The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1227 ฉันเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นวายร้ายขึ้น
ในอดีต เพื่อสร้างความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง เขาต้องจับเอสเปอร์อย่างโหดเหี้ยมโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา หลังผสานความสามารถนับไม่ถ้วน เขาก็ได้รับห่วงโซ่พันธุกรรมของ[การควบคุมพลังงาน] จากนั้น อายุขับของเขาก็กำลังหมด เขาจึงคิดเริ่มต้นชีวิตใหม่
ดังนั้น เขาจึงปิดบังความสามารถนี้ไว้ตลอด ไม่เคยแสดงออกมา เขาลอบเลือก’กอดด์’เป็นภาชนะสำหรับเกิดใหม่และฝังห่วงโซ่พันธุกรรมความสามารถเอสเปอร์ของเขาลงไปในกอดด์ วางแผนสืบทอดความสามารถนี้หลังเขาเกิดใหม่ จากนั้นเขาก็ฆ่าลูกน้องเขาทั้งหมดที่รู้เรื่องนี้และทำให้มั่นใจว่าตัวตนนี้ใสสะอาด
แกนหลักของแผนนี้คือ[ความสามารถเอสเปอร์ เกิดใหม่] นี่คือความสามารถที่สามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียว ทำให้ผู้ใช้มีชีวิตที่สอง มันไม่ใช่ความสามารถเอสเปอร์ประเภทวิญญาณล้วนแต่เกี่ยวข้องกับรูปแบบข้อมูลมิติขั้นสูง
แน่นอน ผลของมันไม่ง่ายอย่างการแบ่งวิญญาณ จิตสำนึกของเขาได้หลอมรวมกับภาชนะอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นจิตวิญญาณใหม่ทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับร่างเดิม แม้เขาจะยังมีความทรงจำ ความคิดกับนิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปในระดับหนึ่ง นี่หมายความว่ากอดด์คือกอดด์ และไม่ใช่เทพเอส เขาแค่ละทิ้งอดีตจนหมดและเกิดใหม่อย่างแท้จริง
ย้อนกลับไปตอนเขาโดนหานเซี่ยวและคนอื่นจับ ในช่วงเวลาสั้นๆก่อนกาลอวกาศแอมเบอร์จะปิดผนึกเขาอย่างสมบูรณ์ มี แค่ความสามารถเกิดใหม่ถึงช่วยเขาได้ ดังนั้นเขาจึงฉีกวิญญาณตัวเองและหลบหนี ด้วยการใช้ความสามารถนี้เพื่อเปลี่ยนเป็นรูปแบบข้อมูลมิติขั้นสูง เขาจึงหลบหนีผนึกวิญญาณจากนักดาบดอกบัวและคนอื่นได้ เข้าตัวกอดด์
ไม่มีสักคนที่รู้เรื่องนี้ หลังผ่านมาหลายปีโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น กอดด์ก็เลิกกังวลไปนานแล้ว เขารู้สึกว่าไม่มีใครมองแผนเขาออก แต่ทว่า ด้วยความตกใจ ความลับของเขากลับโดนหานเซี่ยวมองออกง่ายๆ
สึนามิเกิดขึ้นในหัวกอดด์ เขาไม่รู้เลยว่าส่วนไหนของแผนที่เขาพลาด
เนื่องจากความไม่มั่นคงของจิตใจ แม้กระทั่งการป้องกันของเขาก็ยังอ่อนลง เขาโดนระเบิดด้วยกองทัพจักรกล เพิ่มบาดแผลให้ร่างกาย
ครั้งนี้ ความคิดของกอดด์หมุนอย่างรวดเร็ว เขาระงับความตกใจในหัวใจและพูด
“เทพเอส?แกกำลังพูดเรื่องอะไร?”
“ยังไม่ยอมรับอีก?ดูเหมือนว่าแกจะมีความหวังลมๆแล้งๆ แกคิดว่าแกจะหนีได้งั้นเหรอ?”
หานเซี่ยวหรี่ตาและพลันรู้ว่ากอดด์กำลังคิดอะไร
แม้กระทั่งในสถานการณ์สิ้นหวังแบบนี้กอดด์ก็ไม่ยอมรับว่าเขาคือเทพเอส เขาเชื่อว่าถ้าเขาหายไป จักรวรรดิต้องออกค้นหาเขาแน่ และสุดท้ายแบล็คสตาร์ก็อาจโดนสอบสวนด้วย เขารู้สึกว่าเขายังมีโอกาสหลบหนี
แต่ทว่า ถ้าเขายอมรับตัวตนเขา สิ่งที่แบล็คสตาร์ทำก็จะถูกต้อง เขาสามารถรอให้จักรวรรดิมาช่วยเขาได้ตราบเท่าที่เขาไม่ทิ้งหลักฐาน
ดังนั้น ไม่ว่าจะตกใจแค่ไหน ไม่ว่าแบล็คสตาร์จะพยายามทำให้เขาพูดแค่ไหน กอดด์ก็ไม่มีวันยอมรับมัน
“แบล็คสตาร์!นี่มันไร้สาระสิ้นดี!อย่างน้อยก็หาข้ออ้างที่ดีกว่านี้มาถ้าแกอยากฆ่าฉัน ฉันเกี่ยวข้องกับเทพเอส?แกอาจกังวลว่าฉันจะคุกคามตำแหน่งแกตอนฉันแกร่งขึ้น แกถึงอยากกำจัดฉันล่วงหน้าสินะ ไม่มีอะไรอื่นแล้ว ทำไมแกต้องแต่งเรื่องขึน้มาด้วย?!”
กอดด์กัดฟัน พูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคนโกรธจากการโดนกล่าวหา
“ทำไมแต่ก่อนฉันถึงไม่สังเกตเห็นนะว่าทักษะการแสดงของแกเทียบได้กับคาซูยิ?”หานเซี่ยวเม้มปาก
กอดด์ไม่สนใจสิ่งที่เขาพูดและตะโกน”ฉันเข้าใจแล้ว!แกคือคนที่ปล่อยข้อมูลความสามารถฉันลงตลาดมืด!แกต้องได้ยินมันจากจักรวรรดิและอยากเทโคลนลงน้ำ เพื่อให้แกใส่ร้ายคนอื่นได้!อย่าคิดว่าแกจะหลอกใครได้ จักรวรรดิจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่!”
“เนื่องจากแกไม่กล้ายอมรับ งั้นก็ไม่ต้องพูดกันให้มาก”
หานเซี่ยวส่ายหัว
เดิมเขาอยากคุยกับกอดด์แบบลูกผู้ชาย เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขารู้จักกันมาหลายสิบปี เขาอยากให้อีกฝ่ายมีโอกาสพูดคำสั่งเสียบ้าง แต่ทว่า กอดด์กลับไม่ยอมรับมัน จึงไม่มีประเด็นให้คุยอีก
ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น หานเซี่ยวก็เปิดพลังจักรกลของเขาโดยไม่ลังเล ปลดปล่อยกองทัพในตัวเขา จากนั้นก็ผสานทหารจักรกลเป็นเทพจักรกล มิติที่สองชั้นลึกนี้ไม่มีทางโดนรบกวน หานเซี่ยวจึงไม่ออมมือ
หวือ!
คมดาบลงทัณฑ์สวรรค์ผ่าลง แยกชั้นม่านพลังและกระแทกกอดด์จากฟ้าลงพื้นเหมือนตบแมลงวัน สร้างเป็นหลุมลึก
คลื่นกระแทกปะทุโดยมีกอดด์เป็นศูนย์กลาง รอยแยกเปิดบนผืนดิน ขยายไปจนสุดขอบฟ้า
อึก…
กอดด์หลั่งเลือดออกจากทุกรูขุมขนบนผิวหนัง เสื้อผ้าของเขาโดนย้อมด้วยสีแดง
ความเจ็บปวดทั้งหมดหลั่งไหลเข้าเส้นประสาท ก่อนเขาจะได้หายใจ ภาพด้านหน้าของเขาก็ปกคลุมด้วยเงาสีดำจำนวนมาก วินาทีต่อมา ปากกระบอกปืนบนท้องฟ้าก็สว่าง
กอดด์รีบดีดตัวและถอยห่างไป วินาทีต่อมา ลำแสงไซโอนิคนับไม่ถ้วนก็ผสานเป็นลำแสงขนาดยักษ์ เจาะผ่านผืนดินซีด พื้นแตก และพองเหมือนภูเขาที่ผุดขึ้นจากพื้น จากกนั้นมันก็ระเบิด!
บูม!
ผลพวงรุนแรงกระจายออกไป ถึงแม้กอดด์จะสร้างม่านพลัง คลื่นกระแทกก็ยังซัดเขาออกไป
เขาลอยขึ้นฟ้าได้แค่ครึ่งทางแต่ก็พบว่าเทพจักรกลไล่ตามมาและกระแทกเขากลับลงพื้น มีแค่พระเจ้าถึงรู้ว่ากระดูกของเขาหักไปกี่ซี่
แม้ความสามารถเอสเปอร์ของกอดด์จะมีศักยภาพสูง ศักยภาพก็ไม่ใช่พลังแท้จริงปัจจุบัน เกรดปัจจุบันของเขายังต่ำไป ต่อหน้าหานเซี่ยว เขาอ่อนแอเหมือนเด็ก ไร้อำนาจต่อต้าน การต่อสู้เป็นไปอยู่ฝ่ายเดียว!
ขณะที่หานเซี่ยวกระทืบกอดด์ เขาก็ใช้เวลาดูข้อมูลต่อสู้ด้วย
เนื่องจากระดับของเขาสูงกว่ากอดด์มาก เขาจึงเห็นความสามารถทั้งหมดของกอดด์ได้เขาสามารถยืนยันได้ว่ากอดด์ไม่มีทางหลบหนีเขาพ้น
แม้เขาจะเห็นหน้าต่างข้อมูลของกอดด์มาแล้ว แต่เขาก็ยังดูมันอีก
จากนั้นหานเซี่ยวก็พบว่ากอดด์ได้รับความสามารถใหม่
[การควบคุมพลังงาน- พลังงานวิวัฒนาการ(ไม่ทำงาน)] : ท่านกำลังวิเคราะห์โครงสร้างพลังงานของพลังงานวิวัฒนาการ ท่านจะใช้พลังงานนี้ได้เมื่อวิเคราะห์เสร็จสมบูรณ์ ความคืบหน้าปัจจุบัน : 50.2%
ไอสารเลวนี่ยังคิดถึงลูกบาศก์วิวัฒนาการอีก?
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
มันน่าตกใจมากที่เขายังไม่ยอมแพ้กับลูกบาศก์วิวัฒนาการ!
ความสามารถของกอดด์ลอบเร้นไป เขาเริ่มวิเคราะห์หลังออกวัง ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่รู้ตัวเลย โชคดี เขาทำลายแผนการนี้ทางอ้อมเพราะเหตุผลอื่น ไม่งั้นกอดด์คงได้รับเทคโนโลยีนี้ไปแบบลับๆ
หานเซี่ยวพลันตระหนักถึงปัญหาละเอียดอ่อน
กอดด์ทำเองหรือจักรวรรดิขอให้เขาทำ?
ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย คิดด้วยหัวใจหนักอึ้ง
แม้จักรวรรดิจะไม่พูดถึงลูกบาศก์วิวัฒนาการ หานเซี่ยวก็รู้ว่าคนในจักรวรรดิไม่มีวันยอมแพ้มัน ตอนนี้กอดด์เป็นสมาชิกสายตรงของจักรวรรดิ ดังนั้นเบื้องบนต้องรู้ถึงความสามารถเขา มันเป็นไปได้มากว่าพวกเขาคงส่งกอดด์มาลอบไขความลับพลังงานวิวัฒนาการและจากนั้นก็อ้างว่าการวิจัยพวกเขาประสบความสำเร็จเพื่อให้เขาไร้เหตุผลโกรธ
หานเซี่ยวไม่พูดอะไรถึงการกระทำของจักรวรรดิ พวกเขาแค่พยายามจะได้มาในสิ่งที่ต้องการ ไม่มีผิดหรือถูก สิ่งที่เขาสนใจกว่าคือข้อมูลชิ้นนี้จะส่งผลต่อแผนการเขาอย่างไร
ถ้าจักรวรรดิขอให้กอดด์ทำ ความเสี่ยงคงเพิ่ม ในสายตาจักรวรรดิ เขามีแรงจูงใจและไม่ใช่คนที่พวกเขาไม่สงสัย เขาจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกัน
ในทางกลับกัน นี่ทำให้เขามีข้ออ้างใหม่ เนื่องจากจกรวรรดิเล่นตลกกับเขาก่อน ตราบเท้าที่เขาไม่ฆ่ากออด์ ต่อให้จักรวรรดิถามหาความรับผิดชอบ มันก็จะไม่เลวร้ายสุด
ดูเหมือนมันไม่แย่เลย…ฉัาควรจัดการเขาก่อน!
หานเซี่ยวส่ายหัว ระงับความคิดเหล่านี้และจดจ่อกับการรังแก..ไม่สิ สู้กับกอดด์
เมื่อเวลาผ่านไป สภาพของกอดด์ก็ยิ่งย่ำแย่ แม้ความสามารถเอสเปอร์ของเขาจะช่วยมอบพลังงานไร้สิ้นสุดให้ มันก็ไม่ได้ฟื้นฟูพลังชีวิตเขาเร็วนัก บาดแผลของเขาสะสมและความเร็วฟื้นฟูก็ไล่ไม่ทันอีก
การลากร่างกายอ่อนล้า กอดด์พยายามหลบหนีครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ล้มเหลว
พลังมันต่างกันเกินไป และหานเซี่ยวก็เตรียมการมาดีมาก กอดด์ทำอะไรไม่ได้
เมื่อลำแสงเจาะทะลุตัวเขาอีก กอดด์ก็ทนไม่ไหวอีก เหมือนนกไร้ปีก เขาทรุดตัวลงกับพื้น เลือดไหลจากทั้งตัว กลายเป็นแอ่ง
หานเซี่ยวสลายเทพจักรกลและลอยลงข้างกอดด์ กอดด์ยังไม่ยอมแพ้ เขาลากร่างที่บาดเจ็บหนัก คลานไปบนพื้น ลากรอยเลือดไว้ด้านหลัง
“…ยอมแพ้ซะ”
หานเซี่ยวมองหน้าต่างสถานะและยืนยันว่ากอดด์อยู่ในสถานะใกล้ตายแล้ว เขาส่ายหัว ถอนหายใจ ก้มลง จับคอกอดด์ แล้วยกทั้งตัวขึ้น
เท้าของกอดด์ลอยเหนือพื้น เขาไม่มีแรงขัดขืน เขาจ้องหานเซี่ยว ตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ในที่สุดเขาก็ได้กลับเข้าอาณาจักรผู้อยู่เหนือ เขามีอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวัง และเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย
แต่ทว่า เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลังการเก็บตัวและเติบโตมานาน ทันทีที่เขาปรากฏในโลกที่เต็มไปด้วยความหวัง เขาจะพบแบล็คสตาร์ ผู้ค้นพบตัวตนเขาและทำลายแผนของเขา
เขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้นี้ได้!
เขายังมีอนาคตที่สดใส!
เขายังมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่!
การวางแผนทั้งหมดของเขาตลอดหลายปี ความทะเยอทะยานตลอดชีวิต…
ทั้งหมดนั้นกำลังจะพินาศ…
เขารับไม่ได้!
เขายอมไม่ได้!
หานเวี่ยวมองสีหน้าบิดเบี้ยวของกอดด์และส่ายหัว
“ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับว่าเจ้าเป็นเทพเอสหรือไม่ มันก็ไม่เปลี่ยนความจริง ฉันทำแบบนี้กับแกไม่ใช่เพราะเหตุผลส่วนตัว ถ้าสิ่งนั้นไม่เกิดขึ้น ฉันก็ไม่สนใจเรื่องที่แกล้างประวัติและเข้าร่วมกับจักรวรรดิ เหนือสิ่งอื่นใด ฉันไม่ใช่นักบุญ ฉันไม่ใช่คนตัดสินบาปของแก”
“แต่ฉันรู้ว่าแกมีความแน่วแน่แค่ไหนกับสิ่งที่อยู่อีกด้านของรูหนอน ฉันไม่สามารถปล่อยให้แกเคลื่อนไหวอย่างอิสระภายในจักรวรรดิได้ นั่นไม่เพียงเป็นภัยคุกคามกับฉัน แต่รวมถึงจักรวาล”
“แม้วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า แต่แกจะเป็นตัวเร่งมันให้เกิด และนั่นอาจทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง ตราบเท่าที่มีโอกาสแข็งแกร่งขึ้น แกไม่สนใจว่าจะสู้กับใคร แต่สำหรับฉัน….ฉันไม่ชอบลงมือตอนภัยคุกคามปะทุแล้ว”
รูม่านตาของกอดด์หดลง
เขาอยากถามหานเซี่ยวว่าเขารู้อะไรและเปิดปากแต่ก็ไม่พูดออกมา เขาไม่อยากทิ้งหลักฐานที่อาจทำให้เกิดข้อสงสัย
“แบล็คสตาร์…จักรวรรดิจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”
กอดด์พูดประโยคเดิมซ้ำ
เมื่อเห็นว่ากอดด์ยังไม่ยอมรับอะไร หานเซี่ยวก็รู้ว่ามันจะไม่เกิด เขาเปิดพลังจักรกล อนุภาคนาโนขยายเข้าไปในตัวกอดด์ ห่อหุ้มร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว กลายเป็นอุปกรณ์กักขังทรงกลม
จากนั้นหานเซี่ยวก็เปิดใช้กาลอวกาศแอมเบอร์ ค่อยๆผนึกอุปกรณ์กักขังนี้ จากนั้นก็คิดและพูด”รวมครั้งนี้ นี่เป็นครั้งสามแล้วที่แกตกอยู่ในมือฉัน”
ก่อนกอดด์จะได้ตอบสนองหานเซี่ยวก็สร้างอำพันได้สมบูรณ์
บูซ!
วินาที่ต่อมา อำพันก็ก่อตัวสมบูรณ์
อุปกรณ์ทั้งหมดปิดผนึก จากด้านนอก จะเห็นแค่คุกจักรกลทรงกลมด้านในอำพัน สิ่งที่อยู่ด้านในมันมองไม่เห็น
ตอนนี้ ในที่สุดหานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอก
“เรียบร้อย..”
เหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ฆ่ากอดด์ก็เพื่อให้ตัวเองมีที่ว่างสำหรับคำอธิบายตอนโดนเปิดโปง อีกเหตุผลคือเขาไม่อยากให้กอดด์มีโอกาสคืนชีพโดยวิหาร สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เขาไม่อยากให้ความสามารถเอสเปอร์ความเสีย่งสูงของเทพเอสเสียเปล่า!
เมื่อกาลอวกาศแอมเบอร์ลบวิญญาณของกอดด์ไป เขาสามารถให้เฟย์ดินใช้สลับวิญญาณและย้ายวิญญาณของบางคนเข้าไปในร่างกอดด์ การใช้สมบัติจักรวาลทั้งสองนี้ร่วมกันเป็นสิ่งที่เขาอยากทดสอบมาโดยตลอด
หรือเขาอาจรอให้’เทพเอสน้อย’อีวานเติบโตและดูดความสามารถเอสเปอร์ของกอดด์ไป
เขายังรอได้จนกว่าเขาจะเชี่ยวชาญเทคโนโลยีเฟลอนและลอบทำให้กอดด์เป็นเฟลอน แต่ทว่า ผลข้างเคียงมากเกินไป สำหรับว่ากอดด์จะฟื้นคืนชีพได้ไหมหลังเขาทำเรื่องทั้งหมดนี้ หานเซี่ยวเองก็ไม่รู้ เขาไม่เคยลอม เขาจึงไม่มีทางรู้
ถ้ากอดด์สามารถคืนชีพได้ ก็จะมีโอกาสที่เขาจะโดนเปิดโปง ในอนาคต เมื่อจักรวรรดิพบวิหาร พวกเขาต้องลองคืนชีพสมาชิกสายตรงของพวกเขาผ่านวิธีการนี้แน่
แต่ทว่า ใครจะรู้ว่าตอนนั้นจะเป็นไง?แถม เขาสามารถชะลอการมาถึงของวันนั้นได้ และมันก็ง่าย ก่อนเขาจะมั่นใจในการรับมือกับข้อกล่าวหาของจักรวรรดิ เขาไม่สามารถฆ่ากอดด์ และทำได้แค่ขังเขาไว้ ค่อยปล่อยเขาออกมาทุบตีและทำให้แน่ใจว่าวิญญาณของเขาจะไม่โดนลบ!
แบบนี้ กอดด์จะไม่ตาย และแน่นอน เขาไม่มีวันฟื้นคืนชีพได้!
โหดเหี้ยม อำมหิต น่ากลัว ทำไมฉันถึงเหมือนตัวร้ายมากขึ้น?
หานเซี่ยวลูบแก้ม เขาพูดล้อตัวเองในหัวเงียบๆก่อนกลายเป็นจริงจัง
การจับเทพเอสแค่จุดเริ่มต้น สิ่งสำคัญกว่าที่ต้องทำคือรับมือกับพายุความโกรธเกรี้ยวของจักรวรรดิที่จะก่อตัวขึ้น!
“ฉันทำสิ่งที่ต้องทำแล้ว ตอนนี้ฉันจะต้องรอให้พายุเริ่ม….เห้อ ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายเอง”
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆที่เขาคาดเดาไม่นานมานี้ หานเซี่ยวก็ถอนหายใจ เปิดหน้าต่างสถานะและมองภารกิจ
ภารกิจลับ [ความลับของกอดด์] เสร็จสมบูรณ์อย่างน่าแปลกใจ
ข้อกำหนดภารกิจคือการหาความลับของกอดด์และหานเซี่ยวก็ไม่รู้เกณฑ์ เขาชัดเจนว่าไม่พบหลักฐานแถมกอดด์ก็ไม่ยอมรับ มันง่ายขนาดนั้นเลย?
อืม คามจริงที่ฉันกระทืบเขาอาจเป็นเหตุผลหลักให้สำเร็จ….. เขาควบคุมกองทัพจักรกลและปูพรมมิติที่สองนี้จนกระทั่งทั้งมิติพังทลาย กำจัดร่องรอยทั้งหมด
หลังเสร็จสิ้น หานเซี่ยวก็ไม่เสียเวลาอีก เขาเรียกจักรกลคืน สวมชุดราชา ตรงกลับไปวังแบล็คสตาร์และพบเฟย์ดินในห้องสมุด
เฟย์ดินแหงนหน้า มองหานเซี่ยวแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปสนใจหนังสือในมือ ปล่อยให้หานเซี่ยวลูบคลำตัวเขาตามใจชอบ
หลังได้รับโชคมากมาย หานเซี่ยวก็กลับไปห้องฝึกส่วนตัว ถูมือด้วยความตื่นเต้นและเลือกจบภารกิจ
[ความลับของกอดด์]สำเร็จ!
ท่านได้รับ[บัตรอัญเชิญตัวละคร-กอดด์]
บัตรอัญเชิญตัวละคร-กอดด์ : [วิเคราะห์พลังงาน] -ท่านสามารถวิเคราะห์หลักการและโครงสร้างของรูปแบบพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการควบคุมพลังงาน การใช้ 0/4 ท่านได้รับ : สุ่มหนึ่งในความสามารถ/พรสวรรค์ของกอดด์
หมายเหตุ : กอดด์เป็นเอสเปอร์ ความสามารถบางส่วนจะปรับให้เข้ากับสายท่าน
กำลังสุ่ม..สำเร็จ!
โปรดเลือกหนึ่งจากห้าตัวเลือกด้านล่างเป็นรางวัล :
1.[คลื่นกระแทกพลาสม่า] -ความสามารถ : ปล่อยลำแสงพลาสม่าและสร้างความเสียหายให้ศัตรู พลังของมันขึ้นอยู่กับสติปัญญา ลี้ลับและประสิทธิภาพกำลังขับพลังงาน ค่าใช้ขั้นต่ำต่อวินาที : 5พลังงาน คูลดาวน์ 4 วินาที
[เสริมพลัง] – ความสามารถ : ใช้พลังงาน เสริมเซลล์และเพิ่มความสามารถต่อสู้ระยะประชดอย่างต่อเนื่อง ผลขึ้นอยู่กับพละกำลัง ความเชี่ยวชาญ ความทนทาน ลี้ลับและประสิทธิภาพกำลังขับพลังงนา ค่าใช้ขั้นต่ำต่อวินาที : 10 พลังงาน คูลดาวน์ 12 วินาที 3.[การเติบโตทางวิญญาณ] -พรสวรรค์ : +15%ลี้ลับ +10%เสน่ห์
4.[วงแหวนรวมพลังงาน] – ความสามารถ : ดูดพลังงานรอบตัวท่านเพื่อฟื้นพลังงาน ค่าใช้ : 2 ความแข็งแกร่งต่อวินาที คูลดาวน์ 0 สามารถเปิดใช้ได้ตลอดเวลา
[กายพลังงานสมบูรณ์] – พรสวรรค์ : ท่านมีความสัมพันธ์อย่างน่าประหลาดใจกับพลังงานทุกรูปแบบ +120%สัมผัสพลังงานพื้นฐาน +90%ความต้านทานพลังงานพื้นฐาน +60%ประสิทธิภาพการดูดพลังงานพื้นฐาน +30%ความเสียหายจากการโจมตีพลังงาน +20%พลังงานสูงสุด