The Legendary Mechanic - ตอนที่ 387 คุ้นเคยและพยาน!
สองวันก่อน ดาราทมิฬบังเอิญล่วงรู้คำโกหก เพราะเหตุนั้น พวกเขาจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องงมเข็มอีก เนื่องจากลูกปัดอยู่บนเกาะมังกร พวกเขาจึงแค่ต้องจับกุมองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการปะทะที่ท่าจอดเพื่อหาคนเก็บลูกปัดไป ช่วงการค้นหานับว่าเล็กลงมาก
ทหารรับจ้างเป็นสาเหตุหลักของการปะทะ ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นเป้าหมายหลัก วงแหวนนภา คมดาบและทองม่วงล้วนถูกจับ มีเพียงกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ของหานเซี่ยวถึงเคลื่อนไหวได้อิสระ เอ็มเบอร์ไม่โง่พอจะโจมตีคุก ดังนั้น หานเซี่ยวจึงกลายเป็นเป้าหมาย
และดังนั้น พวกเขาจึงวางแผนซุ่มโจมตี
การจับแบล็คสตาร์ ควบคุมหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็กนี้ ทำให้เขาเชื่อฟังคำสั่ง จากนั้นก็ใช้ตัวตนเขาเพื่อเข้าออกคุก ถามว่าลูกปัดถูกใครเก็บไป
เหนือสิ่งอื่นใด บรรทัดแรกของ’หน้าที่กองกำลังปฏิบัติการดาราทมิฬ’คือ’เพื่อลดความเสี่ยงของถูกเปิดโปงในช่วงภารกิจภาคสนาม หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงให้มากสุด หากเป้าหมายสามารถติดสินบนด้วยเงินได้ ก็ใช้เงิน’
แต่จากที่ดาราทมิฬรู้ ขุมกำลังลึกลับไดด้วางแผนให้ลูกปัดข้อความถูกซ่อนบนเกาะมังกร กองกำลังรู้ความจริงก่อนพวกเขาและมีแนวโน้มว่าจะติดต่อกับทหารรับจ้างก่อนพวกเขา หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพ็กกี้แล้ว เอ็มเบอร์จึงไม่ต้องการเล่นอีก เขาตัดสินใจทำสิ่งต่างๆให้ง่ายด้วยกำลัง
ในฐานะสมาชิกองค์กรก่อการร้ายหัวรุนแรง พวกเขามักรู้สึกเหนือกว่าเมื่อเผชิญกับทหารรับจ้าง พวกเขาเหมือนเทพแห่งความตายที่ซ่อนตัวในความมืด ส่วนทหารรับจ้างก็เหมือนคนงาน ปราศจากความเชื่อและทำทุกอย่างเพื่อเงิน ไม่แม้แต่จะเทียบได้กับนักล่าค่าหัว ผู้อุทิศตนเพื่อจับอาชญาการที่มีค่าหัว
การพูดว่า’ฉันมาจากดาราทมิฬ’และ’ฉันคือทหารรับจ้าง’ให้ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ชื่อของดาราทมิฬเป็นที่หวาดกลัวไปทั่ว ตรงกันข้าม แม้ทหารรับจ้างจะมีจำนวนมาก มันก็ยังกระจัดกระจาย มันเหมือนความแตกต่างระหว่างหินและปราสาทราย ดาราทมิฬจะให้ความสนใจก็ต่อเมื่อมันเป็นกองทัพใหญ่อย่างวงแหวนนภาและคมดาบ ในกรณีของกลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็ก50คนและคนที่แข็งแกร่งสุดคือยอดมนุษย์ระดับB มันจึงเป็นเรื่องง่ายๆ
“พวกแกเป็นใคร?”หานเซี่ยวถามอย่างจงใจ
“คำแนะนำสำหรับแก หากแกอยากมีชีวิตนานกว่านี้ ก็เก็บความอยากรู้ไปและอย่าถามถึงตัวตน อย่าสร้างปัญหาให้ตัวเอง”เอ็มเบอร์กล่าวเสียงเย็น
เขาคิดว่าหานเวี่ยวต้องแปลกใจอย่างแน่นอนกับตัวตนพวกเขา
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือหานเซี่ยวคือพยานที่เห็นพวกเขาบุกตลาดทาส เมื่อคิดว่านี่คือครั้งแรกที่พวกเขาเผชิญกับแบล็คสตาร์ พวกเขาจึงรักษาความลึกลับไว้เพื่อกดดันหานเซี่ยว ไม่รู้ว่าหานเซี่ยวนั้นรู้ตัวตนจริงพวกเขาไปนานแล้ว
หานเซี่ยวกวาดตามอง กำแพงที่เอ็มเบอร์สร้างขึ้นเป็นกรงเหมือนโคลอสเซียม มีนักรบดาราทมิฬ8คนล้อมรอบเขาไว้ตรงกลาง นอกจากเอ็มเบอร์ อีก7คนล้วนเป็นพวกพิเศษระดับB
ศัตรูทั้งเจ็มีระดับเดียวกัน บวกกับเอ็มเบอร์ที่เป็นระดับB+ การสู้กับศัตรูหลายคนนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ศัตรูมีความสามารถหลากหลายที่เกื้อหนุนกัน หานเซี่ยวไม่มั่นใจว่าจะทนได้นานแค่ไหน นอกจากนี้ เขายังมีอโรเชีย ดังนั้นมันจึงเป็นสถานการณ์ยุ่งยาก
หานเซี่ยวพยายามใช้ช่องทางสื่อสาร เพียงเพื่อฟังเสียงกระแสไฟฟ้า
“อย่าเสียเวลาเลย อุปกรณ์รบกวนคลื่นสัญญาณถูกตั้งใกล้ๆ ดังนั้นไม่มีข้อความใดถูกส่งออกไปได้ แกไม่อาจเรียกความช่วยเหลือได้”เอ็มเบอร์กล่าว
“ดูเหมือนว่าแกจะคิดว่าฉันอยู่ในกำมือแกแล้ว’หานเซี่ยวยังคงสงบ”ในเมื่อฉันไม่มีทางหนี ก็บอกฉันว่าแกอยากให้ฉันทำอะไร และเราอาจตกลงกันได้ ฉันไม่อยากสู้กับการต่อสู้ไร้ความหมาย”
“เราอยากให้แกไปถามทหารรับจ้างถึงลูกปัดดำ”เอ็มเบอร์กล่าว
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็วิเคราะห์อย่างรวดเร็วโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
มันดูเหมือนว่าดราทมิฬจะสามารถแง้มความจริงจากปากเพ็กกี้ได้แล้ว พวกเขายังรู้ว่าชื่อตัวเองถูกนำไปหลอกเพื่อแย่งชิงลูกปัด แต่ไม่รู้ว่าคนหลอกลวงนั่นคือฉัน ฉันถูกโจมตีไม่ใช่เพราะถูกเปิดโปง แต่เพราะฉันคือหนึ่งในเป้าหมาย นี่สำคัญมาก พวกเขาไม่รู้ว่าฉันมีลูกปัด หากฉันแสร้งทำเป็นร่วมมือ ฉันอาจหลุดพ้นไปได้
เขากังวลมากว่าดาราทมิฬรู้แค่ไหน จุดๆนี้ มันดูเหมือนว่าเขาเป็นแค่ทหารรับจ้างทั่วไป
การประนีประนอมกับดาราทมิฬไม่ได้เกิดจากคำถาม หากการยอมแพ้ในลูกปัดสามารถแลกเปลี่ยนเพื่อโอกาสเข้าร่วมดาราทมิฬ งั้นการแทรกซึมเข้าไปในศัตรูก็ถือว่ามีโอกาสเช่นกัน แต่ความเสี่ยงก็ยังยากจะวัดได้
หานเซี่ยวก้มหัวและทำเหมือนเขาไม่รู้ว่าลูกปัดคืออะไร”นี่แค่เรื่องเล็กน้อย ฉันสามารถช่วยได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังหรอก”
เอ็มเบอร์นำกล่องใสขนาดเล็กที่บรรจุแมลงนาโนขนาดเท่าทรายขึ้นมา มันใช้สำหรับควบคุมสมองและหัวใจ พวกเขาสามารถพรากชีวิตได้ทุกเมื่อๆสั่งกระตุ้นมัน”หลังแกฉีดสิ่งนี้เข้าไป เราค่อยมาพูดถึงความร่วมมือ”
“ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีทางเลือกนะ”หานเซี่ยวส่ายหัว ชุดจักรกลคลุมทั้งร่างกายเขาทันที
การฉีดแมลงนาโนเข้าไปหมายความว่าชีวิตเขาจะอยู่ในมือคนอื่น และเขาย่อมไม่เห็นด้วย ดังนั้น เขาจึงมีทางเลือกเดียว
สู้!
ปืนแม่เหล็กไฟฟ้าดีดออกมาจากชุดจักรกลทีละกระบอก พลังงานระเบิดออกไปเหมือนกระแสไฟฟ้า ปกคลุมไปทั่ว หานเซี่ยวไม่เพียงแต่จะถือปืนไฟฟ้าสองกระบอก แต่เขายังควบคุมปืนอื่นๆด้วยพลังงานเขา ยิงไปทุกทิศทาง
ฟู่ ฟู ฟู่!
ในชั่วพริบตา กระสุนแสงสีฟ้าก็ระเบิดจากหานเซี่ยวเหมือนกุหลาบสีน้ำเงิน!
การต่อสู้พลันปะทุขึ้น!
[การซุ่มยิงแบบเคลื่อนที่] [วิสัยทัศน์ภาคสนาม] [วิสัยทัศน์แม่เหล็ก-กระแสข้อมูล] [สนามพลังจักรกล] และ[ทลายขีดจำกัด]-ความสามาราถต่างๆถูกกระตุ้น พลังระเบิดของความสามารถเหล่านี้ทำให้ทหารดาราทมิฬตกใจ
“เสียเวลาเปล่า”
เอ็มเบอร์ควบคุมฝุ่นและเปลี่ยนมันเป็นโล่ ป้องกันกระสุน ใบหน้าเขาสงบ สำหรับเขา ไม่ว่าศัตรูจะสู้ด้วยวิธีไหน ตราบเท่าที่รับพวกเขาต่ำกว่าเขา มันก็ไร้ความหมาย เขาสามารถล้มศัตรูได้ในชั่วพริบตา
ฮึม!
เอ็มเบอร์เปิดใชพลังเขาและขยายสัมผัส วิสัยทัศน์เขาเปลี่ยนไปและเอ็มเบอร์ก็สามารถเห็นโครงสร้างอะตอมของหานเซี่ยวได้ ธาตุคาร์บอนถูกทำเครื่องหมายด้วยแสง ครอบคลุมร่างเขาเหมือนแม่น้ำ เอ็มเบอร์ควบคุมมันได้ง่ายๆ เขาทำมานับครั้งไม่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม มันเหมือนกับว่าร่างของหานเซี่ยวนั้นเหมือนภูเขา พลังเอสเปอร์ที่ได้ผลมาตลอดกลับไม่ทำงาน เอ็มเบอร์ไม่อาจควบคุมอะตอมคาร์บอนใดได้ในร่างเขา โครงสร้างมันไม่อาจสั่นคลอน
ความสงบบนใบหน้าเอ็มเบอร์พลันหายไปและถูกแทนที่ด้วยความกลัว
“มันเป็นแก!”
เอ็มเบอร์พลันตระหนัก
มันกลับกลายเป็นว่าพยานที่ทำให้ภารกิจคืนนั้นล้มเหลวคือหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ผู้นี้!