The Legendary Mechanic - ตอนที่ 395 การไล่ล่า 1
เจ้าของบริเวณนี้มักอธิบายไม่ได้ หากดาราทมิฬเผยตัวในอาณาเขตอย่างเป็นทางการของอารยธรรมทั้งสอง พวกเขาต้องเตือนและขับไล่ แต่ทว่า เนื่องจากการแก่งแย่งของบริเวณนี้ ทั้งสองกองยานจึงไม่ทำการเคลื่อนไหว
ในกองทัพพิทักษ์ชายแดนศิลาเทวะ ยานบัญชาการของขบวนที่สาม กระแสแสง
บรรยาอากศเต็มไปด้วยความกังวล ชื่อของดาราทมิฬเป็นที่รู้จักไปทั่ว และพวกเขาก็ค่อนข้างตึงเครียดกับอีกาดำ กัปตันของขบวนสาม ไชเวทกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง”ทุกหน่วยให้ใช้สัญญาณระดับ2 รักษาตำแหน่งไว้”
ครั้งนี้ กระแสแสงได้รับข้อความจากยานแม่ดาราทมิฬ ซาโรตะแสดงแรงจูงใจ เน้นความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้ทำผิดกฏต่อศิลาเทวะและอีกาดำ พวกเขาแค่ทำการค้นหา ซึ่งเป้าหมายคือทหารรับจ้างบางคน เมื่อภารกิจจบลง พวกเขาจะจากไปทันที
ใบหน้าตึงเครียดของไชเวทผ่อนคลายลงเล็กน้อย และโดยไม่ต้องคิด”บอกพวกเขาว่ามันเป็นไปได้ที่ศิลาเทวะจะไม่แทรกแซงปฏิบัติการของดาราทมิฬ แต่ในช่วงเวลานี้ เราจะคอยจับตาดูพวกเขา และหวังว่าพวกเขาจะออกไปโดยเร็วที่สุด”
ไชเวทไม่อยากให้เกิดการแตกหักของสงคราม มีหลายเหตุผล อย่างแรกเพราะพวกเขาไม่อยากยุ่งกับาราทมิฬ ทั่ววงแหวนดาวกระจายล้วนรู้ประวัติอันน่าเกลียดระหว่างดาราทมิฬและโกโดร่า ไม่มีใครอยากเป็นส่วนหนึ่ง สิ่งน่ากลัวสุดของดาราทมิฬคือพวกมันหลบๆซ่อนๆ หากพวกเขาแพ้ พวกเขายังสามารถหนีไปได้ และก็คอยล้างแค้น สอง หากพวกเขายิง มันอาจทำให้อีกาดำเข้าใจผิด วึ่งเปลี่ยนเป็นการทะเลาะกัน นำไปสู่ความขัดแย้ง หากเขาถูกตัดสินว่าจงใจก่อให้เกิดสงคราม การลงโทษย่อมหนักหน่วง
เนื่องจากความขัดแย้งทางอาณาเขต มันจึงมักมีความตึงเครียดระหว่างสองอารยธรรมนี้ อารยธรรมศิลาเทวะเป็นอารยธรรมชนชั้นขุนนาง ปกครองโดยตระกูลราชวงศ์ การก่อสร้างทางการเมืองมีความซับซ้อนมาก และประสิทธิภาพในการตัดสินใจก็อยู่ระดับปานกลาง พวกเขาไม่ชอบสงคราม และพวกเขาก็ใช้มาตรการทางการฑูตได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากร การติดต่อ หรืออำนาจ อารยธรรมศิลาเทวะนั้นสูงส่งกว่าอารยธรรมอีกาดำเล็กน้อย แต่ทว่า เนื่องจากอารยธรรมอีกาดำมีทรัพยากรจำกัดในช่วงแรก กระบวนการพัฒนาพวกเขาจึงคับแน่นมาก ซึ่งทำให้พวกเขามีจิตใจแข็งแกร่งและกลายเป็นกลุ่มนิยม ประสิทธิภาพพวกเขาในการดำเนินเรื่องต่างๆสูงมาก แม้ว่าชาติของพวกเขาจะไม่แข็งแกแร่งเท่าศิลาเทวะ ศิลาเทวะก็ไม่อาจหาทางกำจัดพวกเขาได้ หากพวกเขาเริ่มสงคราม ทั้งสองฝ่ายย่อมสูญเสียกันอย่างหนัก ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงควบคุมระดับความขัดแย้งเอาไว้
ดังนั้น ดาราทมิฬจึงไม่ใช่สิ่งเดียวที่ไชเวทกลัว เขากลัวว่าจะทำให้เกิดการเข้าใจผิด
เหตุผลสำคัญสุดที่ทำให้ไชเวทตัดสินใจนั่งเฉยเพราะเป้าหมายของดาราทมิฬแค่กลุ่มทหารรับจ้าง พวกเขาก็แค่คนไม่สำคัญ เว้นแต่มันจะเป็นคนจากอารยธรรมพวกเขา สองกองทัพเหล่านี้จึงจะทำการเคลื่อนไหว เมื่อเห็นว่ากองทัพอีกาดำก็นิ่งเฉย ไชเวทจึงรู้ว่ากัปตันอีกาดำคงตัดสินใจเหมือนกัน
เหนือสิ่งอื่นใด สำหรับสองอารยธรรม ชีวิตและความตายของทหารรับจ้างเหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา เหมือนหยดน้ำในทะเล มันไม่สำคัญเลย
ดังนั้น กองยานที่รีบมาจึงเฝ้าดูเงียบๆ ไชเวทโบกมือเขาและบอกลูกน้องเขาให้ตรวจสอบเป้าหมาย ไชเวทโบกมือให้ลูกน้องเขาตรวจสอบเป้าหมายที่กำลังหลบหนี
“ผมเข้าใจแล้ว พวกเขาเป็นสมาชิกของสามกองทหารรับจ้างใหญ่ เบื้องหลังพวกเขาน่าประทับใจมาก น่าเศร้า พวกเขาไปเจอกับดาราทมิฬ”
หลังอ่านรายงาน ไชเวทก็แปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหัว”ยิ่งพวกเขาถูกจับตัวเร็วก็ยิ่งดี จากนั้นดาราทมิฬก็จะออกไปได้….”
จากมุมมองของผลประโยชน์ เขาอยากให้ทหารรับจ้างหยุดต่อต้าน
ฉากเดียวกันเกิดดขึ้นทางฝั่งยานของอารยธรรมอีกาดำ
อีกด้านหนึ่ง ยานแม่ดาราทมิฬได้รับคำตอบ ใบหน้าของซาโรตะเหมือนเดิมราวกับเขาคาดไว้แล้ว เขารู้ว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่โจมตี
…
อีก้านของดาว ยานอวกาศคมดาบกำลังถูกไล่ล่า พวกเขิ้นรน โล่นั้นมีรูนับไม่ถ้วนและความเร็วการฟื้นฟูก็ไม่อาจไล่ทันความเร็วของการถูกทำลาย สัญญาณเตือนของระบบทำให้ทหารรับจ้างคมดาบหน้าซีด
“ยิ่งเร็วยิ่งดี”พอตเตอร์พึมพำด้วยเหงื่อท่วมหน้า เมื่อสถานการณ์ดูไม่ดี เขาพลักนักบินเดิมออกไปเพื่อควบคุมยานเอง แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีกว่า
ทันใดนั้น เลเซอร์ก็ระเบิดบนโล่
ปัง!
โล่กระพริบสองครั้งและหายไป มันถึงขีดจำกัดแล้ว
ทุกคนในยานตกตะลึง ใบหน้าของพอตเตอร์เปลี่ยนไปมาก
โดยปราศจากโล่ ตัวยานเองย่อมไม่มีการปกป้องใดๆอีก หากพวกเขาถูกยิงอีกครั้ง ยานคงถูกทำลาย
บูม!
ขณะที่ยานไล่ล่ากำลังจะยิงฝนเลเซอร์ต่อ ปืนใหญ่ก็ยิงใส่ขบวนและก่อให้เกิดการระเบิดชุด
ยานไล่ล่าไม่มีเวลาตอบสนอง และรีบหลบ ความแม่นยำของการโจมตีนั้นพลาดยานคมดาบไปไม่กี่เซน
ไกลออกไป ยานอวกาศวงแหวนนภาบินมาด้วยความเร็วสูง ด้านหลังเป็นกองยานไล่ล่า มันคือหานเซี่ยว ผู้กลับมาและช่วยเพื่อนได้ทัน กองยานไล่ล่าไม่ได้สร้างแรงกดดันให้เขาเลย และพวกเขาก็กำลังไล่ตามเขา ดังนั้นหานเซี่ยวจึงพยายามช่วยเพื่อนให้ได้มากที่สุด
การมีอยู่ของเพื่อนทหารรับจ้างสามารถช่วยเบี่ยงเบนพลังของศัตรูได้ ยิ่งยื้อได้นาน แรงกดดันก็ยิ่งน้อยลง
หานเซี่ยวหยุดศัตรูสักพักก่อนกลับลำและหนีไปทันที โล่ของยานคมดาบได้โอกาสฟื้นตัว พอตเตอร์เกือบทรุดตัว และใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความสุข”เกือบไป”
ครั้งนี้ หานเซี่ยวส่งข้อความถึงยานอีกสองลำ”อย่าหนีแบบสุ่มๆ พวกคุณไม่อาจรับมือได้ด้วยตัวเอง ผมส่งเส้นทางให้แล้ว ต่อให้คุณแยกตัว ก็อย่าอยู่ไกลจากผมเกินไป ผมจะคอยสนับสนุนเป็นครั้งคราว”
“ทำไมนายถึงเป็นนักบิน?”พอตเตอร์ถามอย่างด้วยความประหลาดใจ
“เราทุกคนรู้สึกปลอดภัยกว่าที่ให้เขาเป็นคนขับ”เสียงของโกอาดังขึ้น พอตเตอร์มองตาม และเห็นว่าทหารรับจ้างทุกคนบนนั้นถูกแช่แข็งจากเอวลงไปและยืนนิ่งบนพื้นเหมือนรูปสลักน้ำแข็ง มันคือโกอาที่ใช้คาถาเธอเพื่อช่วยให้ทุกคนสร้างสมดุลได้ พอตเตอร์ตกใจ
แต่นั่นไม่ได้ดูปลอดภัยเลยเว้ย!
เปลือกตาพอตเตอร์กระตุก
ยังไงก็ตาม ข้อเสนอของหานเซี่ยวถือว่าดี ทีมคมดาบและทองม่วงเห็นด้วยกับแผนของหานเซี่ยว พวกเขารีบเปลี่ยนเส้นทางและรักษาการสื่อสารระหว่างพวกเขาเอาไว้ ทันทีที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย หานเซี่ยวก็จะสนับสนุน
หลังช่วยพวกเขาในสถานการณ์เลวร้ายทัน สมาชิกของยานอื่นก็ตระหนักว่าทักษะการขับของหานเซี่ยวล้ำแค่ไหน พวกเขามั่นใจ
หานเซี่ยวรักษาสถานการณ์ไว้ได้ชั่วคราว ยานทั้งสามพายานไล่ล่านับร้อยบินไปรอบดาว ครึ่งชั่วโมงผ่านไป กองยานไล่ล่ายังไม่อาจจับพวกเขาได้
บนยานแม่ดาราทมิฬ ซาโรตะหมดความอดทน
“ยานไล่ล่ากว่าสามร้อยลำกำลังจัดการกับยานแค่สามลำ ทำไมเราถึงยังจับพวกมันไม่ได้?”
แผนเดิมคือการจบงานภายในสิบนาทีจากนั้นก็รีบถอนตัว ซาโรตะไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันมาก เขาจ้องมองยานอวกาศวงแหวนนภาบนหน้าจอด้วยความไม่พอใจ
“มันเป็นเพราะนักบินของยานลำนี้ดีเกินไป นั่นทำให้พวกมันสามารถถ่วงเวลาได้นานขนาดนี้…ส่งยานจู่โจมขนาดกลางออกไป โอบล้อมบริเวณนี้และตัดเส้นทางหลบหนี”
ขณะที่เขาออกคำสั่ง ยานจู่โจมจำนวนมากก็ดีดตัวจากยานแม่ดาราทมิฬและบินไปทางดาว
ภายในกระแสแสง ไชเวทเห็นและแปลกใจ
“แม้จะเผชิญกับดาราทมิฬและติดบนดาว แต่ยานเล็กๆทั้งสามกลับถ่วงเวลาได้ถึงครึ่งชั่วโมง พวกเขายังบังคับให้ดาราทมิฬส่งกำลังหนุนไปมากขนาดนั้น..”
“แต่หากเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะลากเวลาให้ยาวขึ้น..”
…
ผ่านช่องหน้าต่าง คนบนยานวงแหวนนภาเห็นยานจู่โจมกำลังไล่มาจากยานแม่ดาราทมิฬ
“บ้าจริง ดาราทมิฬส่งกำลังเสริมมา!”อดีตนักบินตะโกน
“เรารู้ว่าพวกมันจะมาในไม่ช้า ไม่เห็นแปลกใจเลย”
หานเซี่ยวมองออกไป เขาเดาไว้นานแล้ว
มันเพิ่งครึ่งชั่วโมง และพวกเขาก็ได้ส่งกำลังเสริมมาแล้ว ดาราทมิฬเปลี่ยนกลยุทธ์พวกเขาเร็วกว่าที่คิด ในแง่ของเกม นั่นหมายความว่าภารกิจจะยากขึ้น ฉันจะถ่วงเวลาได้สองวันไหม?
แม้มันจะดูเหมือนว่าพวกเขาปลอดดภัย พวกเขาก็ยังเต้นบนใบมีด เมื่อดาราทมิฬหมดความอดทน พวกเขาย่อมไม่สนว่าจะต้องทุ่มเทมากแค่ไหน พวกเขาอาจปิดล้อมและจากนั้นก็จะไม่มีที่ให้หลบ เหนือสิ่งอื่นใด ทักษะการขับมีจำกัด เขามีแค่ยานอวกาศขนาดเล็ก ไม่มีชุดจักรกลระดับกาแล็กซี่
หลังไตร่ตรอง หานเซี่ยวก็ตัดสินใจทำแผนต่อไป ครั้งนี้ ทั้งสามยานได้รับข้อความเหมือนกัน
”นี่คือขบวนรบที่สามของกองทัพพิทักษ์ชายแดนศิลาเทวะ เราได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือของคุณและมาอยู่ใกล้ดาวแล้ว โปรดมาเจอเราที่พิกัด เราจะอยู่ที่นั่นและให้การคุ้มกัน”
พร้อมกับข้อความนี้คือพิกัด ซึ่งไม่ไกลจากที่พวกเขาอยู่ ข้อความนี้เหมือนพลังงานแก่ทุกคน
“ศิลาเทวะเต็มใจช่วย เรารอดแล้ว”
ทหารรับจ้างุทกคนในสามยานยินดี
หานเซี่ยวกลับขมวดคิ้ว จากนั้นก็กล่าวบางสิ่งที่ทำให้ทุกคนเย็นลง”ฉันคิดว่านี่แปลกมาก..”