The Legendary Mechanic - ตอนที่ 316
ยุคแห่งความโกลาหลที่ใกล้เข้ามา 2
หานเซี่ยวสามารถมอบหมายภารกิจได้ทุกประเภท และมันก็จัดอยู่ในหมวดยากกว่าปกติ พวกมันมักเป็นภารกิจขนาดใหญ่ ที่ทุกการเคลื่อนไหวของผู้เล่นจะส่งผลถึงผลลัพธ์สุดท้าย ดังนั้น พวกเขาจึงต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้ภารกิจบรรลุ
เขาได้เห็นภารกิจบางอย่างที่อาจส่งผลต่อเวอร์ชั่น ซึ่งผู้เล่นนับล้านได้สู้กันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน การกระทำของผู้เล่นทุกคนจะได้รับแต้มสะสม และภารกิจก็ต้องใช้แต้มนับสิบล้านเพื่อให้บรรลุ เมื่อเสร็จ มันจะเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวทั้งหมด
[ป้อมปราการสุดท้าย]คือภารกิจที่หานเซี่ยวสร้างเพื่อให้ผู้เล่นยังคงปกป้องเขตอนุรักษ์สามหลังเขาออกดาวเคราะห์ ในคำแนะนำภารกิจ เขาใบ้ว่าจะมีหายนะมาเยือน แต่ก็คลุมเครือ อย่างไรก็ตาม มันพอที่จะเพิ่มความสนใจของผู้เล่นขณะที่พวกเขาพยายามคาดเดาเรื่องราวในอนาคต
หานเซี่ยวไม่ได้บอกใบ้อย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้เล่นคิดว่านี่เป็นการรั่วไหลของข้อมูลจากภารกิจ ซึ่งทำให้มันน่าเชื่อถือ
ภารกิจทดสอบที่เขาเผยแพร่ก่อนหน้าก็แค่การอุ่นเครื่อง
การหยุดภารกิจคือวิธีพิเศษที่ภารกิจจะยังไม่เริ่มจนกระทั่งภัยพิบัติมาถึง จากนั้นหานเซี่ยวก็จะสามารถกระตุ้นภารกิจได้ นี่เหมือนเหยื่อสำหรับผู้เล่นเพราะมันล่อลวงความอยากรู้อยากเห็นได้
เงื่อนไขอย่างหนึ่งในการออกภารกิจคือหานเซี่ยวต้องอยู่ไม่ไกลจากผู้เล่น หานเซี่ยวได้จัดงานทดสอบขึ้นเพื่อจุดประสงค์นี้ หลังเขาออกดาว มันเป็นไปไม่ได้อีกที่เขาจะให้ภารกิจกับผู้เล่น แต่ตอนนี้เขาสามารถกระตุ้นภารกิจจากระยะไกลได้โดยการใช้ภารกิจนี้
ยังมีอีกหลายวันก่อนฉันจะออกเขตอนุรักษ์ ฉันมีเวลาพอจะเดินรอบเมืองและให้ภารกิจกับผู้เล่นนับแสน หานเซี่ยวคิด
ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าผู้เล่นจะต้องอยู่รอบๆเขตอนุรักษ์สามราวกับมันเป็นศูนย์หลัก ตอนต้นของเวอร์ชั่น2.0 ผู้เล่นเหล่านีจะช่วยปกป้องเขตอนุรักษ์สามได้แน่
…
สำหรับผู้เล่น ข่าวน่าตกใจตามมากันเป็นคลื่น
เนื่องจากหานเซี่ยวอยู่ในความมืดมาสักพัก หลังเนื้อเรื่องหลักองค์กรต้นกำเนิดจบลง ผู้เล่นก็เชื่อการวิเคราะห์ของ[กาแล็กซี่ไทม์] คิดว่าตัวละครที่ไม่มีเนื้อเรื่องอีกต่อไปเป็นตัวละครปกติ
แต่หลังเงียบอยู่นานกว่าครึ่งปี ปีศาจทมิฬก็เริ่มกลับมาอีกครั้งและการกระทำเขาก็ทำให้ผู้เล่นตกตะลึง
เขาต้องการนำผู้เล่นท่องอวกาศ!
ไม่เพียงแค่นั้น ปีศาจทมิฬยังออกภารกิจรางวัลรวม และคำแนะนำก็ใบ้ถึงภัยพิบัติที่จะกวาดล้างดาวเคราะห์อความารีน
NPC’ล้าสมัย’ได้หวนคืนอีกครั้ง ชวนให้ผู้เล่นนึกถึงตอนที่ปีศาจทมิฬครองโลกหลังเกมเปิดตัว ฉากนี้ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา
บนฟอรั่ม ผู้เล่นนับไม่ถ้วนพากันพูดถึงภัยพิบัติ
“มนุษย์ต่างดาวบุก?อีกสงครามจากหกประเทศที่ทำลายทั่วดาว?หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ?”
“ฉันคิว่านี่อาจเป็นการเริ่มของเนื้อเรื่องใหม่ ลองดูเนื้อเรื่องบนดาวอื่นสิ ทั้งหมดรุนแรงมาก ส่วนดาวเคราะห์อความารีนก็นิ่งเงียบมานานแล้ว มันถึงเวลาต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นบ้าง!”
“บางคนกล่าวว่าพวกเขาควรรวมกัน และก็ควรแยกกัน’ นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นความรักของหกประเทศงั้นหรอ?”
ขณะที่การถกเถียงกำลังดุเดือด ผู้เล่นคนหนึ่งก็กล่าวโดยไม่มีอะไรข้องเกี่ยว
“เป็นไปได้ไหมว่าปีศาจทมิฬกำลังพยายามหลบหนีภัยพิบัติและนั่นทำให้เขาอยากรีบออกดาวเคราะห์?”
“ไม่มีทาง!ฉันยังจำคำพูดเขาได้ มันคือคำพูดจากปีศาจทมิฬเพื่อรวบรวมกองทัพ และเขาก็กล่าวว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ นั่นไม่ใช่ความกล้ารึไง?”
“หากนั่นคือเหตุผล มันก็ต้องไม่มีความหวังสำหรับเราให้มีชีวิต และนั่นทำให้ปีศาจทมิฬกำลังออกบ้านเกิด ฉันสงสัยว่าภัยพิบัติจะเป็นยังไง..จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องไปมากใช่ไหม?”
“อาจจะไม่ มันเป็นไปได้ว่าปีศาจทมิฬก็แค่กลัว ไม่เห็นว่าเขากำลังพยายามรวบรวมผู้ช่วยเพื่อหลบหนีงั้นหรอ?”
“หยุดล้อเล่นได้แล้ว เขายังเป็นตัวละครหลักในเนื้อเรื่อง เขาทำลายองค์กรต้นกำเนิดด้วยตัวเอง นายคิดว่าเขาจะยังหนีไปงั้นหรอ?”
“อืม สถานการณ์แตกต่างออกไป เรื่องราวของเขากับองค์กรต้นกำเนิดต้องเกี่ยวกับการวางแผน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีประวัติระหว่างเขากับองค์กรต้นกำเนิด พวกเขาเป็นศัตรูกัน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ทุกอย่างเพื่อฆ่ากัน แต่นั่นแตกต่างออกไปสำหรับภัยพิบัติ หากเขามีโอกาสหนี ทำไมเขาไม่ทำ?”
“เอาอีกแล้ว พวกที่ยังคิดว่าเขาคงไม่ปรากฏตัวอีกหลังองค์กรต้นกำเนิดล่มสลาย”
บางคนลุกยืนขึ้นข้างหานเซี่ยว ส่วนบางคนก็ต่อต้านเขา
หานเซี่ยวไม่กังวลเลยเพราะการมีคนขัดแย้งไม่ใช่เรื่องเลวร้าย มันเป็นเพราะความขัดแย้งจึงทำให้คนสนใจเขา ในทางกลับกัน หากทุกคนยกย่องหานเซี่ยวกันหมด งั้นมันก็จะทำให้คนเบื่อง่าย
อย่างไรก็ตาม ขนมปังสุนัขไม่ต้องการให้ผู้เล่นมาดูถูกหานเซี่ยว ขนมปังสุนัขจึงตัดสินใจเริ่มรายการท่องอวกาศ ใหม่ และหากผู้ชมมองว่าเขาเป็นผู้หลบหนี งั้นมันก็จะส่งผลเสียต่อเขา ในทางกลับกัน หากหานเซี่ยวมีเหตุผลที่จะออกไป งั้นการผจญภัยของพวกเขาก็จะจุดไฟในตัวผู้เล่น
เพราะเหตุนั้น ขนมปังสุนัขจึงปล่อยการสนทนาระหว่างหานเซี่ยวและอีกสามคน ซึ่งสามารถเผยเหตุผลการออกเดินทางได้ เพื่อหาทางแก้ปัญหาภัยพิบัติ นี่ทำให้ภาพพจน์ของหานเซี่ยวชัดเจนขึ้น
ตอนท้ายของตอน ขนมปังสุนัขได้ปล่อยมุมมอง”เมื่อฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า หัวใจและวิญญาณฉันก็ถูกดูดกลืน ฉันจะตามปีศาจทมิฬไปยังโลกเหนือดวงดาว และสำหรับสิ่งนี้ ฉันจะสร้างรายการใหม่ที่จะบันทึกช่วงเวลาของการเดินทางในจักรวาลและนำเสนอต่อหน้าพวกคุณ”
เพราะหัวข้อแสนร้อนแรง การเสนอของขนมปังสุนัขจึงลามไปเหมือนไฟป่า จากนั้นผู้เล่นทุกคนก็เข้าใจว่าหานเซี่ยวออกเดินทางไปเพื่อช่วยพวกเขาจากภัยพิบัติ โดยไม่รีรอ ส่วนใหญ่เคารพเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ และยังมีกลุ่มเล็กที่ยังสงสัย
ไม่ว่าทัศนคติของผู้เล่นจะเป็นยังไง พวกเขาต่างก็ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับเหตุการณ์ คิดถึงการเดินทางของหานเซี่ยวผ่านกาแล็กซี่ และก็ตื่นเต้นกับรายการใหม่ของขนมปังสุนัข
ข้อความใหม่นี้จะปรากฏต่อผู้เล่นเท่านั้น องค์กรบนอความารีนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
..
ในหิมะและลมหนาวเย็นบนเทือกเขาในเขตของเรย์เร็น มีสัตว์รป่าจำนวนมากในภูเขาไร้ซึ่งอารยธรรม ไม่มีแม้แต่เมืองเยว และเสียงคำรามของสัตว์ป่าก็ดังก้องในหุบเขา
ฐานปฏิบัติการลับของเรย์เร็นตั้งอยู่ในนั้น
ภายในห้องทดลอง ยานอวกาศของเคอล็อดถูกแขวนกลางอากาศ และมีอุปกรณ์กับสายไฟนับพันรอบยาน ตรวจจับข้อมูลใดๆที่ออกจากยานและนำขึ้นจอ นักวิจัยจำนวนนับไม่ถ้วนมาพร้อมอุปกรณ์
หลังย้ายยานมานานกว่าสิบวัน เรย์เร็นก็ได้ลอบจัดทีมวิจัยไว้ นักวิจัยชั้นนำขของประเทศถูกเกณฑ์มา มีคนปกติและยอดมนุษย์
แม้จะมีคนทำงานร่วมกันมากมาย แต่ความคืบหน้าก็แสนเล็กน้อย เทคโดนโลยีที่สร้างยานอวกาศล้ำสมัยเกินกว่าผู้คนบนอความารีนจะเข้าใจ ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีโกโดร่ายังมีเวทมนตร์อีกด้วย มันแตกต่างจากเทคโนโลยีของอความารีน
สำหรับนักวิจัยที่ไม่เคยเห็นเวทมนตร์ พวกเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน ในสายตาพวกเขา ยานอวกาศนี้ขาดองค์ประกอบและโมดูลที่สำคัญมากมาย และพวกเขาก็ไม่อาจหาแหล่งพลังงานได้ พวกเขาพบบางส่วนที่ดูเหมือนแหล่งพลังงาน บางอันเป็นอะไหล่โบราณ และของเหลวดำที่ดูคล้ายน้ำมันเครื่องก็ถูกเก็บไว้ในหลอดทดลองด้านข้าง