The Legendary Mechanic - ตอนที่ 317
ออกเดินทาง
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเดดินมาพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเครื่องแบบทหาร ชายสูงวัยดูเหมือนผู้นำกล่าวด้วยคิ้วขมวดแน่น”ความคืบหน้าละ?”
“ไม่มีความคืบหน้าเลยครับ”ผู้อำนวยการตอบ”เทคโนโลยียานต่างยากเกินกว่าจะเข้าใจได้ เราไม่อาจไขปริศนาได้เลย เมตรจากอุปกรณ์วัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง”
“งั้นก็คัดลอกเอาไว้ ฉันต้องการแค่อะไรที่เป็นรูปธรรม”
“ขออภัยครับ แต่ส่วนประกอบส่วนใหญ่แปลกเกินไป และเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาใช้อะไรทำ เราพยายามคัดเลือกจารึกบนยาน แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น และยังไม่อาจสตาร์ทเครื่องได้”
“หลังลงทุนมาหลายปี นี่คือคำตอบที่ให้ฉันงั้นหรอ?”ชายสูงวัยกล่าวเสียงเย็น
ผู้อำนวยการหลั่งเหงื่อเย็น”แต่มีสิ่งที่เราค้นพบครับ โปรดตามผมมา”
จากนั้นทั้งกลุ่มก็เดินไปหน้าหลอดทดลองโปร่งใสที่บรรจุของเหลวสีดำ”สิ่งนี้น่าจะเป็นน้ำมันเครื่องที่ยานอวกาศใช้เป็นเชื้อเพลิงครับ มันมีความหนาแน่นสูงและมีความหนืดมาก เราพบลักษณะพิเศษบางอย่างที่คล้ายกับจุลินทรีย์หลังมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ สำคัญสุด ปฏิกิริยามันสามารถผลิตพลังงานได้ครับ”
“จากความเข้าใจเรา โมเลกุลในของเหลวสามารถแยกได้ด้วยตัวมันเองและทำซ้ำพลางรักษามวลดั้งเดิมไว้ จากนั้นโมเลกุลพิเศษจะถูกปล่อยออกมาเป็นพลังงาน กระบวนการนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ หมายความว่ามันสามารถผลิตพลังงานได้โดยไม่ต้องป้อนอะไร เราคิดว่านี่คือแหล่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยอารยธรรมต่างดาว หากวัตถุนี้สามารถแยกโมเลกุลและผลิตพลังงานได้เรื่อยๆ ในทางทฤษฏี มันก็จะสามารถผลิตพลังงานได้ไร้ขีดจำกัด เรายังพยายามทำความเข้าใจกลไกเบื้องหลังกระบวนการ”
ของเหลวดำขยับช้าๆในหลอดทดลอง และเจ้าหน้าที่ชราก็ขมวดคิ้ว
“ทำไมมันถึงขยับด้วยตัวมันเอง?มันเป็นสิ่งมีชีวิตงั้นหรอ?”
“นี่ควรเป็นเหตุผลที่ทำให้มันสามารถผลิตโมเลกุลได้ มันมีคุณสมบัติของจุลินทรีย์ แต่ไม่มีระบบประสาทซึ่งหมายความว่ามันไม่มีจิตสำนึก ดังนั้นการเคลื่อนไหวอาจเป็นปฏิกิริยาจากกระบวนการแยกโมเลกุลครับ โดยพื้นฐานแล้ว ของเหลวนี้ก็เหมือนแบคทีเรีย”
เนื่องจากมันเป็นเทคโนโลยีต่างดาว นักวิจัยทั้งหมดจึงยอมรับปรากฏการณ์ที่อธิบายไม่ได้ทั้งหมดและผู้อำนวยการก็กล่าวเสริม”เราได้ทำการทดสอบแล้วครับ ของเหลวไม่มีกัมมันตภาพรังสีและไร้สารพิษ เรายังใช้นักโทษประหารให้มาสัมผัสกับของเหลว และก็ไม่เกิดอะไรขึ้นครับ”
เจ้าหน้าที่ชราพยักหน้า และคนอื่นก็มองของเหลว
“กระบวนการยังช้าไป”หนึ่งในเจ้าหน้าที่กล่าว”เวลาเรามีจำกัด และเราก็ไม่อาจปิดซ่อนปฏิบัติการนี้จากโกโดร่าได้ เราต้องทำการคัดลอกโดยเร็วที่สุด”
“แต่ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีมันมากเกินไป มันไม่ง่ายที่จะทำลายม่านพลังนี้ เว้นแต่…”ผู้อำนวยการลังเล”เว้นแต่จะมีคนที่เข้าใจเทคโนโลยีมาช่วยเรา”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงมองหน้ากันและคิดถึงคนๆเดียวกัน
“ชาวโกโดร่าที่หายไป…เขาต้องเข้าใจเทคโนโลยีนี้”
“หากเราสามารถหาตัวเขาเจอ ไม่เพียงแต่เราจะรายงานเรื่องนี้กลับไปยังโกโดร่าได้ เรายังสามารถใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมยานเขาเพื่อรับเอาเทคโนโลยี”
เจ้าหน้าที่ชราหันไปมองหน่วยข่าวกรองและถาม”การคุยกับตาข่ายมืดเป็นยังไง?เมื่อไรหานเซี่ยวจะส่งตัวเขากลับมา?”
“เขาไม่เคยตอบเลยครับ”หน่วยข่าวกรองตอบเสียงเย็น”และตาข่ายมืดก็ยังคงเลื่อนการร้องขอออกไป”
“บ้าจริง!”เจ้าหน้าที่ชราตะโกน”เขากำลังทำเรื่องที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของดาวดวงนี้!องค์กรพลเรือนกลับกล้าเมินเฉยเรา พวกมันอยากตายกันรึไง?”
“เราควรส่งใครไปไหมครับ?”
“ทวีปใต้เป็นของมังกรดาราและเฮสล่า ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเราคงไม่อยากให้ข้อมูลรั่วไหล ฮ่าๆ เขาดูถูกเราไป”เจ้าหน้าที่ชรากล่าว”คำสั่งระดับสูงทำให้เราออกคำสั่งเรียกผู้ตรวจสอบที่หายไปได้ เราจะติดต่อกับประเทศอื่นและทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามตาข่ายมืด”
เดิมที เรย์เร็นก็คิดหาวิธีใช้ความรุนแรงเพื่อบุกฐานตาข่ายมืด แต่เมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยของชาวโกโดร่าและพลังของหานเซี่ยว มันก็ไม่มีทางทำได้ ทางเดียวคือการบังคับให้ตาข่ายมืดสละตัวประกันโดยสมัครใจ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องร่วมมือกับอำนาจทางการเมืองอื่นๆและกดดันตาข่ายมืด
ถึงแม้เรย์เร็นจะไม่อยากให้ประเทศอื่นรู้ว่าพวกเขามียานอวกาศ แต่เทียบกับอนาคตของดาว ความกังวลนี้จึงน้อยลงไป แน่นอน เงื่อนไขการเจรจาอาจเป็นการให้ประเทศอื่นร่วมวิจัย แต่ทว่า ในเมื่อพวกเขาไม่มีความคืบหน้าแต่แรก บางทีการทำงานร่วมกันอาจทำให้เกิดผลประโยชน์ที่มากกว่า
นี่ยังเป็นแผนที่จะจัดการกับพลังของหานเซี่ยว และมันก็บ่งชี้ว่าเรย์เร็นเกลียดเขามากแค่ไหน
เรย์เร็นสามารถช่วยผู้ตรวจสอบให้กลับสู่ดาวเคราะห์เขาและสร้างความสัมพันธ์กับโกโดร่าได้ แต่หานเซี่ยวกลับทำลายความฝันนี้และตัดด้ายแดงระหว่างเรย์เร็นและโกโดร่า
“เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังติดต่อผู้นำจากประเทศอื่นอยู่ครับ หากตาข่ายมืดเมินเฉยเรา งั้นเขาก็ต้องรับมือกับหกประเทศ สำคัญสุด หานเซี่ยวยังคิดว่าเขาไร้เทียมทานและเป็นคนที่แข็งแกร่งสุดบนดาว เขายังคงใช้การเสียสละเป็นข้ออ้างทำตามใจชอบ”
“หวังว่าการลงโทษนี้จะสอนเขาว่ายังมีพลังในโลกที่เขาไม่อาจขโมยไปได้”
เจ้าหน้าที่ชราหัวเราะเย็น
…
ผู้เล่นในเขตอนุรักษ์ทุกคนยอมรับภารกิจ[ป้อมปราการสุดท้าย] ภารกิจรางวัลรวมดูเหมือนจะเป็นเนื้อเรื่องหลัก และมันก็ดึงดูดผู้เล่นได้มาก
รางวัลรวมมีตัวเลขพุ่งสูงไม่หยุด และตรงกับความต้องการของหานเซี่ยว ยิ่งมีคนพูดถึงภารกิจมาก ความลี้ลับของหานเซี่ยวก็ยิ่งหนาแน่น
เมื่อนับจำนวนวันที่เหลือ วันของการออกดาวก็ยิ่งใกล้เข้ามา
ตื้ออ!
อุปกรณ์สื่อสารดังขึ้น และมันก็เป็นข้อความจากตัวแทนท่องกาแล็กซี่ พวกเขาจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ และตัวแทนก็เตือนให้ผู้โดยสารเก็บสัมภาระ ตำแหน่งลงจอดสามารถควบคุมได้โดยอุปกรณ์ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงสามารถเลือกสถานที่ที่เขาต้องการได้
ในที่สุดก็มาถึงแล้ว
หานเซี่ยวถีบตัวขึ้น และหัวใจเขาก็เต้นกระหน่ำ ความทรงจำของการต่อสู้ในกาแล็กซี่เดือดพล่าน และภาพฉากก็ผุดขึ้นต่อหน้า
ในจักรวาลไร้พรมแดน อารยธรรมหนึ่งผุดขึ้นเรื่อยๆ เรื่องราวใหม่ เผ่าพันธ์นับล้าน ยานอวกาศที่แล่นข้ามจักรวาล ชีวิตที่เต็มไปด้วยอันตราย….ความทรงจำทั้งหมดผุดขึ้น
กาแล็กซี่คืออนาคต การสำรวจจักรวาลแรกคือการสร้างฐานที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตในอนาคต กาแล็กซี่จะเป็นจุดสนใจ
หานเซี่ยวสงบาติและคิด ฉันมีอุปกรณ์ทั้งหมดและได้เลือกสมาชิกทีมนับสิบ ฉันมีทรัพยากรทั้งหมดแล้วเหมือนกัน ฉันไม่ต้องกังวลถึงแต้มประสบการณ์ไปสักพัก ดังนั้นฉันจึงจัดการกับเรื่องเล็กๆน้อยๆได้
การสะสมของเขาในอความารีนไม่นับว่ามากต่อการสำรวจจักรวาล
…
เมื่อรุ่งอรุณมาถึง เสียงคำรามของเครื่องยนต์ก็ทำลายความเงียบของเขตอนุรักษ์ ขบวนยานเกราะหนักขับอย่างรวดเร็วไปยังประตู ผู้เล่นและคนแปลกหน้าบนถนนจ้องไปทางขบวนรถ
โลโก้บนรถเป็นตัวแทนของกองกำลังระดับสูงสุดที่อยู่ภายใต้หานเซี่ยว ผู้เล่นรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นและตามขบวนรถไป
ข้อความกระจายออกไปเป็นวงกว้าง และผู้เล่นทุกคนในเขตอนุรักษ์ต่างก็ได้ยินข่าวและรีบวิ่งไปตามขบวนรถ คลื่นคนท่วมผ่านกำแพงและตรงไปยังที่ราบสีแดง