The Legendary Mechanic - ตอนที่ 537 การโจมตี 2
ตอนที่ 537 การโจมตี 2
การโจมตีมาถึงอย่างรวดเร็ว!
กระสุนพลาสม่าของปืนไออนส่วนใหญ่กระทบกับม่านพลังสีทองของยานรบโกโดร่าแต่ทว่า บางส่วนก็ยังทำลายยานรบโกโดร่าได้ ทำให้ยานหลายลำร่วงลงอความารีน
ลำแสงมีขนาดเล็กในมุมมองของคนบนดาวบางอันตกลงทะเล ทำให้เกิดคลื่นสูง บางอันตกลงพื้น เกิดเป็นเมฆเห็ดเล็กๆ อย่างน้อยเมื่อมันอยู่ในอวกาศ มุมมองก็ถือว่าเล็ก
“เปิดม่านพลังเวทย์ไวส์!”บาเร็ตคำราม
ยานรบโกโดร่าเปลี่ยนรูปขบวนรวมตัวกันในทิศทางโจมตี พวกเขายิงลำแสงสีทองออกไป ซึ่งก่อตัวเป็นม่านพลังครึ่งวงกลมสีทองสิบชั้นตรงหน้ายานรบ ม่านพลังปิดกั้นการโจมตีอย่างแน่นหนา
ลำแสงชุดต่อไปจากกองยานนากาปูมาถึงอย่างรวดเร็วระเบิดใส่ม่านพลัง ปืนใหญ่ไอออนถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง และลำแสงก็ปรากฏเหมือนฝนแสง ทำให้ม่านพลังกระเพื่อมไม่หยุด
“เพิ่มพลังงาน!”มือใหญ่ของบาเร็ตส่งสัญญาณคำสั่งไม่หยุด”อย่านั่งเป็นเป็ดโง่โต้ตอบ!ยิงมัน!ยิงสวนมัน!”
กองยานโกโดร่าล็อคเป้าหมายผ่านทางเรดาห์และเริ่มโจมตีพวกเขายิงลำแสงสีทองใส่ในอวกาศว่างเปล่า
ทั้งสองฝั่งไม่อาจมองเห็นกันได้แลกเปลี่ยนลำแสงสีเขียวและทองกันไม่หยุด หากไม่ใช่ความจริงที่ว่าพวกเขาต่อสู้กันในสูญญากาศ คนบนอความารีนคงได้ยินเสียงการปะทะไปแล้ว
บาเร็ตรีบแจ้งให้หัวหน้าเขารู้และส่งข้อมูลหานากาคิน
..
บนดาวเคราะห์อความารีนหกประเทศได้ค้นพบการเผชิญหน้าระหว่างสองฝ่ายผ่านดาวเทียมและตื่นตระหนก
แม้พวกเขาจะไม่ทราบชัดเจนว่าดาราทมิฬคืออะไรพวกเขาก็ได้เรียนจากนากาคินว่าพวกเขาคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สามารถบดขยี้พวกเขาได้ง่ายๆ หกประเทศไม่กล้ารีรอ และเริ่มอพยพ ผู้ลี้ภัยทุกคนต่างเข้าไปที่หลบภัยใต้ดิน
ในการโจมตีระลอกแรกระเบิดไอออนนับสิบก็ได้ตกลงบนพื้นผิว ส่วนใหญ่ตกลงบนป่า และมีบางส่วนตกลงใกล้เขตแดนหกประเทศ มันคล้ายกับสายฟ้าสีเขียวที่ตกจากฟ้า
บูม!
เมฆรูปเห็ดขนาดเล็กยิงขึ้นฟ้าหลุมขนาดใหญ่ปรากฏบนพื้น ผลพวงที่ตามมากวาดไปทั่วถนน ทิ้งไว้แค่ซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยฝุ่น
การอพยพเริ่มเร่งรีบขึ้นแม้ผู้ลี้ภัยจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็ไม่ได้หยุดพวกเขาจากการคิด ฝูงชนอัดแน่นเริ่มแตกตื่น เนื่องจากคนจำนวนมากที่นี่ หลายคนจึงไม่ได้รับยายับยั้ง และผลลัพธ์นี้ก็ทำให้ไวรัสกลายพันธ์ถูกกระตุ้น และเกิดความปั่นป่วน
ทหารรีบเข้ามาแต่ความวุ่นวายขนาดเล็กก็มีอยู่ทั่ว และมันก็ยากจะจัดการได้ทัน เบนเน็ตมีสีหน้าดำมืดพลางออกคำสั่ง แต่ก็ไม่อาจทำให้สถานการณ์ทรงตัวได้
เมื่อมาถึงจุดนี้ผู้เล่นก็ได้ภารกิจ คำแนะนำภารกิจเขียนว่า”ดาวเคราะห์อความารีน เจอการโจมตีจากกองยานนอกอวกาศ!เราต้องอพยพผู้ลี้ภัยโดยด่วน!”
ผู้เล่นเกือบทุกคนแหงนหน้าพร้อมกันและมันก็เห็นเส้นแสงกระพริบอยู่บนฟ้าเหนือหัวพวกเขา
“ยานรบนอกดาวเคราะห์อความารีนกำลังโจมตีเรา?”
“น่าเสียดายที่เราไม่อาจมองเห็นได้ชัด!”
ความอยากรู้คล้ายกับขนนกที่เขี่ยหัวใจผู้เล่นทุกคนทำให้พวกเขารู้สึกคัน พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่ามีการต่อสู้ระดับยอดมนุษยืเกิดขึ้นในอวกาศ แต่การไร้ความสามารถที่จะเข้าร่วมหรือเห็นกับตาก็ทรมานเกินไป!
การปราบปรามผู้ลี้ภัยที่ก่อจราจลเป็นหน้าที่คนอื่นมันไม่อยู่ในการพิจารณาของหานเซี่ยว แม้เขาจะได้รับภารกิจฉุกเฉินเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น รางวัลค่าประสบการณ์ก็น้อยเกินไปในความคิดเขา เขาไม่สนใจงานนี้และเปิดอุปกรณ์สื่อสารเขาแทนเพื่อติดต่อนากาคิน
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
“ปัจจุบันกองยานได้พัวพันกับดาราทมิฬอยู่แต่เราไม่รู้ว่ากำลังเสริมจะมาถึงตอนไหน ฉันต้องกลับไปช่วยพวกเขา”ในที่เกิดเหตุ นากาคินกำลังขึ้นยานอวกาศอย่างเร่งรีบ
“งั้นฉันจะควบคุมกองทัพฉันและรออย่าปิดอุปกรณ์สื่อสารนาย เราจะติดต่อกลับไป”หานเซี่ยวพยักหน้า ด้วยนากาคินและกองยานโกโดร่า เขาจึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมด้วย
เขาไม่แปลกใจที่ดาราทมิฬจู่ๆก็เปิดฉากในความเป็นจริง เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เป็นอารมณ์ของคนที่รอมานานเกินไป เมื่อมองทหารข้างๆ เขาก็ไม่กังวลเลย
ดาราทมิฬจะไม่ทำลายดาวนี้นี่คือข้อมูลสำคัญที่หานเซี่ยวได้รับ ตามข้อมูล ความเป็นไปได้ที่ศัตรูจะลงจอดนั้นไม่สูง พวกเขากลับเลือกโจมตีจากอวกาศแทนเพื่อลดความสูญเสีย
นอกจากนี้หานเซี่ยวยังคำนวณว่าควรมีทีมของดาราทมิฬที่กำลังรออยู่บนอความารีน อีกฝ่ายต้องตระหนักถึงนากาคินและเขา เหนือสิ่งอื่นใด ดาราทมิฬรู้ดีถึงความสำคัญของข้อมูล พวกเขาต้องคำนวณทุกตัวแปรก่อนตัดสินใจเลือกวิธีโจมตี
ในชีวิตก่อนหน้าเขาหานเซี่ยวยังประสบกับเรื่องนี้มาก่อน เขารู้ลึกซึ้งว่านี่คือประเด็นสำคัญและสั่งให้ทหารรับจ้างขึ้นยานอวกาศและเดินทางไปเขตแดนของหกประเทศทันที แม้ยานอวกาศเช่าจะมีความสามารถพื้นฐาน พวกมันก็ยังมีม่านพลังที่สามารถต่อต้านกระสุนปืนใหญ่ที่ตกจากฟ้าได้ พลังของปืนใหญ่ไอออนไม่ใช่เรื่องเล่น หนึ่งนัดยิงใส่มนุษย์จะสร้างความเสียหายประมาณสองพันหลังหักลดความเสียหายแล้ว!
สำหรับผู้เล่นปัจจุบันปืนใหญ่สามารถทำลายได้ทั้งทีม!โดยธรรมชาติ หานเซี่ยวไม่ใช่คนโง่ที่จะไปรับระเบิด ในการต่อสู้แบบนี้ มีเพียงสายนักสู้ที่กล้ารับกระสุนด้วยผิวหนังหนา
ด้วยเหตุนี้นี่จึงไม่ทำให้ภารกิจ[มหันตภัยกลายพันธ์]ลดลงไปมาก แต่ทว่า สำหรับผู้เล่น แต่ละครั้งที่ดาราทมิฬมาเยือนจะทำให้แถบความคืบหน้าพวกเขาลดลง
ดาราทมิฬไม่เพียงแต่จะโจมตีอความารีนดาวหายนะที่เหลือก็ถูกโจมตีด้วย แม้หานเซี่ยวจะไม่มีความสามารถพอช่วยเหลือดาวหายนะอื่น อย่างน้อยเขาก็สามารถลดความสูญเสียของดาวเคราะห์อความารีนได้ หยุดยั้งแผนของดาราทมิฬในการทำลายทีมช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้น งานก่อนหน้าพวกเขาทั้งหมดจะสูญเปล่า
“ตอนนี้กองยานโกโดร่ากำลังต่อต้านศัตรูและนากาคินก็ขึ้นไปแล้วไม่มีใครให้ฉันถามถึงสถานการณ์อีก”หานเซี่ยวลูบมือเขาพลางจ้องภาพที่นากาคินส่งมาให้
เขาหวังให้โกโดร่าสามารถทำให้ดาราทมิฬถอยได้โดยที่เขาไม่ต้องลงมือดาราทมิฬไม่รู้ถึงพลังเขา และยิ่งเขาซ่อนไพ่ตายได้นาน มันก็ยิ่งดี
…
เมื่อนากาคินออกไปเขาก็เห็นม่านพลังสีทองนับสิบทันที กองยานโกโดร่าและดาราทมิฬยังยิงใส่กัน และด้วยประสบการณ์เขา เขาก็เห็นว่าวิธีการแบบนี้ไม่อาจกำจัดทั้งสองฝ่ายได้
ปืนใหญ่ไอออนถูกขวางกั้นโดยม่านพลังต่อให้ม่านพลังหนึ่งถูกทำลาย เนื่องจากระยะห่าง กองทัพก็สามารถถอนตัวได้อย่างรวดเร็วและส่งยานอวกาศลำอื่นไปสร้างม่านพลังใหม่ เช่นนั้น รูปขบวนจึงยังมั่นคง
นอกจากปืนไอออนอาวุธส่วนใหญ่ไม่มีระยะ และขีปนาวุธพลังงนนิวเคลียร์ก็จะถูกทำลายโดยปืนไอออน ระดับเทคโนโลยีของโกโดร่าและดาราทมิฬคล้ายกัน โดยปราศจากอาวุธที่ทรงพลัง หากทั้งสองฝ่ายอยากสร้างความเสียหายให้กัน พวกเขาต้องเข้าประชิด
ปี้บปี้บ!
บาเร็ตเชื่อมโยงช่องสื่อสารกับนากาคิน
“ม่านพลังไม่อาจคงอยู่ได้ตลอดไปและเราก็ไม่อาจรับได้ฝ่ายเดียว หากเป็นแบบนี้ ฝั่งดาราทมิฬจะไม่บาดเจ็บเลย ผมจะเข้าไปใกล้ นากาคิน คุณจะนำการโจมตีและบดขยี้พวกมัน!”
“อย่าเสี่ยง!”นากาคินตะโกน”ตอนนี้สถานการณ์อยู่ข้างเรา ตราบเท่าที่เราคงสภาพนี้ไว้ ดาราทมิฬจะต้องถอยแน่”
“ไร้สาระ!ระดับเทคโนโลยีของดาราทมิฬเหมือนกับเราแต่เรามีคุณ และความสามารถคุณก็มากพอโค่นล้มศัตรู นี่คือโอกาสในการจัดการพวกมัน!”บาเร็ตคำราม เขาได้รับพิจารณาว่าเป็นพวกหัวรุนแรง เชื่อว่าการโจมตีจะต้องปกป้องดาวได้ดีกว่า
ขณะที่นากาคินกำลังจะตอบบาเร็ตก็กรีดร้อง
“รอเดี๋ยว…เรดาห์ระบุว่าศัตรูกำลังถอยแล้วดาราทมิฬกำลังถอย?!”
….
ดวงตาของนากาปูหรี่แคบพลางจ้องหน้าจอมือเขาไพล่หลัง นิ้วเขาถูเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัวพลางส่ายหัว สุดท้าย เขาก็ออกคำสั่ง น้ำเสียงเขายังคงนิ่งเฉย โดยปราศจากอารมณ์
“อย่าประมาทเด็ดขาด!”