The Legendary Mechanic - ตอนที่ 460 อสูรดวงดาว 1
ตอนที่ 460 อสูรดวงดาว 1
สุดยอดช่างกลหานเคยวิวัฒนาการเผ่าพันธ์ครั้งหนึ่ง ยืนเขาได้รับการปรับปรุง แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังตกใจกับความหล่อของตัวเองตอนมองกระจก แต่ทว่า เสน่ห์เหมือนความสัมพันธ์ มันส่งผลต่อความโปรดปรานและตัวเลือกลับตอนสื่อสารกับคนอื่น ผลของความสามารถบางอย่างยัง ขึ้นอยู่กับเสน่ห์ เช่นความสามารถการอัญเชิญและความสามารถการควบคุมอสูร
เมื่อความสัมพันธ์ไม่พอ คนอื่นอาจปฏิเสธการสื่อสารเพิ่มเติม
ผู้เล่นที่กระตุ้นภารกิจนี้ในชีวิตก่อนหน้าต้องมีเสน่ห์พอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เจออุปสรรคใด ตามค่าประสบการณ์ของหานเซียว หากภารกิจไม่อาจกระตุ้นได้แม้หลังทําตามกระบวนการ มันก็น่าจะเป็นเพราะข้อกําหนดลับ อย่างค่าเสน่ห์ไม่พอ
แต่ทว่า หานเซียวไม่ได้ใส่แต้มสถานะลงเสน่ห์ มันจะไปมีประโยชน์อะไร?ความแข็งแกร่งสิถึงมีประโยชน์กว่า!
เฟย์ดินเข้าถึงบทบาทเข้าในฐานะตัวละครหลักที่มุ่งเน้นความดึงดูด เขาโน้มน้าวเนเรจาตรงๆ ภารกิจนี้ไม่ยากพวกเขาแค่ต้องไปสืบสวนดาวเคราะห์เป้าหมาย ภารกิจสามารถเสร็จก็ต่อเมื่อพวกเขาตรวจสอบซากยาน แต่ทว่า การได้คะแนนสูงไม่ง่าย พวกเขาต้องค้นหาความจริงว่าทําไมทีมวิจัยถึงขาดการติดต่อและหาผู้สังเกตที่หายไป ภารกิจเรียกว่า[อสูรดวงดาว]ซึ่งเป็นเบาะแสให้ผู้เล่น
แน่นอน การหาภรรยาของเนเรจาเป็นวิธีหนึ่งในการเพิ่มคะแนนเป็นหรือตาย
ในรางวัลภารกิจ รางวัลเงินเป็นสีเทา ซึ่งหมายความว่ามันถูกล็อค และไม่ว่าจะได้คะแนนสูงแค่ไหน มันก็จะไม่มีรางวัลเงินเพิ่มเติมเนเรจามีเงินไม่มาก
ฉันกระตุ้นภารกิจนี้หลายปีก่อนผู้เล่นจะทํา ดังนั้นกระบวนการควรแตกต่าง มีปัจจัยไม่แน่นอนมากเกินไป แต่ประเด็นหลักก็ควรเหมือนเดิม..
เมื่อผู้เล่นแต่ก่อนยอมรับภารกิจ เบื้องหลังก็แตกต่าง ในเวลานั้น เบื้องบนโกโดร่าได้ส่งทีมวิจัย มาอีกทีม แต่พวกเขาก็หายไปอย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ส่งข้อมูลใหม่กลับมาก่อนขาดการติดต่อ ระบุว่าดาวเคราะห์ถูกปกคลุมด้วยสนามแม่เหล็กแปลกๆที่สามารถรบกวนการสื่อสารทั่วไปได้ ดังนั้นจึงทําให้ทีมวิจัยทั้งหมดบนดาวขาดการติดต่อกับโลกภายนอกร่องรอยการปะทะของยานสา มารถเห็นได้ด้วยวอุปกรณ์สังเกตในสถานีอวกาศเท่านั้น ซึ่งหมายความว่ามีเรื่องอื่นเกิดขึ้นกับทีมวิจัยระหว่างที่พวกเขาขาดการติดต่อและลงจอด
เนื่องจากเป็นสาเหตุธรรมชาติ นี่จึงไม่ได้รับความสนใจจากผู้อํานวยการหน่วยข่าวกรองและ สืบสวนนัก พวกเขารับผิดชอบการสืบสวนทั่วระบบดาว ดังนั้นจึงมีภารกิจนับไม่ถ้วนให้พวกเขาทําทุกวัน และมีแค่งานสําคัญที่ผ่านระบบอัจฉริยะถึงได้รับการจัดการจริงๆ ระบบอัจฉริยะจะจัดระดับภารกิจตามความสําคัญ ดังนั้นภารกิจนี้จึงถูกวางในภารกิจทั่วไป หลังทีมวิจัยขาดการติดต่ออีกครั้ง มันก็สันนิษฐานว่าผู้สังเกตล้วนตายแล้วและหยุดการสืบสวนดาวนั้น จากนั้นพวกเขาก็บอก กับหอดาราศาสตร์ให้ทําการวิจัยสภาพแวดล้อมดาวนี้ก่อนจะทําการตัดสินใจเพิ่มเติม
ดังนั้น การสืบสวนจึงถูกพับเก็บไว้ก่อน เมื่อผู้เล่นมาถึงปัญหานี้จึงถูกแก้ ไม่มีใครเหมาะสมกับการสํารวจอันตรายไปมากกว่าผู้เล่น
รองหัวหน้าสถานีข้างหานเซี่ยวตอนนี้ได้กลายเป็นหัวหน้าสถานีในชีวิตก่อนหน้าเขา แต่เขาก็ยังเป็นคนให้เบาะแสภารกิจ
ตอนนี้ เบาะแสเหล่านี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย โชคดี หานเซี่ยวจําพวกมันได้ ไม่งั้นพวกเขาคง เจออันตรายหากมาโดยไม่มีข้อมูล หานเซี่ยวเดาว่าหากเขานําเบาะแสเหล่านี้กลับไป มันควรถูกคํานวณเป็นคะแนนภารกิจ
เนเรจานําอุปกรณ์สื่อสารออกมา ส่งไฟล์จํานวนมากและพูดอย่างเคร่งขรึม” นี่คือพิกัดของดาว เคราะห์นั้นและตําแหน่งที่เกิดการปะทะ ชื่อของภรรยาผมคือเลนนี่ นี่คือรูปเธอช่วยหาตัวเธอด้วย”
“เข้าใจแล้ว”
หานเซี่ยวพยักหน้าและดึงเฟย์ดินกลับโถง
เมื่อยานอวกาศเติมเชื้อเพลิงมันเสร็จ หัวหน้าสถานีก็ปรากฏอีกครั้ง แสดงความตั้งใจส่งพวกเขาออกไป หานเซี่ยวได้รับภารกิจที่ต้องการแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่อยู่อีก เขาขึ้นยานไปกับคนอื่น และบอกพวกเขาถึงปฏิบัติการนี้
“นายยอมรับงานจ้างส่วนตัว?นี่คือเรื่องภายในของโกโดร่า และเราก็กําลังทํางานใต้จมูกพวกเขาโดยไม่ได้รับอนุญาติ-โกโดร่าจะไม่มีปัญหาอย่างงั้นหรอ?”เฮอลังลังเล
“ดาวนั้นไม่ได้เป็นของโกโดร่าซะหน่อย ไม่มีใครบอกว่าเราไม่อาจไปที่นั่นได้”
หานเซี่ยวยักไหล่และเข้าพิกัดของดาว มันถูกแสดงด้วยดาวเคราะห์นิรนาม ดาวเคราะห์นี้ยังไม่ได้รับการสืบสวนเต็มๆ ดังนั้นจึงไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการบนฐานข้อมูล นี่คือหนึ่งในความแตกต่างเมื่อเทียบกับสถานการณ์ในชีวิตก่อนหน้าเขา
ในจักรวาลกว้างใหญ่ ยังมีดาวเคราะห์ที่ยังไม่ค้นพบอีกมาก ดาวเคราะห์ทรัพยากรเหล่านี้มีชุดรหัสที่บันทึกไว้ในฐานข้อมูลหลังทีมสืบสวนภาคสนามลงไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครลงไปสืบสวน
ในจักรวาลมืดมิด หางยานอวกาศได้พ่นแสงสีน้ําเงินออกมา ยานตรงไปทางปลายทาง เมื่อความเร็วของยานพุ่งถึงขีดสุด มันก็กลายเป็นกระแสแสงและเข้าสู่สภาวะกระโดดหายไปในแม่น้ําดวงดาว
ไม่กี่วันต่อมา ด้านนอกช่องหน้าต่างคือดาวเคราะห์สีเทาเล็ก ไม่มีพืชและไม่มีดาวประจําใกล้ๆ มันโดดเดี่ยวไม่มีดวงอาทิตย์สามารถเห็นได้บนดาว และอุณหภูมิพื้นผิวก็เย็นมากมีร่องรอยภูเขาไฟ ดังนั้นมันจึงไม่ควรเย็นเท่ากับ0องศา
เห็นได้ชัดว่าสภาพแวดล้อมของดาวนั้นไม่เหมาะกับการอาศัยนัก
“สวมชุดป้องกันให้ดี เมื่อผิวสัมผัสกับอากาศ ร่างของพวกนายจะได้รับความเสียหาย”
ขณะที่หานเซี่ยวพูด เขาก็เปิดใช้ชุดจักรกลมังกรอวกาศ ปรับอุณหภูมิภายในและคงไว้ระดับนั้น การใช้พลังงานน้อยนี้ไม่คุ้มค่ากับการต้องใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบพกพาด้วยซ้ํา แม้ชุดจะถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ แต่รังสีก็ยังถูกปิดกั้นด้วยเปลือกพิเศษของเตาปฏิกรณ์แน่นอน แม้เขาจะสัมผัสกับอากาศ หานเซี่ยวก็ไม่ได้รับความเสียหายด้วยความทนทานปัจจุบันเขา
เมื่อเฮอลัสกําลังจะสวมชุดจักรกล ซึ่งหานเซี่ยวให้เขายืม เขาก็ถอนหายใจและกล่าว” หากยังมีเกราะสายบัญชาการที่พี่ฉันมอบไว้ให้ละก็”
หานเซี่ยวยื่นมือออกไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ส่งคืนมาหากนายไม่สวมมัน”
“ไม่เอาหน่า อย่าคิดมากสิ” เฮอลัสรีบกล่าวและสวมชุด
อโรเชียไม่ต้องใช้ชุดจักรกล ตราบเท่าที่เธอเปลี่ยนเป็นรูปแบบพลังงาน เธอก็จะสามารถมองข้ามสภาพแวดล้อมรุนแรงได้
สําหรับภารกิจนี้ หานเซี่ยวได้นําเฮอลัสและอโรเชียมาด้วย คนอื่นล้วนอยู่บนยาน พวกเขาไม่ แข็งแกร่งพอการนํามาย่อมเป็นภาระ
ด้วยความที่สนามแม่เหล็กของดาวสามารถปิดกั้นการสื่อสาร หานเซี่ยวจึงจอดยานอวกาศนอกชั้นบรรยากาศและกําหนดเวลารับพวกเขา ทั้งสามใช้ยานบินขนาดเล็กเพื่อลงจอดบนดาว
ยานอวกาศเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ประตูเปิด และยานขนาดเล็กก็บินออกมา นี่คือยานบิน สอดแนมผีเสื้อมังกร” รุ่นที่องครักษ์เกาะมังกรใช้กัน หานเซี่ยวได้เรียนรู้พิมพ์เขียวนี้ไว้
หลังมันออกตัว ยานอวกาศก็ลอยสูงขึ้นและออกชั้นบรรยากาศไป
ภายในยานบิน หานเซี่ยวขับและควบคุมมันง่ายๆ อีกสองนั่งที่นั่งโดยสารด้านหลังเขา
“ไปกัน จุดปะทะของทีมวิจัยอยู่ด้านล่าง”
สนามแม่เหล็กส่งผลต่อเรดาห์ด้วย แต่หานเซี่ยวก็ปรับตําแหน่งเมื่อพวกเขาอยู่บนยาน จุดหมายพวกเขาอยู่ด้านล่าง
ด้วยการดึงคันเกียร์ ท่อต่อต้านแรงโน้มถ่วงใต้ยานบินจะส่องแสงเล็กน้อย พวกเขาพลันร่อนลงอย่างรวดเร็ว
รอบตัวพวกเขามืดสนิท และมันก็ยากจะมองเห็น ดาวดังกล่าวไม่มีแสงจากดาวประจําในหลายส่วนของจักรวาล หานเซี่ยวปรับการรับรู้แสงของยานบินและวิสัยทัศน์พวกเขาก็ดีขึ้น พวกเขาสามารถเห็นสภาพแวดล้อมใกล้เคียง
“ประมาณหกพันเมตรถึงพื้น” เฮอลัสกล่าว
“รอก่อน อาจมีความปั่นป่วน” เมื่อหานเซี่ยวพูด เขาก็ดับเครื่องบนต์และอุปกรณ์ต้านแรงโน้มถ่วง
ยานบินตกลงอย่างเร็ว
เฮอลัสตกใจ” นายทําอะไร?!”
ก่อนหานเซี่ยวจะได้ตอบ ยานบินก็สั่น ประกายไฟฟ้าปะทุจากแผงวงจรภายใน และปุ่มอย่างน้อยสามในสี่ส่วนก็ไม่ตอบสนอง
มีคําเตือนปรากฏบนเครื่องตรวจจับรังสี และเงาที่ดูคล้ายพายุทรายก็พักมาทางพวกเขา
“ที่ระดับความสูง2-6พันเมตรบนดาว มีพายุรังสีที่สามารถทําให้อุปกรณ์ส่วนใหญ่ในยานไร้ผล นั่นทําให้ยานทีมวิจัยตก แต่ทว่ายังมีความสูงประมาณ2พันเมตรก่อนปะทะกับพื้น ดังนั้นโล่พลังงานควรป้องกันพวกเขาจากการกระแทกกับพื้นได้” หานเซี่ยวอธิบาย “ยานอวกาศชั้นสูงสามารถทนได้ แต่ยานวิจัยของโกโดร่าต้องมีอุปกรณ์ระดับสูงติดอยู่ไม่มากนัก”
“งั้นเราควรทํายังไง?”เฮอลัสตกตะลึง ไม่ใช่ว่าเราติดอยู่บนดาวนี้ใช่ไหม? แถม ยานอวกาศเรายังไม่สามารถมารับตัวเราได้”
“ไม่ต้องห่วง ทุกๆครั้ง พายุรังสีจะอ่อนแอ ตอนนั้นเราจะออกไปได้” หานเซี่ยวไม่กังวล เขาจํากระบวนการภารกิจนี้ได้ นอกจากนี้ เมื่อมันสําเร็จภารกิจนี้จะเปลี่ยนเป็นดันเจี้ยน และผลักดัน เจี้ยนจะสามารถรับได้จากการทําภารกิจประจําวันในสถานีอวกาศ ผู้เล่นนับไม่ถ้วนเคยมาดาวนี้ ดังนั้นเขาจึงคุ้นดี
แรงดึงดดูดของดาวรุนแรงมาก ยานตกลงด้วยความเร็วสูง พวกเขาผ่านพายุรังสีและเห็นภูเขากับปล่องด้านล่าง ด้วยความสูงนี้ มันย่อมแตกเป็นเสี่ยงๆ
แน่นอน ทั้งสามจะไม่ตายจากการตก แต่ยานบินคือทรัพยากร และหานเซี่ยวก็ไม่ยอมทิ้งมันง่ายๆ เมื่อเขากดปุ่ม ปีกก็โผล่จากทั้งสองฝั่งของยานบิน เขาเปลี่ยนยานบินเป็นการควบคุมประสาทและเชื่อมต่อเครื่องร่อนกับสัญญาณประสาทแขนเขา มันรวดเร็วและราบรื่นเหมือนควบคุมแขน
เขาเอง
ด้วยความที่เครื่องยนต์ยังดับ ยานบินจึงค่อยๆเปลี่ยนจากการตกเป็นร่อน เข้าใกล้พื้นอย่างรวดเร็ว
บูม!
ท้ายที่สุด ยานก็ลงจอดในมุมเอียง ทําให้เกิดทรายและฝุ่นลอยขึ้นมาก เครื่องสร้างม่านพลังยังทํางานและกระพริบ ม่านพลังและเครื่องยนต์ขับเคลื่อนไม่ได้อยู่ในระบบเดียวกันและมีพื้นฐานต่างกัน แม้ม่านพลังจะได้รับผลกระทบจากพายุรังสี แต่ก็สามารถฟื้นคืนได้ระดับหนึ่ง
ความวุ่นวายเกิดขึ้นสักพักก่อนเงียบลง อโรเชียลูบก้นเธอเนื่องจากเธอไม่ได้เปลี่ยนเป็นร่างพลังงาน เธอเจ็บตัวหน่อย
หานเซี่ยวยืนขึ้นและดึงคันโยกลง ประตูเปิดและลมหนาวเย็นก็พัดใส่หน้าพวกเขา อุณหภูมิ ภายในชุดจักรกลลดลงอย่างรวดเร็วก่อนจะค่อยๆกลับเป็นปกติ
“อุณหภูมิประเทศ-100องศา มันสูงกว่าที่คิดไว้มาก ดูเหมือนว่าจะมีแหล่งน้ําบนดาวนี้”
หานเซี่ยวเหยียดแขนขา หายใจผ่านชุด เขาไม่คิดวิ่งไปรอบๆโดยไม่สวมชุดจักรกล
อโรเชียเกือบแข็งตัวจากความหนาวและรีบเปลี่ยนเป็นพลังงาน หลังเข้าสู่ระดับB เธอก็เชี่ยวชาญมากขึ้น เมื่อเธอเปลี่ยนเป็นร่างพลังงาน เธอก็ยังคงรักษารูปร่างมนุษย์ รวมถึงหน้าตา นอกจากร่างเธอที่สร้างขึ้นด้วยพลังงานแสบตา ทุกอย่างยังไม่เปลี่ยน
“จุดลงเบี่ยงไปจากเป้าหมายเล็กน้อย” เฮอลัสมองรอบๆ” ดูเหมือนเราจะทําได้แค่ค่อยๆค้นหา”
หานเซี่ยวตบและแตะพื้น ภายใต้ฝุ่นดําหยาบบนหินแข็ง ความหนาแน่นของผิวดาวเคราะห์ค่อนข้างสูง จากนั้นเขาก็แหงนหน้าและค้นหาร่องรอยบนท้องฟ้า
ในไม่ช้า ผ่านการซูมของชุด เขาก็เห็นแสงจากยานอวกาศนอกชั้นบรรยากาศ เขา ชี้ไปทางนั้นไม่ต้องหาเป้าหมายอยู่ตรงนั้น”