The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1240 การผจญภัยของโซโรคิน 1
ณ สถานที่หนึ่งในแถบจักรวาลรกร้าง กองยานติดอาวุธกำลังเคลื่อนผ่านอวกาศ โซโรคินยืนในห้องบัญชาการของยานหลักและมองไปในกาแล็กซี่
กองยานติดอาวุธนี้คือกลุ่มทหารรับจ้างที่เขาก่อตั้งขึ้นลับๆในทะเลทรายดวงดาวโบราณ นอกจากพวกระดับสูงไม่กี่คน ไม่มีใครรู้ว่านายพวกเขาคือกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด เพื่อภารกิจนี้ โซโรคินได้ลอบสร้างร่างแยกที่ดูเหมือนเขาทุกประการและทิ้งไว้ในศูนย์ใหญ่กลุ่มการเงิน จากนั้นก็ออกมานำกลุ่มทหารรับจ้างนี้ไปยังตำแหน่งของไฟวิญญาณ
กลุ่มนี้ไม่รู้เป้าหมายแน่นอนของการเดินทางนี้ พวกเขาแค่ทำตามคำสั่งเบื้องบน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โซโรคินจึงสวมหน้ากาก นอกจากผู้นำข้างเขา ไม่มีใครในกองยานที่รู้ว่าโซโรคินอยู่บนยานพวกเขา “ปฏิกิริยายิ่งรุนแรงขึ้น หมายความว่าฉันเข้าใกล้แล้ว..”
โซโรคินมองแผนที่ดาว ภายในเส้นทาง ข้างหน้ามีดาวร้างแค่ดวงเดียว เขามั่นใจว่าไฟวิญญาณอยู่บนดาวนี้
บนแผนที่ดาว ดาวนี้ไร้ชื่อ มีแค่หมายเลข มันถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นดาวไร้ทรัพยากรและไม่มีคุณค่าสำหรับการพัฒนา
หลังกองยานเดินหน้าและอยู่ห่างจากดาวนี้พอสมควรแล้ว โซโรคินก็หยุดกองยาน
“ยานทั้งหมด หยุด ใช้อุปกรณ์สังเกตการณ์เพื่อสังเกตสถานะพื้นผิวของดาวนั้น”
“..เรียบร้อยแล้วครับ หัวหน้า ทุกอย่างเป็นปกติ มันเป็นดาวร้าง ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ รายละเอียดยังต้องมีการตรวจสอบภาคสนาม”
โซโรคินพยักหน้าและสั่ง”อืม ส่งยานขับเข้าไป ทุกคน อยู่ในโหมดซ่อนตัวไว้” เขามีนิสัยระมัดระวังตลอดเวลา เขากังวลว่าไฟวิญญาณอาจมีเจ้านาย เขาจึงตัดสินใจทดสอบมันก่อน ต่อให้มันเป็นดาวร้าง เขาก็ยังต้องยืนยันซ้ำว่าไม่มีอันตรายซุ่มซ่อน
ยานเบี่่ยงออกจากกองยานและบินไปดาว โซโรคินลอบใช้ความสามารถเขาและครอบงำกัปตันยาน
ไม่กี่อึดใจต่อมา ในที่สุดยานก็ไปถึงดาว มันเปิดใช้เครื่องตรวจจับทุกชนิดและเริ่มตรวจสอบใต้ดิน แต่ทว่า หลังผ่านไปชั่วโมง ผลลัพธ์ทั้งหมดก็เป็นปกติ
โซโรคินรับรู้ถึงปัญหาทันทีและหรี่ตาลง
ตามความรู้สึกเขา ไฟวิญญาณอยู่ที่นั่น ที่ไหนสักแห่งใต้ดิน ไม่มีทางที่มันจะไม่พบเว้นแต่จะมีคนติดตั้งอุปกรณ์ไว้ใต้ดิน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามีคนอยู่จริง
“ต่อให้เครื่องสแกนจะเลี่ยงได้ วัตถุจริงก็ไม่อาจซ่อน”
ร่างสิงสู่ของโซโรคินวาดแบบจำลองใต้ดินคร่าวๆของดาว จากนั้นก็สั่งลูกยานให้หยุดสแกนและส่งหุ่นยนต์ขุดพื้นแทน เขาวางแผนขุดหลุมตรงไปยังที่อยู่ของไฟวิญญาณ
แต่ทว่า วินาทีที่หุ่นยนต์ถูกส่งออกจากยาน ยานก็พลันกลายเป็นอัมพาต เครื่องยนต์มันดับ มันตกลงจากฟ้า ลูกยานภายในห้องล้มลง กระแทกทุกอย่างรอบตัว
โซโรคินระงับสัญชาตญาณเขาและไม่ใช้ความสามารถใดด้วยร่างนี้ เมื่อยานกำลังจะกระแทกพื้น ประตูเวทย์สีฟ้าม่วงก็ปรากฏด้านล่างมัน ยานตกลงไปในนั้นและหายไป
ในเวลาเดียวกัน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างที่อยู่ไกลออกไปในยานหลักก็รีบรายงานร่างจริงของโซโรคิน
“ท่านครับ เราเพิ่งขาดการสื่อสารกับยานลาดตระเวน มันพลันหายไป เราควรไปดูไหมครับ?”
“ไม่จำเป็น ถอยกลับไปก่อน” ดวงตาโซโรคินเป็นประกาย
มันดูเหมือนจะมีศัตรูจริง เนื่องจากเขาครอบงำกัปตันยานลาดตระเวน เขาจึงสามารถสอดแนมศัตรูได้
ตอนนี้ วิสัยทัศน์กับสัมผัสของร่างสิงสู่กำลังส่งผ่านกลับมายังสมองเขา
หลังยานตกลงในประตูเวทย์ ราวกับมันตกลงไปบนแท่นบางอย่าง มันไม่กระแทก แต่แรงสั่นก็ทำให้คนในนั้นล้มลงอีกครั้ง
ลูกยานกุมหัวที่เลือดไหล พวกเขารีบกดปุ่มบนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก”กัปตันครับ การทำงานทั้งหมดของยานเป็นอัมพาต เราขาดการติดต่อกับคนอื่น!”
โซโรคินทำเป็นตื่นตระหนก”ลงจอดก่อน เปิดประตูด้วยมือและออกไปดูว่าเราอยู่ไหนกัน”
เมื่อได้รับคำสั่ง ลูกยานก็รีบเปลี่ยนชุดและสวมชุดเกราะสำรวจภาคพื้น ระงับความประหม่าในหัวใจ เปิดประตูอย่างระมัดระวัง หวือ!
เสียงแรงกดอากาศกดทับทันทีที่ประตูเลื่อนเปิด หลังเห็นสิ่งที่อยู่ด้านนอก ทุกคนก็แข็งค้าง
นี่คือสถานที่ที่เหมือนลานจอดใต้ดิน ด้านนอกคือกลุ่มนักรบชุดจักรกลที่ถือปืนพลังงานไว้ เล็งปากกระบอกปืนใส่พวกเขา
“นี่มันที่ไหนกัน?”
“พวกแกเป็นใคร?”
ลูกยานตกใจ
ผู้นำของนักรบชุดจักรกลด้านนอกพูดเสียงเย็น”ปลดอาวุธเดี๋ยวนี้ ยกมือขึ้น และเดินออกมา ไม่งั้นเราจะยิง!”
องค์กรลับ?พวกเขาควรซ่อนตัวอยู่ในใต้ดินของดาวนี้
โซโรคินไม่เห็นสัญลักษณ์ขององค์กรบนชุดจักรกลของคนเหล่านี้ เขาแกล้งทำเป็นขี้ขลาด เขาตะโกนบอกลูกยานให้โยนอาวุธทิ้งและยกมือขึ้น ไม่ช้า พวกเขาก็โดนจับและขังแยก โซโรคินอยู่คนเดียวในห้องสอบปากคำ
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออก นักรบชุดจักรกลมาที่นี่เพื่อสอบปากคำเขา แต่ยังสวมหมวก นั่งลงตรงข้ามและพูด”ฉันถาม แกตอบ ไม่งั้นแกตาย เข้าใจไหม?”
โซโรคินทำเป็นกลัวและพยักหน้า
“ฉันได้ค้นบันทึกของแกและพบว่าแกเป็นคนของกลุ่มทหารรับจ้าง บอกฉัน ทำไมพวกแกถึงมาที่นี่?”
“ผะ-ผมไม่รู้ ผมแค่ทำตามคำสั่ง”
โซโรคินจงใจพูดติดอ่าง แต่ลอบโล่งใจ
ผ่านการตรวจสอบบันทึกและสอบปากคำลูกยาน องค์กรลับนี้ต้องรู้ว่ามีทหารรับจ้างคนอื่นอยู่ด้านนอกด้วย โชคดี ด้วยความระมัดระวัง เขาได้วางกองยานที่เหลือไว้ไกลและสั่งให้พวกเขาถอยห่างกว่าเดิมเมื่อยานขาดการติดต่อ
ผู้สอบปากคำถามหลายคำถาม คำตอบของโซโรคินมีทั้งจริงและหลอก
เขาเก็บประสบการณ์การแสดงมาหลายชีวิตแล้ว เขาจึงเป็นนักแสดงระดับแนวหน้าของจักรวาล
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้สอบปากคำก็ถามคำถามจบและกำลังจะลุกขึ้น ออกห้อง
ครั้งนี้ ดวงตาของโซโรคินสว่างวาบ ผ่านตาเขา วิญญาณของโซโรคินพุ่งเข้าไปในตัวของผู้สอบปากคำและพยายามยึดครอง
เขาต้องรู้เกี่ยวกับองค์กรนี้ให้มากขึ้น ดังนั้นการครอบงำใครบางคนจึงเป็นตัวเลือกที่ดี
โซโรคินใช้ความสามารถเขาในชั่วพริบตา มันลอบเร้นมาก ในระยะใกล้เช่นนี้ ผู้สอบปากคำที่ไม่ใช่ภัยพิบัติย่อมไร้การป้องกัน ตัวของเขาโดนยึดทันที
หลังโซโรคินยึดร่าง ก่อนเขาจะได้รู้สึกยินดี เขาก็ต้องตกใจที่พบไฟสว่างในจิตใจของร่างนี้
“ผนึกไฟวิญญาณ?!” วินาทีที่ความคิดของผู้สอบปากคำคนนี้โดนยึดด้วยจิตสำนึกของคนนอก ราวกับมันพบบางสิ่ง ไฟดวงนี้พลันแผดเผาอย่างรุนแรงเหมือนมันกำลังจะเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงและจุดไฟในจิตใจของร่างนี้
สีหน้าโซโรคินเปลี่ยนไป ในชั่วพริบตา เขาปรับความถี่วิญญาณเขา ทำการปรับเปลี่ยนซับซ้อนหลายชุด และปกคลุมไฟดวงนี้ด้วยพลังวิญญาณของเขา
วินาทีต่อมา ไฟดวงนี้ก็ค่อยๆสงบลงแต่มันยังดูไม่มั่นคง ราวกับมันพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ
เมื่อเห็น โซโรคินก็โล่งใจ
เขารู้ดีถึงพลังของไฟวิญญาณ มันสามารถวางตราประทับประเภทนี้กับคนอื่นเพื่อป้องกันพวกเขาจากการรั่วไหลความลับหรือค้นความทรงจำพวกเขาได้ เมื่อถูกกระตุ้น ตราปราะทับจะเผาความทรงจำที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เจ้าของไฟวิญญาณจะรู้สึกได้เช่นกัน
นี่ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือ แต่ไม่ใช่กับโซโรคิน
เขาเคยเป็นนายของไฟวิญญาณ เขาจึงรู้ทุกอย่างที่ควรรู้ถึงความสามารถมัน ด้วยความพิเศษของความสามารถเอสเปอร์เขา เขาสามารถหลบผนึกไฟวิญญาณได้ชั่วคราว เขาคือคนไม่กี่คนทีท่สามารถแทรกซึมเทพอำนวยได้ในจักรวาลนี้
แม้เขาจะหลอกตราประทับไฟวิญญาณได้สำเร็จและไม่ปะทุทันที เขาก็รู้ว่าเขาจะหลอกมันได้แค่ช่วเงวลาหนึ่งเท่านั้น ถ้าเขาดึงพลังวิญญาณของเขาในร่างนี้กลับ ผนึกจะปะทุทันที และนายคนปัจจุบันของไฟวิญญณคงรู้ตัว
นอกจากนี้ เขายังไม่กล้าอ่านความทรงจำของร่างนี้ ไฟวิญญาณได้ผนึกความทรงจำที่เกี่ยวข้องไว้เหมือนกับดักต่อเนื่อง เมื่อกระตุ้น เขาจะไม่สามารถหลอกผนึกไฟวิญญาณได้และจะโดนเปิดเผยตัวตน
“เกือบไป อย่าบอกนะว่าสมาชิกทุกคนขององค์กรลับนี้มีผนึกไฟวิญญาณ…” โซโรคินตื่นตัว เขารู้สึกประหลาดใจ
นั่นหมายความว่านายของไฟวิญญาณควรเป็นผู้นำขององค์กรลับนี้
ด้วยการใช้วิธีนี้ สมาชิกทุกคนจึงไม่มีทางรั่วไหลความลับได้..มันมีความลับแบบไหนกันถึงต้องระมัดระวังขนาดนี้?องค์กรนี้ทำอะไร?
ขณะที่เขาควบคุมร่างใหม่ให้ออกห้อง เขาก็ครุ่นคิดในหัว แม้เขาจะอ่านความทรงจำร่างนี้ไม่ได้ เขาก็สามารถสังเกตสถานการณ์ขององค์กรได้
ทันทีที่เขาเดินออกห้องสอบปากคำ บางคนก็เดินมา ตามกฏของ’ยิ่งพูดยิ่งพลาด’ เขาจึงส่งรายงานสอบปากคำให้โดยไม่พูดอะไรสักคำ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสั่งเขาต่อ เขาจึงออกไปจากบริเวณนี้
เขาเดินไปทั่วสักพักและตระหนักว่าฐานขององค์กรใหญ่มากและมีสมาชิกจำนวนมาก แต่ไม่มีสัญลักษณ์องค์กรเลย โซโรคินไม่กล้าถามใคร เขาทำได้แค่เดินสุ่มๆ แต่ททว่า ระดับเข้าถึงของร่างนี้ดูเหมือนจะต่ำมาก หลายพื้นที่เข้าถึงไม่ได้ โดยเฉพาะทางที่ไฟวิญญาณอยู่ มันอยู่ในส่วนต้องห้าม
“นี่คงไม่ได้ผล ฉันจะไม่พบข้อมูลล้ำค่าใด และฉันจะโดนเปิดโปงไม่ช้าก็เร็ว..ดูเหมือนฉันต้องผลักดัน”โซโรคินพึมพำ
จากที่เขามอง องค์กรลับนี้จริงจังกับการเก็บความลับมาก เมื่อมันเปิดเผย มันน่าจะเปลี่ยนตำแหน่งมัน ดังนั้น เขาจึงวางแผนปล่อยให้กลุ่มทหารรับจ้างโจมตีดาวนี้เพื่อบังคับให้องค์กรนี้แสดงพลังของมันและเริ่มอพยพ จากนั้น เขาจะมีโอกาสพบความลับขององค์กรนี้มากขึ้น รวมถึงตัวตนของนายแห่งไฟวิญญาณ
สำหรับการบาดเจ็บล้มตายของกลุ่มทหารรับจ้าง เขาไม่สนใจเลย
เมื่อคิดได้แบบนัั้น ร่างจริงของโซโรคินก็พลันออกคำสั่ง”ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ส่งกองยาน 70%ไปปูพรมดาวนั้น อีก 30% ที่เหลือให้อยู่ข้างหลังกับฉัน”
“รับทราบ”
เขาออกคำสั่งทันที
กองยานติดอาวุธส่วนหนึ่งเดินหน้า เข้าสู่ระยะโจมตีหลังผ่านไปสักพัก จากนั้นก็เปิดใช้อาวุธระยะไกลทุกชนิดทันที ขีปนาวุธขนาดใหญ่ยิงออกไป บินใส่เป้าหมาย ลากไฟเป็นหางยาวไว้ด้านหลัง
บูซ!
ทันใดนั้น ม่านพลังเวทย์สีฟ้าก็ห่อหุ้มทั้งดาว หยุดการโจมตีทั้งหมด
ก่อนกองยานจะได้ยิงต่อ ยานรบทั้งหมดที่ส่งไปโจมตีดาวก็เสียการควบคุมและเริ่มโจมตีกันเองเหมือนโดนใครบางคนควบคุม
ในเวลาเดียวกัน วงแหวนไฟก็สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ที่ขยายจากดาว เจาะกองยานทั้งหมด
วินาทีต่อมา วิญญาณของลูกยานกว่า 90%ก็โดนแผดเผา พวกเขาตายคาที่ กองยานติดอาวุธที่ส่งไปโจมตีดาวเสียความสามารถต่อสู้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที!
ครั้งนี้ รูพลันเปิดออกบนผิวดาวเหมือนลานจอดเครื่องยน ยานอวกาศไร้สัญลักษณ์บินออกมาและล้อมยานที่เหลือทั้งหมด
“เร็วขนาดนี้เชียว?”สีหน้าของโซโรคินดำมืด
เขารู้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างไม่ใช่คู่ต่อกร แต่ไม่คิดว่าจะโดนกำจัดเร็วขนาดนี้
แต่ทว่า ผ่านการต่อสู้ เขายังได้รับข้อมูลที่น่าตกใจ
จอมเวทย์ ช่างกลเสมือน และนายแห่งไฟวิญญาณ..องค์กรนี้มีผู้อยู่เหนืออย่างน้อยสามคน!
โซโรคินหวาดกลัว
องค์กรนี้ยากจะหยั่งถึงเกินไป โชคดี ฉันระวังตัวพอ ถ้าฉันบุกไปซึ่งๆหน้าเหมือนนักสู้…
ดีจังที่ฉันเป็นคนขี้ขลาด!
เมื่อคิดได้ เขาก็รีบสั่งกองยานที่เหลือให้ถอยหนี
ในเวลาเดียวกัน ร่างสิงสู่ของโซโรคินในเทพอำนวยยังได้รับคำสั่งโยกย้ายฉุกเฉินเช่นกัน
ในฐานะใต้ดิน สมาชิกองค์กรขนย้ายทรัพยากร ทำลายสิ่งก่อสร้างและเปิดเครื่องยานอวกาศอย่างรวดเร็ว
ร่างของโซโรคินยังโดนเรียกโดยเจ้านาย เขารีบวิ่งไป ทำหน้าที่เขาที่ท่าและสังเกตสภาพแวดล้อม
ไม่นาน เขาก็สัมผัสได้ว่าตำแหน่งของไฟวิญญาณกำลังใกล้เข้ามา
ไม่ช้า เสียงเท้าเร่งรีบก็ดังจากอุโมงค์ ตามด้วยเสียงมากมาย ด้วยความตกใจ บางเสียงกลับคุ้นหูเขา
“แปลก กองยานนั้นมันอะไร?ทำไมพวกมันถึงโจมตีเรา?”
“พวกมันมาที่นี่เพื่อเรา?พวกมันพบเรา?”
“ไม่มีทาง พวกมันกระจอกไปที่จะมาสู้กับเรา มันดูเหมือนกองยานนั่นจะผ่านมาและพบฐานเราเข้า..’
“เราโชคร้ายขนาดนั้นเลย?”
เสียงเข้าใกล้ขึ้น ไม่ช้า กลุ่มคนก็เดินออกทางเดิน บ่นขณะเดินไปทางยานอวกาศ
เมื่อสัมผัสได้ว่านายแห่งไฟวิญญาณอยู่ในกลุ่มนี้ โซโรคินก็หันไปมองโดยไม่รู้ตัว
แค่มอง ความคิดของเขาก็ขาวโพลน!
‘ราชาสงคราม’ผานกอน ‘เทพจอมเวทย์’บีเกอร์ ‘ราชินีแห่งความรุนแรง’ท่านหญิงราคะ..พวกเขาล้วนเป็นบรรพชนที่เป็นคนรุ่นเดียวกับเขา แม้กระทั่งบีเกอร์ที่ฆ่าเขาก็ยังอยู่ตรงนั้น!
พวกเขาตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?!
ทำไมพวกเขาถึงยังมีชีวิต?!
ขณะที่ความคิดของโซโรคินกำลังดำเนินอย่างดุเดือด พลังงานที่เขาใช้สะกดผนึกไฟวิญญาณก็ไม่มั่นคง
วินาทีต่อมา ผนึก็แตกปะทุ พลันแผดเผาวิญญาณของเขา
“อืม?!”
ผู้รักษาสัจจะที่เดินนำเหล่าบรรพชนหันมา เห็นร่างแยกโซโรคินล้มลงกับพื้น
“มีคนกระตุ้นผนึกไฟวิญญาณ..”
ความตื่นเต้นที่ควบคุมไม่ได้ปรากฏในสายตาผู้รักษาสัจจะ
หรือว่า..สายลับในตำนานจะปรากฏตัวแล้ว?
ฮ่าๆ!มันผ่านมาหลายปีจนฉันเกือบหลงคิดว่าแกไม่มีตัวตนอยู่จริง!
ในที่สุดแกก็เผยตัวออกมา!��