The Legendary Mechanic - ตอนที่ 510 การกลับมาของแบล็คสตาร
ตอนที่ 510 การกลับมาของแบล็คสตาร์
ในเวลาเดียวกันในฐานชั่วคราวเดิมของกลุ่มแบล็คสตาร์บนศูนย์จูเบอรี่ แสงสีขาวหลายสิบดวงปรากฏ ผู้เล่นมืออาชีพที่ติดตามหานเซี่ยวพากันปรากฏตัว พวกเขาคือดาบคลั่ง ห่าวเทียน ขนมปังสุนัข และคนอื่น ในช่วงการอัปเดท พวกเขาล้วนมาออฟไลน์กันที่นี่
นิสัยของพวกเขาคือการเปิดดูหน้าต่างสถานะเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงในฐานะมืออาชีพ พวกเขากังวลถึงสถานะและอุปกรณ์พวกเขามาก
หลังยืนยันถึงขีดจำกัดระดับที่เพิ่มทั้งหมดก็มองรอบๆและตกตะลึง
แต่ทว่าทั่วฐานกลับว่างเปล่าและมีเพียงแสงเปล่าเปลี่ยว กำแพงเหล็กสะท้อนแสงสลัว ประตูเปิดและบรรยากาศเงียบก็ให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนที่นี่ไม่มีใครอยู่มานานแล้ว
ของในห้องหายไปรวมถึงคลังส่วนตัวของแบล็คสตาร์และห้องดัดแปลงเครื่องจักรเขา หากไม่ใช่ความจริงที่ว่าแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ก็หายไป พวกเขาคงคิดว่ามีโจรบุกบ้าน
”ทำไมถึงไม่มีใครเลย?แบล็คสตาร์ของฉันไปไหน?”ดาบคลั่งถาม
”ใครจะรู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?”ห่าวเทียนกล่าว
”เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจตายกันหมดแล้ว”หลี่เกอกล่าวและถูกทุกคนจ้องด้วยความไม่พอใจทันที
”พวกซื่อบื้อไม่ตรวจสอบรายละเอียดกองกำลังกันละ?”จันทราเมเปิ้ลกลอกตา ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่ม พวกเขาสามารถตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของกองกำลังและดูสถานการณ์ของกลุ่มได้ ไม่จำเป็นต้องเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเลย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เล่นไม่รู้คือพวกเขาสามารถเห็นข้อมูลกองกำลังได้เพราะหานเซี่ยวจงใจเพิ่มข้อมูล มันเพื่อให้ผู้เล่นเห็นถึงการเติบโตของกลุ่ม ตั้งแต่ต้น สุดยอดช่างกลหานให้ผลประโยชน์กับผู้เล่นเพื่อทำเงิน
หลังเปิดหน้าต่างกองกำลังผู้เล่นก็ตกใจ
”จำนวนคนในกองกำลังเพิ่มขึ้นเยอะเลยจำนวนภารกิจที่สำเร็จก็เพิ่มด้วย ดูบทสรุปสิ มันเขียนว่าตำแหน่งของฐานกลุ่มแบล็คสตาร์อยู่บนดาวเคราะห์ประตทอง งั้น มันก็กลับกลายเป็นว่ากลุ่มทหารรับจ้างเราย้ายบ้าน..แต่ดาวเคราะห์ประตูทองอยู่ไหน?”ดาบคลั่งถาม
”ไม่ใช่แค่นั้น!ดูนี่!แบล็คสตาร์ได้ฆ่าตัวตนระดับภัยพิบัติบนนอเรียส!พระเจ้าเขาทรงพลังมาก…”ขนมปังสุนัขอุทาน จากนั้นก็ถาม”เดี๋ยว..แล้วตัวตนระดับนั้นคือเกรดไหน?”
ในเวลานั้นผู้เล่นยังไม่รู้ว่ายอดมนุษย์เกรดAคือภัยพิบัติ พวกเขารู้สึกแค่ว่าชื่อมันดูเท่
ไม่ว่าจะยังไงทุกตัวตนที่เหนือกว่าเกรดCเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทำได้แค่แหงนมอง
มืออาชีพทุกคนตกตะลึงกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ผ่านอะไรมาบ้างตอนพวกเขาไม่อยู่?
เวลานั้นเองเสียงกริ่งของฐานก็ดังและผู้เล่นก็ดีดตัวด้วยความตกใจ จากนั้นก็เปิดประตู และมนุษย์งูสามหัวก็ยืนอยู๋ด้านนอกประตู
”พวกคุณคือสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ใช่ไหมครับ?”มนุษย์งูถาม
ผู้เล่นมืออาชพีมองหน้ากันก่อนพยักหน้า
”ผมคือกัปตันของตัวแทนท่องอวกาศมงกุฏราชาท่านแบล็คสตาร์ขอให้ผมมาส่งพวกคุณทุกคนไปดาวเคราะห์อความารีน โปรดตามผมมา”
เมื่อได้ยินสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาไม่เคยคิดว่าแบล็คสตาร์จะส่งยานมารับพวกเขา
…
มหันตภัยกลายพันธ์ได้เปลี่ยนโครงสร้างของทั้งดาวการปกครองของหกประเทศเกือบล่มสลาย และเขตแดนของหกประเทศก็ตกอยู่ในความปั่นป่วน
เพราะทุกคนมีโอกาสติดเชื้อแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ไม่เว้น เจ้าหน้าที่ทุกระดับติดไวรัส และหากรัฐบาลเสียเจ้าหน้าที่ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเสียอำนาจ ดังนั้น หกประเทศจึงค่อยๆเอนหาการล่มสลาย
ภาคต่างๆของสังคมถูกสร้างโดยมนุษย์และระเบียบของสังคมคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมรับมัน กระทรวงยุติธรรม กองทัพ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ศีลธรรม แนวคิดและอื่นๆคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนเข้าใจราคาของการขัดกฏและจำกัดการกระทำพวกเขา แต่ทว่า ไวรัสกลายพันธ์ได้ทำลายสามัญสำนึกพวกเขา พวกเขาจะไม่สนผลที่ตามมา และโครงสร้างสังคมก็เสียจุดประสงค์มัน
ความโกลาหล
คำนี้อธิบายได้ตรงสุด
ไม่สามารถไว้ใจใครได้และมีเพียงเครื่องจักรเย็นที่เชื่อใจได้
หลังการระบาดของภัยพิบัติหกประเทศได้ละทิ้งศักดิ์ศรี ต่อหน้าภัยพิบัติ ผลประโยชน์ส่วนตัวไม่สำคัญ พวกเขาจำต้องจับมือกัน และเบื้องบนของหกประเทศก็กำลังประชุมกันอยู่
”ยี่สิบวันก่อนเราได้ขอความช่วยเหลือไปยังอารยธรรมโกโดร่า โกโดร่ากล่าว่าพวกเขาจะรีบมาให้เร็วที่สุด แต่เราก็ยังไม่เห็นพวกเขา”
มหันตภัยกลายพันธ์เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจรับมือได้ด้วยเทคโนโลยีตนและความพยายามทั้งหมดก็สูญเปล่า ดังนั้น พวกเขาจึงส่งรายงานภัยพิบัติไปยังโกโดร่าและหวังให้อารยธรรมชั้นสูงช่วยพวกเขา
อย่างไรก็ตามไม่มียานอวกาศสักลำลงจอด และเบื้องบนของหกประเทศก็หวั่นวิตก พวกเขาพยายามติดต่ออีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำตอบจากปัญญาประดิษฐ์เท่านั้น
ในความเป็นจริงหกประเทศไม่รู้ว่ามหันตภัยกลายพันธ์ไม่ได้เกิดแค่กับอความารีน แต่ระบาดไปทั่วระบบดาวกาตอน โกโดร่ายุ่งมาก หานเซี่ยวไม่ได้เผยเรื่องนี้ว่าเป็นแผนของดาราทมิฬและดังนั้น โกโดร่าจึงยังมืดบอดและไม่ถือว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ
”การมาของโกโดร่าไม่ใช่สิ่งที่เราจะควบคุมได้ปัจจุบัน เรามีสถานการณ์ใหม่ พวกเหนือมนุษย์ที่หายไปกว่าปีได้ปรากฏอีกครั้ง”
”นี่บังเอิญมากบางทีพวกมันอาจเป็นคนที่นำไวรัสมา!”บางคนกล่าว
หกประเทศมักสงสัยพวกเหนือมนุษย์เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่สายพันธ์เดียวกัน พวกเขาจึงโทษไปยังพวกเหนือมนุษย์
”ไม่ว่ายังไงพวกเหนือมนุษย์ก็คือยอดมนุษย์ และพวกเขาก็อาจช่วยเาได้ ไม่ว่าใครจะมาเพื่อช่วยเรา ฉันก็หวังแค่ให้เราหลุดพ้นเรื่องนี้ ในสถานการณ์นี้ ฉันไม่กล้าเจอหน้าภรรยาฉันเลย ฉันกลัวว่าฉันจะหลุดการควบคุมและทำร้ายเธอเข้า”
”แม้เบนเน็ตจะแบ่งปันสูตรยาให้ทั่วโลกแต่ก็มีเพียงเขตอนุรักษ์สามที่ผลิตมันได้อย่างมั่นคง เขากล่าวว่าเขาไม่อาจมอบยาให้ได้มากกว่านี้ แต่ฉันไม่เชื่อ พวกมันต้องซ่อนยาไว้มากกว่านี้แน่”
เหล่าผู้นำของหกประเทศนิ่งเงียบทั้งหมดรู้ว่าทุกคนล้วนหมายตายา
เมื่อภัยพิบัติระบาดและมีเพียงของชิ้นเดียวที่สามารถต่อสู้กับภัยพิบัติได้ของชิ้นนั้นย่อมล้ำค่า เพื่อให้ได้รับยา ทุกคนจำต้องเชื่อฟัง ต่อให้เบนเน็ตไม่มีแผนอื่น แต่เขตอนุรักษ์สามก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของโลกไปแล้ว
หกประเทศอยากควบคุมยาและใช้มันเพื่อฟื้นคืนระเบียบพวกเขาแต่ทว่า หากพวกเขาเลือกใช้กำลัง สถานการณ์ที่คนทั้งโลกปรับตัวได้จะพังอีกครั้ง และพวกเขาต้องเจอกับความเสี่ยง หากพวกเขาไม่ระวัง พวกเขาอาจเจอผลลัพธ์ที่ไม่อาจย้อนคืน ความมั่นคงจะสำคัญไปกว่าความเป็นอยู่ของทั้งอารยธรรม?
บางคนไม่อาจโน้มน้าวกันเองได้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ฝ่ายไหน พวกเขาก็ล้วนอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
”หากเราอยากทัมนจริงๆเราก็ต้องรีบ”ผู้นำเรย์เร็นกล่าว”เวลาไม่เคยรอใคร”
…
สองวันผ่านไป
ผู้เล่นอยู่ในเขตอนุรักษ์เพื่อปรับตัวกับเวอร์ชั่นใหม่และมีส่วนร่วมในภารกิจเนื้อเรื่องหลัก
แม้ผู้เล่นจะมีมากแต่ก็ยังมีภารกิจนับไม่ถ้วนในเขตอนุรักษ์ ภารกิจรางวัลสูงสุดย่อมออกโดยเบนเน็ต แต่ก็มีจำนวนจำกัดทุกวัน และภารกิจอื่นก็สามารถกระตุ้นได้โดยการคุยกับNPC มีผู้ลี้ภัยนับไม่ถ้วนนอกเขตอนุรักษ์ทำการร้องขอทุกวัน และพวกเขาก็ไม่อาจทำงานได้หมด
ภารกิจส่วนใหญ่จะเพิ่มความคืบหน้าภารกิจเนื้อเรื่องหลักหลังทำงานหนักอยู่สองวัน ความคืบหน้ารวมก็อยู่ที่น7.3แสน มันควรสูงกว่านั้น แต่การทำลายก็เกิดขึ้นทุกวัน ผู้เล่นต้องสะสมแต้มความคืบหน้าต่อไปเพื่อไม่ให้มันลดลง
แม้พวกเขาจะไม่ชัดเจนถึงเบื้องหลังของไวรัสกลายพันธ์ผู้เล่นก็ไม่สนใจ ตราบเท่าที่พวกเขามีภารกิจคอยชี้แนะ พวกเขาก็จะไปถูกทาง
เพราะเวอร์ชั่นสองจะมอบโอกาสให้เข้าสู่จักรวาลผู้เล่นจึงรู้ว่าภารกิจเนื้อเรื่องหลักนี้แค่จุดเริ่มของเวอร์ชั่นใหม่ ผู้เล่นบนดาวอื่นก็เจอเหตุการณ์คล้ายกัน เจออันตรายตอนเวอร์ชั่นใหม่เริ่ม แค่ว่าอันตรายที่พวกเขาเจอนั้นแตกต่างกัน
เทียบกันแล้วความเร็วที่ผู้เล่นบนอความารีนเจอเนื้อเรื่องหลักจะเร็วสุด นอกจากนั้น สถานการณ์ของเนื้อเรื่องยังเหมือนกับชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว
ฟอรั่มมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิมด้วยเวอร์ชั่นใหม่ ผู้เล่นหลายคนแบ่งปันข้อมู,กันและโพสต์ใหม่ก็ปรากฏเกือบทุกวินาที
เบนเน็ตยืนอยู่บนกำแพงเมืองและก้มมองพวกเหนือมนุษย์สามารถเห็นได้ทั่ว และพวกเขาก็มาทดแทนกำลังคนที่ขาด เมื่อเห็นแบบนี้ คิ้วเขาก็คลายปมลง
”โชคดีเราได้ความช่วยเหลือจากพวกเขา ไม่คิดเลยว่าอิทธิพลของปีศาจทมิฬจะยังปกป้องเรา”เบนเน็ตถอนหายใจ
ฮีล่ายืนอยู่หลังเขาและเอนพิงกำแพงใบหน้าเธอไร้อารมณ์
”อ้า!”
ทันใดนั้นเสียงร้องแปลกๆก็ดังจากค่ายผู้ลี้ภัยและคนนับไม่ถ้วนก็อาละวาด นี่คือส่วนน่ากลัวของไวรัส มันสามารถเกิดอาการได้ทุกเวลา
ค่ายผู้ลี้ภัยที่เป็นระเบียบวุ่นวายทันทีคนหลายล้านที่ติดเชื้อกลายเป็นตาแดงและต่อสู้กัน
ผู้ลี้ภัยส่วนน้อยที่ไม่เกิดอาการนั่งลงกับพื้นทหารบนกำแพงยังตกตะลึง
สีหน้าเบนเน็ตเปลี่ยนไปและแขนเขาก็คว้าขอบกำแพง ออกแรงจนสามารถเห็นรอยนิ้วบนกำแพง
“ด้วยคนที่มากขนาดนั้นวินาทีที่เกิดการระบาดของไวรัส ผลที่ตามมาย่อมเลวร้าย เมื่ออาการของไวรัสลดลง จำนวนผู้เสียชีวิตอาจมากถึงล้าน!”
ผู้เล่นทุกคนหยุดทำภารกิจในมือนี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นการปะทุของไวรัสและพวกเขาก็ตกใจมาก มีบางคนที่เปิดใช้งานการบันทึกภาพ
พวกเขาเคยเห็นสงครามมาก่อนแต่ภาพกลุ่มคนนับล้านปะทะกันก็คือครั้งแรก ผู้ลี้ภัยไม่ใช้อาวุธและใช้แค่หมัดกับฟัน พวกเขาเหมือนสัตว์กระหายเลือด
“เราต้องหยุดพวกเขาหากไม่ คนจำนวนมากจะตาย ส่งกองกำลังเราออกไปทำให้พวกเขาหมดสติ!”
เบนเน็ตออกคำสั่งผู้ติดเชื้อทุกคนควรได้รับโอกาส การปล่อยให้คนฆ่ากันต่อหน้าไม่ใช่วิถีของเบนเน็ต
ครืน!
ทันใดนั้นเสียงดังก็ได้ยินแต่ไกล มันดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองไป กลุ่มสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง
สัตว์ร้ายบนอความารีนเองก็ติดเชื้อเดิมที สภาพแวดล้อมของถิ่นทุรดกันดารอันตรายมากอยู่แล้ว และมันก็ยิ่งยากจะอยู่รอดกว่าเดิม นอกจากนี้ การระบาดของไวรัสระหว่างสัตว์และมนุษย์ยังต่างกัน แม้สัตว์จะกลายเป็นรุนแรง พวกมันก็ยังก่อตัวเป็นฝูงใหญ่และเคลื่อนที่พร้อมกัน บางครั้ง พวกมันจะสู้กันเอง และบางครั้งพวกมันจะโจมตีเมือง
คลื่นสัตว์พุ่งตรงใส่ค่ายผู้ลี้ภัยและเริ่มการสังหารผู้ลี้ภัยถูกกัดและเหยียบย่ำ เลือดปกคลุมไปทั่ว มันราวกับกองทหารม้าที่พุ่งใส่คนธรรมดา
ปึก!
เบนเน็ตบีบขอบกำแพงเมืองและตะโกนด้วยความโกรธ”ไม่ดีแล้ว!พวกสัตว์ร้ายดันมาเร็วเข้า ไปช่วยพวกเขา!หากเราไม่ทำอะไร พวกเขาจะตายกันหมด!”
ในเวลานั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นบนหน้าต่างสถานะของผู้เล่น ความคืบหน้าโดยรวมลดลงไปหมื่นแต้ทในชั่วพริบตาและกระตุ้นภารกิจฉุกเฉินให้พวกเขา ข้อกำหนดภารกิจคือการช่วยผู้ลี้ภัยนอกเมืองให้ได้มากที่สุด รางวัลจะเริ่มตั้งแต่5หมื่น-2แสน ยิ่งคนตายน้อย รางวัลยิ่งสูง
นอกจากนี้ความคืบหน้าโดยรวมของภารกิจพวกเขายังลดดิ่ง และหากพวกเขาไม่รีบช่ยคน งานหนักตลอดสองวันพวกเขาจะสูญเปล่า
“ไปออกเมืองไปช่วยพวกเขาเร็ว!”
“รับตี้ใครจะมาบ้าง!”
ผู้เล่นในมืองบ้าคลั่งและพุ่งออกเมืองไปหลังทุบตีผู้ติดเชื้ พวกเขาจะส่งคนเหล่านั้นเข้าเมือง
นอกจากการช่วยผู้ลี้ภัยเบนเน็ตยังส่งผู้เล่นบางส่วนไปชะลอการโจมตีของสัตว์ จำนวนสัตว์ร้ายเพิ่มขึ้นมาก และมีสัตว์อย่างน้อยสามแสนตัว พวกเขาไม่อาจฆ่าสัตว์ร้ายได้ทันและทำได้แค่ถ่วงเวลา
ฮีล่าพุ่งใส่คลื่นสัตว์และพลังงานสีแดงเข้มเธอก็ปล่ออยออกมาโดยไม่ยับยั้งสัตว์ร้ายล้มทีละตัว ผู้เล่นรอบๆเองก็ปะทะกับสัตว์ร้ายอย่างดุเดือด
การฆ่าคือสิ่งที่เธอถนัดและการต่อสู้ก็ฝังแน่นในกระดูกเธอมันคือการกระทำปกติของเธอ เหมือนการกินหรือนอน แต่ทว่า ฮีล่ามีอารมณ์ซับซ้อนในระหว่างการต่อสู้ เธอเคยเป็นมือสังหารที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ และนี่คือครั้งแรกที่เธอสู้เพื่อช่วยชีวิตคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
ครื่น!
สถานการณ์ทั้งหมดปั่นป่วนค่ายผู้ลี้ภัยถูกประกบระหว่างสัตว์ร้ายและผู้เล่นที่พยายามช่วยพวกเขา ทั้งสองฝั่งปะทะกันตรงกลางและผู้ลี้ภัยที่ติดเชื้อก็ไม่รู้วิธีหลบหนี!
แม้จะด้วยพลังของเบนเน็ตเขาก็ยังรู้สึกว่าสถานการณ์ตรงหน้าเขาเกินจะควบคุม ฝ่ามือเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“มีพวกมันมากเกินไป!”
“บ้าจริง!กำลังใจฉันถูกบดขยี้แล้ว!”
“มีช่องโหว่อยู่ทั่วเลยเราไม่อาจกันพวกมันได้!”
ผู้เล่นที่ขวางคลื่นสัตว์รู้สึกหมดหนทางและผู้เล่นก็ตายกันทุกวินาที แม้จะคืนชีพ พวกเขาก็ต้องใช้เวลาวิ่งออกจากเขตอนุรักษ์ และมันก็ล่าช้า สิ่งที่พวกเขาต้องการมากสุดคือเวลา และความคืบหน้าภารกิจพวกเขาก็ลดลงทุกวินาที ทำให้ผู้เล่นทุกคนกังวลมาก
ตูม!
ขณะที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่เสียงคำรามกึกก้องก็ดังจากฟากฟ้า แม้รอบข้างจะเสียงดัง ทุกคนก็ยังได้ยินเสียงนั้นชัดเจน และแหงนหน้ามอง
ฝักโลหะรูปไข่นับร้อยดิ่งลงมาจากฟ้าและเริ่มเผาไหม้เหมือนลูกไฟมันเหมือนอุกกาบาตหลายร้อยลูกที่ตกลงมาหน้าประตูเขตอนุรักษ์
บูมบูม บูม!
ฝังโลหะตกลงบนพื้นวินาทีต่อมา ประตูก็เปิดและมีคนเดินออกมาจากทุกฝักโลหะ
พวกเขาสวมเกราะและถืออาวุธในมือรูปแบบพวกเขาแตกต่างกันมาก และก็ต้องเป็นแขกจากนอกอวกาศอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนมองด้วยสายตาอยากรู้
แขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้คือนักรบจากกาแล็กซี่!
เพียงเมื่อทุกคนกำลังจะถามถึงเจตนาชายในชุดดำที่สวมหน้ากากก็โบกมือ และนักรบกาแล็กซี่นับร้อยก็เปิดฉากโจมตี
บูม!
นักรบเหล่านั้นสำแดงพลังเกรี้ยวกราดออกมาสัตว์ร้ายที่หยุดยั้งไม่ได้ดูเหมือนจะพุ่งชนใส่กำแพงโลหะ!
พวกเขาแสดงพลังออกมาที่เหนือยิ่งกว่าผู้เล่นนับหมื่น
ความตกใจฉายผ่านดวงตาของฮีล่าเธออยู่บนสนามรบและรู้สึกได้ถึงพลังของพวกเขาอย่างแจ่มแจ้ง เกือบทุกคนล้วนให้แรงกดดันที่เหนือยิ่งกว่าเบนเน็ต แถม เบนเน็ตยังเป็นบุคคลที่ทรงพลังสุดบนอความารีนในตอนนี้
นี่หมายความว่านักรบกาแล็กซี่เหล่านี้ล้วนแต่ทรงพลังกว่าเบนเน็ต!
ด้วยการแทรกแซงของกองกำลังลึกลับมีเพียงชายหน้ากากดำที่ยังยืนอยู่บนตรงประตูของเขตอนุรักษ์โดยไม่ขยับ เบนเน็ตกระโดดลงจากกำแพงเมืองและเดินไปหาชายคนนั้น”คุณเป็นใคร?คุณมาจากไหน?ทำไมถึงช่วยเรา?”
เบนเน็ตเคยเห็นผู้สังเกตการณ์โกโดร่ามาก่อนและดังนั้นเขาจึงไม่สูญเสียการควบคุมเมื่อเจอมนุษย์ต่างดาว
แต่วินาทีนั้นสีหน้าที่เขาพยายามรักษาก็กลายเป็นตกใจ
หานเซี่ยวยกแขนขึ้นและถอดหน้ากากเขา รอยยิ้มสามารถเห็นได้บนใบหน้า
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเบนเน็ตทำไมต้องแปลกใจขนาดนั้นละ?อะไรนะ ไม่คิดว่าฉันจะกลับมางั้นหรอ?”
ร่างของเบนเน็ตแข็งทื่อและเขาก็ไม่กล้าเชื่อสิ่งที่ตาเห็น ริมฝีปากเขาสั่น และความตกใจก็กลายเป็นความยินดี
ฮีล่าผู้อยู่ไกลออกไปเองก็ตกใจ
วินาทีที่หานเซี่ยวถอดหน้ากากผู้เล่นเกือบทุกคนล้วนตกใจ จากนั้น พวกเขาก็ระเบิดเสียงโห่ร้องยินดีออกมา เงาร่างที่คุ้นเคยนี้เหมือนอะดรีนาลีนที่กระตุ้นให้เลือดพวกเขาเร่าร้อน พวกเขาตื่นเต้นไปจนถึงจุดที่หนังศีรษะพวกเขากลายเป็นชาด้าน!
“มันเป็นเขา!แบล็คสตาร์กลับมาแล้ว!”