็กระแทกหัวแมนิสัน หัวที่แทบขาดปลิวไปทางหนึ่งในกองยานของสามอารยธรรมจักรวาล มันถูกยิงจนแหลกเละด้วยปืนของกองยาน
ในเวลาเดียวกัน ร่างส่วนล่างของหานเซี่ยวยังสลายตัว รวมกันเป็นทหารจักรกล ซึ่งผสานกับเทพจักรลใหม่ คมดาบลงทัณฑ์ซึ่งหลุดออกวิถีหยุดกลางอากาศก่อนบินกลับมาราวกับถูกเชือกที่มองไม่เห็นดึง บังคับให้แมนิสันต้องถอย
สมบัติจักรวาลอีกชิ้น
เมื่อเห็นแมนิสันนำอาวุธอีกชิน้ออกมา หานเซี่ยวก็รู้สึกขมขื่น
ผ้าคลุมจักรพรรดิมีผลเสริมโครงสร้างภายในของเทพจักรกลเขา แต่ดาบสั้นเฉือนผ่านมันได้ง่ายๆ มันต้องเป็นอุปกรณ์เกรดทอง
ความจริงที่รากฐานเขาไม่พอเป็นปัญหาน่าเศร้า แต่หลังต่อสู้มานาน จักรพรรดิจักรกลก็ยังดุร้าย ไม่แสดงอาการอ่อนแอลงเลย เงินสำรองเขาไม่อาจหยั่งถึง และความทนทานของเขาก็ทำให้หานเซี่ยวแปลกใจ
เหตุผลคือตราบเท่าที่ใช้พลังงานมาก จำนวนโบนัสซ้อนทับจะยิ่งลด
เพราะเขามีความสามารถแปลงพลังชีวิตเป็นพลังงาน เขาจึงมักอยู่จุดสูงสุด แต่ตาแก่นี่ดูเหมือนจะกินไวอากร้าไป ถึงขั้นรักษาสภาวะนี้ได้เป็นเวลานาน!
แม้ตาแก่จะพยายามงัดเอาอุปกรณ์ที่ช่วยให้เขาแปลงความเสียหายเป็นพลังงานได้ หานเซี่ยวก็พบว่ามีข้อจำกัดอยู่ มันมีระยะเวลาคูลดาวน์หลังการดูดซับแต่ละครั้ง ไม่เหมือนพรสวรรค์เขา
ดังนั้น บางทีตาแก่แมนิสันอาจมีพรสวรรค์บางอย่างที่ช่วยให้เขารักษาโบนัสพลังงานได้ แต่ค่าใช้จ่ายคือลดพลังตัวเขาความสามารถประเภทนี้หายากแต่ก็ไม่พิเศษ
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก หานเซี่ยวรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าพลังของแมนิสันไม่เพียงไม่ลด แต่กลับค่อยๆเพิ่มขึ้น เขาอาจเป็นเหมือนฉัน มีพรสวรรค์ได้รับโบนัสผ่านการต่อสู้…เขาสมกับเป็นยอดฝีมืออันดับต้นในจักรวาล ยากจะรับมือได้เหมือนกับฉัน
หานเซี่ยวกัดฟัน
ต่อให้สู้กันมานาน พวกเขาก็ทำได้แค่สูสี การพยายามที่จะขยายความได้เปรียบมีแต่ทำให้เขาถูกขวางด้วยแมนิสันครั้งแล้วครั้งเล่า
โชคดี แมนิสันก็เช่นเดียวกัน ทั้งสองไม่มีใครสามารถเหนือกว่าอีกฝ่ายได้
เวลาสำหรับบัตรอัญเชิญตัวละครมีจำกัด ฉันไม่สามารถรักษาสภาวะนี้ได้ตลอด ค่าสถานะของแมนิสันค่อยๆไต่ขึ้น และถ้ายังสู้กันต่อ สถานการณ์ของฉันจะพลิกไปอีกครั้ง..บ้าจริง ฉันมักเป็นคนชนะศัตรูหลังการต่อสู้ยืดเยื้อ ตอนนี้ฉันกลับพบคนที่อยู่ได้นานกว่าฉัน…
หานเซี่ยววิเคราะห์สถานการณ์อย่างน่ากลัว แต่อารมณ์ของเขากลับผ่อนคลายมาก มันนับว่าโดดเดี่ยวมากที่ไม่สามารถหาคู่ต่อสู้ได้ มันหายากที่จะพบศัตรูที่บีบให้เขาต้องทุ่มทุดอย่าง เขาสู้อย่างเต็มใจ ระบายพลังงานทั้งหมดกับจักรพรรดิจักรกล
นอกจากนี้ เขาสามารถเห็นพลังต่อสู้ของแมนิสันเองได้ เพื่อประเมินช่องว่างของพวกเขา ซึ่งไม่เล็กเลย
ในความเป็นจริง กลยุทธ์ตีแล้วหนียังใช้ได้กับแมนิสัน แม้กายสถิตเขาจะทนทานได้ แต่ก็ไม่มีทางเทียบได้กับเขา ปัญหาคืออีกฝ่ายซ่อนตัวเองภายในเทพจักรกล และเขาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้อีกฝ่ายได้ ตราบเท่าที่ไม่ทำลายเทพจักรกล เขาก็ไม่มีทางทำร้ายกายสถิตของอีกฝ่ายได้ นี่คือสิ่งที่ต้องให้ความสนใจ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาได้รับประสบการณ์เพื่อรับมือกับแมนิสันมาด้วย
ความคิดทุกประเภทฉายผ่านหัว หานเซี่ยวพูดขึ้น
“จักรพรรดิจักรกล เราสูสีกัน และก็มมี่ผลลัพธ์ต่อให้เราต้องสู้กันอีกสิบวัน แกแน่ใจนะว่าอยากสู้ต่อ?”
“แกคิดมากไป ฉันไม่คิดว่าแกจะทนได้นานขนาดนั้น”แมนิสันตอบ”นี่ควรเป็นภาวะสูงสุดของแก แต่แกก็ทำได้แค่สูสีกับฉัน แกจะระเบิดพลังได้อีกนานแค่ไหน?”
“ไม่เคยนับ แต่มันควรอยู่จนจบการต่อสู้”
เนื่องจากไม่มีใครรู้รายละเอียดเขา หานเซี่ยวจึงโกหกหน้าตาย”งั้น แกอยากสู้ยืดเยื้อกับฉัน?”แมนิสันปล่อยเสียงหัวเราะไร้อารมณ์ราวกับเขาดูถูกความมั่นใจของหานเซี่ยว”แกจะเสียกองทัพแกได้มากแค่ไหน?มากพอเท่าฉันงั้นเหรอ?”
“ก็แค่เงินนี่?ฉันเองก็ไม่ได้ขาดมัน”หานเซี่ยวยิ้มเยาะ
ขณะพูดแบบนี้ ช่างหานก็ต้องยอมรับว่าตาแก่นี่มีอำนาจเงินเยอะกว่า
เขาปรารถนาทดสอบพลังของเขากับแมนิสันไม่ใช่เพื่ออวดเงิน
หานเซี่ยวยังไม่ลืมว่าแมนิสันยังมี’ของสะสม’ผู้อยู่เหนือในมือ เขาอาจไม่นำออกมาเพราะนี่ไม่ใช่เวลาอันดี เขาคงไม่อยากแสดงพวกมันต่อหน้าสามอารยธรรมจักรวาล
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่อาจไม่ใช่พลังที่แท้จริงของแมนิสัน
ด้วยความที่การเติบโตพวกเขาแตกต่างกันคนละโลก สิ่งหนึ่งที่เห็นด้วยคือการสะสมนั้นสำคัญต่อช่างกล
ค่าสถานะของแมนิสันสูงกว่าเขาไหม?นั่นไม่มาก แต่อีกฝ่ายนั้นมีเครื่องจักรที่แข็งแกร่งกว่าเขา นั่นเกิดจากการสะสมตลอดเวลานับร้อยปี
สายช่างกลแตกต่างจากสายอื่น ต่อให้ทุกคนมาถึงคอขวดในพลัง ช่างกลก็สามารถเมินคอขวด พัฒนาพลังรบตัวเองผ่านการวิจัย และคิดค้นเครื่องจักร
ช่องว่างนี้ไม่เล็กเลย…หานเซี่ยวส่ายหัว
แม้เขาจะคิดว่าตัวเองร่ำรวย แต่เมื่อเทียบกับแมนิสันที่มีสมบัติจักรวาลมากมาย เขาดูจนไปเลย
ในลักษณะนี้ ความยากในการเอาชนะแมนิสันจึงสูงมาก แมนิสันอยากทุบตีฉันเพื่อรักษาหน้าเขา ดังนั้นฉันจึงต้องถ่วงเขาให้ได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะถอยหรือหลบหนี ไม่งั้นฉันจะเสียชื่อเสียงทั้งหมด…
ขณะที่หานเซี่ยวกำลังคิดว่าเขาควรใช้ไพ่ตายแบบไหน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
กลุ่มจักรกลต่างๆระเบิดเข้าสนามรบ โจมตีกองทัพของแมนิสันพร้อมกัน แยกสนามรบและป้องกันสองฝ่ายจากการสู้กัน ลำแสงนับสิบสายบินเข้ามา หยุดระหว่างทั้งสอง
หานเซี่ยวกับแมนิสันมองร่างนับสิบ ซึ่งคือกายสถิตของผู้อยู่เหนือคนอื่น
“จักรพรรดิจักรกล พอแค่นั้นแหละ”กันต์พูด
แมนิสันกวาดตามองคนอื่น”พวกนายจะช่วยเขา?”
“แบล็คสตาร์ไม่ต้องให้เราช่วยหรอก ตอนนี้ไม่มีผู้ชนะที่เด่นชัด ต่อให้สู้กันเป็นเดือน การต่อสู้ก็ไม่น่าจะจบ”กันต์จงใจพูดผ่านช่องทางพื้นที่กว้าง เขาหัวเราะ”มันเป็นไปไม่ได้สำหรับสามอารยธรรมและเราที่จะอยู่ที่นี่เพื่อดูนายเป็นเดือน เราจึงถือว่าวันนี้เสมอกัน”
“เสมอ?”น้ำเสียงของแมนิสันเปลี่ยนไป
“ไม่ใช่งั้นเหรอ?”กันต์ยิ้ม
แมนิสันหรี่ตา”แล้วถ้าฉันอยากสู้ต่อละ?”
“เราเองก็มีศักดิ์ศรี ในเมื่อเราพูดไปแล้ว เราก็จะลงมือ”กันต์หัวเราะ”ถ้านายไม่ไว้หน้าเรา งั้นฉันก็ขอโทษด้วย แต่เราทำได้แค่ร่วมมือกันโจมตีนาย”
ขณะพูด ผู้อยู่เหนือทั้งหมดก็ก้าวออกมาพร้อมกัน แม้พวกเขาจะไม่พูด แต่เจตนาของพวกเขาก็ชัดเจน
อยากแตะต้องแบล็คสตาร์? งั้นแกก็เตรียมรับฝ่าเท้าของพวกเราได้เลย!
เมื่อเห็นอย่างนี้ แมนิสันก็เงียบไป สนามรบคือวิหารผู้ศรัทธาจักรกล ดังนั้นเขาจึงอยากข่มหานเซี่ยว แม้โหมดระเบิดของหานเซี่ยวจะแกร่ง มันก็เป็นแค่ชั่วคราว ถ้าพวกเขาสู้กันต่อ เขามั่นใจว่าจะชนะ แต่ทว่า สถานการณ์นี้ได้ทำลายแผนเขา
การต่อสู้ระหว่างพวกเขาโดนแทรกแซง และแมนิสันก็สามารถเห็นเจตนาได้ พวกเขาอยากสร้างสถานการณ์เสมอกัน บังคับให้เขายอมรับสิ่งนี้แทน
หลังคิดสักพัก เขาก็เข้าใจเหตุผล
แมนิสันแหงนมองหานเซี่ยว พูดด้วยน้ำเสียงซับซ้อน
“นี่ก็จริง..แต่แค่กรณีที่แกมีผู้สนับสนุนมากมาย”
เขาไม่มีเจตนาอยู่ต่อ เขาเก็บกองทัพทั้งหมด ยกเลิกการจุติก่อนจากไป ไม่ว่าเขาจะมั่นใจแค่ไหน เขาก็ไม่คิดท้าทายผู้อยู่เหนือทั้งหมด
เมื่อเห็นกันต์ก็หัวเราะก่อนมองหานเซี่ยว
“เอาละ เรื่องนี้จบแล้ว”
หานเซี่ยวแปลกใจ”ฉันคิดว่าพวกนายจะดูต่อซะอีก ทำไมถึงมาช่วย?”
ถ้าจักรวรรดิช่วยเขา เขายังเข้าใจได้ แต่ทำไมช่างกลจากสหพันธ์กับศาสนจักรถึงมาช่วย?
หรือว่าการกระทำที่กล้าหาญของฉันในการทำลายแกนไวรัสจะทำให้พวกเขาลืมความแค้น?
เห้อ งั้นก็โทษฉันเถอะ เสน่ห์ของฉันคงร้อนแรงเกินไป
ฟรานซิสโก้แค่นเสียงเย็น”อย่าคิดเลยเถิด เราไม่ได้ทำเพื่อนาย”
“นายสามารถสู้ได้อีกเป็นสิบวัน สามอารยธรรมจักรวาลจะมาเสียเวลานั่นดูได้ยังไง?พวกเขาจึงขอให้เราแทรกแซง” “เป็นแบบนั้นเอง”
“ฮี่ๆ มันไม่ใช่แค่คำสั่ง แต่เราทุกคนต่างอยากเห็นจักรพรรดิจักรกลเสียหน้า”กันต์พูด
เอาละ ฉันเข้าใจแล้ว
คนส่วนใหญ่เคยโดนแมนิสันรังแกมาก่อน แต่พวกเขาทำได้แค่เก็บความโกรธไว้ เมื่อเห็นความกล้าของแบล็คสตาร์ พวกเขาจึงรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสโจมตีแมนิสัน พวกเขาจึงเลือกแทรกแซง
การตัดสินผลเสมอยังเป็นการล้างแค้นของพวกเขา นี่จะสั่นคลอนตำแหน่งของแมนิสันในฐานะเทพเจ้าหลัก สร้างโมเมนตัมให้แบล็คสตาร์
ตราบเท่าที่บันทึกถูกประกาศ แบล็คสตาร์จะมีผู้ศรัทธาเพิ่มขึ้น
การแทรกแซงในการต่อสุ้ไม่ใช่แค่เพราะคำสั่ง แต่ยังเป็นการตัดสินของพวกเขาเอง
สำหรับปัจจัยที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจเช่นนี้ มีเพียงพวกเขาถึงรู้ เมื่อหานเซี่ยวเข้าใจ เขาก็ถอนหายใจโล่งอก
ยิ่งมีความสัมพันธ์เยอะ ยิ่งได้รับผลประโยชน์
โดยไม่สนว่าแมนิสันจะมีชีวิตมานานแค่ไหน ในสายตาช่างกลผู้อยู่เหนือภาพลักษณ์ของแมนิสันไม่ดีนัก เขาตอแยผู้อยู่เหนือไว้มากเกินไป!