The Legendary Mechanic - ตอนที่ 461 อสูรดวงดาว 2
ตอนที่ 461 อสูรดวงดาว 2
สภาพอากาศหนาวจัด บนผิวดาวเคราะห์สีเทาว่างเปล่า หลุมอุกกาบาตเห็นได้ทั่ว ยานอวก าศนอกชั้นบรรยากาศทําหน้าที่เป็นผู้นําทาง ดังนั้นหานเซี่ยว เฮอลัสและอโรเชียจึงเดินไปทางนั้น แม้แรงโน้มถ่วงของดาวจะสูง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อยอดมนุษย์อย่างพวกเขานัก หลังจากนั้นไม่นาน ซากยานอวกาศก็ปรากฏตรงหน้าพวกเขา
นี่คือยานวิจัยโกโดร่า เปลือกแสงสีทองมันปกคลุมด้วยฝุ่นดํา ตัวยานบิดเบี้ยวจากการปะทะ และด้านหลังก็เป็นรอยแยกยาวหลายร้อยเมตร ชิ้นส่วนยานอวกาศกระจายไปทั่ว เห็นได้ชัดว่า ยานนั้นพุ่งกระแทกมาไกลพอสมควร
เฮอลัสมองหน้าจอยุทธวิธีเขาและพูด”มันเงียบมาก และไม่มีสัญญาณความร้อน ฉันคิดว่าเรา ควรไปดูทางนั้น”
“ขอบคุณสําหรับคําแนะนําที่ไม่มีใครคิดได้” หานเซี่ยวกลอกตา
เฮอลัสยักไหล่” คําพูดนายช่างสุภาพขึ้นเรื่อยๆนะ ฉันยังเก็บความรู้สึกเมื่อวันวานอยู่”
“ฉันจะมารยาทดีต่อคนแปลกหน้าเท่านั้น”
“ฉันภูมิใจนะ” เฮอลัสเปลี่ยนเรื่อง” ชุดจักรกลนายมีคุณสมบัติหลากหลายเลยทีเดียว”
“อะไร ชุดเกราะที่พี่ชายนายทิ้งไว้ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้งั้นหรอ?”
“เห้อ พี่ชายฉันรู้จักฉันดี เขารู้ว่าฉันไม่ชอบคุณสมบัติเหล่านี้ เกราะที่เขาออกแบบให้ฉันเน้นการรบเท่านั้น เพื่อให้รู้ว่าศัตรูแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันแค่ต้องสู้ จะวิเคราะห์ไปทําไม?พูดก็พูด คนบนดาวบ้านฉันเอาชุดเกราะฉันไปวิจัยเป็นปีแล้ว ฉันยังมอบบันทึกพี่ชายให้พวกเขา ดังนั้นพวกเขาควรได้อะไรบ้าง เราหาโอกาสกลับไปและเอาชุดเกราะฉันคืนกันหน่อยดีไหม?”
“นายให้คําแนะนําที่ชาญฉลาดจริงๆ” หานเซี่ยวกล่าวด้วยน้ําเสียงแปลกใจ”น่าตกใจมาก”
เฮอลัสพูดไม่ออก ฉันอยากชักดาบออกมา แต่ก็ต้องรักษารอยยิ้ม
ขณะที่พวกเขาคุยกัน ทั้งสามก็มาถึงซากยาน นี่คือยานวิจัยขนาดกลาง มันถูกแบ่งเป็นหลายห้องโดยสารและมีความสูงกว่าสิบเมตร เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ รายละเอียดก็ยิ่งปรากฏ มีรูขนาดใหญ่ด้านข้างยาน แต่ประตูยังปิด หานเซี่ยวมองเข้าไป มันมืดสนิท เห็นได้ชัดว่าระบบไม่ทํางาน
“เข้าไปดูข้างในกัน เพื่อยังมีศพหรือคนรอด” หานเซี่ยวกล่าว แม้เขาจะจําได้ว่าภารกิจเป็นยังไง แต่ในเมื่อเขามาคนละช่วงเวลา เขาจึงไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม
เขาสํารวจภายใน และไม่มีคนเลย หานเซี่ยวเปลี่ยนไปใช้หน้าต่างสถานะการแกะรอยและค้นพบรอยเท้าที่ตื่นตระหนก หลังแยกร่องรอยล่าสุด เขาก็ตระหนักว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ออกจากยาน นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของคนถูกลากไปตามพื้นในบางแห่ง
“อืม เห็นได้ชัดว่าม่านพลังไม่ได้ป้องกันพวกเขาเต็มที่ และบางคนยังหมดสติ แต่ทว่า ไม่มีรอยเท้าคนไหนออกจากยาน มันเหมือนกับว่าทุกคนหายไปในอากาศ ประตูปิด ซึ่งหมายความว่ารูนั่นเกิดจากอย่างอื่น มันเหมือนสิ่งมีชีวิตพิเศษบนดาวนี้ และสิ่งนั้นก็คือเหตุผลให้ลูกเรือหายไป”
หานเซี่ยวพูดคล่อง เขาเดินไปรอบๆและอธิบาย สถานการณ์ไม่แตกต่างจากภารกิจในชีวิตก่อนหน้าเขานัก ซึ่งทําให้ความกังวลเขาลดลงทันที นับตั้งแต่สถานะสติปัญญาเขาสูงขึ้น เขาก็ตระหนักว่าความทรงจําเขาดีขึ้นด้วย ความทรงจําเลือนรางเริ่มชัดเจนขึ้น
คะแนนภารกิจขึ้นอยู่กับผลการสืบสวน ดังนั้น แม้หานเซี่ยวจะรู้ว่าบอสสุดท้ายอยู่ไหน เขาก็ไม่รีบไป เขาย้ายไปห้องควบคุมยาน พบคอมพิวเตอร์ส่วนกลางและรีบู๊ตระบบยานอวกาศด้วยตนเอง
ฮัม!
ยานสั่นสะเทือนและห้องทั้งหมดก็สว่างขึ้น
“รีบู๊ตสําเร็จ กําลังตรวจสอบสภาพความเสียหาย7296 อุปกรณ์ส่วนใหญ่ไร้ความสามารถตรวจพบการรั่วไหลของเชื้อเพลิง พลังงานเหลือ 3% กําลังเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน”
หานเซี่ยวกดปุมหลายปุ่ม”เปิดการบันทึก
“พลังงานไม่พอ ปฏิเสธ”
“เปลี่ยนเป็นโหมดบังคับมือ”
“โปรดยืนยันรหัสผู้สังเกตการณ์”
หานเซี่ยวคิด ก่อนนําอุปกรณ์สื่อสารออกมาและค้นหาชื่อ จากนั้นก็เจอรหัสของเคอล็อต
“กําลังเชื่อมต่อฐานข้อมูลศูนย์ใหญ่ล้มเหลว สัญญาณถูกรบกวนโดยแหล่งที่ไม่รู้จัก กําลังเชื่อมต่อฐานข้อมูลท้องถิ่นสําเร็จ กําลังอนุญาติล้มเหลว รหัสนี้ไม่อยู่ในรายชื่อลูกเรือของยานนี้”
“ระบบการทํางานของโกโดร่าแย่มาก”
ปากของหานเซี่ยวกระตุก เขาซื้อเปลือกคอมพิวเตอร์กลางและดึงชิปอัจฉริยะออกมา การนําชิปกลับไปสถานีอวกาศคงให้ผลเหมือนกัน
เขาถอดชิ้นส่วนหลักของยานออกไป ทั้งหมดจะเพิ่มคะแนนภารกิจหากเขานํากลับไป จากนั้น ทั้งสามก็เดินออก ไม่มีของล้ําค่าอะไรเหลือภายใน
เฮอลังลังเล” หากลูกเรือถูกจับไป นั่นก็หมายความว่าสิ่งมีชีวิตนั้นบินได้?ไม่มีร่องรอยสิ่งมีชีวิตใดเดินบนพื้นเลย เราจะหามันเจอได้ยังไง?”
หานเซี่ยวแตะขอบรู มีชั้นน้ําแข็งอยู่บนนั้น ส่วนอื่นของยานไม่ได้ถูกแช่แข็ง มีเพียงส่วนนี้เท่านั้น หมายความว่าไอน้ําถูกนํามาโดยสิ่งมีชีวิตนั้น ด้วยอุณหภูมิต่ําของที่นี่ หากมีร่างกายน้ํา มันควรจะเป็นน้ําพุร้อนใต้พิภพสิ่งมีชีวิตนี้มักใช้มันเป็นรัง…”
ดวงตาของเฮอลัสเป็นประกาย”งั้น ผู้สังเกตก็อาจจะยังไม่ตาย!”
“ฉันไม่รู้” หานเซี่ยวตอบลวกๆ มีซากยานอื่นใกล้ๆอีก ไปดูกัน”
ไม่นาน พวกเขาก็พบซากยานวิจัยอีกลํา เหมือนกับก่อนหน้า ไม่มีใครอยู่ แต่ทว่า ร่องรอยต่างกัน มีรอยเท้ายุ่งเหยืองนอกยานและยังเป็นร่องรอยการต่อสู้ ผู้สังเกตชุดสองบนยานนี้แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงยังมีพลังขัดขืนหลังการปะทะ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายพวกเขาก็แพ้กันหมด
“มีรอยน้ําแข็งบนพื้นมากกว่าหนึ่ง แต่ไม่มีเลือดแช่แข็ง ดังนั้นจึงสมควรไม่มีใครตาย มีร่องรอยการต่อสู้ไม่มาก ดังนั้นผู้สังเกตการณ์เหล่านี้ย่อมแพ้กันยับเยิน”
หลังดูเบาะแส หานเซี่ยวก็ถอดชิ้นส่วนหลักของยานนี้ด้วย”ไปกัน ฉันพอรู้อะไรบ้างแล้ว”
ตามเส้นทางในความทรงจําเขา หานเซี่ยวรีบก้าวไปโดยไม่หยุด ปกติ มีเพียงการสะสมเบาะแสใกล้ๆมากขึ้นถึงพบรังของบอส แต่ทว่า คะแนนภารกิจจะไม่สูงด้วยวิธีนี้ ในชีวิตก่อนหน้าเขา มีซากยานอวกาศมากมายในตอนนั้น หมายถึงเบาะแสที่มากขึ้น เบาแสที่พวกเขามีตอนนี้น้อยมาก ซึ่งไม่เป็นประโยชนัก แต่ทว่าหานเซี่ยวไม่ลําบาก เขามุ่งตรงไปยังสถานที่ในความทรงจําเขา
ไม่นาน พวกเขาก็พบรังลับตรงก้นหลุมอุกกาบาต มีร่องรอยการขุด และทางเข้าก็กว้างประมาณ4-5เมตร ค่อนข้างใหญ่ เส้นทางนั้นเอียงลง พวกเขาทั้งสามสไลด์ลงไปตามอุโมงค์และในที่สุดก็เหยียบบนพื้นน้ําแข็ง
รอบตัวพวกเขาเป็นใต้ดินมีด อุณหภูมิสูงกว่าบนพื้นผิว มีทางเดียวให้เดินคือด้านหน้า
หานเซี่ยวเปิดใช้การมองเห็นกลางคืน เดินไปข้างหน้าสักพักและมาถึงทางแยก โดยไม่ลังเล หานเซี่ยวเลิกทางซ้าย อุณหภูมิค่อยๆเพิ่ม เฮอลัสถอดหมวก สัมผัสสภาพแวดล้อมและกล่าว” อุณหภูมินี้ค่อนข้างสบาย”
“เราเกือบถึงแล้ว เตรียมสู้” หานเซี่ยวกล่าว
ทั้งสามมาถึงปลายอุโมงค์ ตรงหน้าพวกเขาคือทะเลสาบใต้ดิน น้ํากําลังเดือด ปล่อยฟองสบู่ลอยขึ้นผิวน้ํา ทําให้บริเวณเหนือทะเลสาบเต็มไปด้วยหมอกหนา ทะเลสาบนี้เป็นเหมือนน้ําพุร้อน ซึ่งหมายความว่าควรจะมีพื้นที่ความร้อนสูงใต้มัน ซึ่งทําให้เกิดน้ําพุร้อน
ครั้งนี้ เสียงอุทานพลันดังขึ้น
“คุณเป็นใคร?” ชาวโกโดราเปลือยกายปรากฏในน้ําพุร้อน มองพวกเขาด้วยความแปลกใจ หยดน้ําไหลไปตามเรือนรางได้รูปของเธอ
เฮอลัสมองลง จากนั้นก็ขึ้น จากนั้นก็มองซ้ําหลายครั้งก่อนตระหนัก”คุณคือเลนนี่?”
“คุณรู้จักฉัน?”โกโดร่าหญิงแปลกใจ เธอคือภรรยาของเนเรจาแน่แท้
“เราคือทหารรับจ้าง เรายอมรับคําขอของสามีคุณและมาช่วยคุณ คนอื่นอยู่ไหน?”เฮอลัสถาม
“ในที่สุดก็มีคนมาช่วยเรา คนอื่น”
ความยินดีปรากฏบนหน้าเลนนี้ แต่ทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป” อย่ายืนตรงนั้น มันกําลังออกมาแล้ว
เพียงเมื่อเธอพูดจบ วังวนน้ําขนาดเล็กก็ก่อตัวขึ้นกลางทะเลสาบน้ําพุร้อน บางสิ่งที่ใหญ่โตกําลังโผล่ขึ้นมา คลื่นคล้ายสึนามิขยายตัวจากใจกลางและสาดใส่พวกหานเซี่ยว
บูม!
สิ่งมีชีวิตประหลากระโดดออกมาและลอยกลางอากาศก่อนหันไปมองทั้งสามคนบนฝั่ง
“นี่คืออะไร?” ดวงตาของเฮอลัสเบิกกว้าง
“อสูรดวงดาว สิ่งมีชีวิตที่ถือกําเนิดในอวกาศ” หานเซี่ยวรีบอธิบาย.” มันสามารถบินในอวกาศ ด้วยร่างมันและเพิ่มความเร็วผ่านแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ ตามทันความเร็วของยานอวกาศ แม้มันจะไม่อาจกระโดดได้เหมือนยานและมักบินเพียงลําพังหลายพันปี แต่ช่วงชีวิตพวกมันก็เรียกได้ว่าไร้สิ้นสุด พวกมันสามารถลอกคราบและต่ออายุเซลล์พวกมันได้ พวกมันหาได้ยากมาก จอมเวทย์สามารถอัญเชิญอสูรดวงดาวได้ผ่านพิธีโบราณ คาถานี้เป็นแบบทางเดียวและไม่สนใจระยะห่างทางกายภาพ แต่ทว่า พวกเขามักอัญเชิญอสูรดวงดาวออกมาเพื่อล่าและฆ่า เหนือสิ่งอื่นใด ร่างกายพวกมันถือเป็นวัตถุดิบหายากยิ่ง”
อสูรดวงดาวตรงหน้าพวกเขาแปลกมาก มันมีลําตัวเพรียว ร่างกายสีม่วงยาวสิบเมตร มันไม่มีเกล็ดหรือขนและดูเรียบเนียน ผิวมันมีเนื้อโปร่งแสง เปล่งแสงสลัวภายใต้ผิว มันไม่มีแขนขาด้านหน้าและหางมันแคบ ส่วนตรงกลางกว้าง ดูเหมือนครีบ มีหนวดยาวหนึ่งเส้นบนหัวมันและไม่มีอะไรอื่น ตรงปลายหนวดคือผลึกใส มันดูเหมือนสิ่งมีชีวิตในทะเล
อสูรดวงดาวหมุนตัวกลางอากาศ เหมือนปลากําลังแหวกว่ายในน้ํา หนวดมันสั่น และหานเซี่ยวก็พลันรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็นกําลังพยายามดึงเขาเข้าหามัน ร่างเขาเริ่มลอยอย่างควบคุมไม่ได้
“ฮ่าห์!”
เฮอลัสลงมือก่อน เขาฟันดาบ ส่งคลื่นดาบออกไปใส่ร่างของอสูรดวงดาวโดยตรง แต่ทว่า มันกลับระเบิดดและอสูรดวงดาวก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ มันไม่แม้แต่จะขยับตัวหลบ
“อย่าหวังว่าจะทําร้ายสิ่งมีชีวิตดวงดาวที่สามารถเดินทางผ่านจักรวาลได้ง่ายๆ” หานเซี่ยวดึงปีนแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาและยิง กระสุนดีดบนตัวอสูรดวงดาวและความเสียหายก็ขึ้นแค่1
ค่าสถานะของมันปรากฏบนหน้าต่างสถานะ
[อสูรดวงดาว]
ระดับ : ?
สาย : อสูรดวงดาว-สิ่งมีชีวิตอวกาศ(อัตราแปลงความทนทานต่อพลังชีวิต :1:500)
ค่าสถานะ : พละกําลัง ความเชี่ยวชาญ ? ความทนทาน500 สติปัญญา? เสน่ห์153 ลี้ลับ?
โชค?
พลังงาน : 0
ขั้นพลังงาน : ?
พลังชีวิต : 249986
สถานะ : ปกติ
พรสวรรค์ : ไม่ทราบ
ความสามารถ : ไม่ทราบ
หานเซี่ยวพยักหน้า เขารู้สถานะมันตั้งแต่ต้น ในฐานะสิ่งมีชีวิตอวกาศ พลังชีวิตมันย่อมมหาศาล โดยไม่ต้องสงสัย มันคือบอสตัวจริง แถมความต้านทานเวทย์และกายภาพมันยังสูงมาก ดังนั้นการโจมตีร่างมันจึงแทบไร้ความเสียหาย ผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้าเขาถูกมันกวาดครั้งเดียวหายเกลี้ยงก่อนจะเจอวิธีเอาชนะ
จุดอ่อนของมันคือผลึกบนหนวดมัน มันเกือบไร้ความต้านทาน ดังนั้น ทุกการโจมตีจึงถือเป็นความเสียหายจริง
ทุกครั้งที่ความเสียหายสะสมถึง5หมื่น ความต้านทานทั่วร่างมันจะลดลง209% ซึ่งช่วยให้การโจมตีทําความเสียหายได้บ้าง การโจมตีของอสูรดวงดาวคือการควบคุมวัตถุด้วยจิต คล้ายกับผู้ใช้พลังจิต สิ่งดีคือความเสียหายมันไม่สูง ทางเดียวที่จะเอาชนะมันได้คือทําให้มันช้าลง
อย่างไรก็ตาม สําหรับหานเซี่ยว ตราบเท่าที่ความเสียหายศัตรูมีจํากัด มันย่อมไม่ใช่ภัยคุกคาม