The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1146 พวกก่อกวน
หลังจากรอมาหลายวันบนดาวนี้ หานเซี่ยวได้เห็นการเพิ่มความปลอดภัย กองกำลังทหารประจำการมาถึง รับหน้าที่ปกป้องดาว ปิดผนึกแนวป้องกันและทำให้มันไม่สามารถผ่านได้
ประมาณครึ่งหนึ่งของดาวเข้าสู่กฏอัยการศึกและยังมีการเตรียมมาตรการป้องกันขั้นสูงต่างๆเพื่อป้องกันการโจมตีระยะไกลจากคุกคาม
ขณะที่ไวรัสกบฏเสมือนระบาดในทะเลทรายดวงดาวโบราณ และมันมีความสมเหตุสมผลมากกว่าสำหรับพิธีที่จะจัดที่นั่น สามอารยธรรมจักรวาลได้คำนึงถึงความจริงที่ว่าผู้อยู่เหนือหลายคนอยู่ในโลกริบหรี่และเปลี่ยนสถานที่ อ้างถึงความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ ผู้นำของสามอารยธรรมยังเข้าร่วมพิธีด้วยกัน ซึ่งเป็นฉากที่หายาก เนื่องจากตัวตนที่อ่อนไหวของพวกเขา งานเช่นนี้ทั่วไปจึงจัดในกาแล็กซี่กลางแทนทุ่งดาวอื่น แม้กระทั่งด้วยความปลอดภัย ชีวิตไม่อาจคาดเดาได้ ดังนั้นการออกจากกาแล็กซี่กลางจึงเสี่ยงมาก
หานเซี่ยวมั่นใจว่ามีบางองค์กรต้องเคลื่อนไหว ขณะที่สามอารยธรรมจักรวาลมีระบบปฏิบัติการที่ครบด้าน เพื่อให้รัฐบาลพวกเขาไม่โดนรบกวนมากนักแม้ผู้นำจะโดนลอบสังหาร แต่มันก็ยังเกิดความสับสนวุ่นวายชั่วคราว ซึ่งเป็นอะไรที่คนเหล่านี้กำลังมองหา
แน่นอน ถ้าองค์กรกล้าทำแบบนี้จริง งั้นพวกเขาก็จะไร้ที่อยู่ในจักรวาล พวกเขาจะโดนล่าจนกว่าจะตาย ความสัมพันธ์ของกองกำลังจะเป็น’เกลียดชัง’ไปตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยกองทัพมากมายและผู้อยู่เหนือที่มารวมกัน อัตราสำเร็จของการลอบสังหารจึงไม่สำคัญ
แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาจากการวางแผนร้าย
หานเซี่ยวสงสัยว่าสามอารยธรรมจักรวาลอาจมีส่วนร่วมในการแสดงที่กำกับด้วยตัวเอง แสร้งทำเป็นว่ามีบุคคลภายนอกมาลอบสังหารพวกเขาระหว่างพิธี ก่อนจะใช้สิ่งนี้เพื่อโทษเป้าหมายพวกเขาเป็นข้ออ้างการทำสงคราม
วิธีนี้ดูคุ้นเคย ราวกับฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน…
หรือว่าฉันจะเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา?
หานเซี่ยวมีประสบการณ์’แทงข้างหลัง’ไม่นานมานี้ ความทรงจำของเขายังสดใหม่ ตอนนี้ ความคิดของเขาอดเอียงเอนไปทางด้านนี้ไม่ได้และจินตนาการของเขาก็กำลังโลดแล่น
ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อสามอารยธรรม มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำแบบนี้ โอกาสที่มันจะเกิดอาจอยู่ประมาณ 20% และเขาก็ไม่สามารถขอให้เออแรนเรลตรวจสอบมันได้เช่นกัน
ระหว่างวันที่เขาอยู่บนดาวนี้ เขาไม่ติดต่อกับผู้นำสามอารยธรรมเลย แต่กลับนั่งอยู่ในบ้านรับรอง
ในวันที่พิธีจัด หานเซี่ยวกับแขกถูกพาไปสถานที่จัดงานด้วยยานพาหนะ สถานที่เป็นโถงใหญ่ที่ตกแต่งในสไตล์ของจักรวรรดิ สามารถเห็นแขกรับเชิญจำนวนนับไม่ถ้วนต่อแถวกันเข้าโถงได้ แต่กลับไม่มีเสียงโหวกเหวกโวยวายให้ได้ยิน มีแค่เสียงสนทนาเงียบๆ บรรยากาศจริงจังมาก
ที่นั่งของหานเซี่ยวถูกจัดให้อยู่โต๊ะด้านหน้า พร้อมกับคาซูยิ กันต์และผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดคนอื่น
หลังทักทาย หานเซี่ยวก็นั่งลงข้างคาซูยิ เหลือบมองคนอื่นก่อนกระซิบ”จักรพรรดิจักรกลไม่มา?”
“เขามาแล้ว แต่แค่กายสถิต”คาซูยิทำท่าให้มองไปด้านหลัง
ก้อนเหล็กนั่งอยุ่ตรงมุมโถง แต่ต่อให้มันเป็นแค่ก้อนเหล็ก หานเซี่ยวก็สามารถได้กลิ่นของแมนิสัน “เขาจะไม่สร้างปัญหาใช่ไหม?”
“แมนิสันไม่ใช่คนบ้า”กันต์ตอบ
วันนี้ กันต์ปรากฏในฐานะมนุษย์กาแล็กซี่วัยกลางคนหน้าต่อหล่อเหลา จมูกโด่ง ตาลึก หน้าคม
หานเซี่ยวเหลือบมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนกระซิบ”ฉันคิดอยู่เสมอว่าเรื่องนี้คงไม่ราบรื่นนัก บางทีอาจมีการลอบสังหาร”
“ด้วยการคงอยู่ของเรา ใครจะกล้าขนาดนั้น?”นักล่าดวงอาทิตย์พูด
“มันอาจเป็นการแสดงที่พวกเขากำกับเองก็ได้…”หานเซี่ยวขยิบตา
ปรมาจารย์เร้นลับอดกลอกตาใส่หานเซี่ยวไม่ได้”พอแล้ว นายคิดว่าสามอารยธรรมจักรวาลเหมือนนายหรือไงที่จะมาแสดงอะไรต่ำต้อยแบบนั้น?”
“ต่ำต้อยแล้วไง?ถ้าทำแล้วมีประโยชน์”หานเซี่ยวเดาะลิ้น”อยากพนันไหม?”
“นายกล้า?!”ปรมาจารย์เร้นลับตกตะลึง
นายไม่เข้าใจหรือไงว่าโชคนายเป็นอย่างไร?
ถ้าคนเปรียบโชคของฉันเป็นเหมือนอัญมณีไร้ที่ติ งั้นนายก็เหมือนเชื้อราที่ขึ้นตามคูน้ำเน่าเหม็น นายกล้าพนันกับฉัน?
“แล้วนายจะให้อะไรฉัน?”
“ฉันจะพนันด้วยนักล่าดวงอาทิตย์ ถ้าฉันแพ้ ฉันจะส่งเขาให้นาย เป็นไง?”หานเซี่ยวยื่นนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ไปคีบหัวของเพื่อนตัวเล็กและยกขึ้น”หือ?”
นักล่าดวงอาทิตย์ทีท่ลอยอยู่กลางอากาศมีสีหน้าสับสน
นายทำบ้าอะไรกับฉัน?ระวังฉันจะระเบิดตูดแก
ปรมาจารย์เร้นลับพูดไม่ออก ทันใดนั้นก็ตบมือหานเซี่ยวให้วางนักล่าดวงอาทิตย์ลง เขาขอโทษก่อนกระซิบกับหานเซี่ยวด้วยความโกรธ”ใครจะใช้คนอื่นเป็นเดิมพัน?ท่านนักล่าดวงอาทิตย์อาจมีขนาดเล็ก แต่นายจะตลกกับขนาดของเขาได้ยังไง?”
“เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ต้องกังวล”
หานเซี่ยวดีดนิ้ว ตีหัวนักล่าดวงอาทิตย์ ได้รับสายตาโกรธจากอีกฝ่ายก่อนเขาจะยิ้มอย่างเขินอายและยอมแพ้ เขามักอยากทำแบบนี้ในชีวิตก่อนหน้า และในที่สุดเขาก็ได้แหย่อีกฝ่าย ด้วยทั้งหมดที่เท่าเทียมกัน การหยอกล้อเล็กๆน้อยๆจึงไม่เป็นอันตราย แต่ถ้ามันเป็นผู้อยู่เหนือธรรมดาที่ทำแบบนี้กับนักล่าดวงอาทิตย์ คนคนนั้นอาจพิการไปแล้ว
“เนื่องจากนายไม่ชอบการเดิมพันนี้ งั้นฉันจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น.”
“อะไร?”
“ฉันรู้ว่านายมีปัญหากับฉัน งั้นก็เอาแบบนี้ ถ้านายชนะ ฉันจะยืนนิ่งัสกสิบนาทีให้นายระบายความโกรธ ถ้าฉันชนะ นายก็ต้องทำเหมือนกัน ยุติธรรมไหม?” ปรมาจารย์เร้นลับปิดปาก เบือนหน้าหนี ไม่อยากคุยกับหานเซี่ยวอีก
ช่างมัน ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าแกอึดแค่ไหน?ยุติธรรมบ้านปู่แกสิ ฉันยังอยากมีชีวิตอีกนานๆ
กลุ่มผู้อยู่เหนือคุยกันสักพักและทันใดนั้น กลุ่มเจ้าหน้าที่ก็เดินไปในสถานที่ ล้อมด้วยผู้นำของพวกเขา สถานที่พลันสงบลง บรรยากาศดูเคร่งขรึม
ผู้ปกครองจักรวรรดิ เออแรนเรล ประธานสหพันธ์ บาเดอร์ และพระสันตะปาปาแห่งศาสนจักร .พวกเขาเดินไปบนแท่นสูงภายใต้สายตาของทุกคน นั่งที่นั่งที่จัดไว้
หานเซี่ยวเพิ่งได้เห็นบาเดอร์กับพระสันตะปาปาเป็นครั้งแรก แม้ทั้งสองจะมีนิสัยต่างกัน พวกเขาก็ยังครอบครองกลิ่นอายเดียวกันกับเออแรนเรล ทำให้ทุกคนเริ่มจริงจัง
แต่ทว่า จุดสนใจของการสังเกตเขาไม่ใช่สองผู้นำ แต่เป็นผู้คุ้มกันรอบพวกเขา ทั้งหมดอยู่ในระดับเดียวกับคล็อตติ
ทางฝั่งบาเดอร์คือชายผิวขาว โครงสร้างร่างกายคล้ายกับมนุษย์ ยกเว้นว่าเขามีเขาบนหน้าผาก บังคับให้เขาต้องไว้ผมยาว สีผมของเขาเป็นสีทองและมัดเป็นเปียบิดห้อยลงมาที่เอว เขาดูเหมือนจะมีเลือดเอลฟ์อยู่บ้างเพราะเขามหูยาว ตาสีม้วงเข้มและปากที่ได้สัดส่วน แต่ไร้จมูก ส่วนที่ควรเป็นจมูกกลับแบนราบ แต่ก็ไม่ดูน่าเกลียด
มันดูกลมกลืนกับหน้าตาเขาแทน
คนคนนี้สวมชุดคลุมที่แต่งเแต้มด้วยสีทองอ่อนและสีฟ้าน้ำแข็ง เผยให้เห็นความสง่างามและอารมณ์อ่อนโยน คนคนนี้คือหัวหน้าองครักษ์แห่งสหพันธ์ ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด ‘วงแหวนทองคำ’โอนิเคลู
ความสามารถของโอนิเคลูคือการหยิบยืมพลังของมิติที่สอง มันฟังดูเหมือนควาามสามารถของนักเดินทาง แต่พลังต่อสู้นั้นไม่เหมือนกัน ชายคนนี้อยู่ระดับเดียวกับจ้าวแห่งความมืด คล็อตติ สามารถสู้กับคาซูยิได้แบบตัวต่อตัวและไม่แพ้
หานเซี่ยวหันไปมองอีกฝั่ง
ข้างๆพระสันตะปาปาเป็นชายตัวโต ไม่ใช่คนที่ได้ขนาดนี้มาผ่านการฝึก แต่เป็นเพราะสายเลือด ราวกับเขามีเลือดยักษ์วิ่งอยู่ในตัว นี่คือหัวหน้าองครักษ์ของพระสันตะปาปา ผู้ประจำอยู่ที่วิหารพระเจ้า ‘บุตรแห่งพระเจ้า’ วูร์นอส
เทียบกับความสง่างามของโอนิเคลู วูร์นอสดูเหมือนมนุษย์วัยกลางคนธรรมดา เขาสวมชุดคลุมนักบวชสีเทาเงิน และถ้าไม่ใช่เพราะชุดคลุม คงไม่มีใครจำเขาได้ถ้าเขาอยู่ท่ามกลางฝูงชน
“โอนิเคลูกับวูร์นอส..”หานเซี่ยวพึมพำ
“ถึงมิตรสหายและแขกทุกท่าน วันนี้ เราจัดพิธีมอบรางวัลครั้งใหญ่เพื่อยกย่องวีรบุรุษทุกคนที่ช่วยเหลือในการจัดการกับไวรัสกบฏเสมือน พิธีจะเป็นการมอบรางวัลให้กับวีรบุรุษทุกคน” “ประการแรก ในนามของสามอารยธรรมจักรวาล ฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อเหล่าวีรบุรุษของจักรวาลที่จะได้รับเหรียญแห่งเกียรติยศรวมถึงตำแหน่งกิตติมศักดิ์ และฉันขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อพวกเขา”
“เราได้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมามากและวันนี้ เราได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันและกำจัดหายนะครั้งใหม่ได้อีกครั้ง”
“นับตั้งแต่ก่อตั้งสังคมกาแล็กซี่ในช่วงท้ายของยุคสำรวจ เหล่าวีรบุรุษทุกรุ่นจะมีความรับผิดชอบต่อจักรวาล พวกเขาเป็นรากฐานของสังคมเราในวันนี้ ด้วยหลายคนที่ล่วงลับไป แต่การกระทำของพวกเขายังถูกจารึกลงประวัติศาสตร์”
“มีเพียงการข้ามภูเขาลูกใหม่เราถึงเห็นระยะทางที่กว้างขวาง ภายใต้การนำของสามอารยธรรมจักรวาล เราเอาชนะอุปสรรคได้ สำรวจจักรวาลไร้การสำรวจตลอดเวลาและขยายดินแดนเรา ตอนนี้ เราอยู่ในโลกริบหรี่อันเป็นความสำเร็จที่สำคัญและผลพวงจากการสำรวจภายนอกของเรา”
“ความสำเร็จดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความร่วมมือของสังคม สายใยนี้ได้เชื่อมโยงเราและสร้างจิตวิญญารแห่งการบุกเบิก ใครก็ตามที่พยายามรบกวนความสามัคคีนี้จะกลายเป็นศัตรูของทั้งจักรวาล…”
สื่อกำลังเผยแพร่คำพูดของเออเรนแรลไปทั่วจักรวาล เมื่อเธอพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นทั่ว หานเซี่ยวกับผู้อยู่เหนือคนอื่นเองก็ปรบมือเล็กน้อย
หานเซี่ยวได้ยินว่าในคำพูดของเออแรนเรล เธอได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรวมกลุ่ม ความถูกต้องและความสำเร็จของสามผู้นำจักรวาล ขว้างลูกศรสุ่มๆใส่พันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอดและจักรพรรดิจักรกล แม้เธอจะไม่พูดชัด ทุกคนก็รู้ว่าใครคือคนที่ทำให้สังคมกาแล็กซี่วุ่นวาย
บาเดอร์กับพระสันตะปาปาพูดสั้นๆก่อนเข้าสู่กระบวนการมอบรางวัล วีรบุรุษแต่ละคนจะขึ้นมาบนเวที รับเหรียญและทำการพูด บางคนยังตอบคำถามของผู้สื่อข่าว
ไม่นาน พิธีได้มาถึงจุดจบ เหลือแค่คนเดียวและสายตาของทุกคนก็จับจ้องหานเซี่ยว
“แบล็คสตาร์ได้กำจัดการแพร่ระบาดของไวรัสระหว่างหายนะและค้นพบลักษณะจริงของแกนไวรัส แก้ไขกลยุทธ์ที่ผิดพลาดของเราและช่วยให้เราปรับแผนใหม่ได้ เขาคนเดียวสามารถเปลี่ยนทิศทางของหายนะได้ ต่อมาเขาได้จับแกนไวรัสและทำลายมัน กำจัดอันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่อย่างสมบูรณ์ ยุติวิกฤตการระบาดของไวรัส ช่วยชีวิตคนนับไม่ถ้วน เขาถือว่ามีส่วนร่วมมากสุดที่ทำให้ปฏิบัติการครั้งนี้ประสบความสำเร็จ”
หลังเออแรนเรลพูด หานเซี่ยวก็ยืนขึ้น ก้าวเดินขึ้นเวที จับมือกับเหล่าผู้นำ ผู้สื่อข่าวจำนวนมากถ่ายวิดิโอและรูป เปลี่ยนเวทีให้เต็มไปด้วยแสงสีขาว
“แบล็คสตาร์มีคุณสมบัติมากมาย เขามุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ยืดหยุ่น และแข็งแกร่ง..”บาเดอร์กล่าวคำชมเชยชุดหนึ่ง สุดท้ายก็มาถึงข้อสรุป”ในแง่ของความสำเร็จ เราตัดสินใจร่วมกันมอบรางวัล เหรียญกาแล็กซี่ให้กับเขา.”
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนในกลุ่มผู้ฟังก็หยุดชะงัก
เหรียญกาแล็กซี่เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติสูงสุด ร่วมกันก่อตั้งขึ้นโดยสามอารยธรรมจักรวาล นับตั้งแต่ก่อตั้ง มีคนแค่ไม่กี่คนที่ได้รับเกียรตินี้
แม้หลายคนจะคาดเดาได้แล้ว พวกเขาก็ยังตกใจที่ได้ยินกับหู พวกเขามักรู้สึกว่าแม้แบล็คสตาร์จะทำผลงานมาก มันก็ยังห่างไกลจากการได้รับเหรียญนี้ ตอนนี้มันดูเหมือนว่าปัจจัยเบื้องหลังเหรียญนี้คือสามอารยธรรมจักรวาลกำลังหนุนหลังเขาอยู่
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดยังไง เกียรติยศก็เป็นของจริง และผู้ชมต่างก็ปรบมือ
แปะ แปะ… ท่ามกลางเสียงปรบมือแสนอบอุ่น เออแรนเรลนำเหรียญที่แวววาวราวกับดวงดาวออกมา วางมันในฝ่ามือเธอ ขณะที่อีกสองคนจับขอบเหรียญ ส่งมอบมันให้หานเซี่ยว
ภาพนี้ดูเหมือนจะโดนหยุด แสงแฟลชภายใต้เวทีสาดส่องไม่หยุด บันทึกวินาทีประวัติศาสตร์นี้ไว้
ความปั่นป่วนเกิดขึ้นเป็นเวลานานและมันก็ต้องใช้เวลาหลายสิบวินาทีก่อนการเคลื่อนไหวทั้งหมดจะหยุด
หานเซี่ยวยื่นมือออกไปรับเหรียญ ติดมันบนหน้าอกก่อนจับมือกับสามผู้นำอีกครั้ง เขาขึ้นแท่นพูด กระแอมลำคอ
“ขอบคุณจักรวรรดิคริมสัน สหพันธ์แห่งแสง และศาสนจักรอาร์เคน การได้รับรางวัลนี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผม ในฐานะคนของจักรวาล ผมมีความรับผิดชอบที่ต้องรักษาความสงบสุขของจักรวาล..”
เขาอ่านบทที่เตรียมไว้ ยกหัวขึ้นจ้องนาฬิกาก่อนยิ้ม”เนื่องจากผมเป็นคนสุดท้ายมันก็หมายความว่าพิธีนี้กำลังจะจบ ผมจะไม่พูดอะไรให้ยาว ทุกอย่างเหมือนเดิม ผมรู้สึกว่าทุกคนที่นี่คงเบื่อกับมันแล้ว…”
ผู้ชมหัวเราะ
หานเซี่ยวยิ้มขณะพยักหน้า”ในระยะสั้นๆ ผมเชื่อว่าทุกคนคงมองออกว่าผมเป็นคนแบบไหนจากการกระทำ และผมก็ไม่ขอพุดซ้ำ มาข้ามไปที่คำถามกันเถอะ…มีใครไหม?”
เมื่อได้ยิน ผู้สื่อข่าวหลายคนก็ยกมือขึ้นอย่างกระตือรือร้น หวังให้เขาชี้มาที่ตัวเอง
ขณะที่หานเซี่ยวกำลังจะเลือกใครบางคน หนึ่งในนั้นก็ยืนขึ้นเองและเริ่มพูด
“ท่านแบล็คสตาร์ ผมได้ยินว่าจักรพรรดิจักรกลแมนิสันเองก็มีส่วนร่วมอย่างมากในเรื่องนี้ ถ้าไม่มีเขา สามอารยธรรมจักรวาลคงหาตำแหน่งของแกนไวรัสไม่เจอ ดังนั้น มันจึงพูดได้ว่าหนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของเหรียญกาแล็กซี่ท่านสมควรเป็นของแมนิสันด้วย..แต่สำหรับพิธีมอบรางวัลนี้ จักรพรรดิจักรกลไม่ได้รับอะไรเลย และท่านดูเหมือนจะลืมมันไปและไม่สนใจความดีความชอบของเขา ยอมรับเหรียญอย่างสบายใจ ท่านคิดยังไงกับเรื่องนี้?”
ทันใดนั้น สถานที่ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นพลันเหมือนโดนจับจุ่มลงถังน้ำเย็น
ทุกคนย้ายสายตาไปมองแมนิสัน ผู้นั่งมองอย่างไม่แยแสอยู่ตรงมุมโถง
หานเซี่ยวหรี่ตา สำรวจนักข่าวตัวน้อย เขาเห็นรอยยิ้มเย็นบนหน้าของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายอยากทำให้เขากับสามอารยธรรมจักรวาลอับอายในที่สาธารณะ