The Legendary Mechanic - ตอนที่ 530 ความจริงที่ยากจะยอมรับ 2
ตอนที่ 530 ความจริงที่ยากจะยอมรับ 2
เคอดานกระวนกระวายก่อนตอบ”ผมพูดเรื่องนี้กับเขาและเขาก็พบว่ามันน่าสนใจมาก ดังนั้น ผมจึงพาเขามาด้วย..”
หานเซี่ยวรู้สึกว่ามันฟังดูน่าสงสัย”หมายความว่ายังไง?โกโดร่าไม่ได้สั่งให้นายทำแบบนั้น?”
เคอดานหยุดสักพักและตระหนักว่าพวกเขาเข้าใจผิดหลังลังเล เขาก็คิดถึงอุปกรณ์แสนน่ากลัวของอีกฝ่ายและกล่าวเสียงเบา”ไม่ นี่ไม่เกี่ยวกับโกโดร่า มันเป็นแผนส่วนตัวของผม”
ทั้งฮันเนสและเบนเน็ตต่างตกตะลึง
“ด้วยสิทธิ์ในมือแบบนั้นชีวิตผมจึงเบื่อเกินไป เมื่อผมสังเกตสถานการณ์ของอความารีน ความคิดก็พลันผุดขึ้น และผมก็อยากทำเหมือนอความารีนเป็นเกมให้เล่น เหนือสิ่งอื่นใด มันง่ายมากที่จะเล่นกับอารยธรรมล้าหลัง และก็ไม่มีความเสี่ยงเลย เพราะเบื้องบนไม่คิดสนใจสงครามกลางเมืองของอารยธรรมชั้นต่ำ ผมจึงอยากสร้างสงครามและดูทุกคนสู้กัน ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก หลังคิดถึงมัน ผมก็รีบทำตามแผน”
“แองโกร่าร่วมมือกับผมและเขาก็เลือกอยู่บนอความารีน เขารู้สึกว่าการกลับไปโกโดร่านั้นไร้ความหมายและเลือกอยู่บนดาวล้าหลัง คอยดูผลลัพธ์ด้วยตาตัวเอง เขารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่าสนใจมาก”
หลังเคอดานพูดจบทั่วสถานที่ก็เงียบ เครื่องตรวจจับการโกหกไม่ได้ส่งสัญญาณเตือน ซึ่งหมายความว่าเคอดานนั้นพูดจริง
ฮันเนสและเบนเน็ตทอสีหน้าโง่งม
นี่ไม่ใช่แผนของอารยธรรมโกโดร่า?
เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีคนรู้สึกเบื่อ?
“เป็นไปไม่ได้!”ฮันเนสขาดสติ”แกแค่คนธรรมดาหากโกโดร่าไม่เกี่ยว คนสองคนจะสร้างเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?!”
เคอดานหกหัวและกล่าว”มันง่ายมากไม่มีใครสงสัยว่าฑูตนั้นเป็นตัวปลอมเพราะเราคือชาวโกโดร่าจริงๆ”
ฮันเนสตกตะลึงเขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาสองคนจะทำให้ทั่วดาวเกิดสงคราม แต่ก็ต้องพูดไม่ออก
ถูกต้องพวกเขาคือโกโดร่าจริงๆ
นั่นพอแล้ว…
เพราะโกโดร่าคืออารยธรรมขั้นสูงชาวโกโดร่าเองก็จึงเป็นชนชั้นสูงไปด้วย ใครจะสงสัยพวกเขา?
ใบหน้าของเบนเน็ตกลายเป็นเย็นชาและคว้าคอเสื้อของเคอดาน ครอบครัวนับไม่ถ้วนต้องถูกทำลายในสงคราม และมันก็เกิดขึ้นเพราะคนสองคนที่ไม่มีอะไรทำ เมื่อมองไปในตาของเคอดาน ซึ่งเต็มไปด้วยความวิตกและความกลัวแต่ไร้ความรู้สึกผิด คำพูดที่กำลังจะออกจากปากของเบนเน็ตก็ไหลกลับลงไป
ตอนนั้นดาวเคราะห์อความารีนอาจเป็นเหมือนรังมดในสายตาของชาวโกโดร่า การเล่นกับมดจะเป็นอาชญากรรมได้ยังไง?
หานเซี่ยวมีสีหน้าแปลกๆและเขาก็พบว่าความจริงช่างไร้สารมาก
เขาคิดว่ามีองค์กรลึกลับคอยปลุกเร้าความโกลาหลจากความมืดแต่ความจริงกลับไม่ใช่ ไม่มีองค์กรเดียวที่คิดยุแยงอารยธรรมล้าหลังแบบอความารีน เหตุผลเดียวเพราะพวกคนโง่ที่เกิดว่าง
ชาวโกโดร่ารู้สึกเบื่อหน่ายและจุดประกายสงครามเพื่อความบันเทิงส่วนตัวหลังการแสดงจบ เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้ายที่สุด เพราะอำนาจที่เขามีในสายงานและความไม่แยแสของโกโดร่าที่มีต่ออความารีน เขาจึงสามารถปิดบังเรื่องนี้ไว้ได้หลายสิบปี
คนอย่างแองโกร่าผู้ล้มเหลวในสังคมได้เลือกรังแกคนอ่อนแอกว่าและแสดงความเหนือกว่าในดาวล้าหลังเพื่อความบันเทิง
สิ่งเดียวที่คนทั้งสองพึ่งพาคือผิวสีทองพวกเขา
ความจริงเรียบง่ายและช่างไร้สาระ
เพราะพวกเขาอ่อนแอพวกเขาจึงถูกลดบทบาท
นี่ทำให้หานเซี่ยวรู้สึกราวกับว่าดาวเคราะห์อความารีนเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ถูกข่มขืนโดยครอบครัวร่ำรวยไม่อาจคิดต่อต้านได้
สำหรับอความารีนนี่คือหายนะที่พวกเขาไม่สมควรได้รับ
แม้หานเซี่ยวจะไม่ได้ยึดติดอะไรกับอความารีนและไม่ใช่คนที่ได้รับผลทางอารมณ์เขาก็ยังรู้สึกโมโหเล็กน้อย แต่ทว่า ความโมโหเขามีต่อโกโดร่า เหนือสิ่งอื่นใด อาชญากรรมของอารยธรรมโกโดร่าในเรื่องนี้อาจเป็นเพราะพวกเขาทรงพลังเกินไป บางทีมันอาจเป็นพลังพวกเขาที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่าคนอื่น
“ช่าง…ไร้สาระ”หานเซี่ยวถอนหายใจยาวด้วยอารมณ์ซับซ้อน
แม้การแจ้งเตือนจะโผล่บนหน้าต่างสถานะเขาเขาก็ไม่มีอารมณ์ไปตรวจสอบมัน
ทหารรับจ้างจากวงแหวนนภาจากไปโดยไม่มีเคอดานเขาถูกทำให้หมดสติและขังไว้ในกรง จากนั้นหานเซี่ยวก็ปล่อยให้เบนเน็ตจัดการกับเคอดานตามใจชอบ
ทั้งเบนเน็ตและฮันเนสรู้สึกว่ามันยากมากที่พวกเขาจะยอมรับความจริงทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงบนอความารีนล้วนเกิดขึ้นเพราะเหตุผลไร้สาระ ความทุกข์ทรมานที่พวกเขาประสบพบมากลับดูไร้ค่า ทั่วอารยธรรมกลับเหมือนของเล่นในมือมนุษย์ต่างดาวสองคน
ดาวเคราะห์พวกเขาควรจะดีกว่านี้มาก
‘อย่าคิดมากหากนี่เป็นจริง เราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับมัน”หานเซี่ยวส่ายหัว
เบนเน็ตลดหัวและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจากนั้นก็ดีดตัวขึ้นและมองหานเซี่ยวด้วยสีหน้าจริงจัง
“แม้ฉันจะไม่กล่าวแทรกตอนนายเจรจากับหกประเทศฉันก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ฉันคิดผิด”เบนเน็ตกำหมัดแน่น’ในที่สุดฉันก็เข้าใจเจตนาของนาย มันคือความอ่อนแอ!นายไม่ได้เข้าจักรวาลแค่เพราะหาทางแก้หายนะ นายยังเข้าจักรวาลเพื่ออนาคตของอความารีน!นายมีเกียรติเสียยิ่งกว่าฉัน!”
ปากของหานเซี่ยวเริ่มเป็นตะคริวเขาไปมีความคิดแบบนั้นตอนไหน?
เป็นไปได้ไหมว่ายิ่งความโปรดปรานสูงจินตนาการก็จะยิ่งโลกสวยขึ้น?!
“หากไม่ใช่เพราะนายดาวนี้คงยังอยู่ในความมืด ฉันขอบคุณนายแทนทั้งอความารีน”เบนเน็ตก้มหัว เมื่อฮันเนสได้ยิน เขาก็ยืนขึ้นและก้มหัวให้หานเซี่ยวด้วย
“อย่าทำแบบนี้…พวกานยทำให้ฉันรู้สึกเหมือนฉันเป็นคนดี”หานเซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงช่วยไม่ได้การกระทำเขาไม่ได้เป็นแบบที่คนอื่นคิด
เขาไม่เคยรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีเหมือนตอนนี้ เขากำลังคิดจะใช้ประโยชน์จากเคอดาน
…
ในเวลาเดียวกันในเขตอนุรักษ์ปีศาจทมิฬผู้เล่นต่างตื่นเต้นกับภารกิจบรรเทาทุกข์และการคัดเลือกกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ เสียงต่อสู้และเสียงเชียร์ดังไปทั่ว ผู้ลี้ภัยหลายคนที่ติดเชื้อต่างมีความหวังขึ้นอีกครั้งและแม้ทั่วดาวจะเต็มไปด้วยหายนะ แต่เขตอนุรักษ์กลับเต็มไปด้วยพลังงาน
ในท้องฟ้ายานอวกาศหลายลำของโกโดร่ากำลังลอยอยู่ และนากาคินก็ก้มมองจตุรัส
ผู้ช่วยเขาถาม”ท่านนากาคินท่านคิดยังกับพวกเหนือมนุษย์เหล่านี้?”
“มีศักยภาพสูง”นากาคินพยักหน้าหลังสังเกตมาหลายวัน เขาก็ได้สังเกตเห็นศักยภาพของผู้เล่น จากจากความสำคัญน้อยในตอนแรก ตอนนี้เขาเลือกให้ความสนใจแล้ว
ด้วยความประหลาดของพวกเหนือมนุษย์เหล่านี้นากาคินรู้สึกว่าวัตถุประสงค์ของภารกิจเขาไม่ควรเป็นแค่การบรรเทาทุกข์
แม้โกโดร่าจะส่งกองทัพมาเพื่อช่วยเหลืออความารีนนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะลงทุนกับอารยธรรมชั้นต่ำอย่างอความารีนมากนัก วิธีที่นากาคินเห็น พวกเหนือมนุษย์เหล่านี้สามารถนำผลประโยชน์มาให้เขาได้
“มีพวกเหนือมนุษย์มากและมีนับล้านบนดาวนี้ ทั้งหมดล้วนมีศักยภาพเติบโต นี่คือกองกำลังที่ไม่อาจมองข้ามได้”ผู้ช่วยกล่าว
“ถูกต้องเราควรเริ่มติดต่อกับพวกเขา…”
“นายอยากทำยังไง?”
“ออกประกาศรับสมัครเหมือนแบล็คสตาร์ โกโดร่าควรดึงดูดได้มากกว่ากลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มเดียว”
นากาคินตัดสินใจแม้เขาจะเคารพพลังของแบล็คสตาร์ แต่ด้วยกลุ่มยอดมนุษย์ขนาดใหญ่ตรงหน้าเขา เขาจึงไม่อาจเมินเฉยต่อการปรากฏตัวของพวกเขาและอยากแบ่งก้อนเค้ก
ต่อให้พวกเหนือมนุษย์จะมาจากบ้านเกิดแบล็คสตาร์นากาคินก็ไม่ยอมให้แบล็คสตาร์กลืนเค้กทั้งก้อนคนเดียว