The Legendary Mechanic - ตอนที่ 551 ความสนใจของเอเมส
ตอนที่ 551 ความสนใจของเอเมส
หลังส่งมอบของให้ไฮเออร์หานเซี่ยวก็กล่าวอำลาทั้งสาม ออกท่า เข้าเขตเมืองและตรงไปวังจักรพรรดินีมังกร
สำหรับการเรียกพบของเอเมสมีอยู่สองความเป็นไปได้ หนึ่งคืออีซอปและสองคือการขยายของกองกำลังฉัน เอ๊ะ มันอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้เจอฉันนานและคิดถึงฉัน เธออาจแค่อยากเห็นหน้าหล่อๆของฉันมั้ง
ตามทางหานเซี่ยวไตร่ตรอง เอเมสไม่เคยสนใจเรื่องความรับผิดชอบและแทบไม่เคยเรียกลูกน้องเธอ ดังนั้น โอกาสที่จะเป็นเรื่องจริงจังจึงน้อยมาก
ดวงตาหานเซี่ยวพลันสว่างใช่แล้ว มันยากที่ฉันจะได้เจอเธอ ดังนั้นมันคงดีหากฉันสามารถได้รับบัตรอัญเชิญตัวละครเธออีกสักใบ
ภารกิจการขุดประวัติศาสตร์ของอความารีนช่วยให้เขาได้อีกรางวัลสุ่มเขาไม่มั่นใจในโชคเขาและเตรียมเก็บมันไว้เพื่อสุ่มครั้งเดียว แต่ทว่า แผนเขาไม่อาจติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ และมันคงดีสุดหากเขาสามารถสุ่มได้บัตรอัญเชิญตัวละครเปล่าสักใบในตอนนี้
การอัญเชิญจักรพรรดินีมังกรก่อนหน้าช่วยให้เขากำจัดตัวตนระดับภัยพิบัติได้และเขาก็ไม่เคยบ่นถึงการมีไพ่ตายมากเกินไป
เมื่อเปิดหน้าต่างสถานะหานเซี่ยวก็เริ่มสุ่ม
กำลังสุ่ม..การสุ่มสำเร็จ
ท่านได้รับรางวัลประเภท: [พรสวรรค์]
เอ๊ะโชคฉันค่อนข้างดี ตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย
แม้มันจะไม่ใช่บัตรอัญเชิญตัวละครหรืออุปกรณ์พรสวรรค์ก็ยังดีต่อเขา ไม่ว่าพรสวรรค์จะขยะแค่ไหน มันย่อมมีประโยชน์
กำลังสุ่ม…การสุ่มสำเร็จ
โปรดเลือก
วิญญาณแกร่ง: ความต้านทานพลังจิต+20%
การใช้อาวุธยืดหยุ่น: เมื่อใช้อาวุธประเภทใดก็ตาม +12%ความเสียหายพื้นฐาน
เฮสท์: เพิ่มความเร็วและอัตราการหลบหลีก ผลขึ้นอยู่กับสถานะความเชี่ยวชาญและจะไม่เพิ่มเกิน30%
หลังดูตัวเลือกเขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ซ เขามี[จิตแกร่งขั้นกลาง]และผลมันก็เพิ่มความต้านทานพลังจิต+35%และลดสถานะด้านลบ30%จากการโจมตีจิต
[เฮสท์]นับว่าไม่เลวแต่ มีเพียงยอดมนุษย์สายความเร็วถึงสามารถแสดงพลังมันได้เต็มที่ สไตล์การต่อสู้เขาไม่พึ่งพาความเร็ว ด้วย[การท่องมิติ] เขาไม่ต้องกังวลถึงการหลบ และชุดจักรเขาก็สามารถมอบความคล่องตัวให้เขาได้ ส่วนใหญ่เขาจะอาศัยอยู่ตำแหน่งเดิมและพึ่งพาหอคอยปืนใหญ่หรือผู้พิทักษ์
ในฐานะช่างกลเขาต้องสำแดงพลังของอุปกรณ์เขาให้เต็มที่ ดังนั้น[การใช้อาวุธยืดหยุ่น]จึงเหมาะกับเขาสุด แม้โบนัส12%จะไม่สูง มันก็ไม่ไร้ประโยชน์ ความเสียหายก็เหมือนความสูงของผู้ชาย 1หน่วยก็น่ายินดีแล้ว
สำคัญสุดพรสวรรค์นี้แตกต่างจากความสัมพันธ์กับเครื่องจักร มีเพียงอาวุธที่ใช้สนามพลังจักรกลถึงเพลิดเพลินกับบัฟของความสัมพันธ์กับเครื่องจักรได้ และมันก็ผลาญพลังงาน แม้พลังงานที่ใช้จะน้อยมาก แต่เมื่อใช้กับกลยุทธ์กองทัพ มันจึงยากที่เขาจะใช้สนามพลังจักรกลกับเครื่องจักรทั้งหมด ในทางกลับกัน พรสวรรค์นี้สามารถเพิ่มพลังให้อาวุธได้ทุกประเภท
หานเซี่ยวเลือกมันทันที
เหนือสิ่งอื่นใดพรสวรรค์ในรางวัลสุ่มเป็นเรื่องธรรมดา มันยากที่พรสวรรค์พิเศษจะปรากฏและเป็นไปไม่ได้ที่ความสามารถการปั้นจะปรากฏ ผลลัพธ์เช่นนี้นับว่าดีถมไปแล้ว
พูดถึงความสามารถการปั้นความสามารถทั้งสองของเขา[รากฐานชีวิตขั้นกลาง]และ[กายเหล็ก]ล้วนได้รับมาจากโชค ผู้เล่นไม่มีทางได้รับความสามารถการปั้น และไม่มีข้อมูลถึงพวกมันในชีวิตก่อนหน้าเขา แต่ทว่า สำหรับความสามารถการปั้น หานเซี่ยวมีความคิดคลุมเครืออยู่
วิธีที่ง่ายสุดในการเพิ่มระดับย่อมเป็น[รากฐานชีวิตขั้นกลาง]ที่สามารถทำได้โดยการฉีดยีนที่ทรงพลังเข้าตัวเองอย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่จะเกิดการกลายพันธ์อยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสี่ยง
ปัจจุบัน[รากฐานชีวิตขั้นกลาง]ได้มอบพลังชีวิตจากค่าสถานะความทนทานเขาในอัตรา1:30 นี่ยังเป็นเหตุผลที่เขาอึดทน หากเขาสามารถพัฒนาพรสวรรค์นี้ได้อีก พลังชีวิตเขาอาจสูงกว่าระดับบอส
..
วังของเอเมสยิ่งใหญ่มากเมื่อทหารเห็นหานเซี่ยว ความเคารพก็บังเกิดขึ้น และพวกเขาก็เปิดทางให้หานเซี่ยวทันที
ในโถงใหญ่บัลลังก์สีดำกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่หานเซี่ยวกลับไม่เห็นตัวเอเมสเลย
หู่!
ทันใดนั้นสนามพลังสีเขียวอ่อนก็พุ่งออกมา มันเหมือนกลุ่มผลึกเขียวใสขนาดใหญ่กว้างกว่าสิบเมตร
บูม!
บรรยากาศถูกบีบอัดและเกิดการระเบิดขึ้น
หานเซี่ยวหรี่ตาแคบประกบฝ่ามือเข้าด้วยกัน แขนกลขนาดใหญ่หกแขนยื่นออกมาและก่อตัวเป็นม่านพลังขนาดเล็กรอบเขา ตัวขับบนข้อมือของมือจักรกลเหล่านี้พ่นไฟสีฟ้าออกมา และเขาก็ปิดกั้นสนามพลังเกรี้ยวกราดเอาไว้!
บูม!
พลังทั้งสองปะทะกันและได้ยินเสียงอู้อี้
สนามพลังและแขนจักรกลเท่าเทียมกันจากนั้นแขนจักรกลก็ค่อยๆได้เปรียบ กดดันสนามพลังจนมันเปลี่ยนรูป พลังงานของสนามพลังเริ่มรั่วและสร้างเป็นคลื่นสีเขียวบนพื้นผิว
บูม!
วินาทีถัดมาสนามพลังก็ระเบิด และคลื่นก็กระจายออกไปทุกทิศทาง เหมือนหินที่ถูกโยนลงทะเลสาบ ฝุ่นบนพื้นกระเพื่อมและสร้างเป็นเมฆฝุ่นที่ลอยสูงระดับต้นขา
ผมของหานเซี่ยวถูกเป่าจนยุ่ง
จากนั้นเอเมสก็ปรากฏขึ้นจากประตูเล็กๆข้างบัลลังก์และนั่งลงเธออยู่ในชุดยาวสีม่วงอีกครั้ง ผมเธอสยายลงเหมือนน้ำตก ความงามที่ละเอียดอ่อนของเธอเป็นเหมือนใบหน้าที่แช่แข็งได้แม้กระทั่งเวลา เธอเอามือเท้าคางไว้ แขนเสื้อเธอเลื่อนหลุดเผยให้เห็นข้อมือขาวพลางมองหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่ยิ้ม
“ครั้งแรกที่ฉันเจอนายนายเกือบถูกบดขยี้ด้วยพลังนี้ ฉันใช้พลังเท่าเดิมกับแต่ก่อน และนายก็สามารถป้องกันมันได้ง่ายๆแล้ว มันเพิ่งผ่านไปแค่สองปี ความเร็วการพัฒนาของนายทำให้ฉันตกใจ”
เอเมสหัวเราะและเสียงเกียจคร้านของเธอก็เป็นเอกลักษณ์มาก
วินาทีที่สนามพลังปรากฏหานเซี่ยวก็รู้ว่านี่คือการทดสอบ หากมันเป็นเขาก่อนเข้าจักรวาล มันคงยากมากที่เขาจะป้องกันได้ แต่ทว่า ตอนนี้เขาสามารถทำได้ง่ายๆ
เสน่ห์ของเอเมสน่าทึ่งมากและหานเซี่ยวก็อดตะลึงกับความงามของเธอทุกครั้งไม่ได้ที่เห็นเธอ แต่ทว่า เขามีประสบการณ์สูงและรีบสงบสติลงพลางพยักหน้า
“ท่านจักรพรรดินีมังกรมีอะไรให้ผมรับใช้งั้นหรือ?”
“ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่รึไง?นายสามารถเรียกฉันว่าเอเมสได้”ริมฝีปากของเอเมสกระตุก”จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรมากเร็วๆนี้ เจนนี่ได้ต่อต้านการขยายทีมภาคสนามของนาย นายคิดว่ายังไงกับเรื่องนี้?”
ในบรรดาสี่สุดยอดแห่งวงแหวนดาวกระจายเกาะมังกรอ่อนแอสุด ด้วยการขยายกองกำลังเขา มันย่อมมีหลายองค์กรในวงแหวนดาวกระจายที่เข้าใจเจตนาเขาผิด พวกเขารู้สึกว่าจักรพรรดินีมังกรอยากเลียนแบบอีกสามสุดยอดและขยายกองกำกลังเธอเพื่อให้ไร้เทียมทาน เอเมสไม่ใส่ใจความคิดเหล่านั้น และก็ไม่สนใจองค์กรอื่น
เดิมทีเธอไม่สนด้วยซ้ำว่าหานเซี่ยวจะทำอะไร และให้หานเซี่ยวใช้ชื่อเธอไปเงียบๆ นอกจากนี้ เธอยังไว้ใจเขามาก
แต่ทว่าเจนนี่มักบ่นถึงเรื่องนี้เสมอ และเหตุผลที่ทำให้เธอคัดค้านก็ชวนปวดหัว เจนนี่บอกว่าการขยายของหานเซี่ยวจะทำให้เกิดผลกระทบ และทุกองค์กรจะพยายามแสดงความปราถนาดี เช่นนั้น งานของเธอก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ด้วยงานที่เพิ่มขึ้น เธอจะเสียผมทุกวันและรู้สึกว่าเธอแก่ขึ้น ดังนั้น เธอจึงคัดค้านการกระทำของหานเซี่ยว เธอยังเสริมว่าหากเอเมสไม่อยากจ้างผู้จัดการเพิ่ม เอเมสก็ไม่ควรให้แบล็คสตาร์ขยายกองกำลังอีก
ดังนั้นเอเมสจึงอยากรู้ความคิดของหานเซี่ยว เธอไม่สนใจผลลัพธ์อยู่แล้ว หากหานเซี่ยวมีเหตุผล เอเมสก็จะสนับสนุนเขา ไม่ว่ายังไง อีซอปผู้ถูกจับโดยหานเซี่ยวก็ได้ใช้ชีวิตวัยเกษียณบนเกาะมังกรแล้ว และเขาก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการแบ่งปันงานกับเจนนี่
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็ขยับ
“เธอจำอโรเชียได้ไหม?”
เอเมสคิดสักพัก’เธอเป็นอวกาศอัศจรรย์ที่ไม่มีวันตายฉันเคยเห็นเธอบนเกาะมาก่อน และแม้กระทั่งฉันก็ไม่อาจฆ่าเธอได้ นายคือคนที่เอาตัวเธอไปใช่ไหม?”
“ฉันพบพวกที่มีความสามารถพิเศษแบบเดียวกับเธอนับล้านแถม พวกเขายังเต็มไปด้วยศักยภาพ และมันเป็นไปได้ที่จะสื่อสารกับพวกเขาเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไป”
“นับล้าน?!”เอเมสตกตะลึง
“พวกเขามาจากบ้านเกิดฉันและปรากฏหลายปีก่อนฉันรู้สึกว่าพวกเขาจะกลายเป็นขุมกำลังในจักรวาลที่ไม่อาจมองข้าม ดังนั้น ฉันจึงอยากรีบรับสมัครพวกเขา”หานเซี่ยวไม่โกหก เขารู้ถึงศักยภาพของผู้เล่นดี และน้ำเสียงเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“น่าสนุกจริงๆ!”เอเมสกล่าวอย่างสนุกสนาน”ฉันจะไปดูให้เห็นกับตา”
ปากของหานเซี่ยวกระตุกและรู้สึกปวดหัวทันที
เขาขุดหลุมให้ตัวเองเข้าแล้วแม้การนำเอเมสไปด้วยจะเป็นหลักประกัน แต่การกลับมาครั้งนี้ของเขาก็เพื่อหาข้ออ้างในการนำแหล่งกลายพันธ์ หากนากาคินมาถามเอเมสถึงเรื่องนี้ เขาจะไม่ถูกเปิดโปงหรือไง?
หานเซี่ยวพยายามโน้มน้าวเธอ”เอเมสดาราทมิฬและโกโดร่ากำลังสู้กันอีกแล้ว และสถานการณ์ในระบบดาวกาตอนก็ซับซ้อนมาก บ้านเกิดฉันก็ติดภัยสงครามไปด้วย ทำไมเธอไม่มาหลังความวุ่นวายจบลงละ?”
“ดาราทมิฬ?มีอะไรให้ต้องกลัว?”เอเมสไม่พอใจ”ฉันเกลียดการรอฉันจะกลับไปกับยาน หากดาราทมิฬกล้าปรากฏ ฉันจะบดขยี้พวกมัน”
หานเซี่ยวตบหน้าผากและไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้
…
เจนนี่กลับไปห้องทำงานเธอถอดแว่นออกและนวดขมับพลางถอนหายใจ
“จักรพรรดินีมังกรร้องพบแบล็คสตาร์และต้องพูดกับเขาเรื่องปัญหาของทีมภาคสนามแบล็คสตาร์คือคนสนิทของเธอ และเอเมสก็คงไม่หยุดการกระทำเขา จิ๊..”
เมื่อคิดถึงหานเซี่ยวเจนนี่ก็โกรธขึ้นมา หลังเรื่องเงินกู้ เธอก็เต็มไปด้วยความปฏิปักษ์ต่อหานเซี่ยว หลังจากนั้น แม้จะพยายามทุกวิธี เธอก็ไม่อาจลดความเชื่อใจของเอเมสที่มีต่อเขาได้
ตอนนี้ไม่ว่าเจนนี่จะไม่พอใจแค่ไหน เธอก็ทำได้แค่ยอมรับเพื่อนร่วมงานผู้นี้
หลังสวมแว่นกลับเจนนี่ก็ดูเอกสารมากมายตรงหน้า หลังฉุกคิดถึงบางสิ่ง เจนนี่ก็นำเอกสารของระบบดาวกาตอนออกมา
ระบบดาวกาตอนกำลังปั่นป่วนและมีหลายองค์กรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ตามข่าวบนตลาดมืด แม้กระทั่งองค์กรที่มีชื่อเสียงกว่าดาราทมิฬก็ยังให้ความสนใจ
แบล็คสตาร์กำลังปฏิบัติงานในแถบนั้นและก็ถูกลากเข้าเหตุการณ์นี้ตอนนี้ เขากำลังยืนอยู่ข้างโกโดร่า ฮึมมม อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าจะไม่เข้าร่วมต่อสู้ในนามเกาะมังกร หากไม่ ฉันจะไม่ปล่อยเขาไป!
เจนนี่แค่นเสียง
เนื่องจากเกาะมังกรต้องรักษาความเป็นกลางมันจึงดีสุดที่พวกเขาจะอยู่ให้ไกลเรื่องอ่อนไหวแบบนั้น แม้เธอจะไม่ชอบหานเซี่ยว เธอก็ไม่มีความสามารถไปสั่งเขา บนผิวเผิน ทั้งคู่มีระดับเท่ากันและจัดการกับคนละส่วน
โกโดร่าและดาราทมิฬกำลังทำสงครามกันและใครจะรู้ว่ามันจะจบตอนไหน?ไม่ว่ายังไง ความวุ่นวายนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเกาะมังกรและจะไม่สร้างปัญหาให้ฉัน