The Legendary Mechanic - ตอนที่ 389 แกเป็นตัวอะไรกันแน่?
อะไหล่กระจายทั่วพื้น รวมถึงบอลเสียงและโล่ เคียวคืออาวุธประชิด ดังนั้นมันจึงแข็งมาก ใบมีดมันค่อนข้างกว้างและสามารถใช้เป็นโล่ได้ นี่คืออาวุธเดียวที่เขาเหลืออยู่
ซูม!
ฝุ่นคาร์บอนพลันเปลี่ยนเป็นกรวยแหลมที่เล็งลงพื้น ซึ่งจากนั้นก็ตกลงมาเหมือนฝน มันกินพื้นที่วงกว้าง แทบไม่มีที่ให้หลบ
หากเป้าหมายมีชุดจักรกล การโจมตีหมู่แบบนี้คงไม่ร้ายแรงนัก แต่ทว่า ชุดจักรกลของแบล็คสตาร์ได้ถูกทำลายไปแล้ว ช่างกลที่ปราศจากการปกป้องก็เหมือนเสือไร้เขี้ยวเล็บ
เอ็มเบอร์ไม่อยากฆ่าหานเซี่ยว พวกเขาต้องจับเขาไปแบบเป็นๆ แต่เขาเต็มใจทำให้หานเซี่ยวย่อยยับ เขาเล็งแค่จุดที่ไม่ถึงตาย
ซวบ!
เคียวสะท้อนกรวยแหลม แต่ก็มีนับไม่ถ้วน หานเซี่ยวสะท้อนและป้องกันเขาสุดความสามารถ และเขาก็จำต้องปล่อยให้บางอันโดนตัวเขา
พลังงานปกคลุมร่างเขาและก่อตัวเป็นม่านป้องกัน กรวยแหลมแตกกระจายทันทีที่ชนร่างเขา ทำให้เกิดแค่รอยขีดข่วน
เอ็มเบอร์ควบคุมพลังเขาสบายๆและกล่าวเสียงเย็น”ในฐานะช่างกล แกคงไม่เคยเรียนรู้การต่อสู้ระยะไกล แกมีพลังงานไม่มากเท่านักสู้ และค่าสถานะแกก็แตกต่างจากนักสู้ แต่แกกลับอยากสู้เหมือนนักสู้ หากแกเป็นนักสู้จักรกล แกก็อาจมีโอกาส แกคิดว่าแกจะทนได้นานแค่ไหน?อย่าคิดขัดขืนเลย ทำไมถึงยังไม่ยอมแพ้อีก?”
การโจมตีมาจากทุกมุม นักรบดาราทมิฬคนอื่นออกไปจากบริเวณและหยุดสู้ พวกเขายืนข้างๆและรอให้หัวหน้าพวกเขาจัดการแบล็คสตาร์ เหนือสิ่งอื่นใด เอ็มเบอร์สามารถเอาชนะศัตรูได้ง่ายๆอยู่แล้ว
ผลลัพธ์ชัดเจน
บูม!
ทันนั้น หานเซี่ยวพลันกระทืบเท้า ทะยานใส่ช่างกลดาราทมิฬเหมือนสายฟ้า เขาไม่สะท้อนการโจมตีอีกต่อไป และปล่อยให้กรวยแหลมชนร่างเขา ด้วยการสะบัดข้อมือ ใบมีดของเคียวพลันกระจายและเปลี่ยนเป็นใบมีดแม่เหล็กไฟฟ้าแปดชิ้น พวกมันหมุนและก่อตัวเป็นทรงสว่าน!
“สว่านมังกรไฟฟ้า!”หานเซี่ยวกู่ร้อง สว่านเจาะผ่านโล่ที่ช่างกลสร้างขึ้นและส่งเขาลอยออกไป ชุดรบของช่างกลดาราทมิฬพลันไหม้จากไฟฟ้า และอะไหล่แตกก็กระพริบประกายไฟฟ้า ชุดเขาพลันเสียหาย
“แกมันบ้าไปแล้ว!”ใบหน้าของนักรบดาราทมิฬคนอื่นเปลี่ยนไป พวกเขาตกใจกับความจริงที่ว่าแม้จะรับการโจมตีจากเอ็มเบอร์ หานเซี่ยวก็ยังกล้าโจมตี แม้หานเซี่ยวจะสามารถโจมตีได้สำเร็จ การโจมตีนี้ก็ไม่ได้ส่งผลมากนัก พวกเขาล้วนเป็นพวกพิเศษ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถูกฆ่าง่ายๆ ในทางกลับกัน การกระทำนี้จะทำให้หานเซี่ยวรับการโจมตีเพิ่มขึ้น
“ดูเหมือนว่าแกจะไม่ยอมความเลยสินะ”เอ็มเบอร์ชมอย่างจริงใจ จากนั้นก็ส่ายหัว”แต่ก็ไม่มีประโยชน์ และมันก็แสดงให้เห็นว่าแกไม่มีอะไรเหลือแล้ว แต่ แกกำลังเพ้อฝัน…ความอดทนของฉันมีจำกัด เนื่องจากแกไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ตัวเองได้ เราก็จะทุบตีแกให้ใกล้ตายแทน”
ครั้งนี้ เอ็มเบอร์ตัดสินใจไม่ใช้การโจมตีวงกว้างอีก นักรบดาราทมิฬได้รับคำสั่งขอเอ็มเบอร์และเข้าร่วมการต่อสู้ ล้อมหานเซี่ยวไว้
โดยปราศจากชุด หานเซี่ยวจึงอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ การเผชิญกับการโจมตีดั่งพายุ เขาทำได้แค่ป้องกันตัวเอง ทุกการเคลื่อนไหวหรือการหลบจะถูกหยุดโดยการร่วมมือของศัตรู เขาถูกบังคับให้อยู่ในที่เดียวและไม่อาจสู้กลับได้
บูม!
การโจมตีระเบิดใส่หานเซี่ยวเหมือนคลื่น ระเบิดอย่างต่อเนื่องทำให้ฝุ่นจับตัวและขวางการมองเห็น
อโรเชียผู้อยู่ข้าๆสามารถเห็นได้แค่สายฟ้า ระเบิด หอกและพลังงงานที่เข้าไปในฝุ่นหนา แต่ก็ไม่อาจเห็นหานเซี่ยวได้ เสียงระเบิดอัดแน่นในหูเธอ แต่ไม่มีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดเลย นอกจากเสียงการต่อสู้ เธอไม่ได้ยินหานเซี่ยวส่งเสียงใดๆเลย
เมื่อเห็นแบบนี้ อโรเชียก็พลันอยากหยุดทุกอย่าง แรงกระตุ้นบางอย่างผลักดันให้เธอลงมือ แต่ทว่า เอ็มเบอร์กลับยกมือขึ้นและพวกเขาก็หยุดการโจมตี
“พอแล้ว เขาควรบาดเจ็บสาหัสแล้ว จับเขาออกไป…”
ปัง!
ก่อนเอ็มเบอร์จะพูดจบ เสียงพื้นแตกก็ระเบิดออกมา!
หานเซี่ยวดีดตัวออกมาเหมือนกระสุนปืนใหญ่และลากฝุ่นตามหลังมา แม้จะรับการโจมตีไปมาก แผลเขาก็ยังเล็กน้อยและไม่มีแผลลึกเลย
ด้วยพลังงานที่กระพริบรอบร่าง เคียวของเขาพลันเฉือนลงมา+
เกร๊ง!
แขนเพชรของเอ็มเบอร์และเคียวของหานเซี่ยวปะทะกัน และประกายไฟก็ส่องผ่านใบหน้าตกตะลึงของเอ็มเบอร์
“แก เป็นไปได้ยังไง?!”
พวกเขาตกใจ
หลังรับความเสียหายไปมากขนาดนั้น ต่อให้เขาเป็นนักสู้ เขาก็ยังต้องบาดเจ็บสาหัส แต่หานเซี่ยวกลับยังไม่ตาย!
เขาจะหนากว่านักสู้ได้ยังไง?!
“ฮี่ๆ…”หานเซี่ยวแหงนหน้า ใบหน้าครึ่งหนึ่งเขาปกคลุมด้วยเลือด แต่หน้าเขายังเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน เขาหัวเราะ”นี่คือทั้งหมดของแกงั้นหรอ?ช่วยให้ฉันหายคันได้เยอะเลย”
เอ็มเบอร์โกรธ เขาเปิดใช้พลัง และอะตอมคาร์บอนก็เปลี่ยนเป็นงู โจมตีหน้าอกหานเซี่ยวอย่างแรง ผลักเขากลับไปในฝุ่น และกดเขาลงกับพื้น
“จัดการมัน!”เอ็มเบอร์ตะโกน
อึดแล้วยังไง?แกก็แค่เป้ามนุษย์ เราคือคนที่เหนือกว่า!
นักรบดาราทมิฬสูดหายใจและยกระดับความตื่นตัวอีกครั้ง ระดมโจมตีหานเซี่ยวเป็นครั้งที่สอง
ครั้งนี้ การโจมตีเกรี้ยวกราดขึ้น ดวงตาของเอ็มเบอร์เต็มไปด้วยความคลั่ง เขาไม่มีเจตนาระงับพลังอีก
เมื่อเห็นแบบนี้ ระลอกก็ก่อตัวในตาของอโรเชีย เธอก้าวไปข้างหน้า หยิบปืนพกแม่เหล็กไฟฟ้าที่หานเซี่ยวทำตกไว้ก่อนหน้า ยกมือขึ้นและยิงใส่เอ็มเบอร์
ตึง ตึง ตึง!
กระสุนเข็มถูกเบี่ยงไปจากผิวเพชรของเอ็มเบอร์
เอ็มเบอร์หันมาและตะโกน ด้วยการสะบัดมือ เขาควบคุมธาตุคาร์บอนในร่างอโรเชียและตบเธอลงกับพื้น
ตั้งแต่แรก เอ็มเบอร์รู้สึกถึงอโรเชียอยู่แล้ว เธอก็แค่คนธรรมดา ดังนั้น เอ็มเบอร์จึงไม่สนใจเธอ ตอนนี้เธอกลับยิงใส่เขา เอ็มเบอร์ไม่ใส่ใจอะไร เขาควบคุมเธอและยังคงจดจ่อกับการจัดการหานเซี่ยว
หลังโจมตีเป็นเวลานาน แม้กระทั่งภูมิประเทศก็ยังเปลี่ยน พื้นที่หานเซี่ยวยืนกลายเป็นหลุมลึกหนึ่งเมตร เต็มไปด้วยฝุ่นหนา
“หยุด”
เอ็มเบอร์หอบหายใจเล็กน้อย เขาใช้พลังงานไปมาก นักรบดาราทมิฬถอยออกไปพร้อมปาดเหงื่อ มันเงียบเมื่อพวกเขาหยุด
“เขาตายหรือยัง?”นักรบดาราทมิฬมองหลุม
“ยังไม่ตาย ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงเขา มันอ่อนแรงมาก เขาน่าจะเกือบตายแล้วจริงๆ”เอ็มเบอร์กล่าวอย่างมั่นใจ
แต่ทว่า วินาทีต่อมา ใบหน้าของเอ็มเบอร์ก็ต้องเปลี่ยนไป สัมผัสอ่อนแรงที่เขารู้สึกพลันแข็งกร้าวขึ้นและกำลังฟื้นตัวด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ
ท่ามกลางฝุ่น เงาร่างของคนๆหนึ่งยืนขึ้น เหมือนมีพลังเวทมนตร์ลี้ลับ ดวงตาของทุกคนจ้องมองไปที่เขา
ตึก ตึก ตึก!
ทุกการก้าวเท้าเหมือนเสียงที่เหยียบย่ำหัวใจพวกเขา
เคียวดำยื่นออกจากฝุ่น เต็มไปด้วยรอยแตก เพียงเมื่อมันปรากฏในสายตาทุกคน มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็ก้าวออกมา ดวงตาของทุกคนจับจ้องเขา และก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
หานเซี่ยวถูกปกคลุมด้วยฝุ่น แต่กลับไม่พบเห็นบาดแผลเขา เขาเกาคอ ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม
“จบแล้วงั้นหรอ?”น้ำเสียงเขาดูเหมือนคนเพิ่งตื่น
เอ็มเบอร์โง่งม
บาดแผลของหานเซี่ยวรักษาตัวเองได้?เขามีพลังฟื้นฟู?
แม้กระทั่งเคียวโลหะผสมยังแตก แต่คนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บ หานเซี่ยวยังมีชีวิต เขาแข็งกว่าเคียวนั่น!
ผู้คนพากันเหนื่อยหอบ คนที่พวกเขารุมกระทืบยังมีชีวิต นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!
หานเซี่ยวจ้องมองพวกดาราทมิฬและยืดเส้น
“หากยังไม่จบ ฉันก็จะเล่นกับพวกแกต่อ”
เขาได้มอบภารกิจให้ผู้เล่นไปนานแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกเลย นอกจากนี้ เขายังมีบัตรอัญเชิญตัวละครของออโรร่า ด้วยผลเพียงครั้งเดียว-ซึ่งคือการฟื้นฟูเต็มเปี่ยม มันเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลัง มันใช้ได้ถึงหกครั้ง ตอนนี้ เมื่อพลังชีวิตเขาลดต่ำกว่า15% เขาก็ใช้มัน
หานเซี่ยวอึดอยู่แล้ว และด้วยความสามารถนี้ นักรบดาราทมิฬจึงไม่มีทางฆ่าเขาได้ง่ายๆ
สีหน้าเอ็มเบอร์เปลี่ยนจากแปลกใจเป็นตกใจ อึ้ง และหยุดที่ความกลัว!
เขาไม่มีท่าทางของผู้สูงส่งอีกต่อไป
นี่เป็นสัญญาณว่าเขาเจอศัตรูที่อันตรายเข้าให้แล้ว!
เมื่อเจอหานเซี่ยว เอ็มเบอร์ก็ทำเป็นเล่น แต่เมื่อตระหนักว่าหานเซี่ยวมีภูมิต้านทานต่อพลังเขา เขาก็จริงจังขึ้น เขาคิดว่าเขาเอาจริงพอแล้ว แต่ก็ตระหนักว่ายังประเมินหานเซี่ยวต่ำไป
ในช่วงเวลาสั้นๆ หานเซี่ยวทำให้เขาประหลาดใจอย่างต่อเนื่อง ความมั่นใจเขาล้วนถูกทำลายจนหมดสิ้น!
เอ็มเบอร์จ้องหานเซี่ยวและพูดทีละคน”แกเป็นตัวอะไรกันแน่?!”