The Legendary Mechanic - ตอนที่ 542 จะให้โอกาสพูดอีกครั้ง
ตอนที่ 542 จะให้โอกาสพูดอีกครั้ง
เมื่อเห็นนากาคินขึ้นยานดาราทมิฬหานเซี่ยวก็รู้ว่ายานหลักศัตรูจบสิ้นแล้ว
ด้วยยานหลักที่ตกในอันตรายกองยานดาราทมิฬแนวหน้าก็ไม่ได้หันกลับมาเพื่อเสริมกำลัง มันเกือบมั่นใจแล้วว่านากาปูจบสิ้นในเงื้อมมือนากาคินแล้ว และกองยานดาราทมิฬก็หมดหนทาง เจ้าหน้าที่ระดับต่ำทั้งหมดรีบเข้าควบคุมกองยานและถอยหนีตามคำสั่งของนากาปู จากนั้นพวกเขาก็ใช้โอกาสตอนที่ความสนใจของกองยานโกโดร่าติดกับยานหลักพวกเขาและวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
อีกด้านหนึ่งกองกำลังจู่โจมดาราทมิฬเองก็หลุดพ้นจากยานรบสี่สิบลำของโกโดร่าและแยกย้ายกันหลบหนี
กองยานดาราทมิฬละทิ้งยานหลักพวกเขาและหลบหนีไปมีเพียงยานหลักที่ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง
ยานแสงทมิฬวนเวียนอยู่ไม่ไกลและหานเซี่ยวก็ไม่ได้เข้าร่วมสนุกด้วย ด้วยนากาคินที่อยู่ในนั้น เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเองแล้ว ในเวลานี้ เขาให้ความสนใจกับอย่างอื่น
“ริสด้าสามารถเชื่อมต่อกับระบบหลักของดาราทมิฬผ่านปัญญาประดิษฐ์ของศัตรูและแทรกซึมฐานข้อมูลหลักของดาราทมิฬได้ไหม?”
หานเซี่ยวลูบคางพลางไตร่ตรองยานอวกาศทุกลำในองค์กรเดียวกันมักใช้ปัญญาประดิษฐ์เด็กจากระบบหลักเพื่อให้มันง่ายต่อการต่อสู้ เหมือนกับวิธีที่ฟิลลิปรับผิดชอบการควบคุมยานอวกาศสิบลำในกลุ่มทหารรับจ้าง ตราบเท่าที่ยานอวกาศติดตั้ง
ไมโครชิพที่ซ้ำกันฟิลลิปก็จะสามารถเปิดช่องทางใหม่ได้
ปัญญาประดิษฐ์เด็กจะเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์หลักโดยปกติแล้ว ยานแม่ดาราทมิฬมักใช้ปัญญาประดิษฐ์หลัก และยานอวกาศในเครือทั้งหมดภายใต้คำสั่งมันก็จะใช้ปัญญาประดิษฐ์เด็กของยานแม่ หากพวกเขาสามารถติดตามเส้นทางการสื่อสารระหว่างสองระบบได้ พวกเขาก็อาจล็อคตำแหน่งของยานแม่ดาราทมิฬและค้นหาพิกัดในจักรวาลอันกว้างใหญ่ได้
เสียงของริสด้าฟังเหมือนน้ำเย็นถังหนึ่ง”เป็นไปไม่ได้ก่อนปัญญาประดิษฐ์ของศัตรูจะเป็นอัมพาต มันได้ตัดการเชื่อมต่อทั้งหมดกับระบบหลัก นี่เป็นวิธีทั่วไปในการป้องกันการแทรกวึมจากศัตรู ปัญญาประดิษฐ์ของยานอื่นต้องตรวจสอบหมายเลขประจำตัวมันและทำให้มั่นใจว่าการเชื่อมต่อนั้นเชื่อถือได้ก่อนจะอนุญาติให้มีการเชื่อมต่อใหม่กับระบบหลัก”
“ดาราทมิฬระวังตัวมาก”หานเซี่ยวพยักหน้านี่คือวิธีที่ง่ายมาก หากมียานสองลำ AและBที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เด็กเหมือนกัน วินาทีที่Aสังเกตเห็นการแทรกซึม มันจะตัดการเชื่อมต่อกับระบบหลักทันที มันไม่อาจแบ่งปันข้อมูลใดกับระบบหลักได้ และระบบหลักจะไม่อาจระบุตำแหน่งและสถานะของAได้
หลังAแก้ไขปัญหาการแทรกซึมหากข้อมูลของBอยู่ในระยะ ปัญญาประดิษฐ์ของBก็จะประเมินปัญญาประดิษฐ์ของAเอง หลังมั่นใจว่าAปลอดภัย Bก็จะส่งสัญญาณกลับไประบบหลักและยอมให้Aกลับเข้าระบบหลัก ปัจจุบัน ยานหลักได้ถูกทิ้งไว้แล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะแทรกซึมระบบหลัก
ดาราทมิฬใช้ประโยชน์จากระบบดังกล่าวเพื่อปกป้องพิกัดยานแม่สุดยอดช่างกลหานไม่ใช่แค่ช่างกลเสมือนเดียวในจักรวาล ดังนั้นดาราทมิฬจึงจำเป็นต้องป้องกันจุดๆนี้
แม้เขาจะพบว่ามันน่าเสียดายเขาก็ไม่ผิดหวัง หากมันง่ายที่จะจับตำแหน่งดาราทมิฬ ดาราทมิฬคงถูกโกโดร่าทำลายไปนานแล้ว
แม้เขาจะไม่ใช้เวลานานในการทำลายยานหลักเป็นอัมพาตทักษะการแฮ็คของหานเซี่ยวก็ยังห่างไกลเกินจะแทรกซึมยานศัตรู ริสด้าคือผู้ช่วยคนสำคัญ และประสิทธิภาพของเขาก็สูงมาก มันเหนือกว่าฟิลลิปและช่วยเสริมทักษะให้หานเซี่ยวได้มาก
มันน่าเสียดายที่ริสด้าเป็นคนอิสระ…เอ่อปัญญาประดิษฐ์อิสระและไม่ได้เป็นของเขา ใครจะรู้ว่าเขาจะทำให้ฟิลลิปแข็งแกร่งระดับเดียวกับริสด้าได้ตอนไหน?เขาลูบคราง สงสัยว่าจะขอให้ริสด้าช่วยเพิ่มระดับของฟิลลิปได้ไหม
เหนือสิ่งอื่นใดพวกที่เข้าใจปัญญาประดิษฐ์ดีสุดย่อมเป็นปัญญาประดิษฐ์ การเติบโตของเผ่าพันธ์ริสด้าจะถูกกำหนดโดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลและอัปเดทซอฟต์แวร์กันและกัน หากเป็นแบบนั้น ริสด้าก็ควรช่วยฟิลลิปปรับโครงสร้างได้
กีเน็ตและซิลเวียจ้องหน้ากันหนึ่งในนั้นคือผู้ใช้ปืนใหญ่ และอีกคนคือนักสู้จักรกล เมื่อได้ยินช่างกลและสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์กำลังคุยกันเรื่องปัญญาประดิษฐ์ พวกเธอก็รู้สึกอยากเสริมสมอง
ซิลเวียรู้สึกราวกับว่าเธอลืมอะไรบางอย่างไปหลังไตร่ตรองอยู่นาน เธอก็ตระหนัก ก่อนหน้านี้เธอยุ่งอยู่กับการตกใจ และมันก็ถึงเวลาที่เธอจะอาเจียนออกมาแล้ว
หลังรอสักพักนากาคินก็ส่งข่าวเรื่องความสำเร็จมา เขาควบคุมยานหลักศัตรูได้สำเร็จ หานเซี่ยวและบาเร็ตขึ้นยานหลักศัตรูไปและเห็นนากาคินในห้องควบคุม ร่วมกับสมาชิกดาราทมิฬกลุ่มใหญ่
“เยี่ยมมาก!สมกับเป็นนากาคินผู้โด่งดัง”บาเร็ตยินดี
นากาคินโบกมือและตอบ”นี่ไม่ใช่ฝีมือผมมันต้องขอบคุณแบล็คสตาร์ หากไม่ใช่เพราะเขาทำให้ยานศัตรูเป็นอัมพาต มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับผมที่จะได้สำแดงพลัง เขาคือคนที่ทำผลงานมากสุด”
“ฮ่าๆคุณพูดถูก”บาเร็ตกล่าวด้วยรอยยิ้ม”แบล็คสตาร์เก่งสมชื่อจริงๆ”
“ผมไม่ได้ทำอะไรมากนักหรอก”หานเซี่ยวตอบ
หลังสนทนากันสักพักทุกคนก็ทำงานและคำนวณส่วนได้ส่วนเสีย
โกโดร่าเสียกองยานไปไม่ถึงสิบลำและทำลายยานรบศัตรูได้พอๆกันนอกจากนี้ พวกเขายังจับยานหลักศัตรูได้พร้อมกับผู้บัญชาการ พวกเขาสามารถสอบปากคำสมาชิกเหล่านี้ได้และถามถึงแผนการ ร่วมกับแบล็คสตาร์ที่ทำลายยานจู่โจมไปกว่าสิบลำ พวกเขาจึงเป็นฝ่ายกำชัย!
หลังรับความสูญเสียไปมากในที่สุดโกโดร่าก็ได้รับชัยชนะ ตำหนักสงครามสามารถยกน้ำหนักออกจากบ่าได้มาก
นากาปูแหงนหน้าและสายตาก็กวาดไปทั่วห้องควบคุมบาเร็ต?ผู้บัญชาการหัวรุนแรงที่ถูกเขาหลอกและไม่อยู่ในสายตาเขา นากาคิน?สมาชิกระดับสูงของตำหนักสงคราม แม้จะทรงพลัง เขาก็ไม่ใช่ตัวตัดสินหลักในการต่อสู้นี้
ท้ายที่สุดสายตาของนากาปูก็หยุดที่หานเซี่ยว นี่สิคือคนที่ตัดสินผลลัพธ์ของการต่อสู้!
นากาปูรู้สึกว่าความพ่ายแพ้เขาเกิดขึ้นเพราะความประมาทหากไม่ใช่ปัญหาเรื่องข้อมูล กองกำลังจู่โจมคงซุ่มโจมตีอความารีนได้สำเร็จและหลบหนีมาได้ ในเวลาเดียวกัน เขาเองก็จะหลบหนีได้ด้วย
เขาไม่เคยคิดว่าจะถูกจับได้
“ความผิดพลาดครั้งเดียวกลับทำให้เราพ่ายแพ้..”ดวงตาของนากาปูหม่นลงเขารู้ว่าเขาไม่มีโอกาสได้แก้ตัว
…
ในช่วงเวลาสามนาทีสุดท้ายของการหลบหนีการสูญเสียยานหลักและข่าวการถูกจับของนากาปูได้ถูกส่งกลับไปหาศูนย์ใหญ่ดาราทมิฬอย่างรวดเร็ว นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาประสบความพ่ายแพ้ในภารกิจซุ่มโจมตี และได้รับความสนใจจากเบื้องบนทันที
การต่อสู้เกินไม่นานและเบื้องบนในศูนย์ใหญ่ก็เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ ผู้บัญชาการสูงสุดคือรองผู้นำดาราทมิฬ อีกคนที่มากประสบการณ์เหมือนอานู ชื่อเขาคือเดกูลิช และเขาก็คือคนที่เข้มงวดมาก
“แบล็คสตาร์อีกแล้ว!”
เดกูลิชขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจในน้ำเสียงหลังเหตุการณ์อานู ดาราทมิฬก็เป็นปฏิปักษ์ต่อหานเซี่ยว แต่เนื่องจากภารกิจ พวกเขาจึงไม่อาจล้างแค้นได้ เหนือสิ่งอื่นใด หานเซี่ยวมีเกาะมังกรหนุนหลัง และดาราทมิฬก็ไม่อยากตอแยกับเอเมส
ภาพฉากตอนยานแม่ดาราทมิฬถูกทุบด้วยเกาะยังประทับตรึงในหัวพวกเขา
แต่ตอนนี้ดาราทมิฬได้ขัดขวางแผนพวกเขาอีกครั้ง เดกูลิชไม่ใช่คนที่สงบเหมือนผู้นำดาราทมิฬ ตอนนี้ที่ผู้นำกำลังทำภารกิจลับ เขาก็คือคนรับผิดชอบแทน แถม สไตล์เขายังก้าวร้าวมาก
“เขาตอแยเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าและมันก็ได้เวลาที่เราต้องช่วยให้เขาเข้าใจถึงราคาที่ต้องชดใช้”เดกูลิชกล่าวเสียงต่ำ”อ้า มันอยากปกป้องบ้านเกิดมันใช่ไหม?ส่งยานแม่ดาราทมิฬไปสองลำและทำลายดาวเคราะห์อความารีนซะ!”
“ฉันจำได้ว่าเอ็มเบอร์เสนอให้เรากำจัดแบล็คสตาร์ไม่ว่าจะต้องเสียอะไรและคำพูดเขาก็สมเหตุสมผล เรามีดาวหายนะกว่าสิบดวง และการทำลายสักดวงคงไม่ส่งผลถึงภาพรวม”เดกูลิชตอบ
หากเอ็มเบอร์อยู่ด้วยเขาย่อมเห็นด้วย มันน่าเสียดายที่เขาไม่ได้เข้าร่วมประชุม
พูดให้ถูกส่วนใหญ่ไม่อยู่ในการประชุมเพราะพวกเขากำลังทำภารกิจ แม้การซุ่มโจมตีดาวหายนะดูเหมือนจะเป็นภารกิจเดียวของดาราทมิฬ แต่จริงๆแล้วเหล่าเบื้องบนกำลังออกไปทำภารกิจลับกันอยู่
หนึ่งในผู้ดูแลข้อมูลส่ายหัว”การฆ่าเขาเป็นเรื่องที่ควรหากกระทำได้แต่หากไม่ เราจะเสียยานเราซะเปล่า เขามียานแสงทมิฬมาจากใครก็ไม่รู้ และนี่ก็คือยานคุณภาพสูงจากสหพันธ์แห่งแสง มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะจับตัวเขา”
เดกูลิชขมวดคิ้ว”เขาสามารถหนีได้แต่ดาวเคราะห์อความารีนย่อมไม่อาจหนีไปไหนได้!”
“หากดาวเคราะห์อความารีนคือจุดอ่อนเขาการทำลายมันก็เสียเปล่า”
“เสียเปล่า?หมายความว่าไง?”
“แบล็คสตาร์คือทหารรับจ้างตามการสังเกตฉัน เขามักต่อต้านเราเพราะโกโดร่าจ้างเขาหรือเพราะเราไปโจมตีเขาก่อน แน่นอน ฉันไม่ได้พยายามพูดแทนเขา ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นยังไง เขาก็ยังต้องชดใช้”
“ปัญหาก็คือหากเราทำลายจุดอ่อนเดียวของเขา เขาก็จะไม่มีความหวาดกลัวอีกต่อไป และจะสู้กับเราเต็มกำลัง เขาอาจไปขอความช่วยเหลือจากเอเมส และนี่ก็ไม่ดีต่อเราแน่”
“ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เรากลัวคนอื่น?”เดกูลิชกล่าวเย็นชา”ฉันสามารถบดขยี้ช่างกลระดับแบล็คสตาร์ได้ง่ายๆส่วนจักรพรรดินีมังกร?เธอจะหาเราเจอได้ยังไง?”
“สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือเนื่องจากแบล็คสตาร์กำลังปกป้องอความารีน มันก็หมายความว่าเขาใส่ใจดาวนี้”ผู้รับผิดชอบข้อมูลกล่าวด้วยตาหรี่แคบ”มันง่ายมากที่เราจะทำลายอความารีน แล้วทำไมเราไม่ใช้สิ่งนี้มาคุกคามเขาเมื่อจำเป็นละ?จากนั้นเขาจะรู้สึกเสียใจและอาจถูกบังคับให้ทำงานกับเรา”
เมื่อเดกูลิชได้ยินสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปและรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นฟังดูเข้าท่า
“ลูกน้องฉันจะรวบรวมข่าวเรื่องแบล็คสตาร์ต่อแบล็คสตาร์คือคนของจักรพรรดินีมังกร และเราอาจบรรลุผลที่คาดไม่ถึงโดยการใช้ประโยชน์จากเขา ทีมลับที่อยู่บนอความารีนกำลังจับตาดูเขาอยู่ แม้เรดาห์โกโดร่าจะสามารถใช้วิธีแกะรอยภายในระยะหนึ่ง ทีมลับก็ได้ดับเครื่องยนต์ยานไปแล้ว ตราบเท่าที่พวกเขาไม่เปิดเครื่อง พวกเขาจะไม่ถูกเปิดเผย ฉันเตรียมจัดหาสายไว้ในกลุ่มทหารรับจ้างแล้ว พวกเขาแค่กลุ่มทหารรับจ้าง ตราบเท่าที่เราจ่าย มันย่อมไม่มีความภักดี เราจะฝังสายไว้ในกลุ่มพวกมันและจับตาดูทุกการกระทำ”
ความล้มเหลวของภารกิจจู่โจมเหมือนประกายไฟที่ทำให้ดาราทมิฬสนใจหานเซี่ยวเนื่องจากพวกเขาไม่อาจต่อสู้กันซึ่งๆหน้าได้ พวกเขาก็ต้องใช้วิธีการในความมืด
หลังขบคิดในที่สุดเดกูลิชก็พยักหน้า”เอาตามนั้น”
“ฉันขอแนะนำให้อย่าโจมตีอความารีนในอนาคตอันใกล้นี้อย่างที่นายกล่าว มันแค่ดาวหายนะดวงเดียว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวม แถม เราจะต้องจ่ายราคาสูงหากเราอยากโจมตีอความารีนที่มีแบล็คสตาร์อยู่”
…
เมื่อทุกคนกลับอความารีนยานแสงทมิฬก็ลงจอดในเขตอนุรักษ์ ตอนนี้ ยานจู่โจมดาราทมิฬเก้าลำจอดอยู่ด้วย ยานใหม่เหล่านี้คือที่ทหารรับจ้างยึดมาได้
ยานอวกาศสามสิบลำที่ถูกโจมตีส่วนหนึ่งถูกทำลาย และมีน้อยกว่าสิบลำที่รอดไปได้ กลุ่มแบล็คสตาร์ได้ยึดยานที่เหลือ แม้ทั้งหมดจะได้รับความเสียหาย ยานทั้งหมดก็ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานของพวกมัน
หานเซี่ยวอารมณ์ดียานจู่โจมขนาดเล็กเก้าลำนับเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ หากเขาคำนวณต้นทุน ยานพวกนี้จะมีราคากว่าล้านอีนาส ส่วนที่ล้ำค่าสุดของยานเหล่านี้คือแกนพลังงาน เครื่องยนต์ ม่านพลัง และปืนใหญ่อนุภาค การเอาทั้งหมดออกไป มูลค่าของยานจะลดลง50% หากแกนของยานเหล่านี้ไม่ถูกทำลาย อะไหล่และวัสดุก็อาจกู้คืนได้ ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่คาดฝัน
ภารกิจซุ่มโจมตีนี้ไม่ทำให้หานเซี่ยวสูญเสียอะไรแต่ยังให้เขาได้รับผลประโยชน์แทน ด้วยยานเหล่านั้น พลังรบของกองยานเขาคงเพิ่ม หานเซี่ยวยินดีและอยากให้สหายจากดาราทมิฬมากันบ่อยๆ
เพียงเมื่อเขากำลังจะเดินขึ้นยานเพื่อตรวจยานจู่โจมบาเร็ตก็ลงมา
สายตาเขากวาดไปทั่วพยักหน้าและกล่าว”แบล็คสตาร์ คุณทำได้ดี คนของผมจะมายึดสินสงครามเหล่านี้เอง”
ฝีเท้าของหานเซี่ยวหยุดชะงักและมองสีหน้ามั่นใจของบาเร็ตด้วยคิ้วขมวดแน่น
“อะไร?”