The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1199 ข่าวลับ 2
กำจัดโลกนี้!
หานเซี่ยวกับคาซูยิเหลือบมองกัน เห็นความประหลาดใจสะท้อนออกมา ด้วยเราสองคน เราจะสู้กับพันธมิตรดาวสวรรค์ได้ไง…
แต่มันดูเหมือนจะมีความลับซ่อนอยู่มากกว่านี้ หานเซี่ยวจึงพูดอย่างอดทน”นายบอกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะออกไปได้ ขอรายละเอียดหน่อย”
“ฉันรู้ว่านายคิดว่าภารกิจนี้เป็นไปไม่ได้ แต่ในความเป็นจริง นี่ไม่ยากอย่างที่นายคิด…อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ง่ายเช่นกัน”ชายลึกลับพูด”ฉันเชื่อว่าตอนนายเข้ามิติที่สองนี้ นายควรตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีอวกาศที่คล้ายกับจักรวาลดำรงอยู่ ด้วยอารยธรรมที่ทรงพลังอย่างมาก”
“ถูกต้อง”หานเซี่ยวพยักหน้า
“ฮี่ๆ ไม่ใช่แค่นาย แต่คนนอกทุกคนมีปฏิกิริยาเหมือนกัน”ชายลึกลับพูดช้าๆ ”ฉันเข้าใจปัญหานี้ดี แต่ความกังวลของนายไม่จำเป็น ทั้งหมดที่นายเห็น..ยอดฝีมือระดับนักบุญเกือบหมื่นนั้น รวมถึงฉัน เราล้วนเป็นผีตายซาก โลกของเรา…โดนทำลายไปนานแล้ว! ”
หานเซี่ยวผงะ”เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
“โลกปัจจุบันที่นายเห็นนี้คือรูปแบบข้อมูลวัฏจักรเวลากลายพันธ์ุ”ชายลึกลับตอบ”นายน่าจะค้นพบข้อมูลบางอย่างถึงโครงการรีเซ็ตโลกบนเครือข่าย แผนนี้ไม่ใช่แค่หลักประกันธรรมดา แต่ยังเป็นโครงการพิเศษที่พันธมิตรดาวสวรรค์ตั้งขึ้นเพื่อหลบหนีจุดจบของจักรวาล แต่แผนก็ล้มเหลว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในรูปแบบข้อมูล ไทม์ไลน์ของเราจึงโดนแทรกแซง กลายเป็นวัฏจักรเวลา ซึ่งคือโลกนี้ที่ฉันอาศัย มันจะกำหนดจุดจบไว้ในเวลาหนึ่ง และตั้งจุดเริ่มต้นใหม่ในเวลาหนึ่ง ฉันเป็นความผิดปกติเดียวที่ยังรักษาความทรงจำไว้ได้ภายในวัฏจักรนี้…”
“..ดังนั้น ถ้าเราอยากออกไป เราก็ต้องทำลายสิ่งที่เรียกว่าลูปมิติเวลานี้? ”
คิ้วของหานเซี่ยวขมวดเป็นปม
ตามทฤษฏีของเทคโนโลยีประกบมิติเวลา ฉากนี้เป็นไปได้ แต่ก็ยังน่าเหลือเชื่อ
ชายลึกลับมองสีหน้าพวกเขา ก่อนหัวเราะ
“ฮี่ๆ อย่ามองฉันแบบนั้น ฉันไม่ใช่คนโกหก ฉันรู้ว่าหัวใจพวกนายเต็มไปด้วยข้อสงสัย นั่นเป็นปกติ เนื่องจากฉันเชิญพวกนายมา ฉันจึงตั้งใจอธิบายตั้งแต่ต้น…”
“ไม่เป็นไร เรามีเวลา.”หานเซี่ยวกอดอก
“งัั้นก็เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะตกใจแค่ไหนก็อย่าขัดคำบรรยายฉัน สิ่งที่นายจะได้ยินต่อไปนี้คือความลับและความจริงที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลทั้งหมด….”
น้ำเสียงของชายลึกลับเปลี่ยนไป
“เชิญ”หานเซี่ยวทำท่าเชิญ หลังสูดหายใจลึก ชายลึกลับก็เริ่ม”ทุกสิ่งมีชีวิตมีอายุขัยที่ตายตัว และจักรวาลก็ไม่ต่างกัน ตามการพัฒนาปกติ สุดท้ายจักรวาลจะถึงจุดจบ มันอาจเกิดจากความร้อนสูง การยุบตัวของแรงโน้มถ่วง หรือการฉีกขาดของอวกาศ เมื่อเวลาถึงมาถึง ทุกสิ่งจะสิ้นสุดลง”
“แต่ทว่า ช่วงต้นของอวกาศ มีอารยธรรมหนึ่งที่พัฒนาถึงจุดสูงสุด แกร่งเกินกว่าที่เคยมีมา เพื่อหลบหนีจากชะตากรรม พวกเขาเลือกมอบชีวิตใหม่ให้กับจักรวาล เป็นแนวทางในการดำรงอยู่ต่อไป…แม้จะทำไม่สำเร็จ มันก็ไม่ล้มเหลวซะหมด ภายใต้การสร้าง พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงกฏพื้นฐานของจักรวาล เมื่อจักรวาลขยายไปถึงระดับหนึ่ง ถึงจุดบรรจบของชะตากรรมสุดท้าย มันจะพังทลายลง กลืนทุกอย่าง กลายเป็นจุดเอกฐาน จากนั้นบิ๊กแบงจะเกิดขึ้น เปลี่ยนเป็นจักรวาลใหม่ที่ว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยชีวิต…เราเรียกสิ่งนี้ว่า’การรีบู้ตครั้งใหญ่’”
“อารยธรรมคล้ายพระเจ้านั้นที่มอบความหวังอันริบหรี่ให้กับสิ่งมีชีวิตของจักรวาลโดนทำลายไปนานแล้วด้วยการรีบู้ตครั้งใหญ่ ชื่อของพวกเขาเลือนหายไปตามสายน้ำแห่งกาลเวลา แต่ทว่า พวกเขากลับทิ้งการเปลี่ยนแปลงของจักรวาลนี้ไว้เป็นมรดกให้คนรุ่นหลัง ไม่มีสิ่งใดสามารถวัดความล้ำค่าของมรดกนี้ได้ ถ้าไม่มีมัน อารยธรรมอื่นคงไม่ปรากฏ”
“เช่นนั้น เราจึงยกย่องอารยธรรมนี้เป็นอารยธรรมพระเจ้า มันคือพวกเขาที่เปิดการวนซ้ำของจักรวาล…และจักรวาลนี้ที่พวกเขาอยู่ก็กลายเป็นจุดยึดของไทม์ไลน์นี้ เราเรียกมันว่าการวนซ้ำ”
“แต่ทว่า การรีบู้ตครั้งใหญ่ที่นำไปสู่ชะตากรรมสุดท้ายของจักรวาลก็โดนเร่งด้วย ดังนั้นช่วงเวลาพัฒนาของอารยธรรมในการวนซ้ำจึงสั้นลง ไม่อนุญาตให้อารยธรรมใดไปถึงจุดสูงสุดของอารยธรรมพระเจ้านั้น พวกเขาทำได้แค่วนวัฏจักรแห่งการสร้างและทำลาย ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดต่อจักรวาลหรือทิ้งข้อมูล”
“มันไม่รู้ว่าเกิดการวนซ้ำนี้กี่ครั้งแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งพลันเกิดตัวแปร อารยธรรมที่แข็งแกร่งสุดในการวนซ้ำได้สร้างความก้าวหน้าที่น่าทึ่งด้านรูปแบบข้อมูล”
“พวกเขาสามารถพบเบาะแสของอารยธรรมพระเจ้าและพบส่วนหนึ่งของเหตุผลกระบวนการรีบู้ตครั้งใหญ่ พวกเขาเชื่อว่าการดัดแปลงของอารยธรรมพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการกลายพันธ์ุภายในรูปแบบข้อมูล และส่งผลต่อเส้นทางพัฒนาของจักรวาล..ในมุมมองพวกเขา จักรวาลคล้ายกับโปรแกรมที่โดนเขียนระบบการทำงานขึ้นใหม่ ส่วนรูปแบบข้อมูลคือภาษาโปรแกรมประเภทหนึ่ง”
“ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามใช้รูปแบบข้อมูลเพื่อสานต่อ แต่น่าเสียดาย พวกเขาล้มเหลวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้ทิ้งมรดกไว้อีกชิ้น ซึ่งโดนเรียกกันว่า’วิหาร’”
“ของเหล่านั้นอาจเป็นแค่หอสมุดเชื้อไฟแต่บังเอิญ มันสามารถกลายพันธ์ุเป็นหนึ่งในกฏพื้นฐานของการดำเนินการจักรวาล ช่วยให้มันรอดได้ในการรีบู้ตครั้งใหญ่ มันบันทึกข้อมูลทั้งหมดที่เกิดการวนซ้ำ เก็บมันในรูปแบบข้อมูล ส่วนสุ่มของรูปแบบจะโดนแยกออกเมื่อเกิดการรีบู้ตครั้งใหญ่เพื่อผสานเข้ากับกฏพื้นฐานของจักรวาลใหม่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยต่อจักรวาลซ้ำๆ ..”
“มันอาจเข้าใจได้ยาก งั้นฉันจึงขอยกตัวอย่าง ระบบผู้ใช้พลังทั้งห้าที่นายเห็นตอนนี้คือผลผลิตของวิหารที่ว่า ในครั้งอดีต การวนซ้ำของจักรวาลบางส่วนมีผู้ใช้พลัง ขณะที่บางส่วนไม่มี แต่ใช้ระบบต่างกัน วิหารได้บันทึกระบบผู้ใช้พลังแต่ละส่วนไว้ สุ่มแทรกระบบเหล่านี้ลงในการวนซ้ำหนึ่งของการรีบู้ตครั้งใหญ่เพื่อสลักลงในกฏของจักรวาลอย่างถาวร…นี่ทำให้ระบบผู้ใช้พลังทั้งห้าสายเกิดขึ้น แต่มันไม่ได้ปรากฏพร้อมกัน มันค่อยๆ เกิดขึ้นผ่านการวนซ้ำ ดังนั้น ที่นายเห็นว่าเรามีระบบผู้ใช้พลังห้าสาย เหมือนกับจักรวาลของนายนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
“อีกตัวอย่าง…นายอาจสังเกตเห็น แต่เราไม่มีมิติที่สอง การวนซ้ำของเราง่ายกว่าของพวกนายมาก แผนรีเซ็ตโลกของเราอาจเป็นรากหญ้าเบื้องหลังการสร้างมิติที่สอง วิหารได้รวมข้อมูลเราลงในกฏของจักรวาล ระหว่างการรีบู้ตครั้งใหญ่ครั้งต่อไป…เราอาจเป็นผู้สร้างของมิติที่สองจริงๆ! ”
“ไม่ว่าในกรณีใด การปรากฏของวิหารช่วยให้การวนซ้ำภายหลังสามารถกระโดดออกจากลูปนิรันดร์นี้ได้เพราะมันมีตัวแปรมากขึ้น มันยังคงเสริมสร้างจักรวาลของการวนซ้ำครั้งต่อไป และถือมันเป็นมรดกชนิดหนึ่ง แม้มันจะน้อยนิด แต่หยดน้ำมากมายสุดท้ายก็จะก่อตัวเป็นบ่อ”
“พูดอย่างกว้างๆ คือยิ่งเกิดการวนซ้ำ มันก็ยิ่งแกร่งขึ้น ก้าวหน้าขึ้น! ”
“ดังนั้น เราจึงยกย่องอารยธรรมนี้ด้วยชื่อของอารยธรรมวิหาร และแต่ละการวนซ้ำของจักรวาลจึงโดนเรียกว่าการวนซ้ำของการเปลี่ยนแปลง”
“นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพของจักรวาลแล้ว วิหารยังทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องมือบันทึกตอนต้นของแต่ละอารยธรรม ช่วยให้ประวัติของการวนซ้ำถูกบันทึกส่งต่อลงไป รุ่นหลังจะพัฒนาอารยธรรมตนเองในระดับหนึ่ง ด้วยความสามารถเพื่อเปิดวิหาร ยิ่งทักษะและพลังสูง พวกเขายิ่งสามารถได้รับข้อมูลจากมัน”
“ดังนั้น การผลัดเปลี่ยนของอารยธรรมที่ข้ามการวนซ้ำจึงเปิดขึ้น! ’
“อารยธรรมจักรวาลรุ่นต่อๆ มาได้สืบทอดงานวิจัยของรุ่นก่อน เรียนรู้จากความล้มเหลวและบุกเบิกเส้นทางใหม่อย่างต่อเนื่อง ต่อให้ล้มเหลว พวกเขาจะยังคงทิ้งประสบการณ์ทั้งหมดไว้ในวิหารเพื่อให้คนรุ่นหลังได้วิจัยต่อ ทุกอย่างช่วยให้เรากำจัดชะตากรรมสุดท้ายของจักรวาลได้ วางความหวังไว้ในอนาคตว่าคนรุ่นหลังจะพบวิธีการอยู่รอดต่อการรีบู้ตครั้งใหญ่” “เมื่อประสบการณ์ถูกส่งต่อไป การวนซ้ำครั้งต่อๆ มาก็จะมีโอกาสสูงขึ้นต่อการพัฒนา”
“ระหว่างการวนซ้ำของฉัน แผนรีเซ็ตโลกนี้คือผลลัพธ์ของเรา แม้เราจะไม่สามารถช่วยให้อารยธรรมเราดำเนินต่อจนถึงจุดจบได้ มันก็สามารถสร้างมิติที่สองให้คนรุ่นต่อไปของเรา มอบความเป็นไปได้ให้พวกนายมากขึ้น”
“และโลกนี้ที่นายเห็นก็แค่เส้นเวลาสั้นๆ ไปยังจุดจบของจักรวาลที่ฉันอาศัย เป็นการเริ่มใหม่ที่ล้มเหลว เป็นวิญญาณที่ควรหายไปนานแล้ว และเรา..ก็แค่สายใยหนึ่งในห่วงโซ่อันยาวไกลนี้”
สุดท้าย ชายลึกลับก็หยุดพูด
คาซูยิกับหานเซี่ยวยังยืนนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างขณะที่คลื่นมรสุมก่อตัวในหัว
ข้อมูลในเรื่องเล่านี้มากเกินไป ทรงพลังจนล้ำเกินจินตนาการทั้งหมดของพวกเขา”เป็นไปได้ยังไง? ”หานเซี่ยวรู้สึกว่านี่มันเหลือเชื่อมาก เรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างแรงต่อวิญญาณเขาและเขาก็อดสงสัยในความจริงไม่ได้
ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในชีวิตก่อนหน้าเขา สามอารยธรรมจักรวาลรวมถึงต้นไม้โลกไม่เปิดเผยเรื่องนี้
หรือว่าสามอารยธรรมจักรวาลยังพัฒนาไม่พอ ดังนั้นความลับของวิหารจึงไม่ถูกเปิดเผย?
หรือว่า…นี่คือความหมายแท้จริงเบื้องหลังชื่อภารกิจ [ข้ามพ้นการวนลูป) ?
ถ้านั่นเป็นจริง นี่ก็น่าเหลือเชื่อมาก การวิจัยที่ใช้ความพยายามจากรุ่นสู่รุ่นกลับส่งต่อในลักษณะนี้ คล้ายกับการส่งต่อคบไฟ
แค่คิด เขาก็รู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ความไม่ยอมแพ้ของคนรุ่นก่อนที่จะต่อสู้กับสวรรค์ ศักดิ์ศรีของพวกเขาที่ไม่ยอมละทิ้งชะตากรรม!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความตกใจและแปลกใจชายลึกลับก็ไม่อธิบายต่อแต่พูดอย่างสงบ”ฉันรู้ว่าพวกนายสงสัยกับคำพูดของฉัน เหนือสิ่งอื่นใด นี่ได้ลบล้างมุมมองต่อโลกของพวกนายไปโดยสิ้นเชิง แต่ทว่า ในอนาคต เมื่อการวนซ้ำจักรวาลนายพัฒนาไปถึงระดับที่สอดคล้อง นายจะเข้าใจเอง สำหรับตอนนี้ กลับไปเข้าเรื่องกันก่อน..”
“ได้”หานเซี่ยวสงบสติอารมณ์ตัวเอง
ตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะตรวจสอบความถูกต้องได้ แต่เขาคิดถึงผู้รักษาสัจจะ ที่ไปวิหารมาแล้ว เมื่อเขากลับไป หานเซี่ยวจะเดินทางไปเทพอำนวยเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับวิหารเพื่อให้ยืนยันว่าความลับนี้เป็นจริง ถ้านี่เป็นจริง เขาก็ต้องพิจารณาถึงผลกระทบระยะยาว..ผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้าเขาไม่สามารถมาถึงระดับนี้ได้ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาประสบกับเหตุการณ์นี้ เขาไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อ
ชายลึกลับส่ายหัว ดึงกลับเรื่องเดิม”มิติเวลาที่นี่วนเวียนไม่สิ้นสุด วินาทีที่แผนรีเซ็ตโลกทำงาน วัฏจักรใหม่จะเริ่ม เพราะฉันเป็นคนเดียวในวัฏจักรนี้ ต่อให้ฉันตาย ฉันก็จะเกิดใหม่และได้รับความทรงจำฉัน แต่คนนอกไม่อยู่ในห่วงเวลานี้และดังนั้นจะโดนกำจัดที่นี่”
“ถ้าพวกนายอยากออกไป นายต้องทำลายลูปก่อนจุดจบวัฏจักรนี้ แบบนี้ นายสามารถฟื้นอิสรภาพได้และฉันยังได้รับการปลดปล่อยด้วย”
“ฉันได้พบกับคนนอกในรอบที่ 59 62 และ73 คนแรกสุดคือตัวตนที่นายเรียกว่าบรรพชน ฉันช่วยพวกเขาเหมือนที่ฉันทำกับนายวันนี้ แต่พวกเขาทำลายวัฏจักรไม่สำเร็จ และตายที่นี่”
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็เริ่มวางแผน
การวนซ้ำมีความคล้ายกับเทคโนโลยีประกบมิติเวลา ทั้งสองเป็นการแก้ไขเส้นเวลาในระยะเวลาหนึ่ง ความแตกต่างคือสาเหตุของมิติที่สองนี้นั้นมากเกินกว่าเทคโนโลยีประกบมิติเวลา มันซับซ้อนกว่าหลายเท่า
แต่ทว่า นี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่เขามีในคลังแสงเพื่อออกที่แห่งนี้ คุณสมบัติของชุดราชาควรได้ผลเพราะมันมีการทำงานคล้ายกับอุปกรณ์เปิดฟ้าหลากมิติ แม้มันจะเป็นไปได้ที่เขาจะออกไป หานเซี่ยวก็ยังระวังถึงแผนของชายลึกลับเพื่อทำลายโลกเขา
“ต่อให้นายอยากให้เราทำลายโลก นายก็คงไม่ขอให้เราไปทำสงครามของพันธมิตรดาวสวรรค์หรอกใช่ไหม? พวกเขาอาจเป็นผี แต่ในมิติเวลานี้ พลังรบพวกเขาเป็นของจริง”
“แน่นอนว่าไม่ แผนรีเซ็ตโลกเดิมได้พังไปแล้วและจะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังการรีบู้ตครั้งใหญ่ ที่เทคโนโลยีรูปแบบข้อมูลจะทำให้เราปรากฏขึ้นใหม่ หลักการนี้ฉันยังงง ฉันรู้แค่ว่าการใช้งานโปรแกรมนี้เป็นการใช้ของเทคโนโลยีรูปแบบข้อมูล แกนปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเราเรียกว่าผู้พิทักษ์ถูกผูกไว้กับวิหารโดยพันธมิตรดาวสวรรค์ ช่วยให้มันรอดจากการทำลายล้างระหว่างการรีบู้ตครั้งใหญ่”
“แต่สุดท้าย มันก็ล้มเหลวและถูกเปลี่ยน แม้เราจะปรากฏใหม่เราก็กลายเป็นผีและเปลี่ยนเป็นมิติที่สอง ติดในห้วงเวลา แกนปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นจิตสำนึกมิติของมิติที่สองนี้ นายควรเห็นร่างแยกมันแล้วตอนเข้ามา”
หานเซี่ยวคิด
งั้น ผู้พิทักษ์สูงสุดที่พวกเขาพบด้านนอกมิติที่สองก็คือร่างแยกของจิตสำนึกมิติ?
แต่ทว่า ข้อมูลการต่อสุ้ไม่เปิดเผยสิ่งนี้ มันปรากฏเหมือนสิ่งมีชีวิต
ชายลึกลับพูดต่อ”ผู้พิทักษ์คือรากเหง้าของวัฏจักรนี้ มันไม่มีความคิดเป็นอิสระ แค่ทำตามกระบวนการเพื่อปกป้องมิติที่สองนี้จากการรุกรานภายนอก ตราบเท่าที่นายฆ่าเขา นายก็สามารถทำลายวัฏจักรได้ มีแค่คนนอกถึงทำสิ่งนี้ได้”
“เพราะฉันเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร ไม่ว่าฉันจะพลิกโลกนี้แค่ไหน ผลลัพธ์สุดท้ายคือมันจะโดนรีเซ็ต ดังนั้น ผู้พิทักษ์จะไม่ตาย แต่ตัวตนของคนนอกคือตัวแปร เมื่อนายรุกราน ผู้พิทักษ์จึงโผล่ออกมา นายจึงมีโอกาสฆ่าเขา” “ในโปรแกรมของผู้พิทักษ์ ยังมีส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีรูปแบบข้อมูลจากแผนรีเซ็ตโลก คนนอกคนใดที่ตายในวัฏจักรจะโดนเขาจับ อนุญาตให้เขาใช้พลังงานมิติที่สองเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับร่างแยก มีคนนอกสามกลุ่ม ดังนั้นเขาจึงมีร่างแยกหลายตัวแล้ว”
ยิ่งคนนอกตาย เขาก็ยิ่งผลิตผู้อยู่เหนือได้ จิตสำนึกมิติที่สองมีทักษะทรงพลังแบบนั้น ถึงแม้มันจะเกิดจากการกลายพันธุ์ก็ตาม พันธมิตรดาวสวรรค์คือยักษ์ใหญ่จริง แม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวก็ยังทรงพลังมาก เวลาในการพัฒนาของสามอารยธรรมจักรวาลของเขาดูด้อยไปเลยถ้านำมาเทียบ ดังนั้น ในแง่ของระดับเทคโนโลยี พวกเขาเหมือนพี่ชายกับน้องชาย”
“มันดูเหมือนจะเป็นไปได้ แต่เราจะทำให้ผู้พิทักษ์แสดงตัวได้ไง? ”หานเซี่ยวพยักหน้า
“เพราะการเปลี่ยนแปลงในมิติเวลา และเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง ตรรกะพื้นฐานของผู้พิทักษ์ระบุว่ามันไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับเนื้อหารีเซ็ตได้ ซึ่งเป็นผลให้ผู้พิทักษ์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในโลกนี้ มันทำได้แค่จุติลงมาใกล้กับภาชนะมัน ตัวอย่างเช่น แผนกความมั่นคงของพันธมิตรดาวสวรรค์มีสมบัติเอกภพชื่อแผนที่ดาวจับตำแหน่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในภาชนะรองรับจิตสำนึกมิติ ที่ช่วยให้มันจับตาดูทั้งมิติ ฉันได้สร้างอุปกรณ์ปกปิดชนิดหนึ่งที่สามารถหลบหนีการสอดส่องของมันได้ ซึ่งทำให้พวกนายไม่โดนค้นพบ”
“ในระยะสั้น ตราบเท่าที่นายอยู่ใกล้กับภาชนะใด ผู้พิทักษ์จะปรากฏและพยายามฆ่านาย นี่คือกลไกหลักของเขาและเขาไม่สามารถละเมิดได้ แต่ทว่า ภาชนะทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในคลังที่มีความปลอดภัยสูงมากของแผนกความมั่นคง แผนเราคือการโจมตีคลังแผนกความมั่นคง เข้าถึงภาชนะเพื่อให้ผู้พิทักษ์ปรากฏตัวและฆ่ามัน”
“ความยากนี้ไม่ต่ำเลย…”หานเซี่ยวคิด
“ฉันจะให้การช่วยเหลือ ทรัพยากรของเนตรเห็นแจ้งสามารถมอบให้นายได้ แถม ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกนายสองคนทำงานฟรีๆ ”ชายลึกลับตอบ”เราต่างก็เป็นช่างกล ฉันจะมอบการเรียนรู้ทั้งชีวิตส่วนหนึ่งของฉันให้นายเป็นรางวัลที่ปลดปล่อยฉัน”
เขาหยุดไปชั่วคราวก่อนพูดเสริม”แน่นอนว่า มีเพียงการทำลายวัฏจักรและรอดชีวิตไปได้นายถึงจะได้เรียนรู้ทุกอย่าง”