The Legendary Mechanic - ตอนที่ 535 วิกฤต
ตอนที่ 535 วิกฤติ
มันสองเดือนแล้วตั้งแต่การระบาดของมหันตภัยกลายพันธ์แต่ดาราทมิฬกลับไม่เคลื่อนไหว ดังนั้น หลายคนจึงรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ หลังเงียบไปนาน ดาราทมิฬก็ลงมือและออกกองยานเพื่อโจมตีดาวเคราะห์สามดวง
ข่าวใหม่นี้สร้างปฏิกิริยาใหญ่โตและทำให้ประชากรหลายคนรู้ว่าการแสดงเริ่มขึ้นแล้วในฐานะที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของโกโดร่า มันชัดเจนว่าดาราทมิฬย่อมไม่ปล่อยโอกาสดีๆเช่นนี้ และปริศนาชิ้นสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นในที่สุด
ปัจจุบันไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามหันตภัยกลายพันธ์เป็นแผนของดาราทมิฬ แต่นี่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป ตราบเท่าที่ดาราทมิฬเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ ศัตรูของโกโดร่าก็ย่อมเป็นดาราทมิฬ
ดาราทมิฬได้โจมตีดาวเคราะห์หายนะสามดวงพร้อมกันและทีมช่วยเหลือจากโกโดร่าในพื้นที่ก็ได้ปะทะอย่างรุนแรง แต่ทว่า เพราะพวกเขาไม่ทันระวังและขนาดของกองยานพวกเขาก็เล็ก ทีมช่วยเหลือโกโดร่าทั้งสามจึงแตกพ่าย
พูดอย่างมีเหตุผลอารยธรรมของดาวเคราะห์หายนะทั้งสามควรไร้ค่าต่อหน้าดาราทมิฬ แต่ดาราทมิฬกลับไม่ทำลายดาวเคราะห์ทั้งสามแต่ดูเหมือนจะเจาะจงไปยังทีมช่วยเหลือแทน หลังทำลายล้างไปสักพัก กองกำลังดาราทมิฬก็ถอยก่อนกำลังเสริมโกโดร่าจะมาถึง
ผลลัพธ์ของการาซุ่มโจมตีคือทีมช่วยเหลือเกือบ80%ได้ถูกทำลายและสถานการณ์ก็กลายเป็นอลหม่าน
เพราะเหตุนี้โกโดร่าจึงเพิ่มการป้องกันและส่งกองทัพประจำพวกเขาไปยังดาวเคราะห์ทั้งสามเพื่อหยุดการซุ่มโจมตีของดาราทมิฬ แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่อาจหยุดดาราทมิฬได้
การซุ่มโจมตีครั้งที่สองเกิดขึ้นไม่นานหลังจากนั้นและดาวเคราะห์อื่นอีกหลายดวงก็เป็นเป้าหมาย
สถานการณ์เดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้งแม้โกโดร่าจะเพิ่มการป้องกัน ดาราทมิฬก็ยังเพิ่มพลังการโจมตี และการต่อสู้ก็เกิดขึ้นระหว่างสองฝ่าย
ยานอวกาศชนกันม่านพลังเกิดการเสียดสี การระเบิดของปืนใหญ่ที่ระเบิดในอวกาศมืดเหมือนดาวดวงใหม่กำลังก่อตัว รังสีสว่างจากปืนใหญ่เลเซอร์เหมือนสะพานสายรุ้ง
หลังการปะทะครั้งใหญ่ดาราทมิฬก็ถอยพร้อมกันและการต่อสู้ก็ไม่ได้พัฒนาเป็นสงครามเต็มรูปแบบ กองยานโกโดร่าเสียหายหนัก และความพยายามในการบรรเทาภัยพิบัติทั้งหมดก็สูญเปล่า
ส่วนใหญ่แล้วดาราทมิฬจะซ่อนตัวในความมืดเพื่อวางแผนต่อต้านโกโดร่า มันเป็นเวลานานแล้วที่ไม่เกิดการปะทะซึ่งๆหน้า ครั้งนี้ดาราทมิฬออกจากรังอีกครั้งแล้ว มันไม่ใช่การต่อสู้เล็กๆน้อยๆ และโกโดร่าก็รู้สึกกดดันมาก
แม้โกโดร่าจะได้เปรียบในแง่ของพลังเขตแดนของโกโดร่าก็ใหญ่มาก และกองยานพวกเขาก็ประจำการอยู่รอบระบบดาวกาตอน กองกำกลังสำรองที่พวกเขาสามารถระดมได้ไม่พอจะยับยั้งดาราทมิฬ และโกโดร่าก็ไม่ชัดเจนถึงขนาดของกองกำลังดาราทมิฬเช่นกัน
ส่วนที่น่ากลัวสุดเกี่ยวกับดาราทมิฬคือความจริงที่พวกมันซ่อนในความมืดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาการกระทำพวกมันล่วงหน้า และโกโดร่าก็ต้องปวดหัวมากเพราะเหตุนี้ หากพวกเขาไม่รู้ว่าเป้าหมายต่อไปของดาราทมิฬคืออะไร พวกเขาก็ย่อมไม่อาจเตรียมการได้และทำได้แค่ป้องกันอย่างอดทน
ในการซุ่มโจมตีสองครั้งที่ผ่านมาดาราทมิฬดูเหมือนจะมีเป้าที่ทีมช่วยเหลือ แต่โกโดร่าก็ไม่เรียกทีมช่วยเหลือกลับเพียงเพราะเหตุนั้น หากพวกเขาทำ มันคงดูเหมือนว่าพวกเขากลัวดาราทมิฬ และโกโดร่าย่อมมี่ทางแสดงท่าทีแบบนั้นต่อศัตรู นอกจากนี้ เนื่องจากพวกเขาได้เริ่มส่งทีมช่วยเหลือออกไปแล้ว หากพวกเขาล้มเลิกกลางทาง มันคงส่งผลต่อชื่อเสียงพวกเขา นอกจากนี้ สถานการณ์เองก็ยังไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้น
หลังผ่านไปหลายปีทั้งสองฝ่ายก็เผชิญหน้ากันอีกครั้ง ทั่วระบบดาวกาตอนสั่นคลอน และนี่ก็กลายเป็นเรื่องน่าจับตามองมากที่สุดในระบบดาวกาตอน
…
“ดาราทมิฬจะไม่หยุดแบบนี้และจะต้องโจมตีต่อไปเราจะต้องเจอกันไม่ช้าก็เร็ว”
ในห้องประชุมของเขตอนุรักษ์นากาคินบรรยายสถานการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทั่วห้องประชุม มีเพียงหานเซี่ยวที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ ทั้งเบนเน็ตและผู้นำหกประเทศทำได้แค่นั่งฟัง
วินาทีที่ดาราทมิฬเปิดฉากโจมตีเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องร้ายแรง ไม่กี่วันก่อน กองยานโกโดร่าพลันเข้าพิทักษ์อความารีน ปัจจุบันมียานรบโกโดร่า120ลำกำลังรออยู่นอกชั้นบรรยากาศอความารีน ป้องกันการซุ่มโจมตี
นากาคินไม่อาจสนใจเรื่องการบรรเทาภัยหรือรับสมัครได้อีกการป้องกันดาราทมิฬคือความสำคัญสุด เขาเข้าหาหานเซี่ยวเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว และพวกเขาก็กำลังประชุมเพื่อแจ้งให้ทั้งเขตอนุรักษ์และหกประเทศรู้ตัว แน่นอน อารยธรรมอความารีนย่อมไม่อาจสู้กับตัวตนระดับนั้นได้ แต่นากาคินอยากให้พวกเขาเตรียมตัวไว้
“เพราะการพยายามบรรเทาภัยของเราเราจึงทำได้แค่ป้องกันอย่างอดทน และสถานการณ์ก็ไม่ได้เอื้อเรา แรงจูงใจของดาราทมิฬมีแนวโน้มมากที่จะใช้ประโยชน์จากการป้องกันอันบอบบางเรา เราไม่อาจรู้ได้ว่าเป้าหมายของดาราทมิฬจะเป็นที่ไหน”นากาคินกล่าว
หานเซี่ยวพยักหน้านี่เป็นแรงจูงใจของดาราทมิฬก็จริง แต่ก็แค่แผนส่วนเล็กๆ แผนมหันตภัยกลายพันธ์ของดาราทมิฬมีเป้าหมายเพื่อให้โกโดร่าอ่อนแอ ไม่ใช่แค่กำลังทหาร แต่ยังเป็นการสั่นคลอนการปกครอง พวกเขาจะซุ่มโจมตีแค่ดาวที่ติดเชื้อ แต่จะไม่ทำลายอารยธรรมชั้นต่ำ หากพวกเขาทำลายอารยธรรม โกโดร่าก็ไม่ต้องส่งทีมบรรเทาภัยอีก แรงจูงใจของดาราทมิฬคือการรั้งโกโดร่าไว้
ใบหน้าของเบนเน็ตและคนอื่นดำมืดมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะกังวลเพราะไม่มีประโยชน์ให้พวกเขากังวล
“คุณวางแผนรับมือกับสถานการณ์ยังไง?”เบนเน็ตถาม
“ตำหนักสงครามได้ระดมกองกำลังจากเขตดาราอื่นและกำลังเสริมระลอกสองและสามก็กำลังมา พวกเขาอยากให้เราดำเนินการบรรเทาภัยต่อไปพลางคอยรักษาความปลอดภัย..”
นากาคินขมวดคิ้วเล็กน้อยในความเป็นจริง เบื้องบนมีความคิดอพยพผู้ลี้ภัยทั้งหมด แต่ทว่า มันก็มีอันตรายซ่อนเร้นอยู่ พวกเขาย่อมไม่อาจตรวจพบได้หากแหล่งกลายพันธ์เข้ายานมาพร้อมผู้ลี้ภัย เช่นนั้น แผนนี้จึงถูกเก็บไว้ชั่วคราว และตำหนักสงครามก็ตัดสินใจสู้กับดาราทมิฬ
นายพลที่ดุดันบางคนถึงกับรู้สึกว่านี่คือโอกาสดาราทมิฬมักซ่อนตัว และมันก็หายากที่ดาราทมิฬจะปรากฏ ดังนั้น พวกเขาจึงรู้สึกว่าพวกเขาต้องใช้โอกาสนี้เพื่อล่อกองยานดาราทมิฬและโจมตีพวกเขาอย่างรุนแรง ดังนั้น ตำหนักสงครามจึงตัดสินใจเสริมกองกำลัง
“ท้ายที่สุดเราทำได้แค่รอ”นากาคินกล่าวเสียงขรึม
ในความเป็นจริงเขาได้รับคำสั่งลับจากเบื้องบน หากกองกำลังพวกเขาต่อกรกับกองยานดาราทมิฬไม่ได้ เบื้องบนก็ขอให้พวกเขาใช้กลยุทธ์ถอยหนีและรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ หากดาวหายนะนี้ถูกทำลาย โกโดร่าก็จะแสดงความเสียใจเท่านั้น
หานเซี่ยวส่ายหัวการซุ่มโจมตีของดาราทมิฬเป็นแบบสุ่ม และเขายังไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมาตอนไหน ต่อให้เขารู้แผนของดาราทมิฬ เขาคงไม่มีพลังพอจะสกัดกั้น
หากกองยานดาราทมิฬมาฉันจะเข้าร่วมด้วยต่อสู้ดด้วย ครั้งนี้ มันคงไม่ใช่การต่อสู้บนพื้น…หานเซี่ยวรำพึง อันตรายของการต่อสู้อวกาศเหนือกว่าบนพื้นมาก มันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพวกพิเศษ แต่เป็นกองยาน เขายังต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก
หลังการประชุมจบลงหานเซี่ยวก็เรียกรวมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของเขาและขอให้พวกเขาตื่นตัว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังให้พวกเขาขนถ่ายวัสดุในห้องเก็บของบนยานมายังฐานลับใต้ดินในเขตอนุรักษ์
ยานอวกาศที่เขาเช่าคือรุ่นจำลองสำหรับยานขนส่งและความสามารถการต่อสู้ก็ไม่ดีนัก เขาไม่ได้เตรียมที่จะส่งยานเช่าไปต่อสู้ ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าพวกมันไม่มีประโยชน์นัก เขาจังขาดทุนหากยานถูกทำลาย แต่เขามีแผนการอื่นสำหรับยาน
เช่นนั้นยานแสงทมิฬจึงเป็นยานลำเดดียวที่กลุ่มทหารรับจ้างเขาสามารถส่งออกไปได้ แม้มันจะเล็ก แต่มันก็มีคุณภาพสูง
สมาชิกเขตอนุรักษ์ยังดำเนินการ้วยพวกเขากระจายผู้ลี้ภัยและลดความหนาแน่นของประชากร ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสร้างมาตรการป้องกันมากมาย แต่ทว่าด้วยการขาดทักษะเทคโนโลยี พวกเขาจึงทำได้แค่พึ่งโชค แม้ผู้ลี้ภัยจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ฟังคำสั่ง บรรยกาศทั่วเขตอนุรักษ์กลายเป็นตึงเครียด
ผู้เล่นไม่รู้ว่าพวกเขาจะเจออะไรต่อไปหานเซี่ยวยังจำได้ ในชีวิตก่อนหน้าเขา เมื่อใดที่พวกเขาเจอการซุ่มโจมตี ความคืบหน้าภารกิจของ[มหันตภัยกลายพันธ์]จะลดฮวบ ด้วยพลังปัจจุบันของผู้เล่น มันยากสำหรับพวกเขาที่จะมีส่วนร่วม
หากดาราทมิฬไม่มานั่นก็จะดีสุด หานเซี่ยวถอนหายใจ
…
กลุ่มดาราทมิฬกำลังเคลื่อนที่ในอวกาศเงียบๆนี่คือทีมติดอาวุธคล่องตัวสูง และยานหลักก็ไม่ใช่ยานแม่แต่เป็นยานบัญชาการที่ชื่อว่า’บลัดกัลล์’ มียานรบกว่าสองร้อยลำรอบยานหลัก และยานรบส่วนใหญ่ก็เป็นยานจู่โจมพลังมหาศาล
ในศูนย์บัญชาการของยานรบผู้บัญชาการกองยานนากาปูเอามือไพล่หลังพลางมองแผนที่ดาว สายตาเขาไร้อารมณ์และเขาก็เย็นชาจนถึงจุดที่ไร้อารมณ์ใดๆ
ไม่นานมานี้เขาได้นำกองยานเขาซุ่มโจมตีไปสองครั้งและทำลายยานรบโกโดร่าไปนับร้อย ในการซุ่มโจมตี เขายังเสียกองยานไปไม่ถึงครึ่ง
กองยานของนากาปูประกอบไปด้วยหัวกะทิของดาราทมิฬและพลังพวกเขาก็ไม่อาจดูถูก เขาทำตามคำสั่งและเดินทางไปเป้าหมายต่อไป
“อีกกี่วันกว่าจะถึงจุดหมาย?”นากาปูถาม
“17ชั่วโมง26นาทีครับ”
ในภาพฉายโฮโลแกรมแผนที่ดาวของเขตดารา9กำลังฉายอยู่ ดาวเคราะห์เป้าหมายกำลังกระพริบเป็นสีแดง
ดาวเคราะห์อความารีน!