The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1206 กลับ
ในสาขากลุ่มดาวมรกตของกองทัพแบล็คสตาร์ ยานอวกาศนับร้อยเทียบท่าอยู่ในท่าจอดสีเงิน ด้วยสีทั้งหมดและรูปทรงต่างๆ จากภายในยานเหล่านี้ กลุ่มคนได้ก้าวออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นของกองทัพ เมื่อก้าวลง พวกเขาก็มองไปรอบๆ อย่างอยากรู้ เรียงแถวกันสบายๆ ภายใต้คำสั่งของสมาชิกกองทัพที่ติดอาวุธหนัก
“ในที่สุดเราก็มาถึง นี่คือฐานของกองทัพแบล็คสตาร์จริงๆ มันได้รับการปกป้องอย่างดีเลย”
“ฮ่าๆ ประวัติของฉันผ่านการคัดกรองสี่รอบและในที่สุดก็ผ่านการสัมภาษณ์ เราจะเป็นสมาชิกของกองทัพแบล็คสตาร์ในอนาคต”
“ฉันหวังว่าฉันจะสามารถได้รับตำแหน่งดีๆ …”
“เราจะสามารถเจอแบล็คสตาร์ได้ไหม?ตามหลักปฏิบัติตามปกติ กลุ่มผู้มาใหม่ทุกกลุ่มจะต้องเข้าพิธีที่ผู้บัญชาการกองทัพจะมาพบเรา ต่อให้เป็นแค่กายสถิตของเขาก็ตาม! ”
ทุกคนมีความตื่นเต้นฉาบบนใบหน้า คนเหล่านี้ล้วนเป็นทหารรับจ้างที่สมัครเข้าร่วมกองทัพ
ตอนนี้ อิทธิพลของกองทัพแบล็คสตาร์ได้แผ่ขยายไปทั่วหลายทุ่งดาว ด้วยธุรกิจต่างๆ ที่นำเงินไหลเข้ามา กองทัพจึงจ้างทหารใหม่อย่างแข็งขัน นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังหานเซี่ยวโดนจ้างให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษของสามอารยธรรมจักรวาล
หลังผ่านมาหลายปี กองทัพก็มีอิทธิพลที่ไม่สามารถแทนได้ในจักรวาล ตามการวิจัยทางตลาด ถ้าผู้ใช้พลังอิสระทั้งหมดในจักรวาลเข้าร่วมกองกำลัง งั้น 41.3% ก็ระบุว่ากองทัพแบล็คสตาร์เป็นตัวเลือกแรกเหนือสามอารยธรรมจักรวาลซะอีก
กองทัพแบล็คสตาร์ถือได้ว่ายังมีศักยภาพเติบโตขึ้นไปอีก ขณะที่ทุกคนคุยกันอย่างตื่นเต้นถึงความสำเร็จของพวกเขา ยานอวกาศกองทัพก็แล่นเทียบท่าจอดVIP ดึงดูดความสนใจของทุกคน มีสัญลักษณ์สองสัญลักษณ์บนยาน หนึ่งคือของกองทัพ อีกหนึ่งเป็นงูสีแดงที่มีฉากหลังเป็นไวน์แดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของฮีล่า
หวือ!
ประตูเปิด และกลุ่มนักรบหญิงติดอาวุธสวมชุดเกราะเบาสีแดงก็เดินออกมาอย่างเรียบร้อย แยกเป็นสองทางเหมือนเป็นทางเดิน สัญลักษณ์บนหน้าอกพวกเธอบ่งชี้ว่าพวกเธอเป็นองครักษ์ชั้นยอดของฮีล่า หรือที่เรียกกันว่า’นักล่างูสามหัว’
ในฐานะรองผู้บัญชาการกองทัพ ฮีล่าจึงมีอำนาจมากมาย ซึ่งช่วยให้เธอสร้างองครักษ์ส่วนตัวแบบหานเซี่ยวได้
ปึกปึก!
เสียงรองเท้าหนังดังกระทบพื้น ขณะที่ฮีล่าเดินออกมา เธอสวมแว่นกันแดดสีแดง หูเธอประดับด้วยต่างหูสีเงิน และเธอยังสวมเครื่องแบบสีแดงงดงามที่คล้ายกับชุดสูทของผู้หญิง มันมีด้ายสีทองตัดแต่งรวมถึงเสื้อคลุมสีดำ-ทองรอบไหล่เธอ พร้อมด้วยขนปุยสีแดงบนคอเสื้อของเสื้อคลุม
ดวงตาของทุกคนจับจ้องเธอด้วยความชื่นชมบนหน้า”เธอคืออันดับสองของกองทัพ เทพธิดาแห่งความตาย ฮีล่า…”
บางคนแสดงสีหน้าละห้อย”มันคงดีถ้าฉันได้ทำงานภายใต้เธอ”
“มีแค่พวกหัวกะทิของกองทัพถึงได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งขององครักษ์ เพ้อฝันอะไรอยู่? ”
ตอนนี้ ฮีล่าเดินมาพร้อมองครักษ์เธอมาด้านหน้าฝูงชน ตรวจดูทุกคน กลิ่นอายทรงพลังของเธอกระจายออกไป ความปั่นป่วนค่อยๆ หยุด ทุกคนต่างรู้สึกบีบคั้นหัวใจ ไม่กล้าพูด เมื่อเห็นอย่างนี้ ฮีล่าจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ผู้บัญชาการกองทัพไม่อยู่ ฉันจะเป็นประธานในพิธีให้เอง เวลาของฉันมีค่า ฉันจะข้ามขั้นตอนและทดสอบพลังพวกนายโดยตรง กองทัพพูดกันด้วยพลัง นี่จะเกี่ยวข้องกับการจัดตำแหน่งพวกนายหลังเข้าร่วมกองทัพ หวังว่าพวกนายจะทนได้นาน”
เธอพูดทั้งหมดในลมหายใจเดียว ฮีล่าขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบายเพิ่ม ปล่อยแรงกดดันเธอออกมา กวาดไปทั่วทั้งสนาม
หลายคนรู้สึกถึงแรงกดดันก่อนจะได้ตอบสนอง แรงกดดันเจาะร่างกาย แทรกซึมเข้าวิญญาณ ทุกคนต่างสั่นสะท้าน ดูราวกับพวกเขาจะล้มลงกับพื้นได้ทุกเมื่อ
ปึก ปึก!
ทีละกลุ่ม พวกเขาไม่สามารถทนต่อแรงกดดันที่ฮีล่าปล่อยออกมาได้และล้มลงกับพื้น คนที่ทนได้นานสุดคือประมาณ 30 วินาที ใบหน้าพวกเขาแดงก่ำ อ้าปากสูดหายใจเหมือนกับกำลังจมน้ำ
เมื่อเห็น ฮีล่าก็ถอนแรงกดดัน มองนาฬิกาขณะพูดเสียงเบา”คนที่ติด 10 อันดับแรกจะเป็นผู้นำกลุ่ม สำหรับคนอื่น ฟิลลิปจะจัดตำแหน่งให้ตามเวลาที่ทนได้ พวกนายต้องไปรายงานกับหน่วยตนเองทันที พิธีจบลงแล้ว”
เธอพูดจบ หมุนตัว เข้าฐานไปพร้อมองครักษ์เธอ ไม่เหลียวแลใคร
โดยทั่วไป พิธีเข้าร่วมของเด็กใหม่จะเป็นการแนะนำพวกเขาถึงประวัติของกองทัพ ปลูกฝังความรู้สึกร่วม แต่ฮฺีล่าไม่สนใจเรื่องแบบนั้น ตั้งแต่ลงจากยานจนถึงการทดสอบเสร็จ กระบวนการทั้งหมดกินเวลาไม่ถึงสามนาที
ระหว่างทาง ฮีล่าได้นำอุปกรณ์สื่อสารของเธอออกมาและเรียกฟิลลิป เธอถามด้วยคิ้วที่ขมวด”แล้ว นายติดต่อแบล็คสตาร์ได้หรือยัง? ”
“ยังเลยครับ ฮึ่ม..”ฟิลลิปลดหัว แตะปลายนิ้วอย่างรู้สึกผิด
“เขาไปไหน? ถึงกับขาดการติดต่อไปหลายเดือน! ” สีหน้าของฮีล่าดูไม่แน่นอน
เธอรู้ว่าหานเซี่ยวหนีไปยังมิติที่สองและการสื่อสารก็ไม่สะดวก แต่ถึงกระนั้น หานเซี่ยวก็ไม่ควรตัดการเชื่อมต่อกับฟิลลิป
หลายเดือนก่อน ฟิลลิปบอกว่าหานเซี่ยวขาดการเชื่อมต่ออย่างสิ้นเชิงและไม่สามารถเข้าถึงได้เลย ฮีล่าจึงตื่นตัวและอดคิดถึงองค์กรเทพอำนวยที่พวกเธอพบในมิติที่สองไม่ได้
หรือว่าผู้บัญชาการกองทัพจะโดนโจมตีอีกแล้ว?
อืม..มันดูไม่น่าแปลกใจเลย
เพื่อไม่สร้างความวุ่นวายและความสงสัยให้โลกภายนอก เธอขอให้ฟิลลิปปิดข่าวทั้งหมด รักษาการดำเนินงานของกองทัพบนผิวเผินขณะลอบลงทุนทรัพยากรอย่างลับๆ เพื่อตรวจหาร่องรอยของแบล็คสตาร์
หานเซี่ยวคือจิตวิญญาณของกองทัพ วินาทีที่เขาขาดการติดต่อ กองทัพจะด้อยลงในสายตาผู้อยู่เหนือ ฮีล่าทำได้แค่แบกรับภาระนี้ไว้ชั่วคราว หยุดการฝึก กลับจากโลกใต้พิภพมานำกองทัพ
และก็ยังไม่พบตัวเขาหลังผ่านไปหลายเดือน นั่นทำให้ฮีล่ายิ่งกังวล
เธอตัดสินใจแล้วว่าถ้ายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาหลังผ่านไปสามเดือน เธอจะเรียกอาจารย์เธอให้เข้ามิติที่สองไปหาตัวหานเซี่ยวด้วยกัน แต่ทันใดนั้น ฮีล่าก็หยุดชะงัก แสดงสีหน้าแปลกๆ
“รอนี่กันก่อน ฉันมีเรื่องต้องทำ”ร่างของเธอหายไป ทิ้งองครักษ์ไว้
ในเวลาเดียวกัน ร่างของฮีล่าก็ปรากฏในโลกใต้พิภพ ซึ่งโอนิเคลูก็ได้เปิดเผยตัวเอง
“นี่มันอะไรกัน? ”
“ฉันพบสิ่งมีชีวิตประหลาดกลุ่มหนึ่งเข้าใกล้โลกใต้พิภพ พวกมันดูเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตในจักรวาลที่อาศัยในพายุอวกาศ สัตว์ประหลาดที่เกิดในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่ใช่จะจัดการง่ายๆ และฉันก็กลัวว่าพวกมันจะเป็นสายพันธ์ุที่อาศัยในมิติที่สอง”โอนิเคลูแสดงความกังวล
ฮีล่าขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนนี้ เธอมีพันธะกับโลกใต้พิภพ การปกป้องมันจึงเป็นหน้าที่เธอ”ฉันจะทำให้พวกมันถอยไป”
เธอยืนขึ้น เปลี่ยนเป็นดาวหางสีแดงขณะบินออกกำแพงอวกาศตามคำแนะนำของโอนิเคลู แต่ทว่า เธอไม่ได้รุกต่อ เธอกลับรอตรงจุดนั้น พลังงานมิติของโลกใต้พิภพก่อตัวเป็นทรงกลมแสงรอบฮีล่า ซึ่งมอบพลังป้องกันให้เธอ
ไม่นาน รูหนอนคล้ายวังวนก็ปรากฏในกระแสอวกาศ เหาอวกาศตัวโตพุ่งออกมาด้วยจำนวนที่น่าตกใจ
“เยอะมาก! ”ฮีล่ากำหมัดโดยไม่รู้ตัว
เธออาศัยในมิติที่สองมาสักพัก ดังนั้นจึงรู้ว่ามีอันตรายบางอย่างที่สามารถคุกคามชีวิตของผู้อยู่เหนือได้ แม้เธอจะไม่เคยพบกับเหาอวกาศ เธอก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม พิสูจน์ให้เห็นว่าสัตว์ประหลาดกลุ่มนี้ฆ่าไม่ได้ง่ายๆ
แม้ฮีล่าจะไม่กังวลถึงความปลอดภัยของเธอ แต่เธอไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถปกป้องโลกใต้พิภพทั้งหมด
“ถ้าแบล็คสตาร์อยู่นี่…”
เมื่อเจอกับสถานการณ์นี้ ฮีล่าจึงอดคิดถึงกองทัพจักรกลของหานเซี่ยวไม่ได้
“ตอนนี้ ฉันทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง…”
ฮีล่าหมุนพลังงานเธอ เตรียมพร้อมทำการโจมตี
แต่ทันใดนั้น เสียงคุ้นเคยก็ดังในช่องทางสื่อสารชุดจักรกลของเธอ ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอหยุดชะงัก
“ฮีล่า? ”
ท่ามกลางเหาอวกาศ หานเซี่ยวผู้กำลังไล่ต้อนสัตว์รู้สึกได้ถึงความผันผวนและมองมา ดวงตาของเขาสว่างวาบ
ในชั่วพริบตา เขาก็ปรากฏตรงหน้าเธอด้วยรอยยิ้ม”ไม่เจอกันนานเลยนะ คิดถึงฉันไหม? ”
“คิดถึง…”ฮีล่าพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวและรีบเปลี่ยนเรื่อง”ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่? นายไปไหนมา? ”
“ฉันไปมิติที่สองมา สัญญาณที่นั่นไม่ดี เธอเห็นพวกน่ารักเหล่านี้ไหม? พวกมันคือถ้วยรางวัลของฉัน ฉันตั้งใจจะให้พวกมันปักหลักแถวโลกใต้พิภพเพื่อเป็นแนวป้องกัน พลังรบพวกมันน่าประทับใจมาก..”
หานเซี่ยวพูดแนะนำ แสร้งทำเป็นไม่เห็นความลังเลของฮีล่า
หลังขาดการติดต่อมาหลายเดือน เขาก็รู้ว่าฮีล่าต้องกังวล แต่เขาไม่ตั้งใจเปิดเผยประสบการณ์เดินทางของเขาสักพัก ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปิดบังความจริง
หลังฟังสักพัก ฮีล่าก็ไม่สามารถต่อต้านคำพูดของหานเซี่ยวได้”นายรู้ไหมว่าการที่นายหายไปส่งผลกระทบต่อเรามากแค่ไหน? ถ้ามันไม่ใช่เพราะฉันปิดข่าวไว้ คงมีคนจำนวนมากในกองทัพที่หวั่นไหว…..” หานเซี่ยวหัวเราะ”เธอคือรองผู้บัญชาการกองทัพ ถึงแม้ฉันจะไม่อยู่ก็ยังมีดี ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้หรอก ฉันเชื่อในตัวเธอ”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของฮีล่าก็ดีขึ้นมาก
เธอมีความรู้สึกว่าหานเซี่ยวกำลังปิดบังบางอย่างจากเธอ แต่เธอไม่อยากถามเพิ่ม ส่วนสำคัญสุดคือเขากลับมาแล้ว
ฮีล่าไม่ถามต่อและหันความสนใจไปยังเหาอวกาศหน้าตาแปลกๆ
“เมื่อกลุ่มสิ่งมีชีวิตเหล่านี้รวมพลังกัน พลังพวกมันจะสูงถึงผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดเลยงั้นเหรอ? ”
“พลังโจมตีพวกมันไม่ดี แต่พลังป้องกันสามารถไปถึงขั้นนั้นได้ พวกมันกินกระแสอวกาศโกลาหล นั่นทำให้พวกมันไม่โจมตีมิติที่สอง แต่ยังให้การปกป้อง พวกมันชอบสภาพแวดล้อมรอบมิติที่สอง พวกมันจึงมักปักหลักและใช้มันเป็นรัง”หานเซี่ยวพยักหน้า หลังจับกลุ่มเหาอวกาศ เขาก็แยกทางกับคาซูยิ มุ่งหน้ากลับบ้าน ผ่านการเดินทาง เขาได้ค้นคว้าและพบนิสัยของพวกมัน ซึ่งช่วยให้พวกมันอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนกับมิติที่สอง พวกมันเหมาะกับการเฝ้าบ้านมาก
“เอาล่ะ ตราบเท่าที่ไม่มีอันตราย ฉันก็ไม่ว่าอะไร”ฮีล่าตอบตกลง”อาจารย์ฉันมาหานายสามครั้งแต่โดนฉันปฏิเสธ อย่าลืมไปหาเธอด้วย”
“ได้”หานเซี่ยวตอบรับและถาม”มีเรื่องอะไรในสมาคมไหมตอนฉันไม่อยู่”
“เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นขาดการทะเลาะระหว่างนายกับแมนิสัน ไม่มีใครเคลื่อนไหวอะไรตอนนี้”
“คนเหล่านั้นแค่อยากให้ฉันทำสิ่งต่างๆ แทน..”ปากหานเซี่ยวกระตุก
ในสายตาคนธรรมดา ผู้อยู่เหนือเป็นพวกมีอำนาจและบารมีสูง แต่ในสายตาเขา นี่แค่พวกกลุ่มคนน่าเบื่อ จากนั้นเขาก็ปฏิเสธคำเชิญของฮีล่าในการประลองก่อนโยนเหาอวกาศไว้ที่โลกใต้พิภพ ใช้ชุดราชาส่งตัวเองกลับไปฐานกองทัพในกลุ่มดาวมรกต
ด้วยวิสัยทัศน์ที่แจ่มแจ้ง หานเซี่ยวพบว่าตัวเองกลับมาในห้องทำงานเขาและพบซิลเวียกำลังนั่งพาดขาไว้บนโต๊ะ
เมื่อเห็นว่ามีคนพลันปรากฏในห้อง ซิลเวียก็ผงะ แต่หลังรู้ว่าเป็นหานเซี่ยว เธอก็สงบสติลงและยืนขึ้น จงใจกระแทกส้นเท้าบนโต๊ะครั้งหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด”โอ้ ท่านแบล็คสตาร์หรือเนี่ย? ท่านยังรู้ทางกลับบ้าน? ฉันคิดว่าท่านลืมเราไปแล้วซะอีก”
หานเซี่ยวไม่แสดงความขุ่นเคือง แต่เดินไปหาซิลเวีย ลูบหัวเธอ
“ดูเหมือนว่าเธอจะทำงานหนักมากเลยสินะ ลำบากเธอแล้ว”
“เอามือออกไป”ซิลเวียปัดมือเขาก่อนยืนขึ้น”ฉันติดต่ออาจารย์ไม่ได้ และก็มีปัญหาค้างคามากมายที่อาจารย์ต้องจัดการ รีบจัดการด้วย ฉันยังรออยู่”
เมื่อพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินออกไป แต่ทันใดนั้น เธอก็นึกอะไรได้ตอนถึงประตู เธอหันกลับมา หยิบเสื้อที่เธอพาดไว้บนเก้าอี้และแว่นกรอบทองบนโต๊ะ กลอกตาใส่หานเซี่ยวก่อนกระทืบเท้าออกไป
“จิ๊ เป็นคนอารมณ์ร้อนมาก”
หานเซี่ยวเม้มปาก
การเดินทางนี้เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่สำหรับเขา เขาไม่เพียงได้รู้ความลับของจักรวาลแต่ยังเพิ่มพูนความรู้ได้อีกด้วย สำหรับเขา การกลับมาจักรวาลเขาให้ความรู้สึกเหมือนโลกใหม่ แต่ในสายตาเจ้าหน้าที่เขา เขาหายไปแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ยกเว้นบางคน ไม่มีใครอยากรู้ว่าเขาหายไปไหน
หานเซี่ยวเชื่อมต่อกับฟิลลิปใหม่ เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่เขาบันทึก
ขุมทรัพย์ทางเทคโนโลยีนี้ล้ำค่าเกินไป แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดอย่างเขาก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบปีเพื่อศึกษา แม้แต้มตื่นรู้กับค่าประสบการณ์จะช่วยเร่งความเร็วได้ มันก็สิ้นเปลืองไป เหนือสิ่งอื่นใด ก่อนเวอร์ชั่นถัดไปจะมาถึง มันยากสำหรับเขาที่จะเพิ่มมัน เนื่องจากมันอีกไม่นานจนกว่าจะถึงช่วงเวลาอัปเดท เขาจึงต้องเก็บออมไว้
เขาเรียกหุ่นยนต์ทำความสะอาดมาฉีดสเปรย์ปรับอากาศในห้องเพื่อขจัดกลิ่นน้ำหอมของซิลเวียก่อนเอนพิงเก้าอี้ จัดการกับงานที่ค้างคาขณะเข้าฟอรั่มเพื่อตรวจสอบผู้เล่น
หลังผ่านไปหลายเดือน โปรลีกสี่ก็เข้าสู่เวทีนานาชาติแล้วและอยู่ในรอบสี่ทีมสุดท้าย จีนมีสองทีมที่เข้าร่วม ราชวงศ์กับหุบเขาแม่น้ำ
หลังผ่านไปสามฤดูกาล หุบเขาแม่น้ำก็ไม่ใช่ม้ามืดอีก แต่เป็นทีมแกร่งที่มั่นคง
รอบกลุ่มนานาชาติก่อนหน้านี้ที่เพิ่งจบลงไปถือว่าอันตรายสุด ด้วยการกำหนดเป้าใส่สโมสรจีนอย่างบ้าคลั่ง เช่นนั้น จึงเป็นผลให้มีทีมจีนเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้แค่สอง
แต่ทว่า ถ้ามองจากอีกมุม แม้จะมีสโมสรของประเทศต่างๆ พยายามผลักพวกเขาให้ล้ม แต่ก็ยังมีทีมจีนถึงสองที่ฝืนยืนหยัดมาได้ ผลลัพธ์ช่างน่ายินดี
ตอนนี้ ความหวังของทั้งประเทศตกอยู่กับราชวงศ์และหุบเขาแม่น้ำ ตราบเท่าที่ทั้งสองชนะ มันก็หมายถึงชัยชนะสามครั้งรวดสำหรับจีน ไม่มีประเทศอื่นอยากเห็นผลลัพธ์นี้ แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรผู้เล่นจีนได้มากเท่ากับรอบกลุ่ม
“ตอนนี้มันเป็นรอบก่อนรองชนะเลิศ มันอยู่ไม่ไกลจากจุดสิ้นสุดของโปรลีกแล้ว เหลือเวลาอีกอย่างมากก็แค่สองเดือน..ฉันต้องเตรียมตัว”