The Legendary Mechanic - ตอนที่ 555 การตอบสนองจากทุกฝ่าย
ตอนที่ 555 การตอบสนองจากทุกฝ่าย
“ว่าไงนะ!จักรพรรดินีมังกร?!”
ดวงตาของเดกูลิชเบิกโพล่งด้วยความตกใจหน้าอกเขารัดแน่นเหมือนเพิ่งถูกค้อนทุบ
ยี่สิบนาทีก่อนสายลับบนอความารีนได้ส่งรายงานฉุกเฉินมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ข้อมูลก็รีบมาหาเดกูลิชและรายงานเรื่องนี้ด้วยใบหน้าขาวซีด
เอเมสปรากฏตัวบนดาวเคราะห์อความารีน!
เบื้องบนของดาราทมิฬตกใจมาก
จักรพรรดินีมังกรมักเป็นกลางแต่การที่จู่ๆเธอก็ปรากฏบนระบบดาวกาตอน มันหมายความว่าเธออยากเข้าร่วมด้วย?ไม่ นี่ไม่น่าเป็นไปได้ มันเป็นไปได้ว่าเจ้าสารเลวแบล็คสตาร์คือคนที่เรียกเอเมสมาก แต่ทำไมถึงเป็นอความารีน?
หลังขบคิดเดกูลิชก็ไม่อาจเข้าใจเจตนาของเอเมสได้
หลังวิเคราะห์สักพักเขาก็รู้สึกว่าปัญหานี้เต็มไปด้วยเรื่องแปลกประหลาด อีกฝ่ายเลือกอความารีน ไม่ใช่ดาวแม่ของโกโดร่า ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มาเพราะดาราทมิฬแต่เหมือนมาเที่ยวเล่น
“แบล็คสตาร์คือหัวหน้าทีมภาคสนามของเกาะมังกรและฉันได้ยินว่าเขากำลังขยายตัว เอเมสอาจมาเพื่อตรวจสอบการพัฒนากองกำลังของเธอ”เจ้าหน้าที่ข้อมูลกล่าว”นี่เป็นไปได้มากสุด”
เดกูลิชพยักหน้า”เราไม่อาจประมาทได้เราเคยมีความคับข้องใจกับเธอ และเธอก็อาจรู้แผนเราได้ แต่ทว่า ตราบเท่าที่เราไม่ไปตอแยเธอ เธอย่อมไม่อาจทำอะไรเราได้ ต่อให้เธอจะเป็นตัวตนที่เหนือกว่าภัยพิบัติ นั่นก็แค่การอ้างอิงถึงพลังเธอคนเดียว เธอไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันได้”
หลังกล่าวแบบนั้นเดกูลิชก็ถอนหายใจ ก่อนหน้านี้ เขารู้สึกหวาดกลัวกับชื่อของเอเมสตามสัญชาตญาณ แต่หลังคิดสักพัก เขาก็ตระหนักว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่
แล้วหากจักรพรรดินีมังกรอยากสู้ละ?พวกเขาแค่ต้องหลีกเลี่ยงเธอพลังของเธอคนเดียวจะแก้ปัญหาของโกโดร่าได้งั้นหรอ?
ต่อให้ตัวตนระดับจักรพรรดินีมังกรก็ไม่อาจแก้ไขปัญหาภายในและภายนอกของโกโดร่าได้ด้วยพลังเธอก็แค่คนๆหนึ่งและจักรวาลกว้างใหญ่ย่อมไม่มีทางถูกพิชิตได้ด้วยคนๆเดียว!
จากนั้นเดกูลิชก็เริ่มผ่อนคลายและหลังคิดสักพัก เขาก็สั่ง”สั่งให้สายบนอความารีนคอยจับตาดูการกระทำของเอเมส ตอนนี้ตั้งให้ดาวเคราะห์อความารีนเป็นสถานที่ต้องห้ามไปก่อน”
“อ่อเราไม่มีเจตนาจะซุ่มโจมตีดาวเคราะห์อความารีนอยู่แล้ว…”เจ้าหน้าที่ข้อมูลทำอะไรไม่ถูก ฉากยานจู๔โจมของพวกเขาถูกทำลายโดยแบล็คสตาร์ยังสดใหม่ เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะส่งคนออกไปตายเล่น
“ใช่แล้วตอนนี้แผนการปลูกฝังสายในกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์เป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันติดสินบนทหารรับจ้างอิสระบางคนและขอให้พวกเขาไปเข้ากลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์แล้วกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ดูเหมือนจะไม่รับสมัครใคร แต่หากเขาอยากขยายกองกำลัง ตุ่นที่ฉันติดสินบนไว้ก็มีโอกาสได้เข้า”
“สำหรับการติดสินบทสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ฉันยังไม่เริ่ม โดยปราศจากข้อมูลที่เพียงพอ ฉันไม่รู้ว่าทหารรับจ้างคนไหนจะยอมรับเงิน ฉันไม่อยากทำให้พวกเขาตื่นตัว”
ดวงตาของเดกูลิชเป็นประกายและหัวเราะเสียงเย็น”ดีมากนี่คือแผนฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว เราจะสามารถแทรกซึมได้ทั้งกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์และเกาะมังกร”
จากนั้นการประชุมก็ดำเนินต่อไปเรื่องภัยคุกคามของจักรพรรดินีมังกร เดกูลิชแค่แจ้งให้กองกำลังออกดาวเคราะห์อความารีนและไม่ออกคำสั่งอะไรอีก เขารู้สึกว่ามาตรการเหล่านี้เพียงพอแล้ว ต่อให้เอเมสจะทรงพลัง เธอก็ไม่อาจส่งผลกระทบต่อแผนที่พวกเขาใช้เวลาคิดมาหลายปีได้ สิ่งสำคัญสุดคือพวกเขาต้องทำตามแผน
สิ่งที่เดกูลิชไม่รู้ก็คือสถานการณ์นั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
…
กองยานได้พานากาคินกลับดาวแม่โกโดร่านี่คือดาวขนาดใหญ่ที่ใหญ่กว่าดาวประตูทองนับสิบเท่า ดาวเทียมป้องกันล้อมรอบดาว และความปลอดภัยก็แน่นหนามาก
เมื่อยานอวกาศร่อนลงเจ้าหน้าที่ของตำหนักสงครามผู้ได้รับข่าวก็กำลังรออยู่ที่ท่า ช่วงเวลาที่นากาคินออกจากยาน ทั้งหมดก็เดินมาต้อนรับเขา
“ของเป็นยังไงบ้าง?”
“สมบูรณ์ดี”
“เยี่ยมเราไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว รีบไปแผนกวิจัยเลย”
นากาคินเดินไปศูนย์วิจัยภายใต้การคุ้มกันของทหารจำนวนมากและสองตัวตนระดับภัยพิบัติถนนที่มุ่งสู่ศูนย์วิจัยถูกปิดตายและไม่มีใครได้รับอนุญาติให้ผ่าน แม้กระทั่งผู้นำโกโดร่าก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้เพลิดเพลินกับการปฏิบัติเช่นนี้
นากาคินเดินไปห้องวิจัยอย่างระมัดระวังและส่งมอบแหล่งกลายพันธ์ให้นักวิจัยพวกเขาจะทำการวิจัยยาแก้สำหรับแหล่งกลายพันธ์ในสถานที่ที่มีความปลอดภัยและการรักษาความลับสูง การรั่วไหลไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ในฐานะบุคลากรสำคัญที่อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนระหว่างแบล็คสตาร์และโกโดร่าเขาได้รับอนุญาติให้รอผลการทดสอบ หลังรออยู่ครึ่งวัน ในที่สุดเขาก็ได้รับข่าวเกี่ยวกับผลการทดสอบเบื้องต้นของแหล่งกลายพันธ์
ของชิ้นนี้คือแหล่งกำเนิดของมหันตภัยกลายพันธ์จริงๆ!
ด้วยตัวอย่างที่นากาคินนำกลับมาความเร็วการพัฒนาจึงเพิ่มขึ้นมาก
“เยี่ยม..”นากาคินถอนหายใจเขากังวลมากว่าตัวอย่างที่หานเซี่ยวนำมาจะไร้ประโยชน์
“ทำได้ดีมาก!”ผู้นำตำหนักสงครามตบหลังนากาคิน
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยมันคือผลงานของแบล็คสตาร์”นากาคินหัวเราะขมขื่น เขาไม่เคยคิดว่าคนที่ทำให้พวกเขาหลุดพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายจะเป็นคนนอก
รอยยิ้มสดใสสามารถมองเห็นได้บนใบหน้าของผู้นำตำหนักสงครามซึ่งมักเคร่งขรึมมาตลอด
“แบล็คสตาร์ทำให้เราประหลาดใจจริงๆฉันไม่คิดเลยว่าทหารรับจ้างจะเป็นคนที่ช่วยเรา”
หลังหยุดสักพักเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม”ข่าวชิ้นนี้ต้องเก็บเป็นความลับ อย่าปล่อยให้พวกดาราทมิฬรู้เด็ดขาด”
เพื่อจัดการกับการโจมตีของดาราทมิฬทุกแผนกของโกโดร่าล้วนยุ่งจนถึงจุดที่ไม่มีเวลาหลับนอน การช่วยเหลืออย่างฉับพลันของหานเซี่ยวทำให้เหล่าเบื้องบนโกโดร่าแปลกใจมาก และแม้กระทั่งผู้นำสูงสุดของโกโดร่าก็ยังให้ความสนใจกับแบล็คสตาร์และอยากขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัว
ตำหนักสงครามได้จำลองสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขาและผลลัพธ์ก็ทำให้หลายคนต้องหลั่งเหงื่อเย็น
หากดาราทมิฬยังทำแบบนี้ต่อไปสถานการณ์จะยิ่งเลวร้าย หากสถานการณ์ดำเนินต่อไปปีหรือสองปี ความคืบหน้าของโกโดร่าจะล่าช้าไปมาก และทั่วอารยธรรมโกโดร่าก็จะถอยหลัง ความสำเร็จของระบบดาวกาตอนที่พวกเขาสร้างมาหลายปีจะสูญเปล่า สถานการณ์เลวร้ายสุดคือการแตกหักภายในโกโดร่า
เพราะพวกเขารู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงเบื้องบนของโกโดร่าจึงตื่นเต้นมาก!แบล็คสตาร์ให้ตัวอย่างที่จะช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงหายนะครั้งใหญ่!
หานเซี่ยวกลายเป็นผู้กอบกู้ที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของพวกเขา
“แบล็คสตาร์คือคนสำคัญจากเกาะมังกรเราสามารถถือว่าการช่วยเหลือเขานั้นมาจากเกาะมังกร เอเมสดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเขามาก..บางทีเราอาจได้ประโยชน์จากความโชคร้ายนี้และมีโอกาสเป็นมิตรกับเกาะมังกร”
ผู้นำตำหนักสงครามตื่นเต้นมากและตบหลังนากาคินอีกครั้ง”พลังของแบล็คสตาร์อยู่นอกเหนือความคิดเราไปมาก และนายต้องรักษาการติดต่อกับเขาไว้ หากนายทำได้ นายจะนำความสัมพันธ์เราเข้าสู่ขั้นต่อไป”
ปากของนากาคินเริ่มกระตุก”ขั้นต่อไปหมายความว่า…”
“ใช้ข้อได้เปรียบเราในฐานะโกโดร่าและกลายเป็นเพื่อนที่ดีสุดของเขา!”ผู้นำตำหนักสงครามกล่าว
นากาคินยกหมัดเงียบๆและเพลิงสีทองก็ปกคลุมมัน
“อย่าคิดว่าฉันจะไม่กล้าต่อยนายเพราะนายเป็นหัวหน้าฉัน”
…
นับตั้งแต่เอเมสเข้าสู่ดาวเคราะห์บรรยากาศก็ดูแปลกไป
ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นผู้ลี้ภัย ทหารรับจ้างหรือชาวโกโดร่า พวกเขาล้วนอยากรู้เกี่ยวกับเอเมสมาก เอเมสเองก็ไม่มีเจตนาปิดบังอะไร หานเซี่ยวยังอยู่ข้างเธอตลอด
หานเซี่ยวไม่ได้ติดอะไรกับการเป็นคนพาเที่ยวเหนือสิ่งอื่นใด เขาว่างมาก และเขาย่อมต้องแสดงการต้อนรับต่อจักรพรรดินีมังกรอยู่แล้ว
เอเมสสนใจผู้เล่นเป็นหลักแต่ เพื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าเธออยู่บนดาวบ้านเกิดของหานเซี่ยว เธอจึงสงวนท่าทางและไม่นำผู้เล่นมาแยกส่วนตามใจชอบ
เหล่าคนจากเขตอนุรักษ์มักเห็นทั้งสองเดินไปไหนมาไหนด้วยกันและเมื่อพวกเขาคิดถึงข่าวลือที่แพร่กระจาย ทุกสายตาก็ยิ่งแปลก
เมื่อหานเซี่ยวสังเกตเห็นสายตาเหล่านั้นเขาก็พูดไม่ออก
สมองของเจ้าหน้าที่เขาต้องเต็มไปด้วยขี้เลื่อยพวกเขากลับกล้ากระจายข่าวลือเรื่องเขากับเอเมส…แม้เขาจะไม่สนใจข่าวลือแบบนั้น นี่ก็ไม่ใช่กับกรณีของเอเมส หากเธอไม่มีความสุข เธอคทุบตีคนที่กระจายข่าวลือจนตายง่ายๆ
ถึงตอนนั้นเขาควรช่วยเธอทุบตีพวกเขาไหม?
แต่หลายวันก่อน ความกังวลของหานเซี่ยวก็ไม่เป็นจริง และเอเมสก็ไม่ตอบสนอง สีหน้าเธอยังเหมือนเดิม และเธอก็เดินเล่นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หากมีคนบอกเขาว่าเอเมสไม่สังเกตเห็นสีหน้าของคนรอบตัว หานเซี่ยวคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน
เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนตัวตนระดับเธอจะสนใจข่าวลือไร้สาระแบบนี้ได้ยังไง?
หานเซี่ยวรู้สึกว่าเขากังวลไร้สาระในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกขอบคุณที่เอเมสไม่อาจเห็นฟอรั่มได้
สายตาของคนที่ผ่านมาไม่นับเป็นอะไรมันมีนิยายกว่าร้อยที่เขียนบนฟอรั่มถึงเรื่องราวความรักเขากับเอเมส เนื้อหาของเรื่องและความวิปริตของตัวละครทำให้เขาขนลุก
แหล่งที่มาทั้งหมดคือขนมปังสุนัขเขาได้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแบล็คสตาร์และจักรพรรดินีมังกร ไม่ใช่แค่เขาจะมีภาพถ่าย เขายังสร้างเรื่องราวเพิ่มเติมด้วยตัวเอง
ขนมปังสุนัขมีความสามารถอย่างแท้จริงในเรื่องนี้และแม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ยังเกือบเชื่อสิ่งที่เขาเขียนผู้เล่นทุกคนระเบิดด้วยความตื่นเต้น และสมาชิกแผนคลับแบล็คสตาร์ก็ร้องออกมาอย่างชัยชนะ การต่อสู้ระหว่างแฟนๆกระจายออกไปยังดาวอื่น และผู้เล่นทั้งหมดจากประเทศอื่นก็ร่ำร้องถึงสันติภาพ!
จนถึงตอนนี้ขนมปังสุนัขคือฑูตสวรรค์ แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตเขาที่หานเซี่ยวอยากบีบคอขนมปังสุนัขให้ตายคามือ นักข่าวรายนี้สนใจสร้างข่าวน่าตื่นเต้นทุกวัน สร้างเรื่องราวจากจินตนาการและบิดเบือน ความจริง ราวกับเขากลัวว่าโลกนี้ยังวุ่นวายไม่พอ
อย่างไรก็ตามมันก็กล่าวได้ว่าโพสต์ของขนมปังสุนัขนั้นสุดยอดจริงๆ แม้หานเซี่ยวจะดกรธ เขาก็ต้องยอมรับ
“…”หานเซี่ยวตบหน้าผากเขาไม่กี่วันถัดมา เขาไม่มีเจตนาไปดูฟอรั่มอีก กลัวว่าเส้นเลือดสมองจะแตก
ไม่กี่วันถัดมาพวกเขาก็ไปเดินเล่นกันอีก หานเซี่ยวสงบสติตัวเองพลางมองกำแพงของเขตอนุรักษ์ ผู้เล่นกำลังปีนขึ้นและลงเหมือนมดที่พยายามสร้างรัง
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาสั่งเฮอลัสและเบนเน็ตให้ออกภารกิจเพื่อพัฒนาเขตอนุรักษ์ กระบวนการเริ่มขึ้นและผู้เล่นก็มีงานใหม่ พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการทำงานหนักโดยไม่บ่นถึงความเหนื่อยล้า
ตอนนี้ผู้เล่นมีพลังระดับหนึ่งประสิทธิภาพพวกเขาสูงกว่าตอนสร้างเขตอนุรักษ์ หานเซี่ยวประเมินว่าพวกเขาควรสามารถพัฒนาเขตอนุรักษ์ได้เสร็จภายในหนึ่งเดือน
“ไม่น่าแปลกใจที่นายอยากรับพวกเหนือมนุษย์ดูเหมือนว่านายจะมีสถานะสูงมากในใจพวกเขา นายต้องให้ความสำคัญกับพวกเขามากแน่ๆ”เอเมสยิ้ม
“มีคนไม่มากในโลกนี้ที่ฉันให้ความสำคัญแค่ไม่กี่ล้าน”หานเซี่ยวยักไหล่
มุมปากของเอเมสยกขึ้นและหลังปล่อยเสียงหัวเราะเบาๆเธอก็หันไปมองทิศทางหนึ่ง หานเซี่ยวมองตามและเห็นออโรร่ากับฮีล่ากำลังเดินผ่านมา
ทั้งสองเห็นพวกเขาและหยุดเท้า
ช่วงนี้ฮีล่าและออโรร่ากำลังยุ่งกับการตรวจสอบผู้ติดเชื้อ พวกเธอได้ยินว่าหานเซี่ยวนำยักษ์ใหญ่จากจักรวาลมา แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พบเธอ
ครั้งนี้มันเป็นการพบโดยบังเอิญ
“นั่นคือสองพี่น้องที่นายพูดถึงใช่ไหม?”เอเมสมองสองสาว
“ใช่”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
อีกด้านหนึ่งฮีล่ามองหานเซี่ยวและเอเมสอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นก็คว้ามือออโดร่าและเดินมาหาพวกเขาอ