The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1136 นี่คือความรัก

　　หานเซี่ยวอดนวดขมับไม่ได้ ผู้เล่นเป็นพวกมะเร็งจริงๆ ต่อให้จะเป็นฝ่ายเขา พวกเขาก็ยังควบคุมได้ไม่เต็มที่ แม้เจตนาพวกเขาจะดี สิ่งที่พวกเขาทำก็มักจบลงด้วยการทำให้เรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้น
　　บรรยากาศทั้งฟอรั่มเริ่มเบี่ยงประเด็น
　　หลังหงุดหงิดสักพัก หานเซี่ยวก็หัวเราะ
　　“คนเหล่านี้ไม่สามารถหยุดสร้างปัญหาได้เลย…แต่นี่อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย”
　　เขาไตร่ตรองสักพักและพลันตระหนักว่าเขาไม่ต้องหยุดผู้เล่น
　　ไม่ต้องพูดถึงว่าผู้เล่นกำลังสื่อสารกันบนฟอรั่มและไม่มีทางที่เขาจะใช้มันเป็นหลักฐานเพื่อจับพวกเขา นี่ยังไม่ใช่เรื่องแย่
　　ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เล่นอาวุโสรักและสนใจเขา พวกเขาคงไม่พยายามช่วยเขา
　　เขาไม่ต้องใช้กองกำลังติดอาวุธ แก้ไขปัญหาทุกอย่างที่ปรากฏ เขากลับปล่อยให้ผู้เล่นสร้างปัญหาระหว่างพิธีปิดเพื่อทำให้งานแข่งแบล็คสตาร์น่าสนใจขึ้น เขาไม่มีแผนทำอะไรเลย
　　ผู้เล่นนำโดยบินฟรีซึ่งอยากแทงหลังเขาในนามของความยุติธรรม แต่นี่ไม่เป็นอันตรายเลยในสายตาหานเซี่ยว เขาพอใจที่ได้แสดงร่วมกับพวกเขา
　　“ภาพลักษณ์สาธารณะของกองทัพแบล็คสตาร์ในจักรวาลคือพันธมิตรแห่งความยุติธรรม ผู้คนต่างให้อภัยต่อกองทัพ ต่อให้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นระหว่างพิธีปิดงานแข่งแบล็คสตาร์ มันก็ไม่ส่งผลต่อชื่อเสียงของกองทัพ มันกลับเพิ่มความรู้สึกให้คนส่วนใหญ่ กองทัพแบล็คสตาร์มีเกราะความคิดเห็นสาธารณะ จริงๆแล้ว หานเซี่ยวคิดได้ง่ายๆว่าเขาไม่ต้องอธิบายข่าวลือใดในหมู่ผู้เล่นต่อทุกคนเลย
　　ฉันเป็นผู้นำกองกำลัง ผู้ยืนบนจุดสูงสุดของจักรวาล ฉันไม่มีทางโดนสับตัว ถ้าฉันต้องอธิบายด้วยข้อกล่าวหาแปลกนี้ มันคงตลก　　หลักฐานข้อสงสัยของผู้เล่นคือบัตรอัญเชิญตัวละคร ซึ่งดูเหมือนจะสมเหตุสมผลจากมุมมองพวกเขา แต่ทว่า ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถเห็นภาพรวม ความสงสัยแบบนี้จะไม่สามารถยืดหยัดได้เลย ถ้าจักรพรรดิจักรกลปลอมตัวเป็นเขาจริง ก็คงมีข้อบกพร่องมากมายในทฤษฏีที่ไม่สามารถอธิบายเช่นว่าทำไมผู้อยู่เหนือคนอื่นถึงไม่รู้?ทำไมสามอารยธรรมจักรวาลถึงไม่รู้?ปัญญาประดิษฐ์ของกองทัพ ฟิลลิปไม่ตอบสนองเลย?และถ้าเขาคือจักรพรรดิจักรกล จักรพรรดิจักรกลจะใช้กล่องกองทัพมิติที่สองของเขาได้ยังไง?
　　ไม่มีใครในจักรวาลสามารถปลอมตัวเป็นผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งกันต์ก็ไม่สามารถทำได้
　　ผู้เล่นไม่เข้าใจสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสามัญสำนึกของทุกคนที่เห็นภาพรวม บางทีข้อกล่าวหาของพวกเขาอาจเป็นหัวข้อน่าสนใจสำหรับชาวกาแล็กซี่ มีเพียงคนไร้เดียงสาเท่านั้นถึงเชื่อ หลักฐานของพวกเขาอยู่บนหน้าต่างสถานะซึ่งไม่มีอยู่จริงสำหรับคนทั่วไป หานเซี่ยวรู้ดีถึงเหตุผลหลักที่ผู้เล่นเชื่อ มันเพราะทฤษฏีนี้ยังสดใหม่ เมื่อความหลงใหลที่มืดบอดหาย พวกเขาจะเห็นว่าทุกอย่างดำเนินตามปกติ ข่าวลือไร้สาระแบบนี้จะหายไปเอง
　　บุคคลสำคัญทั้งหมดจะมีส่วนร่วมในข่าวลือแปลกๆ ไม่จำเป็นต้องอธิบายตัวเอง เขาตัดสินใจให้ผู้เล่นมีพื้นที่สำหรับจินตนาการ
　　ดวงตาหานเซี่ยวเปล่งประกาย
　　สำหรับผู้เล่นที่สนใจเฉพาะผลประโยชน์ของกองกำลัง มันไม่สำคัญว่าใครจะเป็นเจ้าของ ดังนั้น การเต็มใจเปิดโปงแผนร้ายของจักรพรรดิจักรกลขณะเสี่ยงต่อการถูกลงโทษโดยกองกำลังถือเป็นการกระทำที่เสียสละ
　　งั้นมันก็หมายความว่ายิ่งมีคนเข้าร่วมภารกิจนี้ กองทัพก็ยิ่งสามัคคี
　　นอกจากนี้ เนื่องจากผู้เล่นใช้เหตุผลนี้เพื่อสร้างปัญหา จักรพรรดิจักรกลจึงต้องได้รับภาพลักษณ์เชิงลบที่นี่! 　　เมื่อคิดได้ หานเซี่ยวก็ยิ้ม เรียกฟิลลิป
　　“ฟิลลิป ดูพวกอมตะของกองทัพไว้ รายงานทุกสถานการณ์”
　　“รับทราบ ฮึ่ม!”
　　“ยังไงก็ตาม เชิญผู้อยู่เหนือให้มาชมพิธีในนามของฉันด้วย ส่งไปหาจักรพรรดิจักรกลด้วย”
　　“ฮึ่ม..จักรพรรดิจักรกลจะมางั้นเหรอครับ?”ฟิลลิปเอียงหัว
　　“ใครจะไปรู้?แค่ส่งไปก็พอ ถ้ามาก็ดี ฉันจะได้มีโอกาสยั่วโมโหเขาอีก”หานเซี่ยวหัวเราะ
　　เมื่อเห็นหานเซี่ยวยิ้มชั่วร้าย ฟิลลิปก็เชื่อฟังโดยไม่ถาม
　　“แบล็คสตาร์เชิญฉันเข้าร่วมงาน?”
　　ที่ฐานลับที่ไหนสักแห่งในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม แมนิสันผู้กำลังพยายามจำลองไวรัสกบฏเสมือนหยุดและมองปัญญาประดิษฐ์ของเขาด้วยความสับสน　　“ขอรับ เขาเชิญท่านไปเข้าร่วมพิธีปิดงานแข่งแบล็คสตาร์?”
　　อะไร?
　　อะไรที่ทำให้แบล็คสตาร์คิดว่าฉันจะยังคงไว้หน้าเขาอีก?
　　แมนิสันไม่เข้าใจเลย
　　หรือเขาพยายามแก้ไขความสัมพันธ์ของเรา?
　　หรือคิดทำให้ฉันเสียหน้า?
　　“ฉันไม่ไป ปฏิเสธซะ”แมนิสันตอบและยุ่งกับงานต่อ”ขอรับ”
　　“ แล้ว เตือนฉันให้ดูการถ่ายทอดสดพิธีปิดงานแข่งแบล็คสตาร์ด้วย”
　　แม้เขาจะไม่ไว้หน้าหานเซี่ยว เขาก็ยังอยากหาว่าแบล็คสตาร์พยายามทำอะไร ต้องมีเหตุผลที่เขาได้รับคำเชิญแน่
　　ขณะการพูดคุยว่าหานเซี่ยวเป็นตัวจริงหรือปลอมบนฟอรั่มกำลังดุเดือด รอบชิงของงานแข่งแบล็คสตาร์ก็เริ่มขึ้น　　แท่นผู้ชมนับไม่ถ้วนลอยเหนือดาวสถานที่ ปกคลุมท้องฟ้า
　　แท่นผู้ชมที่กองทัพทำขึ้นเป็นพิเศษเป็นห้องรูปวงรี ผนังทั้งหมดโปร่งใส ผู้ชมภายในจึงเห็นภายนอกได้จากทุกมุม ยังมีคุณสมบัติซูมอีกด้วย
　　แท่นผู้ชมเหล่านี้ยังได้รับการปกป้องด้วยม่านพลังงาน พวกมันยังบินได้ด้วยความเร็ว 24 มัคเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชมจะติดตามการต่อสู้ระดับภัยพิบัติได้
　　วันนี้ หานเซี่ยวมาชมการแข่งขันที่งาน เขามาถึงสถานที่จัดงานพลุกพล่านและลอยด้านหน้าแท่นผู้ชมต่างๆ
　　ทันทีที่เขาแสดงตัว เขารู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านผิว ราวกับเขาถูกคนนับไม่ถ้วนจ้องมองด้านหลัง
　　หานเซี่ยวไม่แปลกใจ เขารู้ว่านี่คือผู้เล่นนับไม่ถ้วนในที่นั่งผู้ชมที่ใช้ตรวจสอบกับเขา ในสายตาของผู้เล่น สถานะของหานเซี่ยวยังเป็นเครื่องหมายคำถาม แต่เป้าหมายของผู้เล่นคือดูสีชื่อหานเซี่ยว ผลลัพธ์ยังเป็นสีเขียว ซึ่งแสดงว่าหานเซี่ยวอยู่ฝ่ายพวกเขา และพวกเขาก็เริ่มคุยกัน
　　”เริ่มได้”หานเซี่ยวไม่กังวลถึงการสนทนาของผู้เล่นเลย เขาหันมาและส่งสัญญาณให้พิธีกรเริ่ม พิธีกรกระแอมและพูดเสียงดัง”สวัสดีทุกท่าน วันนี้คือวันสุดท้ายของงานแข่งแบล็คสตาร์ จะมีรอบชิงสองรายการ การแข่งเดี่ยวและการแข่งกลุ่ม โดยไม่ให้เสียเวลา การแข่งนัดแรกของวันจะเป็นการต่อสู้ระหว่างสองภัยพิบัติ ผู้เข้าแข่งขัน โปรดเข้า…”
　　ทันทีที่เขาพูด เฮดาวี่กับโจติน่าก็ปรากฏ หลังแนะนำสั้นๆ ทั้งสองก็กลับไปตำแหน่งตัวเอง รอให้การแข่งเริ่ม สนามรบของพวกเขาคือผิวดาวเคราะห์ ยิ่งเวลาผ่านไป บรรยากาศยิ่งตึงเครียด วินาทีที่พิธีกรประกาศเริ่มการแข่ง เงาสองร่างก็ปะทะกัน
　　บูม!
　　คลื่นกระแทกขยาย ทั้งสองคนเริ่มสู้กันการเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมาก ทุกที่ที่พวกเขาผ่าน จะเกิดรอยแยกยาวหลายร้อยเมตรบนพื้น
　　บูม!
　　เพลิงนักสู้รุนแรงสาดใส่ตัวเฮดาวี่ ทำลายเนินเขาและป่าทั้งหมดรอบๆเหมือนมังกร ภัยพิบัติเช่นแผ่นดินไห สึนามิปะทุขึ้น เฮดาวี่คือเอสเปอร์ประเภทหนังหนา ส่วนโจติน่าคือนักสู้ ทั้งคู่ต่างต่อยตีเก่ง การต่อสู้ระหว่างพวกเขารุนแรงและป่าเถื่อนมาก เป็นการปะทะของกล้ามเนื้อและกล้ามเนื้อ เหมือนสัตว์ป่าสองตัวสู้กัน พูดให้ถูกคือ โจติน่าโจมตี เฮดาวี่รับการโจมตี การต่อสู้จะจบเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดแรง
　　ผลกระทบของการต่อสู้ระดับภัยพิบัติน่าตื่นเต้นและสวยงามมากสำหรับผู้ชม แต่ในสายตาของหานเซี่ยว การเคลื่อนไหวของทั้งคู่เหมือนภาพช้า เขาสามารถนับได้ว่าผิวของเฮดาวี่กระเพื่อมกี่ครั้งหลังโดนต่อย
　　ด้วยพลังของหานเซี่ยว การต่อสู้ของภัยพิบัติจึงไม่มีความหมายเลย เขาจึงตัดสินใจดูฟอรั่มฆ่าเวลา
　　ภายใต้สายตาคนนับไม่ถ้วน ผลลัพธ์ถูกตัดสินหลังทั้งสองสู้กันอยู่นาน ผิวของดาวดูเหมือนโดนฝนดาวตก มันน่าเศร้า สุดท้าย เฮดาวี่ก้ชนะ แม้เขาจะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำกับบาดแผล โจติน่าก็ยังล้มลงจากความเหนื่อยก่อน
　　หลังฝึกฝนการต่อสู้มานานและถูกทุบตี การป้องกันของเฮดาวี่ก็สูงมาก ด้วยการผสานของสองพรสวรรค์การปั้น ภูมิต้านทานความเสียหายจริงกับภูมิต้านทานการโจมตีพลังต่ำ จึงไม่มีใครอึดไปกว่าเขาในกองทัพนอกจากหานเซี่ยว
　　“ฮ่าๆๆ ฉันเป็นเสาหลักของกองทัพที่ท่านแบล็คสตาร์ฝึกฝนด้วยตัวเองมาเป็นสิบปี เธอยังอ่อนหัดนัก”
　　เฮดาวี่ภาคภูมิใจมาก
　　ถ้าไม่ใช่ใบหน้าที่ฟกช้ำ คำพูดนี้คงน่าเชื่อกว่านี้…　　“บ้าจริง!”
　　โจติน่าไม่พอใจที่แพ้เลย เธอทุบพื้น สร้างเป็นรอยแตกกว้างสิบเมตร
　　เธอไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ ซึ่งหมายความว่าแบล็คสตาร์จะไม่สังเกตเห็นพลังเธอ แบล็คสตาร์ไม่สังเกตเห็นพลังเธอหมายความว่าเธอจะมีเวลาคุยกับแบล็คสตาร์ระหว่างพิธีมอบรางวัลน้อยลง เวลาคุยน้อยลงในช่วงพิธีมอบรางวัลมหายความว่ามันยากสำหรับเธอที่จะสร้างความรู้สึก ยิ่งสร้างความรู้สึกยาก โอกาสที่เธอจะสร้างกิจกรรมสืบพันธุ์กับแบล็คสตาร์ก็จะลดลง ในฐานะสมาชิกใหม่ของกองทัพที่มีเป้าหลายหลับนอนกับแบล็คสตาร์ เธอไม่พอใจมาก
　　หานเซี่ยวดูทั้งสองถูกส่งไปดูแลอาการบาดเจ็บ เขาแตะคางและเริ่มไตร่ตรอง
　　ในชีวิตก่อนหน้าฉัน เฮดาวี่ยังไม่ถึงขอบเขตผู้อยู่เหนือและโจติน่าก็ตายด้วยมือบรรพชนอสูร แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างฉัน ฉันฝึกเฮดาวี่มาเป็นสิบปี โอกาสที่เขาจะเป็นผู้อยู่เหนือไม่ใช่ศูนย์ มันแค่ว่าความสามารถของเขาซ้ำซากเกินไป ต่อให้เขาเป็นผู้อยู่เหนือ เขาก็เป็นได้แค่พวกระดับกากอย่างโคเลอร์และเบโยนี่…
　　สำหรับโจติน่า นอกจากบุคลิกเปิดเผยและป่าเถื่อน หานเซี่ยวค่อนข้างชอบเธอ
　　ในแง่ศักยภาพ โอกาสที่โจติน่าจะเป็นผู้อยู่เหนืออาจสูงกว่าเฮดาวี่ด้วยซ้ำ แต่ทว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปถึงระดับของบรรพชนอสูร หานเซี่ยวรู้สึกว่าขีดจำกัดของโจติน่าอาจอยู่ที่ไวรุหรือฮีเบอร์…
　　ไม่แกร่งมากแต่ก็ไม่ได้อ่อนแอสุด เมื่อหานเซี่ยวนึกถึงฮีเบอร์ เขาก็เริ่มคิดถึงเขา นับตั้งแต่ฮีเบอร์แพ้เขา เขาก็เก็บตัวและอยู่แต่ในวงแหวนดาวกระจาย และพูดถึงการเก็บตัว หานเซี่ยวก็นึกถึงไซเคอร์ เขารู้สึกว่าตัวตนของชายคนนี้คงต่ำต้อยสุดในจักรวาล เขาอาจอยากไปเยือนอารยธรรมเนตรม่วง เหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้เขาเป็นที่ปรึกษาพิเศษของสามอารยธรรม การไปหาไซเคอร์น่าจะอยู่ในหน้าที่เขา
　　ขณะที่ความคิดของดำเนินไปอย่างดุเดือด แผนกโลจิสก็เข้าสถานที่และเริ่มใช้อุปกรณ์เพื่อฟื้นฟูดาวที่เกือบโดนทำลาย
　　หลังสร้างสถานที่ใหม่ พิธีกรก็ประกาศเริ่มรอบชิงสุดท้าย หุบเขาแม่น้ำ ราชวงศ์ พายุสายฟ้า และทีมทองเข้าสนามมาทีละกลุ่ม
　　แต่ทว่า ดวงตาของผู้เล่นทั้งหมดจับจ้องที่ทีมทองรวมถึงอีกสามทีม
　　“หัวหน้า เราควรใช้บัตรอัญเชิญตัวละครกันเลยไหม?”
　　บินฟรีกวาดตามองรอบๆและพูดอย่างแน่วแน่”เอาเลย!นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีสุดที่จะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้โกหก”
　　ผู้เล่นช่างกลสูดหายใจ เปิดหน้าต่างสถานะ และกระตุ้นบัตรอัญเชิญตัวละครแบล็คสตาร์ จากนั้นเขาก็ขยายแถบสถานะให้เป็นแบบสาธารณะ
　　แน่นอน เมื่อมีการแสดงหน้าต่าสถานะคนธรรมดาย่อมไม่เห็น มีแค่ผู้เล่นถึงเห็นชื่อของผลที่มอบโดยบัตร
　　บัตรอัญเชิญตัวละครแบล็คสตาร์-[จักรวรรดิจักรกลพันล้าน แมนิสัน]!
　　‘มันเป็นจริง!”
　　ผู้เล่นตื่นเต้น บางคนยังยืนขึ้น ทำให้ผู้ชมคนอื่นสับสน
　　หานเซี่ยวลอยกลางอากาศ กอดอก ฟังคำพูดของผู้เล่นและยิ้ม
　　หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เล่นหลายคนก็สงบและแหงนมองหานเซี่ยว อารมณ์ทุกประเภทปรากฏในดวงตาพวกเขา เดิมที เนื่องจากนี่คือรอบชิง มันควรเป็นศูนย์กลางความสนใจ แต่ทว่า ผู้เล่นหลายคนกลับอยู่ในสภาพตกใจ สับสนและไม่สามารถจดจ่อกับการแข่งได้ ผู้ชมNPCตื่นเต้นตามปกติ ส่งเสียงเชียร์สี่ทีม ไม่สนใจอารมณ์ของพวกอมตะเลย การแข่งขันจบลงอย่างรวดเร็ว ราชวงศ์ชนะ และทีมทองก็โดนกำจัดก่อนเพื่อน　　ทีมทองเผยไพ่ตายล่วงหน้า ตามคาด พวกเขาโดนรุม นอกจากนี้ จักรวรรดิจักรกลพันล้านยังไม่ทรงพลังมากในมือผู้เล่น
　　ผู้เล่นไม่มีความสามารถช่างกลระดับสูง และไม่สามารถได้รับผลประโยชน์จากโบนัส แถม ระยะเวลายังแค่ชั่วโมงเดียว ดังนั้นความสามารถคิดค้นกับผลิตที่ทรงพลังสุดของความสามารถนี้จึงไร้ประโยชน์ สิ่งเดียวที่ผู้เล่นสามารถได้รับผลประโยชน์จากโบนัสคือค่าสติปัญญา ความสัมพันธ์กับเครื่องจักรและระดับความสามารถช่างกล มันแค่โบนัสพื้นฐาน มันไม่ทรงพลังมากพอจะพลิกกระแส ความสามารถนี้ถือว่าสิ้นเปลืองมากในมือผู้เล่น มีเพียงช่างกลระดับสูงสุดถึงสามารถใช้พลังของมันได้เต็มที่
　　“..การแข่งขันทุกรายการของงานแข่งแบล็คสตาร์ได้จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามรายการของเรา ขอบคุณผู้บัญชาการกองทัพที่มาชมด้วยตัวเอง ในสามวัน เราจะจัดพิธีปิดของงานแข่งผู้บัญชาการกองทัพจะมาแสดงความยินดีกับทุกคน สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ไว้เจอกันใหม่นะครับ!”
　　จากนั้นพิธีกรก็เดินออกไปและปิดการถ่ายทอดสด
　　ผู้ชมยังออกสถานที่ รวมถึงผู้เล่น แต่พวกเขาก็ยังหันไปมองหานเซี่ยวตลอด
　　หานเซี่ยวยิ้ม มองพวกเขาออกไป เขาเห็นปฏิกิริยาของผู้เล่นชัดเจน
　　ฉันอยากรู้ว่าฉันสำคัญต่อผู้เล่นมากแค่ไหนและจะมีกี่คนเต็มใจเสียสละตัวเองเพื่อฉัน