The Legendary Mechanic - ตอนที่ 396 การไล่ล่า 2
“หากกองทัพพิทักษ์ชายแดนศิลาเทวะอยากช่วยเรา พวกเขาก็ต้องขัดแย้งกับดาราทมิฬ แต่ดูสิ ยานแม่ดาราทมิฬยังลอยอยู่และไม่ได้ส่งยานอื่นออกมา นอกจากนี้ นี่ยังเป็นเขตชายแดน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ศิลาเทวะและอีกาดำจะเข้ามายุ่ง นี่หมายความว่าพวกเขาต้องตกลงกับดาราทมิฬแล้ว นี่คือขอบชายแดนพวกเขา ดังนั้นอำนาจที่นี่จึงเรือนราง พวกเขาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรตอนเผ่าเงินถูกลักพาตัว ตอนนี้พวกเขาดันอยากช่วยเรา?มันไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย”
หานเซี่ยวหยุดและกล่าว”แต่แน่นอน มีโอกาสที่ศิลาเทวะจะไม่ประนีประนอมกับดาราทมิฬและอยากปกป้องเราจริงๆ แต่ทว่า…นี่แทบเป็นไปไม่ได้”
เขาไม่กล่าวถึงเหตุผลที่สำคัญสุด ข้อกำหนดภารกิจระบุว่าพวกเขาต้องใช้เวลาสองวันเพื่อให้คะแนนต่ำสุด แต่เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง กำลังเสริมไม่อาจมาถึงได้ทัน สัญชาตญาณเขาร้องบอกว่าศิลาเทวะต้องเล่นไม่ซื่อ
หลายคนเริ่มคิดใหม่ แต่ก็ยังหวังว่าจะโชคดี
ครั้งนี้ มีความไม่เห็นด้วย เซอลีนี่กล่าวเสียงต่ำ”ฉันเลือกเชื่อข้อความนี้ ศิลาเทวะต้องไม่โกหกเรา และนี่อาจเป็นทางเดียวของเรา ฉันตัดสินใจไปจุดนัดพบ แล้วนายละ?”
“ฉันไม่ไป”หานเซี่ยวส่ายหัวโดยไม่ลังเลและมองไปทางโกอา โกอาลังเลสักพัก จากนั้นก็พยักหน้าและเห็นด้วยกับหานเซี่ยว แม้จะมีทหารรับจ้างในยานที่มีความคิดอื่น แต่เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวกับโกอาตัดสินใจแล้ว พวกเขาจึงทำได้แค่เก็บความคิด
พอตเตอร์ลังเล จากนั้นก็ปฏิเสธด้วย เลือกฟังคำแนะนำของหานเซี่ยว
เซอลีนี่ขมวดคิ้ว”งั้นก็ขอให้โชคดี”
ยานทองม่วงเบี่ยงไปจากเส้นทางและตรงไปยังจุดนัดพบ หายไปจากสายตา
หานเซี่ยวถอนหายใจและกล่าว”กำลังเสริมดาราทมิฬจะมาถึงในไม่ช้า และพื้นที่เราก็จะเล็กลงเรื่อยๆ หากเรายังคงบินบนพื้นผิว สถานการณ์จะยิ่งเลวร้าย เราต้องไปใต้ดิน ตัวสแกนได้บันทึกภูมิประเทศทั้งหมดที่เราผ่านมาแล้ว และยังมีหุบเขาซับซ้อนมากมาย พื้นที่ใต้พื้นบนดาวนี้ใหญ่มาก แถมยังมีสภาพแวดล้อมซับซ้อน การเคลื่อนที่จะทำให้เราลำบาก แต่มันก็จะช่วยให้การไล่ล่าเราลำบากด้วย นอกจากนี้ พื้นจะช่วยเราจากยานแม่ไม่ให้ตรวจจับได้ เป็นม่านป้องกันอีกชั้น…”
เขามีแผนคร่าวๆว่าจะทำอย่างไรต่อ สถานการณ์ไม่น่าพอใจ กำลังเสริมคือก้าวแรกของดาราทมิฬ ในไม่ช้าวงหนีพวกเขาก็จะถูกจำกัด โอบล้อมพวกเขา ทำการปูพรม และอื่นๆ บังคับให้พวกเขาเปลี่ยนเส้นทาง หานเซี่ยวไตร่ตรองและไตร่ตรอง และท้ายที่สุด เขาก็ตระหนักว่ามีเพียงทางเดียวเท่านั้น กระจายตัวออกไป
เป้าหมายของดาราทมิฬคือทหารรับจ้างทั้งหมด และยานอวกาศสองลำก็แค่สองเป้าหมาย แต่ทว่า หากพวกเขากระจายไปตามแวดล้อมที่ไม่อาจตรวจจับ ทหารรับจ้างทุกคนจะตกเป็นเป้า แม้จะมีคนโชคร้ายที่อาจเสียสละ มันก็จะช่วยถ่วงเวลาได้เพิ่ม เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอย่างที่คนปราถนาย่อมไม่เป็นจริง
“เอาตามที่นายพูด”โกอาเชื่อใจหานเซี่ยวมาก
หานเซี่ยวเปลี่ยนทิศทางของยานและมองไปข้างหน้า ในไม่ช้า ช่องโหว่ยาวก็ปรากฏบนขอบฟ้า เหมือนโลกสีเทาที่เปิดปากมัน จากที่ไกล มันดูเหมือนช่องเล็กๆ และเมื่อพวกเขาเข้าใกล้ พวกเขาก็ตระหนักว่ามันกว้างเป็นสิบเมตร
ฮู่!
ยานวงแหวนดาราบินตรงไปในช่องว่าง และวิสัยทัศน์พวกเขาก็มีแต่ความมืด
เครื่องตรวจจับร่างภูมิประเทศมืด ประมาณ2-3ร้อยเมตรลงไป มีถ้ำมากมายปรากฏทั้งสองฝั่ง หานเซี่ยวเลือกถ้ำและบินเข้าไป ภายในเป็นพื้นที่ใต้ดิน นำไปสู่ที่ไกลออกไป
มีพื้นที่ใหญ่มากใต้ดินของดาวนี้ มันเป็นอุโมงค์ซับซ้อนและเต็มไปด้วยหินเก็บของ มันไม่ถูกรบกวนมานานหลายปี และตอนนี้แขกคนแรกก็มาถึง
ยานคมดาบทำเหมือนกัน และยานไล่ล่าก็ตามติดมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเร็วพวกมันลดลง การบินในสภาพแวดล้อมแบบนี้จำต้องใช้ความเร็วการโต้ตอบสูง บวกกับพื้นที่จำกัด ดังนั้นขบวนของยานไล่ล่าจึงเปลี่ยนเป็นรูปแบบงูเลื้อย เนื่องจากถูกขัดขวาง ยานจู่โจม90%จึงถูกบดบังโดยทีมตัวเองและไม่อาจยิงได้
ยานทั้งสองบินลงใต้ดินได้ทัน หลบหนีจากแผนโอบล้อมของดาราทมิฬ
ยานทองม่วงยังอยู่บนผิวดาว และมันก็มาถึงจุดนัดพบ
เซอลีนี่ส่งคำขอติดต่อไปยังช่องที่ได้รับข้อความ
“ขบวนรบสามศิลาเทวะโปรดเข้ามา ผมมาถึงจุดนัดพบแล้ว หน่วยรับตัวอยู่ไหน?”
เขาทวนข้อความซ้ำๆ แต่ศิลาเทวะไม่ตอบและเงียบ สีหน้าเขาค่อยๆเปลี่ยนไป และเขาก็เริ่มหลั่งเหงื่อ
ยานทองม่วงไม่กล้าหยุด มันหมุนวนรอบๆจุดนัดพบเหมือนแมลงวันหัวขาด เมื่อกำลังหนุนดาราทมิฬมาจากทุกทิศทาง ใบหน้าของเซอลีนี่พลันขาวซีด จากนั้นก็รู้ว่าไม่มีใครมารับพวกเขา แบล็คสตาร์พูดถูก เขาคิดผิด
บูม บูม บูม!
ฝนกระสุนสาดเทลงมา!
ไม่นาน ยานทองม่วงก็กระแทกกับพื้น ประตูเปิด และทหารรับจ้างด้านในก็วิ่งกระจายไปทั่ว แต่ทว่า นักรบดาราทมิฬก็กระโดดลงจากยานจู่โจมในท้องฟ้าและโอบล้อมพวกเขา ไม่มีที่ให้หนี
การดิ้นรนของเซอลีนี่และคนอื่นไม่ทำให้เกิดผลกระทบใด ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจับง่ายๆและพาไปขึ้นยานเพื่อนำไปยานแม่
ทุกคนในสองยานที่กำลังบินใต้พื้นเห็นเหตุการณ์ที่เกิดกับทองม่วง เมื่อเห็นว่ามิตรสหายพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น พวกเขาก็หม่นหมอง
หากไม่ใช่ว่าหานเซี่ยวยืนกราน พวกเขาคงจบลงแบบนั้น
ทหารรับจ้างมองหานเซี่ยวด้วยความเชื่อใจยิ่งขึ้น
“ฉันได้บอกไปแล้ว…”หานเซี่ยวถอนหายใจ
เซอลีนี่เต็มใจเดิมพัน และไม่มีอะไรที่หานเซี่ยวสามารถทำได้ เขาไม่อาจควบคุมยานอวกาศทองม่วงได้
อย่างไรก็ตาม จากข้อดีและข้อเสียนี้ มันจะช่วยซื้อเวลาให้พวกเขาเพิ่ม ด้วยผลลัพธ์บางอย่าง มันย่อมทำให้ดาราทมิฬรีบร้อนน้อยลง
…
ภายในกระแสแสง ภาพของยานทองม่วงชนพื้นถูกฉายบนพอ ไชเวทส่ายหัว”แค่ลำเดียว”
จริงๆแล้วเขาเป็นคนออกคำสั่งให้ส่งข้อความ มันทำให้ทหารรับจ้างเข้าใจผิดและง่ายต่อการจับกุม แต่มันไม่ใช่เพราะเขาอยากช่วยดาราทมิฬ ในสายตาเขา ทหารรับจ้างเหล่านี้ต้องหนีไม่ได้อยู่แล้ว และการถูกจับก็เป็นแค่เรื่องของเวลา เขาแค่เร่งกระบวนการขึ้น ยิ่งทหารรับจ้างถูกจับเร็ว ดาราทมิฬก็จะออกไปเร็ว
กองทัพศิลาเทวะและอีกาดำรักษาตำแหน่งไว้ และการดิ้นรนไร้ความหมายของทหารรับจ้างเหล่านี้ก็จะเสียเวลาพวกเขาเปล่าๆ ทำให้สองอารยธรรมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเฝ้าดูสถานการณ์ มันทั้งเพิ่มภาระและความเสี่ยง ไชเวทแค่อยากให้ดาราทมิฬออกไปโดยเร็ว การออกคำสั่งก็เผื่อผลประโยชน์
นอกจากนี้ นี่ยังไม่อาจถือเป็นการแทรกแซง ดังนั้นมันจึงไม่นับเป็นการช่วยดาราทมิฬจริงๆ เขาแค่ส่งข้อความ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เรื่องแผนของดาราทมิฬ เขาไม่สนใจ ดาราทมิฬไม่มีธุระอะไรกับพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร โกโดร่าก็แค่ผู้เดียวที่รับทุกข์ ศิลาเทวะไม่คิดช่วยโกโดร่ากำจัดศัตรู และไชเวทก็ไม่อยากทำให้มันยุ่งยาก
น่าเศร้า ไม่ใช่ทหารรับจ้างทุกคนที่ติดกับ
“ผู้บัญชาการ เป้าหมายลงใต้ดินไปแล้ว เราไม่อาจเห็นภาพโดยตรงได้”
“รักษาตำแหน่งไว้”ไชเวทส่ายหัว
พวกเขาไม่อาจเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เมื่อทหารรับจ้างเหล่านี้ลงใต้ดิน ทั้งหมดทำได้แค่รอ
..
ภายในใต้ดินมืด ลำแสงพุ่งผ่าน ยานทั้งหมดบินด้วยความเร็วสูง
บูม!
เลเซอร์ยิงใส่กำแพงหินและทำให้หินถล่ม หินจำนวนมากตกใส่เกราะของยานวงแหวนนภา ก่อนจะกระจายเป็นเสี่ยงๆ
การไล่ล่าใต้ดินดำเนินอยู่หลายชั่วโมง ด้วยความที่พื้นที่จำกัด ยานจู่โจมขนาดใหญ่จึงไม่อาจเข้ามาได้ ดาราทมิฬทำได้แค่ใช้ยานไล่ล่า
พื้นที่ใต้ดินเต็มไปด้วยการหักโค้งและบิด และมันก็มืดสนิท ภาพพร่ามัวจากเครื่องตรวจจับเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาพึ่งพาเพื่อหลบอุปสรรค หานเซี่ยวจดจ่อและไม่ชนอะไร แต่ยานไล่ล่าด้านหลังเขากลับผิดพลาดเรื่อยๆ บางครั้ง ยานไล่ล่าจะชนกำแพง เสาและอื่นๆ ทำให้พวกมันค่อยๆสูญเสียการมองเห็นแสงไฟของหานเซี่ยว
ในทางกลับกัน ยานคมดาบไม่โชคดีเท่า พวกเขายังถูกไล่ล่าตามติด ทักษะของพอตเตอร์ยากจะบังคับได้ดี และทหารรับจ้างคมดาบก็อยากย้ายยาน
บังเอิญ คนของวงแหวนนภามีความคิดเดียวกัน
“ไม่เห็นยานไล่ล่าแล้ว มีแค่เสียง พวกมันยังไล่ตามมาอยู่”หานเซี่ยวมองด้านหลังและกล่าว”หลังไล่ล่าอยู่หลายชั่วโมง ความอดทนของดาราทมิฬควรหมดลงแล้ว”
“เรา…เองก็…ถึงขีดจำกัดแล้วเหมือน…กัน”
เฮอลัสแทบพูดไม่จบประโยค
เขาถือว่าอยู่ในสภาพดีเพราะอย่างน้อยก็พูดได้ นอกจากเขา ทหารรับจ้างวงแหวนนภานอนราบเหมือนหมูตาย ดวงตาของพวกเขาไม่ขยับ ฟองสีขาวลอยออกปาก และมือกับขาพวกเขาก็สั่น น้ำแข็งที่ใช้ยึดขาพวกเขาแตกไปแล้ว
เพียงเมื่อหานเซี่ยวกำลังจะพูดบางอย่าง พื้นใต้ดินก็สั่นอย่างรุนแรง!
บูม!
เสียงระเบิดดังจากทุกทิศทาง!
“ปูพรม…?”โกอากล่าว
“เป็นไปได้ ดาราทมิฬเริ่มถล่มพื้นผิว หวังจะกระตุ้นปฏิกิริยาลูกโซ่และทำให้พื้นใต้ดินพัง บังคับให้เรากลับไปข้างบน เหมือนการไล่หนูออกถ้ำ จากนั้นก็จะล้อมเราบนพื้นผิว และเราก็จะไม่มีที่ให้หนี”หานเซี่ยวกล่าวอย่างใจเย็น เขาคาดไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงยังสงบสติได้
“ไม่มีอะไรที่เราทำได้เลยงั้นหรอ?!”โกอาไม่อยากยอมแพ้
“เราถ่วงเวลามาหลายชั่วโมงแล้วด้วยยาน มันถึงขีดจำกัดแล้ว”
หานเซี่ยวสูดหายใจลึก”เราต้องทิ้งยาน”
ผู้คนตกตะลึง ยานเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถพึ่งพาได้ หากพวกเขาละทิ้งยาน นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเสียความคล่องตัวและกลายเป็นปลาในถัง