The Legendary Mechanic - ตอนที่ 541 คิดหน
ตอนที่ 541 คิดหนี?
ห่างไกลออกไปในสนามรบอันดุเดือดระหว่างโกโดร่าและดาราทมิฬนากาปูได้รับข่าวว่าแบล็คสตาร์สามารถขัดขวางการซุ่มโจมตีได้และยังพยายามกวาดล้างพวกเขา ข่าวนี้ทำให้คิ้วเขาเริ่มขมวด
“แบล็คสตาร์มีพลังมากขนาดนั้นเลย?นี่ไม่ตรงกับข้อมูล!”
พวกเขากำหนดแผนการต่อสู้ตามข้อมูลที่มีและความผิดพลาดของข้อมูลก็ทำให้พวกเขาประเมินพลังของศัตรูต่ำไป เช่นนั้น มันจึงเกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในการพัฒนาแผนต่อสู้ และสถานะการต่อสู้ก็ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาคิด สีหน้าของนากาปูไม่สงบอีกต่อไป
“แบล็สตาร์สามารถปกป้องอความารีนได้และกองยานขนาดเล็กก็ไม่มากพอ ด้วยพลังที่เขาแสดง ต่อให้กองกำลังจู่โจมล่าถอย พวกเขาก็ต้องประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ กองยานภายใต้บัญชาการฉันกำลังพัวพันกับโกโดร่า และหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ มันก็เป็ฯไปได้ว่าโกโดร่าจะส่งกำลังเสริม..”
หลังไตร่ตรองนากาปูก็สรุป ภารกิจซุ่มโจมตีล้มเหลวแล้ว!
“กองกำลังทั้งหมดหยุดต่อสู้และถอยเดี๋ยวนี้!”
เมื่อรู้ว่าเขาล้มเหลวแล้วนากาปูก็ไม่คิดต่อสู้และตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
กองยานดาราทมิฬแยกตัวจากการต่อสู้และเริ่มถอยทัพเพราะกองยานโกโดร่าใช้อุปกรณ์แทรกแซงการกระโดด กองยานดาราทมิฬจึงไม่อาจเร่งความเร็วและกระโดดเข้าช่องว่างมิติได้ ดังนั้น ดาราทมิฬจึงพยายามหลบหนีจากกองยานโกโดร่าและโต้ตอบผลของอุปกรณ์แทรกแซงด้วยอุปกรณ์พวกเขา ยิ่งระยะห่างมาก มันก็ยิ่งง่ายต่อการกำจัดคลื่นรบกวน
นี่หมายความว่ากองยานดาราทมิฬจะสามารถหลบหนีได้วินาทีที่พวกเขาดึงระยะห่างออกไป
สีหน้านากาปูไร้อารมณ์พลางจับจ้องระเบิดหลากสี
นี่คือครั้งแรกที่ดาราทมิฬแพ้ในภารกิจซุ่มโจมตีเมื่อคิดถึงมัน สายตาของนากาปูก็กลายเป็นเย็นชา
ถ้าเขารู้ถึงพลังของแบล็คสตาร์เขาจะไม่พยายามลดการสูญเสียกองกำลังเขาและต้องส่งกองยานทั้งหมดไปปะทะกับแนวป้องกันโกโดร่า แต่ทว่า ไม่มีคำว่าถ้าในโลกนี้ เนื่องจากผลลัพธ์ถูกตัดสินแล้ว มันจึงไม่มีเวลาให้เขาเสียใจ เขาทำได้แค่ยอมรับความพ่ายแพ้ นากาปูถอนหายใจและสงบสติตัวเองลง
เขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
…
เหนือดาวเคราะห์อความารีนการต่อสู้อยู่ในสภาพแตกหัก ยานอวกาศที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบล็คสตาร์ได้สร้างสมดุลกับยานศัตรูด้วยพลังที่เท่าเทียมกัน
บูม!
ยานศัตรูถูกทำลายภายใต้การยิงที่เข้มข้นและครึ่งหนึ่งก็แหลกเละจากนั้นมันก็ดิ่งลงพื้นเหมือนอุกกาบาต หายไปจากสายตาของทุกคน
เหลือยานอวกาศดาราทมิฬไม่เหลือสิบลำที่ได้รับคำสั่งให้ถอยจากนากาปูและถอนหายใจโล่งอกพลางรีบหนีออกสนามรบแต่ก็ถูกทหารรับจ้างไล่ล่าตามมา
ภารกิจของกองกำลังจู่โจมนี้ควรง่ายมากพวกเขาแค่ต้องลอยในอวกาศและระดมยิงอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะได้รับการโต้ตอบจากกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ และก็ไม่อาจต่อกรกับอีกฝ่ายได้เลย!แม้พวกเขาจะเหนือกว่าในแง่ของจำนวน ยานอวกาศของศัตรูก็เหนือชั้นกว่าและสามารถหลบการโจมตีส่วนใหญ่พวกเขาได้ แถม แม้การโจมตีพวกเขาจะยิงโดนยานศัตรู การโจมตีพวกเขาก็ยังไม่อาจทำลายม่านพลังได้ เหนือไปกว่านั้น พวกเขายังแพ้ในด้านคุณภาพ ตราบเท่าที่ศัตรูขึ้นยานพวกเขา พวกเขาก็จบสิ้น
ด้วยกองกำลังจู่โจมที่เสียหายหนักพวกเขาจึงไม่อยากอยู่อีก แต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะคำสั่ง อาจกล่าวได้ว่าคำสั่งถอนตัวคือสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง
“ในที่สุดเราก็ไล่ศัตรูไปได้!”
เมื่อเห็นภาพดาวเทียมเหล่าผู้นำหกประเทศก็ยินดี ศัตรูมาอย่างดุเดือด และชาวโกโดร่าก็ทิ้งพวกเขาไป เพียงเมื่อพวกเขาคิดว่าพวกเขาจบสิ้นแล้ว แบล็คสตาร์กลับยืนหยัดและปกป้องดาวจากศัตรู เขตแดนต่างๆเสียหายเล็กน้อยและยังอยู่ในสภาพดี
ผลลัพธ์นี้เหนือกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก
ในเวลานี้หานเซี่ยวได้กลับไปยานแสงทมิฬ กีเน็ตหันมา และก่อนเธอจะมีโอกาสได้กล่าวโอ้อวด เธอก็ถูกผลักกระเด็นไปหาซิลเวีย
“โอ้ย!”กีเน็ตและซิลเวียต่างล้มลงกับพื้น
“โอ้ย..”ซิลเวียลูบหัวและสูดหายใจหัวเธอกระแทกกับชุดรบของกีเน็ต
กีเน็ตลูบก้นเธอและกล่าวด้วยความโกรธ”เห้ทำไมเธอถึงกระชากฉัน?ฉันเป็นผู้หญิงนะ!ช่วยอ่อนโยนหน่อยได้ไหม!”
หานเซี่ยวไม่สนใจเธอและถอดชุดจักรกลเขาก่อนนั่งลงบนที่นั่งนักบินบิดเอวและกล่าวเสียงต่ำ”การต่อสู้ยังไม่จบ และยานหลักของสัตรูก็ยังต่อสู้กับกองยานโกโดร่า เราจะสามารถไปถึงสนามรบได้อย่างรวดเร็วด้วยความเร็วของยานแสงทมิฬ และนี่คือโอกาสที่จะจัดการกับศัตรู บอกคนอื่นให้อยู่บนอความารีน ฉันจะรีบกลับมา”
ครั้งนี้เฮอลัสเพิ่งกลับมายานแสงทมิฬ หลังได้ยินคำพูดตอนเขาเปิดประตู เขาก็หันมาและกระโดดออกอย่างไม่ลังเล!
ล้อเล่นรึเปล่า!เขาไม่มีทางขึ้นยานที่แบล็คสตาร์เป็นคนขับ!
“นายอยากเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย?!”กีเน็ตตกใจ”เราสกัดศัตรูได้แล้วไม่จำเป็นต้องไปเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยหรอก”
หานเซี่ยวส่ายหัว”เราเอาชนะยานได้แค่ไม่กี่ลำนี่ไม่ทำให้ดาราทมิฬเสียหายหรอก ผู้บัญชาการกองกำลังศัตรูคือกุญแจสำคัญ เนื่องจากเขากล้าซุ่มโจมตีเรา เราก็ต้องทำให้เขาชดใช้!”
เป้าหมายเขาคือยานหลักของศัตรูไม่ใช่การทำให้อีกฝ่ายหลบหนี อย่างคำพูดที่ว่า-อย่าไล่โจรที่น่าสงสาร มันหมายความว่าเขาไม่ควรไล่ศัตรูโดยไม่มีเงิน!อย่างน้อยนี่ก็คือสิ่งที่สุดยอดช่างกลหานเข้าใจ
ดังนั้นเขาจึงไล่ตามหัวโจก!
หลังเผยความแข็งแกร่งเขาดราทมิฬต้องปรับข้อมูลใหม่ และศัตรูก็ต้องคิดมาตรการจัดการเขาได้ในอนาคต เว้นแต่เขาจะหลอกผู้เล่นลูกใหม่ได้ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับดาราทมิฬที่จะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดอีก ดังนั้น มันจึงดีสุดที่เขาจะคว้าโอกาสนี้เพื่อเพิ่มความได้เปรียบเขา การเอาชนะยานดาราทมิฬยังเป็นข้อกำหนดในภารกิจ[พันธมิตรแห่งโกโดร่า]
หานเซี่ยวขับยานแสงทมิฬออกจากชั้นบรรยากาศและล็อคพิกัดมันยังไกลอยู่จากเขา
ตามข้อมูลจากโกโดร่ามันดูเหมือนว่าศัตรูกำลังหลบหนี ด้วยความเร็วและความสามารถอำพรางของยานแสงทมิฬ เขาต้องสามารถไปถึงสนามรบได้ทัน
วินาทีถัดมายานแสงทมิฬก็เปลี่ยนเป็นลำแสงและหายไปจากสายตา
…
ลำแสงหยุดใกล้กับสนามรบหากพวกเขาไปไกลกว่านี้ พวกเขาคงอยู่ในเขตการรบกวนการกระโดด สนามรบที่วุ่นวายเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา บอลหลากสีระเบิดไปทั่ว ขีปนาวุธที่ทรงพลังได้ทำให้เกิดลูกไฟขนาดใหญ่ และปืนใหญ่พลาสมาก็ละลายม่านพลังของยาน
“เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก…”สายตาของหานเซี่ยวกวาดผ่านเรดาห์”ดาราทมิฬกำลังถอยหนียานอวกาศลำใหญ่สุดตรงกลางควรเป็นยานหลัก”
หานเซี่ยวประเมินระยะทางเขาต้องเข้าสนามรบเพื่อให้ยานหลักของศัตรูอยู่ภายในขอบเขตการส่งข้อมูลของเขา นอกจากนี้ ปัญญาประดิษฐ์ของยานหลักของสัตรูยังมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง
“นากาคินฉันอยู่ข้างนาย นายเป็นไงบ้าง?”
ด้วยการส่งสัญญาณใบหน้าของนากาคินก็ปรากฏ ยานอวกาศเขาตกเป็นเป้ายิงของศัตรูและกำลังเผชิญกับคลื่นโจมตีนับไม่ถ้วน ยานอวกาศกำลังพยายามอย่างดีสุดเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีทั้งหมดและไม่อาจเข้าใกล้ยานศัตรูได้
“แบล็คสตาร์?นายอยู่ในสนามรบด้วย?!”
หานเซี่ยวพยักหน้า”เรื่องง่ายๆฉันแทรกแซงปัญญาประดิษฐ์ของศัตรูได้ ดังนั้นฉันจึงเตรียมโจมตียานหลักของศัตรู หากนายสามารถเข้าใกล้ศัตรูได้ ฉันก็จะดับยานรบใกล้สุดและสร้างโอกาสให้นายพุ่งใส่ยานศัตรูได้”
เมื่อได้ยินดวงตาของนากาคินก็สว่างวาบ”เอาละ!ตกลงตามนั้น!”
ในเวลาเดียวกันเสียงของบาเร็ตก็ดังขึ้นในอุปกรณ์สื่อสาร”เราสามารถลองดูได้ กองยานผมจะพยายามยับยั้งการยิงของศัตรูและช่วยให้ยานของนากาคินเข้าใกล้ยานหลักของศัตรู”
ตามการตัดสินเขาบาเร็ตก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะจมกองยานดาราทมิฬ เขาเพิ่งได้รับข่าวการต่อสู้ที่อความารีน ดังนั้นเขาจึงมั่นใจถึงพลังของหานเซี่ยว
แม้เขาจะไม่กังวลถึงอความารีนบาเร็ตก็ไม่กล้าดูถูกหานเซี่ยวและสงสัยถึงพลังเขา
เพื่อสร้างกลุ่มทหารรับจ้างชื่อดังในวงแหวนดาวกระจายเขาต้องไม่ใช่คนที่จะดูถูกได้ เขาต้องมีพลังมากพอ
สีหน้าของกีเน็ตเปลี่ยนไปเมื่อได้ยิน”เรากำลังพุ่งเข้าสนามรบ?!มันเสี่ยงเกินไป!ปืนใหญ่บินอยู่ทั่วและต่อให้ฉันก็ยังไม่มั่นใจว่าจะหลบการโจมตีทั้งหมดได้ นี่แค่ยานเล็กๆ และความผิดพลาดครั้งเดียวก็อาจทำให้เราตกอยู่ในอันตราย!”
“ฮืมทักษะการาขับฉันได้รับการทดสอบมาตลอด มันจะไม่มีข้อผิดพลาด”หานเซี่ยวบิดข้อมือและเร่งความเร็วพลางตะโกน”รัดเข็มขัดให้ดีละ!”
ยานแสงทมิฬเร่งความเร็วและตรงดิ่งเข้าสนามรบมันพุ่งผ่านการโจมตีแสนวุ่นวาย ทั้งซิกแซก หยุดชะงัก ทิ้งิด่ง บินวนและเทคนิคอื่นๆอีกมาก มันเหมือนนกดำที่บินสัญจรไปมาอย่างคล่องแคล่วในสนามรบที่วุ่นวาย
มุมมองด้านนอกยานกำลังหมุนและกีเน็ตก็ผูกมัดตัวเองเข้ากับที่นั่ง ตอนแรก เธอกลัวว่าหานเซี่ยวจะทำพลาด หลังเพ่งสมาธิกับด้านนอกสักพัก สมองเธอก็เริ่มหมุน และใบหน้าเธอก็ขาวซีดไปหมด
“ช้า…ช้าลงหน่อยฉันมองอะไรไม่เห็นเลย!”กีเน็ตร้องตะโกน เธอไม่เคยคิดว่าทักษะการขับของหานเซี่ยวจะเหนือยิ่งกว่าเธอ ทักษะนี้ของเขาพอจะเป็นนักบินหัวกะทิขององค์กรใดก็ได้!
“เห้ในเมื่อเธอไม่ได้กำลังขับยาน แล้วทำไมถึงมองไม่เห็น?”หานเซี่ยวเดาะลิ้น
กีเน็ตหันมาและดวงตาเธอก็เบิกโพล่งด้วยความตกใจ เธอเห็นหานเซี่ยงกำลังใช้แขนกลในการควบคุมด้วยประสาทเขา แม้เขาจะพยายามแทรกซึมปัญญาประดิษฐ์ของยานศัตรู เขาก็กำลังทำสองสิ่งพร้อมกัน
ซิลเวียรู้สึกหวาดกลัวจนถึงขีดสุด”อะ..อาจารย์ได้โปรด!”
“อย่าเสียงดังฉันยุ่งอยู่”
วินาทีที่ยานแสงทมิฬเข้าสนามรบกองยานดาราทมิฬก็สังเกตเห็นพวกเขา จากนั้นสีหน้าของนากาปูก็เปลี่ยนไป
“นี่คือยานของแบล็คสตาร์!ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่?”
ทันใดนั้นนากาปูก็นึกถึงรายงานจากกองกำลังจู่โจมและคำราม”ไม่ดีแล้ว!เขามาเพื่อล้างแค้น ทุกคน จงฟัง อย่าปล่อยให้แบล็คสตาร์เข้ามาใกล้เราเด็ดขาด!”
นากาปูอดกังวลถึงความสามารถการแฮ็คของแบล็คสตาร์ไม่ได้หากเขาเข้าใกล้ยานพวกเขา ยานหลักของศัตรูอาจจะถูกแทรกซึมและพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย
กองยานดาราทมิฬพลันเปลี่ยนเป้าหมายและยานแสงทมิฬก็ต้องเจอกับแรงกดดันทันที พวกเขายังเปลี่ยนรูปขบวนพวกเขา และยานหลักสีเลือดอก็ไม่อยู่ตรงกลางขบวนอีก แต่กลับบินไปด้านหน้าเพื่อพยายามทิ้งระยะห่างจากหานเซี่ยว
“ดูเหมือนพวกมันจะรู้ตัว”หานเซี่ยวขมวดคิ้ว”ไม่อยากให้ฉันเข้าใกล้งั้นหรอ?”
ทันใดนั้นกองยานของบาเร็ตก็เริ่มโต้ตอบและระงับกองยานของดาราทมิฬ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เริ่มแยกกองหลักดาราทมิฬเพื่อสร้างช่องว่างให้ยานแสงทมิฬเข้าไป
ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกายและเขาก็ขับยานเขาเข้าไปทันที ด้วยทักษะการขับเขา แม้จะถูกรุมยิง เขาก็ยังเหมือนปลาในน้ำ
ยานแสงทมิฬคือยานแทรกซึมที่สร้างด้วยเทคโนโลยีของสหพันธ์แห่งแสงและความเร็วมันก็เหนือกว่าเทคโนโลยีของโกโดร่าและดาราทมิฬ แต่น่าเสียดายที่ยานแสงทมิฬไม่มีอาวุธของสหพันธ์แห่งแสง หากเขามีปืนใหญ่อนุภาค เขาคงสามารถยิงผ่านการป้องกันของยานนับสิบลำ และไม่ต้องผ่านความยุ่งยากแบบนี้
มีความแตกต่างในพลังของปืนใหญ่อนุภาคและมันก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของผู้ใช้และลำกล้องของแหล่งพลังงาน ปืนใหญ่อนุภาคที่ใช้โดยโกโดร่าและดาราทมิฬคือของทั่วไปในจักรวาล
ในเวลาเดียวกันสัญญาณเตือนภัยก็ดังในยานหลักของศัตรู
“คำเตือน!ยานกำลังถูกแทรกซึม!โปรดใช้มาตรการที่เหมาะสม!คำเตือน!…”
เสียงเตือนภัยจากปัญญาประดิษฐ์ของยานดังขึ้นและสีหน้าของนากาปูก็ดำมืด
“บัดซบ!”
ฮึม!
ทันใดนั้นไฟทั้งหมดก็ดับ เครื่องยนต์ของยานหยุดทำงาน ความเร็วของยานลบฮวบ และยานรบดาราทมิฬด้านหลังก็ขับแซงไปทันที ยานหลักตกอยู่ด้านหลังขบวน และแม้กระทั่งช่องทางสื่อสารก็ถูกตัด
ทั่วยานพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์มากเกินไปวินาทีที่ปัญญาประดิษฐ์เป็นอัมพาต ทั่วยานก็จะเป็นอัมพาตไปด้วย หากพวกเขาอยากขับยานด้วยมือ ความเร็วพวกเขาย่อมไม่อาจตามปัญญาประดิษฐ์ได้ทัน
ตราบเท่าที่ช่างกลเสมือนมีพื้นที่ให้แสดงความสามารถเขาย่อมเป็นอาวุธสังหารที่ร้ายแรงสุดในสนามรบ+
ปัง!ปัง!ปัง!
ทันใดนั้นเสียงกระแทกหลายครั้งก็ดังจากนอกยานราวกับมีบางสิ่งกำลังกระแทกกับยาน แต่ทว่า ด้วยปัญญาประดิษฐ์ของยานที่เป็นอัมพาต มันจึงไม่มีใครรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
แต่ด้วยการคาดเดาง่ายๆสมาชิกบนยานจึงรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและความสิ้นหวังก็เขียนบนหน้าพวกเขา
“มัน..มันคือนากาคิน…”
นิ้วของนากาปูสั่นในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกกลัว