The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1141 พิมพ์เขียวใหม
เหตุการณ์งานแข่งแบล็คสตาร์กระจายไปทั่วจักรวาลอย่างรวดเร็ว มีคำดูหมิ่นแมนิสันมากมาย แต่แมนิสันไม่ตอบสนอง เขาไม่สนใจหานเซี่ยว
ความนิยมของข่าวสามารถอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน ซึ่งเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าในสังคมกาแล็กซี่ ข่าวเกี่ยวกับงานแข่งแบล็คสตาร์คงอยู่สักพักหลังบทสนทนามื้อเย็น จากนั้นก็ทำตามรูปแบบและค่อยๆจางหายไปจากความนิยม
ตัวอย่างเช่น ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ภัยพิบัติ เฮดาวี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับหนึ่ง โจติน่าเป็นอันดับสอง และอื่นๆตามผลที่พวกเขาทำได้ สำหรับคนที่ไม่เข้าร่วม ประชาชนไม่สนใจพวกเขาเลย
หลังพิธีจบ หานเซี่ยวก็กลับไปวังแบล็คสตาร์เพื่อจัดการกับกิจการทุกประเภท และตัดสินใจเรื่องโรดี้
เดิม เขาอยากลองให้อีวาน’เทพเอสรุ่นสอง’ลองดูดซับกายย่อยของบุตรแห่งโชคชะตา แต่หลังไตร่ตรองสักพัก เขาก็ละทิ้งแผนนี้
ก่อนอื่น มันยังไม่ได้รับการยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงกายย่อยของบุตรแห่งโชคชะตาถือเป็นการตื่นของยีนเอสเปอร์หรือปรากฏการณ์กลายพันธุ์ ความสามารถเอสเปอร์ของอีวานจะกำหนดเป้าได้แค่อย่างแรก ไม่ใช่อย่างหลัง
สอง บุตรแห่งโชคชะตาลึกลับมาก และรูปแบบข้อมูลก็ลึกซึ้งและซับซ้อนมาก หานเซี่ยวไม่แน่ใจว่าอีวานจะได้รับผลข้างเคียงไหมหลังดูดซับมัน เขาอาจเปลี่ยนเป็นกายย่อยใหม่ เขาจึงไม่อยากเสี่ยง
“ฉันควรถามองค์กรเทพอำนวยดีกว่า”
ภายในห้องทดลอง หานเซี่ยวมองโรดี้ผู้นอนหลับภายในตู้ และส่ายหัว
บุตรแห่งโชคชะตาลึกลับเกินความสามารถเขา เขาไม่เชี่ยวชาญในด้านนี้ เขายังหาทางออกไม่พบ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือใช้เครื่องยับยั้งรูปแบบข้อมูลเพื่อทำให้ร่างกายของโรดี้เสถียร และชะลอความเร็วการเปลี่ยนแปลงให้มากที่สุด หานเซี่ยวลูบคาง พูดถึงเรื่องนี้ วันที่เขาตกลงกับเทพอำนวยไว้ใกล้มาถึงแล้ว ตราบเท่าที่เขาแลกเปลี่ยนได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถเปิดเผยความลับของอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร
สำหรับเรื่องนี้ เขาได้ดำเนินการกับอนุภาคแสงไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากนั้น อนุภาคแสงก็หดตัวภายในออโรร่า แยกตัวมันออกมา
“รวมถึงสองพิมพ์เขียวสมบัติจักรวาลจากเทพอำนวย สองจากสหพันธ์ ฉันจะมีเจ็ดพิมพ์เขียวเกรดทอง”
หานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะ ไม่นานมานี้ เขาได้ปลดปล่อยเชลยผู้อยู่เหนือคนสุดท้ายยของสหพันธ์และได้รับค่าไถ่ตัวเป็นพิมพ์เขียวสมบัติจักรวาลสองอัน
หนึ่งคืออุปกรณ์สำหรับเทพจักรกล มันเรียกว่า’กระดูกสันหลังยักษ์’ เทพจักรกลถูกสร้งขึ้นโดยการประกอบของทหารจักรกลจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อให้มันเปลี่ยนเป็นทุกรูปทรง โดยพื้นฐานแล้วก็เหมืองกองเมือกจักรกล สิ่งที่เชื่อมต่อกับอะไหล่ทั้งหมดของเทพจักรกลก็คือพลังจักรกลและสนามแม่เหล็กพิเศษที่ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายประสาทของเทพจักรกล ยิ่งเทพจักรกลตัวใหญ่ มันยิ่งผลาญพลังงานมาก
ตามชื่อที่แนะนำ ไขกระดูกเป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของร่างกาย มันจะติดตั้งไว้ในเทพจักรกล ตามความคิดของผู้ใช้ มันอาจกลายเป็นโครงสร้างกระดูกไม่ว่าจะเป็นร่างมนุษย์ ร่างอสุรและทุกประเภท มันจะรองรับร่างกายของเทพจักรกล ควบคุมเทพจักรกลด้วยพลังจักรกลผ่านอุปกรณ์นี้ ซึ่งสร้างเครือข่ายประสาทสำหรับเทพจักรกล ลดการใช้พลังงานและยืดระยะเวลาที่สามารถใช้เทพจักรกลได้
แน่นอน ในฐานะอุปกรณ์ระดับจักรวาล มันย่อมให้โบนัส ไขกระดูกสันหลังยักษ์สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งพื้นฐานของเทพจักรกล ทำให้มันแกร่งขึ้นและเร็วขึ้นกว่าเทพจักรกลตัวอื่นขนาดเดียวกัน แถมมันยังเพิ่มความสามารถต่างๆรวมถึงความสัมพันธ์กับเครื่องจักร
ไม่นานมานี้ ระหว่างการต่อสู้กับแมนิสัน เทพจักรกลของแมนิสันได้ติดตั้งอุปกรณ์ระดับสมบัติจักรวาลมากมายที่ทำให้หานเซี่ยวอิจฉา เขารู้สึกเหมือนกระดาษเปล่าเมื่อเทียบกับเขา และคมดาบแห่งการลงทัณฑ์ในมือของเขาก็ไม่ให้ความรู้สึกทรงพลังอีก ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจได้รับอุปกรณ์เทพจักรกลเพิ่ม ด้วยความที่เทพจักรกลคือไพ่ตายที่แข็งแกร่งสุดของช่างกล สำหรับคนอื่น มันเป็นแค่ทางเลือกสุดท้ายเพราะต้นทุนสูงเกิน แต่สำหรับเขาและแมนิสัน พวกเขาสามารถใช้มันได้ตามปกติ ดังนั้น ยิ่งของพิเศษ ยิ่งดี
พิมพ์เขียวทองอีกอันคืออุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่าอาณาเขตจักรกล จากผลมัน มันดูเหมือนจะคล้ายกับดินแดนแห่งไฟของเบโยนี่และกองทัพเยือกแข็งแห่งดินแดนน้ำแข็ง มันค่อนข้างคล้ายกับลูกบาศก์วิวัฒนาการ
นี่คืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเครื่องจักร โอกาสเสริมพลังสิ่งมีชวิตจักรกล กำลังขับจักรกล และอื่นๆภายในขอบเขตมัน มันคืออุปกรณ์ประเภทอาณาเขต สำหรับช่างกลผู้อยู่เหนือ วิธีที่ดีสุดในการใช้มันคือการใส่ไว้ในอารยธรรมจักรกลของพวกเขาหรือโรงงานมิติ แต่ทว่าข้อกำหนดการสร้างมันค่อนข้างยาก หลักการพื้นฐานของอุปกรณ์นี้เหมือนกับทฤษฏีมิติที่สอง ด้วยการสร้างอาณาเขตที่มีกฏพิเศษภายในเหมือนกับการถือกำเนิดของมิติที่สอง ดังนั้น วัสถุหลักของมันจึงเป็นชิ้นส่วนหลักของมิติที่สอง ยิ่งคุณภาพมิติสูง ยิ่งดี แถม ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์จะยังมีลักษณะพิเศษของมิติที่สองอีกด้วย
มีมิติที่สองไม่เสถียรใหม่กำเนิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นชิ้นส่วนแกนจึงไม่ขาด ปัญหาเดียวคือการเก็บเกี่ยวมันเนื่องจากมิติอาจยุบหลังชิ้นส่วนแกนโดนยึด อย่างไรก็ตาม ด้วยเงิน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็น
หานเซี่ยวมีชิ้นส่วนแกนความชั่วร้ายในมือ เขาสามารถใช้มันได้
“พิมพ์เขียวใหม่ทั้งสองถือว่าดี สำคัญสุด หลังฉันสร้างผลิตภัณฑ์สำเร็จ ฉันจะสามารถได้รับแต้มการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพอีกสอง… ร่วมกับข้อตกลงกับเทพอำนวย ฉันจะได้รับถึงสี่”
หานเซี่ยวตื่นเต้นและเกือบอยากขังตัวเองไว้ภายในโรงงาน
ปี้บ ปี้บ!
ตอนนี้ อุปกรณ์สื่อสารของเขาดังขึ้น
มันเป็นสายจากผู้บัญชาการกองทัพสำรวจ ทาราคอฟ
“ว่าไง ตาแก่?”หานเซี่ยวเหลือบมองเขาและกลับไปทำสิ่งที่ทำ ทั้งสองสนิทกันมาก ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นทางการ
“ฉันมีข่าวถึงเรื่องที่นายขอให้ฉันถาม”ทาราคอฟพูด
การเคลื่อนไหวของหานเซี่ยวหยุดชั่วคราว
ไม่นานมานี้ ทั้งสองคุยกัน เขาได้ขอให้ทาราคอฟถามสถาบันวิทยาศาสตร์ของจักรวรรดิถึงความคืบหน้าการศึกษาพิกัดรูหนอนที่เทพเอสทิ้งไว้ เขากังวลว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นคำทำนายของอีซอป
“พวกเขาแกะรอยได้แล้ว”คำตอบของทาราคอฟทำให้หัวใจของหานเซี่ยวเต้นกระหน่ำ
“ รายละเอียดล่ะ?”
“พวกเขาได้ยืนยันแล้วว่าพิกัดรูหนอนนี้ได้นำไปสู่จักรวาลไร้การสำรวจ แต่ก็ยังหาตำแหน่งที่แม่นยำไม่พบ”ฟู่ พวกเขายังไม่พบต้นไม้โลกหรือถูกค้นพบโดยต้นไม้โลก นั่นยังดี
หานเซี่ยวโล่งใจ แต่ก็กังวลเช่นกัน
ยิ่งสามอารยธรรมติดต่อกับอารยธรรมต้นไม้โลกช้า มันยิ่งดี เขาไม่กล้าเปิดเผยการดำรงอยู่ของอารยธรรมต้นไม้โลกเพราะด้วยนิสัยของสามอารยธรรมจักรวาล เมื่อพวกเขารู้ว่ามีอารยธรรมที่ทรงพลังในจักรวาลไร้การสำรวจ พวกเขาต้องเตรียมการล่วงหน้าแน่
การเน้นย้ำถึงอันตรายของต้นไม้โลกก็ไม่ได้ผลด้วย และการอธิบายว่าทำไมเขาถึงรู้รายละเอียดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สุด ปัญหาคือสามอารยธรรมจักรวาลอาจระวังตัวมากขึ้นเพราะคำเตือนของเขา แต่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้การติดต่อแน่ ถ้าพวกเขารู้ว่ามีอารยธรรมที่อันตรายในจักรวาล พวกเขาคงไม่รอให้อีกฝ่ายมาพบพวกเขาแต่ต้องโจมตีก่อน
ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะรั่วไหลข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับอารยธรรมต้นไม้โลกอย่างไร มันก็มีแต่จะทำให้สองฝ่ายติดต่อกันเร็วขึ้น
เทพเอสโดนผนึกไปแล้ว จึงไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับต้นไม้โลกในจักรวาลสำรวจ เขาเป็นแค่คนเดียวที่สามารถมีอิทธิพลต่อเส้นทางโดยรวม
“จักรวรรดิตอบสนองกับมันยังไง??
ทาราคอฟพูด”เบื้องบนไม่ตอบสนองมากนัก โครงการศึกษาพิกัดรูหนอนเหล่านี้ไม่ใช่ความลับ ซึ่งทำให้ฉันสามารถถามได้…เทพเอสโดนจับมาเป็นสิบปีแล้ว เขาเป็นอดีตไปแล้ว การศึกษาส่วนใหญ่เกี่ยวกับเขาไม่สำคัญ”
“งั้น สถาบันวิทยาศาสตร์วางแผนทำอะไร?”
“ค้นหาพิกัดต่อไป แม้เราจะไม่รู้ว่าทำไมเทพเอสถึงเก็บพิกัดนี้ไว้เป็นความลับ แต่สถาบันวิทยาศาสตร์ก็คงค้นพบในไม่ช้า พวกเขาจะพยายามเปิดรูหนอน โยนอุปกรณ์ตรวจจับไปและรอผลการตอบกลับ”
หานเซี่ยวลังเล”ฉันคิดว่าการศึกษานี้ควรหยุดชั่วคราว จักรวาลไร้การสำรวจเต็มไปด้วยอันตราย ไม่มีใครรู้ว่าเราจะเจออะไรที่นั่น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาร้ายแรงที่สามอารยธรรมจักรวาลต้องแข่งขันกับพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอด ถ้าเหตุการณ์ทำนองเดียวกันกับไวรัสกบฏเสมือนเกิดขึ้นอีกครั้ง มันคงไม่ดีต่อจักรวรรดิ”
ทาราคอฟมองหานเซี่ยวอย่างสงสัย”ทุกอย่างที่นายพูดเต็มไปด้วยความกังวลถึงโครงการนี้ นายรู้อะไร?”
“ถ้าฉันบอกว่ามันเป็นสัญชาตญาณ นายจะเชื่อไหม?”
“ฮี่ๆ”ทาราคอฟหัวเราะปลอมๆ แสดงว่าเขาไม่เชื่อ จากนั้นก็พูดต่อ”ฉันจะส่งต่อข้อเสนอนาย สำหรับว่าพวกเขาจะฟังไหม ฉันไม่รู้ด้วย”
“แค่นั่นก็พอแล้ว”
“เอาล่ะ งั้นฉันจะไปทำธุระล่ะ อย่าลืมเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลของสามอารยธรรมจักรวาล”
“อืม”
หานเซี่ยวพยักหน้า ปิดการสื่อสารและภาพของทาราคอฟก็หายไป
หลังหยุดชั่วขณะ เขาก็สั่งให้ทีมลำเลียงอนุภาคแสงให้ออกเดินทาง ตรงไปสถานที่ที่นัดหมายกับเทพอำนวย มันตั้งอยู่ในเขตแข่งขันเสรีของโลกริบหรี่
“วันที่ตกลงกันใกล้มาถึงแล้ว”
ภายในฐานลับของเทพอำนวย ผู้รักษาสัจจะลืมตาและมองเจ้าหน้าที่ด้านล่าง
“ฑูตออกเดินทางไปหรือยัง?”
“ออกไปนานแล้วครับ เป็นพวกจงรักภักดีและเชื่อถือได้”
“ฉันไม่ได้ต้องการแค่ความภักดี แต่ต้องมีความสามารถด้วย ฉันรู้จักช่างกลเสมือนทุกคนดี แบล็คสตาร์ต้องใช้โอกาสนี้ติดตามเรา เราต้องเตรียมตัว เส้นทางหลบหนีของฑูตเตรียมไว้อย่างเหมาะสมหรือยัง?”
“กองกำลังของกองทัพแบล็คสตาร์ทรงพลังเกินไปในโลกริบหรี่ มันไม่เหมาะที่จะจุดประกายความขัดแย้ง เราได้ติดตั้งตัวเคลือบรูปแบบข้อมูลที่มองไม่เห็นไว้แล้ว ทันทีที่เขาได้รับของ เขาจะกระตุ้นมันและระเหยจากจุดนั้น”
“แล้วพวกผู้คุ้มกันละ?”
“ผู้คุ้มกันมีไม่มาก แค่มีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุระหว่างทาง…เหนือสิ่งอื่นใด จำนวนคนคุ้มกันจะไม่มีความหมายในเขตแดนกองทัพแบล็คสตาร์”
“อืม..ไม้ลว”ผู้รักษาสัจจะพยักหน้าพอใจ”ตราบเท่าที่ได้รับอนุภาแสง เราก็สามารถเริ่มผสานกุญแจวิหารที่สามได้และเริ่มเตรียมพิธีปลุก ดังนั้น หลังเราบรรลุข้อตกลง เราจะเข้าสู่’ช่วงเวลาที่มืดสุด’ ตัดการเชื่อมต่อของเรากับโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์..ฉันจะไปพบกับแบล็คสตาร์อีกครั้งหลังข้อตกลงบรรลุ มันอาจเป็นครั้งสุดท้าย อนาคตเราควรไม่เจอกันอีก”
“เข้าใจแล้วครับ!”
เมื่อได้ยินการตอบของลูกน้อง ผู้รักษาสัจจะก็เริ่มฝันกลางวัน
จริงๆแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะข้อตกลง เขาคงไม่อยากเจอหน้าแบล็คสตาร์
จนถึงตอนนี้ เขายังสับสนว่าใครเป็นคนปล่อยข้อมูลของพวกเขา มีสายหรือคนทรยศจริงหรือเปล่า?
��