The Legendary Mechanic - ตอนที่ 527 บรรยากาศตึงเครียด

ตอนที่ 527 บรรยากาศตึงเครียด
　　“งั้นก็เป็นแบบนี้..”นากาคินสูดหายใจ
　　เนื่องจากทีมโกโดร่าเพิ่งมาถึงพวกเขาจึงต้องการข้อมูล ทุกคนมารวมกันในห้องประชุม และสิบนาทีต่อมา หานเซี่ยวก็อธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง เขายังพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของอความารีน ช่วยให้นากาคินเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น
　　“แบล็คสตาร์นายควรมีข่าวประจำภูมิภาค ไม่เพียงแต่ภัยพิบัติจะเกิดบนดาวนี้ ตำหนักสงครามและกรมสอบสวนยังได้จัดตั้งทีมมากมายเพื่อไปบรรเทาภัยพิบัติ ด้วยการที่มีดาวเคราะห์มากมายประสบจากภัยพิบิต เราจึงรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้น่าอายมากสำหรับเรา ดังนั้นจึงมีคนระดับฉันเป็นผู้นำทีมทั้งหมด”นากาคินกล่าวเสียงต่ำ”ก่อนหน้านี้ นายอธิบายหลักการเบื้องหลังแหล่งกลายพันธ์ให้ฉันฟัง อาวุธชีวภาพแบบนี้หายากมาก และแม้ฉันจะไม่รู้ว่านายไปเอาข้อมูลมาจากไหน ฉันก็เชื่อว่านายต้องมีเบาะแส”
　　ดวงตาของหานเซี่ยวสว่างขึ้นในชีวิตก่อนหน้าเขา โกโดร่าไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของมหันตภัยกลาพยันธ์ ดังนั้นประสิทธิภาพเบื้องต้นพวกเขาในการบรรเทาภัยจึงต่ำ นี่ช่วยให้แหล่งกลายพันธ์เติบโตอย่างยับยั้งไม่ได้ ปัจจุบัน ข้อมูลเขาชี้ให้เห็นเส้นทางที่ถูกต้องของโกโดร่า ซึ่งย่อมเพิ่มแถบความคืบหน้าของภารกิจ[มหันตภัยกลายพันธ์]อย่างไม่ต้องสงสัย ความเสียหายโดยรวมสำหรับเนื้อเรื่องนี้อาจน้อยกว่าในชีวิตก่อนหน้าเขา
　　อย่างไรก็ตามการบอกพวกเขาถึงข้อมูลนี้มีทั้งข้อดีและเสีย มันไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะเปิดเผยไพ่ทั้งหมดของเขา แต่โกโดร่าต้องการข้อมูลบางอย่างเพื่อให้พวกเขาเริ่มทำงาน ดังนั้น นากาคินจึงเชื่อมโยงจุดต่างๆและเชื่อว่าหานเซี่ยวรู้เรื่องนี้ดี
　　สำหรับความจริงที่ว่ามหันตภัยกลายพันธ์อาจเป็นแผนร้ายของดาราทมิฬหานเซี่ยวยังไม่คิดบอกโกโดร่าแบบนั้น!
　　มีเหตุผลหลายประการสำหรับเรื่องนี้จุดสำคัญสุดเบื้องหลังสิ่งนี้คือเขายังไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร รวมถึงความจริงที่ว่าแผนร้ายของดาราทมิฬมีอยู่หลายขั้น นี่แค่จุดเริ่มต้น และตามชีวิตก่อนหน้าเขา ต่อให้เขาบอกโกโดร่าว่าแหล่งกลายพันธ์เป็นแผนดาราทมิฬ พวกเขาย่อมคิดว่าเขานั้นสมรู้ร่วมคิดกับดาราทมิฬ การไม่บอกอะไรพวกเขาย่อมดีกว่า
　　แม้หานเซี่ยวจะเข้าใจแผนชองดาราทมิฬเขาก็ชัดเจนว่าหากเขาบอกทุกอย่าง มันจะเกินขอบเขตของคำว่าสมเหตุสมผล แม้กระทั่งผู้พยากรณ์ก็ยังไม่อาจบอกรายละเอียดได้ขนาดนี้ นี่จะทำให้โกโดร่าสงสัยว่าเขามีช่องทางพิเศษในการหาข้อมูล สุดท้ายอาจนำปัญหามาให้ตัวเอง หลังชั่งน้ำหนักแล้ว หานเซี่ยวจึงไม่คิดช่วยโกโดร่าให้เข้าใจว่านี่เป็นแผนของดาราทมิฬ เขากลับอยากให้พวกเขาตกหลุมพราง ซึ่งจะช่วยให้เขาได้ผลประโยชน์
　　ดาราทมิฬซื้อแหล่งกลายพันธ์มาเป็นเครื่องมือในการจุดไฟหายนะและพวกเขาก็ต้องเล่นไปตามน้ำ วิธีเดียวที่จะจัดการได้คือส่งมอบแหล่งกลายพันธ์ดั้งเดิมในมือเขาให้โกโดร่าและยอมให้โกโดร่าผลิตยา
　　เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดเขาย่อมไม่มอบสิ่งของเหล่านี้ให้เปล่าๆ เฉพาะเมื่อตอนโกโดร่าติดกับและถูกกดดัน จากนั้นเขาจึงจะเผยแหล่งกลายพันธ์ ช่วยให้เขาได้รับผลประโยชน์มากสุด
　　สำหรับความสงสัยจากอีกฝ่ายตอนเขาส่งมอบแหล่งกลายพันธ์หานเซี่ยวได้เตรียมการมานานแล้ว ในช่วงเหตุการณ์ลูกปัดข้อความลับ หานเซี่ยวได้ทำการพาดพิงไปถึงเกาะมังกร สำหรับแหล่งกลายพันธ์ในมือเขา มันอาจอธิบายได้ว่าเกาะมังกรช่วยเขาปลดผนึกลูกปัดและเก็บสิ่งนั้นไว้ให้ปลอดภัย ดังนั้น เขาจึงนำผลประโยชน์ไว้ในมือเขาพลางทำให้เกาะมังกรลอยฟ้าเป็นแพะรับบาป
　　ตามตำแหน่งของเอเมสดาราทมิฬย่อมไม่กล้าต่อต้านเธอ และโกโดร่าก็คงไม่เช่นกัน ดังนั้น ระดับอันตรายเขาจึงลดลง เขาอาจยอมให้เกาะมังกรมีความดีความชอบในสายตาโกโดร่า!หาเนซี่ยวเกือบรู้สึกประทับใจกับแผนในหัวเขา
　　ความคิดพุ่งเข้ามาทันทีและหานเซี่ยวก็ไม่แสดงความผิดปกติใดๆบนสีหน้าเขา เขาตอบกลับนากาคินอย่างราบเรียบ”ผิดแล้ว ฉันเคยเห็นการใช้อาวุธชีวภาพขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนในภารากิจฉัน ดังนั้นฉันจึงไปฝ่ายข่าวกรองเพื่อรวบรวมข้อมูล ในเวลาเดียวกัน เพราะฉันคือสมาชิกนักวิชาการของ[สภาวิจัยอวกาศ] ฉันจึงสามารถได้รับตัวอย่างที่คล้ายคลึงกันจากพวกเขา แต่ทว่า ฉันไม่รู้ว่าผู้ร้ายเบื้องหลังการโจมตีนี้เป็นใคร..”
　　เมื่อหยุดไปสักพักหานเซี่ยวก็ส่ายหัวก่อนพูดต่อ”แต่เรื่องนี้น่ากลัวจริงๆ หากนายขอให้ฉันเดา ฉันคิดว่ามันอาจเป็นดาราทมิฬ”
　　“ฉันเองก็คิดเหมือนกัน!ดาราทมิฬมักต่อต้านเราแต่พวกมันกลับพลันหลบซ่อนเป็นเต่าเมื่อสองปีก่อน”นากาคินพยักหน้า”ฉันเชื่อว่าต้องมีแผนการใหญ่เบื้องหลังเรื่องนี้…น่าเสียดาย เราไม่มีหลักฐาน”
　　หานเซี่ยวหัวเราะเบาๆ”ด้วยนิสัยเห็บหมัดของพวกมันฉันเชื่อว่าพวกมันต้องกำลังหัวเราะอยู่แน่”
　　เมื่อได้ยินแบบนี้ใบหน้าของนากาคินก็แสดงความโกรธ มันคือความจริง ดาราทมิฬไม่สนใจชีวิตคนอื่น
　　“ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องจัดการภัยพิบัติก่อน”หานเซี่ยวกล่าวข้าม ทิ้งให้นากาคินหัวเสียกับเรื่องดาราทมิฬ “เราสามารถร่วมมือกันได้ ฉันมาถึงก่อนพวกนายสักพัก ในความคิดฉัน เราสามารถแบ่งปัญหาปัจจุบันเราได้สองงาน…”
　　นากาคินปรับอารมณ์ฟังอย่างตั้งใจ หากคนที่เสนอแผนมาจากหกประเทศ งั้นเขาคงไม่คิดทำตาม แต่แบล็คสตาร์แตกต่าง เขาได้รับคุณสมบัติที่จะพูดคุยกับเขา ดังนั้นนากาคินจึงเต็มใจฟังหานเซี่ยว
　　“สิ่งแรกคือรักษาและช่วยผู้ลี้ภัยฉันได้จัดการเรื่องนี้แล้ว และตอนนี้ มันก็ดูเหมือนจะได้ผลดี แต่ก็ยังมีคนกว่าพันล้านบนดาวนี้ คนหลายร้อยล้านกำลังตกอยู่ในอันตราย ในสถานที่ที่สายตาเรามองไม่ถึง มันอาจมีคนนับพันกำลังตายทุกวัน หากนี่ไม่อาจช่วยได้ทัน จำนวนคงสูงจนน่าตกใจ”
　　นากาคินพยักหน้ารับฟังนี่คือเรื่องเร่งด่วนจริงๆ หากทุกคนตาย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร?
　　“เรื่องที่สองคือการค้นพบแหล่งหายนะและกำจัดมันออกไปเรื่องนี้ต้องให้โกโดร่าช่วย เพราะเทคโนโลยีบนอความารีนล้าสมัยมาก หากเราอยากเปิดเผยต้นตออาวุธชีวภาพ เราจะต้องผลิตยาแก้ที่เกี่ยวข้อง”
　　ทีมช่วยเหลือจะไม่อยู่บนดาวนี้ไปตลอดวัตถุประสงค์หลักพวกเขาคือการวิจัยแหล่งหายนะก่อนจะคิดหาทางแก้ไข
　　คำแนะนำสองข้อเองก็อยู่ในแผนของนากาคินดังนั้นเขาจึงลงมืออย่างจริงจัง หลังการประชุมสิ้นสุด เขาก็นำทีมช่วยเหลือเขาออกไปเริ่มปฏิบัติการ ทิ้งนักวิจัยไว้ไม่กี่คนภายในเขตอนุรักษ์เพื่อทดลองผู้ติดดเชื้อ นี่คือการยืนยันพารามิเตอร์ของไวรัส สำหรับส่วนที่เหลือ พวกเขาไปพบหกประเทศ เชื่อมโยงกับระบอบปกครองของดาวเคราะห์อความารีน
　　ทีมช่วยเหลือเริ่มทำงานเต็มประสิทธิภาพในเวลาเดียวกันก็ร่วมมือกับหกประเทศเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตยายับยั้ง นี่เพราะรากฐานที่หานเซี่ยวจัดตั้งไว้ หากเขาไม่แบ่งปันสูตรยากับหกประเทศ นั่นคงเป็นอีกฉากหนึ่ง แน่นอน การกระทำเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจะยังเป็นหน้าที่ของหกประเทศเอง ทีมโกโดร่าไม่มีทรัพยากรพอ และพวกเขาก็ไม่มีทางยอมเสียพลังงานมากมายเพื่อเรื่องขี้ประติ๋ว
　　หกประเทศเกาะการสนับสนุนของโกโดร่าฟื้นคืนขวัญกำลังใจประชาชน นี่เป็นประโยชน์ยิ่ง เนื่องจากผู้ลี้ภัยจำนวนมากในป่าต่างก็วิ่งมาหาหกประเทศทันทีที่ได้ข่าวเรื่องความปลอดภัย ช่วยบรรเทาแรงกดดันของเขตอนุรักษ์
　　ข้ามดินแดนอันกว้างใหญ่กลุ่มผู้ลี้ภัยเสื้อผ้ามอมแมมเดินไปทางหกประเทศ
　　ในช่วงแรกๆของมหันตภัยกลายพันธ์คนจำนวนมากอพยพจากเมืองเพราะพวกเขาไม่กล้าอาศัยอยู่ใกล้กัน ณตอนนี้ ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ลี้ภัยที่อาศัยในป่า เนื่องจากอันตรายภายในป่า ผู้ลี้ภัยจึงทิ้งอุปกรณ์ตนเอง 70-80%ตายในระหว่างเดินทาง แต่ทว่า เพราะหกประเทศกำลังพยายามรักษากฏหมาย พวกเขาจึงไม่อาจเมินเฉยได้ การผลิตยาไม่มีทางทำให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมากพอใจได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาสามารถเมินเฉยผู้ลี้ภัย พวกเขาต้องส่งคนไปค้นหาและนำกลับมา
　　ดังนั้นผู้เล่นจึงเข้าไปเสาะหาผู้ลี้ภัย
　　กลุ่มทหารรับจ้างของหานเซี่ยวประกอบไปด้วยผู้เล่นไม่กี่คนซึ่งคือดาบคลั่งและสหาย แต่ทว่า เมื่อเห็นว่ามีพวกอมตะมากมาย มันคงแปลกหากนากาคินจะไม่ตกใจ อย่างไรก็ตาม ฉากนี้เป็นส่วนหนึ่งของอความารีนมาหลายปีแล้ว ดังนั้นมันจึงถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์พิเศษของอความารีน พวกเขาถือว่าคนกลุ่มนี้เป็นสายพันธ์พิเศษที่เกิดบนอความารีน
　　หลายปีก่อนนักวิจัยจากโกโดร่าได้มาอความารีนและบันทึกสถานการณ์ดังกล่าว แต่ทว่า ข้อสรุปของการตรวจสอบกลับคลุมเครือและดังนั้นมันจึงไม่ได้รับความสนใจมาก ณจุดๆนี้ นากาคินรู้สึกว่าพวกเหนือมนุษย์นั้นแปลก แต่ก็ยังเต็มใจช่วยบรรเทาภัยพิบัติ ดังนั้นเขาจึงพยายามติดต่อกับพวกเขา
　　ในชีวิตก่อนหน้าเขากองกำลังโกโดร่าของนากาคินได้ดึงดูดให้ผู้เล่นมากมายเข้าร่วม นำพวกเขาออกอวกาศ แต่ตอนนี้หานเซี่ยวนั้นมาก่อน นากาคินจึงดึงดูดคนได้จำกัด
　　ผู้เล่นย่อมสนใจกองกำลังโกโดร่าแต่พวกเขาชอบหานเซี่ยว…ไม่สิ ชอบคงไม่พอ เรียกว่ารักเลยดีกว่า
　　แน่นอนนากาคินไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์เป็น’ศัตรู’ที่เขาต้องเผชิญและยังไม่รู้ว่าหานเซี่ยวกำลังพรากของล้ำค่าไป
　　แม้จะรู้ว่าแบล็คสตาร์ได้ทำการรับพวกเหนือมนุษย์มากมายนากาคินก็ไม่ได้คิดมาก หานเซี่ยวคือคนบนดาวนี้ และพวกเหนือมนุษย์ก็ย่อมเป็นคนของเขา ดังนั้น มันจึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะติดตามแบล็คสตาร์ นี่ไม่ได้ขัดขวางนากาคินจากการมอบภารกิจให้ผู้เล่น และน่าประหลาดใจยิ่งกว่า ผู้เล่นเต็มใจช่วยเหลืองานเขา
　　อย่างที่หานเซี่ยวคาดไว้ทีมช่วยเหลือโกโดร่าได้นำมาซึ่งระบบเงิน สกุลเงินดดั้งเดิมอความารีนใกล้ล่มแล้ว และสกุลเงินของอีนาสที่ใช้กันทั่วในอวกาศก็กำลังถูกเปิดเผย แม้เขตอนุรักษ์จะยังมีภารกิจ แต่เทียบกับรางวัลที่โกโดร่ามอบให้ แต่ก็ไม่มีการเปรียบเทียบระหว่างทั้งสอง
　　ผู้เล่นทุกคนชัดเจนว่าอีนาสเป็นสกุลเงินจริงที่สามารถใช้ได้ในอนาคตดังนั้นการทำภารกิจพวกเขาจึงชัดเจน ภารกิจที่ออกโดยทีมโกโดร่ายังมีจำกัด ดังนั้นพวกเขาจึงถูกปฏิบัติเหมือนเค้กร้อนในหมู่ผู้เล่น นอกจากนี้ ด้วยร้านค้ากองกำลังของหานเซี่ยวที่ทำให้ผู้เล่นอยากอาหาร มันจึงทำให้ผู้เล่นเกลียดความจริงที่ว่าพวกเขาไม่อาจมีเงินพอจะซื้ออุปกรณ์
　　หานเซี่ยวจะไม่มอบภารกิจที่ให้รางวัลเป็นอีนาส-มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำแบบนั้นแต่ทว่า เขาใช้ความสัมพันธ์เขากับนากาคินและออกภารกิจหลายอย่างซึ่งสามารถขอรับรางวัลจากนากาคินได้ ช่วยให้ผู้เล่นของกองกำลังเขายอมรับภารกิจเหล่านั้น ความหมายชัดเจน-หากพวกเขาเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ พวกเขาจะได้ภารกิจที่ดีกว่าจากชาวโกโดร่า!สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงตำแหน่งของหานเซี่ยว
　　เราไม่ใช่ผู้ผลิตภารกิจเราคือคนกลาง!
　　การใช้เครือข่ายของกลุ่มทหารรับจ้างและการบอกต่อเพื่อรับงานเหมือนการหยิบยืมดอกไม้เพื่อถวายพระ มอบให้ผู้เล่นเพื่อสร้างทรัพยากรไร้สิ้นสุดให้พวกเขา ซึ่งจากนั้นผู้เล่นก็จะใช้จ่าย นี่เทียบกับการเอาเงินของNPCและมอบมันให้ตัวเขาเอง ผู้เล่นในกรณีนี้เหมือนผึ้งน้อยที่ทำงานหนักให้กับเขาโดยที่หานเซี่ยวไม่ต้องทำอะไรเลย
　　ผู้เล่นในปัจจุบันเล็งเห็นผลประโยชน์ของการอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างและพวกที่ยังไม่ได้เข้าร่วมก็ถูกกดดันขึ้น!ในฟอรั่มทุกคนพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการเข้าร่วมทั้งกองกำลังโกโดร่าและแบล็คสตาร์ และข้อสรุปสุดท้ายคือกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์นั้นดีกว่าโกโดร่า!
　　การเข้ากองกำลังโกโดร่าแค่จะช่วยให้พวกเขารับภารกิจได้แต่การเข้าร่วมแบล็คสตาร์จะมีงานไร้สิ้นสุด!
　　ขณะที่ผู้เล่นยังไม่รู้ถึงความหมายแท้จริงเบื้องหลังเรื่องนี้วินาทีที่พวกเขาเข้าอวกาศ ทุกสิ่งจะต่างออกไป แค่การคาดเดาบนฟอรั่มก็ทำให้ผู้เล่นตระหนักถึงความประทับใจของฝ่ายแบล็คสตาร์แล้ว เครือข่ายแบล็คสตาร์ไม่ได้มีไว้แค่อวด!
　　ฐานที่หานเซี่ยววางไว้ในช่วงเวอร์ชั่น1.0กำลังค่อยๆคลี่ออก
　　…
　　ระบบดดาวกาตอนยังรายงานข่าวภัยพิบัติและผลสำรวจก็แสดงให้เห็นว่าชาวโกโดร่าเกือบทุกคนสนับสนุนให้ส่งทีมช่วยเหลือประชาชนยังแสดดดงคำอวยพรทุกอย่าง เห็นอกเห็นใจต่อพันธมิตร
　　การแทรกแซงของทีมช่วยเหลือยังช่วยเยียวยาสถานการณ์ของอความารีนหลังผ่านไปหลายวัน ผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรักษาก็มาถึงจุดสูงสุดใหม่ มันน่าเสียดายที่นักวิจัยไม่มีความก้าวหน้าใดๆ
　　เพราะพวกเขาสามารถสัมผัสกับไวรัสผ่านผู้ติดเชื้อได้เท่านั้นมันจึงยากจะบรรลุผลใดในเวลาอันสั้น
　　หานเซี่ยวมั่นใจว่าต้องมีคนจากดาราทมิฬคอยสังเกตสถานการณ์ของการบรรเทาภัยพิบัติแต่ทว่า มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวใดๆในช่วงนี้ นากาคินและคนอื่นยังอยู่ในความมื แต่หานเซี่ยวรู้สึกว่าบรรยากาศตึงเครียดกำลังก่อตัวขึ้น
　　ตอนนี้อความารีนดูเหมือนสถานการณ์กำลังดีขึ้นแต่หานเซี่ยวรู้ว่ามันไม่ได้เรียบง่ายดั่งที่เห็น
　　วินาทีที่แหล่งกลายพันธ์เข้าสู่ระดับถัดไปผลจะเพิ่มขึ้นและแม้กระทั่งผู้ติดเชื้อที่ได้รับยายับยั้งก็อาจส่งผลกระทบอีก ปริมาณต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้พวกเขามีภูมิต้านทาน ปัจจุบัน ผลผลิตยังจำกัด และผู้คนที่ได้รับการช่วยเหลือตอนนี้อาจถูกละทิ้งทีหลัง ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ยากจะคิดถึง
　　ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งระยะเจริญเติบโตของไวรัสกลายพันธ์สูงขึ้น สติปัญญามันก็ยิ่งพัฒนา เวลานั้น สภาพของไวรัสจะไม่อาจควบคุมได้เหมือนปัจจุบัน และยังมีแรงจูงใจเบื้องหลังการกระทำ ในระหว่างนั้น ไม่เพียงแต่ประชาชนทั่วไปจะติดเชื้อ แม้กระทั่งยอดมนุษย์ที่อ่อนแอก็ยังตกอยู่ภายใต้การควบคุมมัน ตามการเติบโตของไวรัส มันจะค่อยๆส่งผลกระทบรุนแรงขึ้น
　　สิ่งที่น่ากลัวสุดเกี่ยวกับไวรัสคือเมื่อมาถึงระยะหนึ่งไวรัสจะทำให้สมองเสียหายจนไม่อาจแก้ไขได้ หลังผ่านไปนาน ความสามารถการคิดพวกเขาจะลดลง และพวกที่ติดไวรัสจะได้รับการกระตุ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน มันจะไปถึงจุดที่พวกเขาจะปฏิเสธจิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว แสวงหาเชื้อและยอมให้มันทำลายจิตสำนึกเสี้ยวสุดท้าย
　　เนื่องจากหานเซี่ยวรู้เรื่องนี้มันก็หมายความว่าในชีวิตก่อนหน้าเขา ไวรัสได้ไปถึงระดับนั้นแล้ว
　　หากมหันตภัยกลายพันธ์ไม่อาจแก้ไขงั้นทางออกสุดท้ายคือการทิ้งดาวและพาผู้รอดชีวิตทั้งหมดไปด้วย
　　นี่คือจุดจบที่เลวร้ายสุดและดาวซันนิลก็เป็นตัวอย่างที่ดี การรักษาผู้ลี้ภัยบนดาวเคราะห์ติดเชื้อนั้นไม่จำเป็นต้องดีไปกว่าชาวซันนิล ท้ายที่สุด มีโอกาสสูงที่อารยธรรมจะล่มสลาย
　　สถานการณ์ยังไม่ถึงระดับนั้นแต่หานเซี่ยวไม่ได้มองโลกในแง่ดี แม้ดาราทมิฬจะแพ้เขาหลายต่อหลายครั้ง อีกฝ่ายก็ยังเป็นสุนัขดุ
　　นอกจากการบรรเทาภัยพิบัติหานเซี่ยวยังติดตามคำขอของฮันเนส ขอให้ชาวโกโดร่าดูภาพร่าง ซึ่งอีกฝ่ายก็เห็นด้วย
　　สิ่งที่น่าแปลกใจคือนากาคินนั้นมาพร้อมข้อสรุปอย่างรวดเร็วพบเจอตัวตนของชาวโกโดร่าที่ฮันเนสเจอ
　　และความจริงก็อยู่เหนือสิ่งที่พวกเขาคิดไปมาก