The Legendary Mechanic - ตอนที่ 569 ออกมา กองทัพของฉัน

ตอนที่ 569 ออกมา กองทัพของฉัน!
　　หบัดซบ!
　　หานเซี่ยวเปิดใช้การท่องมิติและร่างเขาก็ปรากฏตรงหน้าเอ็มเบอร์เขาไม่มีเวลาจะสวมชุดจักรกล แต่ก็ส่งลูกเตะใส่เป้าของเอ็มเบอร์
　　บูม!
　　ไร้ยางอาย!ใบหน้าของเอ็มเบอร์เปลี่ยนไปน้องชายเขาเกืบถูกเตะ แต่ก็รีบขวางการโจมตีไว้ หานเซี่ยวไม่อาจทำความเสียหายได้มากหากไม่มีชุดจักรกล แต่เขาก็สามารถจัดความสามารถของเอ็มเบอร์ได้
　　จากนั้นหานเซี่ยวถึงมีเวลาสวมชุดจักรกลเขาหันมามองดู พบว่าฮีล่าเสียขา ส่วนออโรร่าเสียแขน
　　จากนั้นแสงสีทองสุกใสก็ระเบิดดจากออโรร่าและเข้ากลืนกินฮีล่าขาของฮีล่างอกอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นออโรร่าจึงค่อยฟื้นฟูแขนเธอ
　　ฮีล่ารีบคว้าออโรร่าและหนีไปการโจมตีก่อนหน้าทำให้เธอเข้าใจความแตกต่างด้านพลัง เธอรู้ว่าเธอจะเป็นได้แค่ภาระหากยังอยู่ต่อไป
　　น่ากลัวมากแค่คิดว่าเขาต้องจัดการกับศัตรูที่อันตรายแบบนั้นตลอด….
　　ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความว้าวุ่น
　　…
　　เมื่อทั้งสองสาวปลอดภัยหานเซี่ยวจึงถอนหายใจโล่งอก
　　โชคดีออโรร่าสามารถงอกแขนขาใหม่ได้ มันดูเหมือนว่าพลังเธอจะแข็งแกร่งขึ้น
　　ความสามารถของฮีล่าและออโรร่าช่วยส่งเสริมกันแม้พวกเธอจะอ่อนแออยู่ มันก็ไม่ง่ายที่จะกำจัดพวกเธอ ย้อนกลับไปตอนพวกเขาพยายามทำลายวงล้อมขององค์กรต้นกำเนิด ฮีล่าถูกยิงจนทะลุ แต่เธอก็ยังรอดชีวิตได้ด้วยพรสวรรค์เธอ ด้วยออโรร่าข้างกาย มันจึงเหมือนกับการแบกยาพลังชีวิตขนาดมหึมาเอาไว้
　　“แกจะขวางฉันได้งั้นหรอ?”
　　เอ็มเบอร์ไม่สนใจไล่ตามสองสาวแต่เบี่ยงความสนใจมายังหานเซี่ยวพลเมืองเป็นแค่เหยื่อล่อของเขาเท่านั้น เขาโจมตีคนอื่นเพื่อบังคับให้แบล็คสตาร์สู้กับเขา
　　จากนั้นงูดำสิบหรือมากกว่านั้นก็พุ่งใส่หานเซี่ยวนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาสู้กับหานเซี่ยว และเขาก็รู้ว่าการรับมือกับหานเซี่ยวไม่ง่าย ดังนั้น เขาจึงทุ่มสุดตัวทันที
　　บอลบีบอัดที่หานเซี่ยวมักแบกติดตัวพุ่งออกมาและขบวนรัศมีก็ปกคลุมหานเซี่ยวไว้ งูดำชนกับม่านพลังอย่างเกรี้ยวกราด และประกายไฟก็เกิดจากการปะทะ ม่านพลังเปล่งแสงสดใสและผลาญพลังงานจำนวนมาก หานเซี่ยวถูกผลักให้ถอนจากแรงปะทะ ลากเป็นทางยาวบนพื้น
　　ภูมิประเทศเปิดเป็นประโยชน์กับเขาเอ็มเบอร์แค่มีเกรดและค่าสถานะเหนือกว่าฉัน ฉันจะทำได้แค่พัวพันกับเขา
　　สถานการณ์เลวร้ายมากเอ็มเบอร์เป็นแค่แนวหน้า และยังมีสองภัยพิบัติกับยานแม่อยู่ด้านหลัง นี่คือกองกำลังที่สามารถทำลายอความารีนได้
　　ทางเลือกเดียวที่เขามีคือรอให้กำลังเสริมมาถึงหากโกโดร่าต้องการข้อมูล พวกเขาจะต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน
　　ตอนนั้นเองเขาได้กระตุ้นภารกิจ
　　ท่านได้กระตุ้นภารกิจฉุกเฉิน[วิกฤตของดาวเคราะห์อความารีน]!
　　คำใบ้ภารกิจ: ดาราทมิฬได้เปิดฉากโจมตีอความารีน ดาวนี้ต้องการความช่วยเหลือ และท่านก็ต้องพยายามป้องกันศัตรู
　　ข้อกำหนดภารกิจ: ขัดขวางกองกำลังดาราทมิฬและป้องกันดาวเคราะห์อความารีนจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง
　　การทำลายในปัจจุบัน: 167/3000
　　เงื่อนไขความล้มเหลว: ตัววัดการทำลายเต็ม
　　รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์6.2แสน +2ชื่อเสียงระบบดาวกาตอน +1500ความโปรดปรานของหกประเทศ
　　เหตุการณืไม่คาดฝันมักกระตุ้นภารกิจฉุกเฉินไม่ใช่แค่หานเซี่ยว แต่ผู้เล่นทุกคนบนอความารีนล้วนได้รับภารกิจ ในเขตอนุรักษ์ ผู้เล่นทุกคนหยุดสิ่งที่กำลังทำและแหงนมองฟ้าด้วยความตกใจ ยานรบดาราทมิฬกำลังตัดผ่านเมฆและระดมยิงใส่ดาว
　　ม่านพลังของฐานสองเปิดและปืนแม่เหล็กไฟฟ้าก็เผยตัวในเวลาเดียวกัน ยานรบของทหารรับจ้างก็ออกตัวขึ้นฟ้าและโจมตีสวน
　　ทำไมถึงมีการโจมตี?ผู้เล่นไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมและสับสนมากแต่ การจัดการกับศัตรูย่อมสำคัญกว่า
　　ทุกคนกระตุ้นภารกิจ[วิกฤตของดาวเคราะห์อความารีน]แต่หานเซี่ยวกระตุ้นภารกิจพิเศษอื่น
　　ท่านได้กระตุ้นภารกิจฉุกเฉิน[การลอบสังหารเป้าหมาย]!
　　คำใบ้ภารกิจ: การกระทำท่านทำให้ดาราทมิฬสูญเสีย และความเกลียดชังก็เพิ่มขึ้น ท้ายที่สุด ดาราทมิฬก็พบโอกาส พวกเขาส่งสามภัยพิบัติมาสังหารท่าน
　　ข้อกำหนดภารกิจ: ท่านจะถูกล้อมโดยสามภัยพิบัติ ถ่วงเวลาไว้จนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง
　　เงื่อนไขความล้มเหลว: ตายหรือหลบหนีออกจากอความารีน
　　รางวัลภารกิจค่าประสบการณ์12.1ล้าน +30ชื่อเสียงระบบดาวกาตอน +1000ความโปรดปรานโกโดร่า +1แต้มตำนาน
　　“ยานอวกาศพวกเขาอยู่ตรงหน้าประตูฉันแล้วและก็ยังเรียกว่าเป็นการลอบสังหาร?!”หานเซี่ยวส่ายหัว
　　คำใบ้ภารกิจได้รับการยืนยันจากข้อมูลของริสด้า
　　ผ่านเรดาห์หานเซี่ยวสามารถสังเกตเห็นสถานการณ์ของสนามรบทางเขตอนุรักษ์ได้ ทุกคนกำลังทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับศัตรู ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องฟุ้งซ่าน
　　หานเซี่ยวให้ความสนใจกับเอ็มเบอร์เป็นหลัก
　　หานเซี่ยวทำได้แค่พึ่งพาคนอื่นเพื่อจัดการกับศัตรูอื่นเขาต้องรับมือกับเอ็มเบอร์เอง หากไม่ มันย่อมเกิดการสูญเสียมากมาย
　　ตึง!ตึง!
　　ทรายดำยังชนกับม่านพลังสีทองเขาและหานเซี่ยวก็เกือบจมดินเขาเปิดหน้าต่างสถานะเขาทันที และโดยไม่ต้องมอง เขาเทค่าประสบการณ์ทั้งหมดเพื่อเลื่อนระดับ
　　ในเดือนที่ผ่านมาเขาไม่ได้ออกทักษะใหม่หรือความรู้ใหม่ให้ผู้เล่น และค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับก็ไม่พอจะเพิ่มระดับเขาถึง140 แต่ทว่า ต่อหน้าศัตรูที่ทรงพลัง พลังเพียงเล็กน้อยยังจำเป็น มันยากมากสำหรับเขาที่จะรับมือภัยพิบัติสักคน ไม่ต้องพูดถึงสาม เขาไม่มีทางเลือกนอกจากแปลงทรัพยากรทั้งหมดเขาเป็นพลังต่อสู้
　　ค่าประสบการณ์เขาถูกใช้อย่างรวดเร็ว
　　[ช่างกลเสมือน]เลื่อนเป็นระดับ11
　　+150พลังงาน+3ความทนทาน +6สติปัญญา
　　ท่านได้รับแต้มสถานะ6หน่วยและแต้มศักยภาพ1หน่วย
　　ค่าประสบการณ์สะสมเขามากพอให้เขาเลื่อนขึ้น6ระดับและระดับรวมเขาก็คือ136!
　　ครั้งนี้เขาไม่ได้โยนแต้มสถานะเขาลงสติปัญญา สติปัญญาเขาเหนือกว่า1100แล้วและก็สูงพอ โดยปกติ เขาจะเพิ่มมันใส่สติปัญญาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ เขากำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ และมันก็ไม่เหมาะที่จะเพิ่มสติปัญญาอีก
　　หานเซี่ยวโยนแต้มทั้งหมดเขาลงความทนทานเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะรอดชีวิตเขาชัดเจนมากว่าต่อให้เขาใช้กองทัพจักรกล มันก็ยากที่จะรับมือกับภัยพิบัติซึ่งๆหน้า นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังมีถึงสามภัยพิบัติ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือแบกรับความเสียหายด้วยร่างกาย
　　บัตรอัญเชิญตัวละครออโรร่าในมือเขายังใช้ได้หลายครั้งแถม ยังมีความสามารถการปั้นใหม่สองอันที่เขาได้รับจากแหล่งกลายพันธ์ ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ยิ่งพลังชีวิตเขาสูง ผลของไพ่ตายเหล่านั้นก็ยิ่งแจ่มชัด
　　หลังเพิ่มแต้มสถานะกับความทนทานพลังชีวิตของหานเซี่ยวก็เพิ่มอีก5643!
　　พลังชีวิตรวมเขาทะลุ4หมื่น!
　　ยิ่งระดับเขาสูงมันก็ยิ่งแตกต่าง การเพิ่มในพลังชีวิตจากหกระดับมากกว่าพลังชีวิตรวมของผู้เล่นระดับ60!
　　พลังงานอบอุ่นกระจายไปทั่วร่างเขาหานเซี่ยวรู้สึกสดชื่นและเขาก็วางฝ่ามือไว้ด้วยกัน
　　เกร๊ง!
　　แขนกลยักษ์แปดอันปรากฏพร้อมกันและเปลี่ยนเป็นสว่านเพื่อโต้ตอบ
　　หานเซี่ยวงอเข่าเล็กน้อยและตัวขับใต้เท้าเขาก็พ่นไฟออกมาเต็มกำลังป้องกันไม่ให้ทรายดำเข้ามา จากนั้นเขาก็โยนบอลบีบอัดจำนวนมากออกไป ซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นป้อมปืนใหญ่หลายอัน เอ็มเบอร์ถูกกระสุนปืนถาโถมใส่ทันทีท
　　ถนนพังพินาศจากการต่อสู้และหานเซี่ยวก็ไม่หันเหความสนใจไปยังส่วนอื่นจากนั้นเขาก็โยนบอลบีบอัดไปอีกสองลูก และผู้รักษาสัจจะสองตนที่เขามักพกติดตัวมาด้วยก็ปรากฏข้างๆ
　　บูมบูม บูม!
　　พวกมันลงมือทันที
　　เอ็มเบอร์อยากควบคุมอนุภาคคาร์บอนเพื่อทำลายภายในของเครื่องจักรหานเซี่ยวเคยติดกลอุบายนี้มาก่อนและพร้อมรับมือกับเทคนิคนี้แล้ว เขาปล่อยโล่ลอยจำนวนมากออกไปและปกคลุมเครื่องจักรเขาด้วยม่านพลังงานง่ายๆ กันไม่ให้อนุภาคคาร์บอนไหลเข้าไป
　　ทั้งสองพัวพันกันอย่างดุเดือดและมันก็ราวกับงูดำยักษ์กำลังต่อสู้กับกองทัพโลหะ สนามรบขยับไปทั่วเขตอนุรักษ์ การทำลายล้างเกิดขึ้นทุกที่ที่พวกเขาผ่าน
　　ทันใดนั้นเงาร่างคล้ายดาวสีทองก็พุ่งมาและชนกับงูดำใต้เท้าของเอ็มเบอร์
　　ดวงตาของเอ็มเบอร์หรี่แคบและรีบหลบหมัดทองนั้น
　　นากาคินผู้ปกคลุมด้วยไฟสีทองลอยลงข้ามหานเซี่ยวและจ้องเอ็มเบอร์ด้วยความโกรธ
　　“แบล็คสตาร์ไม่เป็นไรนะ?”
　　“ไม่ต้องห่วงเขาไม่อาจทำร้ายฉันได้ กำลังเสริมมาถึงยัง?”
　　นากาคินส่ายหัวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม”ฉันได้แจ้งตำหนักสงครามไปปแล้วแลพกองยานบนดาวหายนะอื่นก็กำลังรีบมา เดิมที พวกเขาต้องใช้เวลาแค่สามนาที แต่เพราะดาราทมิฬตั้งเครื่องรบกวนไว้นอกชั้นบรรยากาศดาว กำลังเสริมเราจึงต้องใช้เวลานานขึ้น”
　　หากกองยานพิทักษ์อความารีนไม่ถูกดึงกลับพวกเขาคงสามารถต้านทานได้ แต่ ตำหนักสงครามได้ทุ่มความสนใจทั้งหมดกับการกวาดล้างดาราทมิฬ เมื่อเห็นหายนะบนอความารีนถูกจัดการแล้ว พวกเขาจึงปฏิบัติตามแผนเดิมและถอนกำลังกลับ
　　นอกจากนี้พวกเขายังคิดว่าชัยชนะครั้งใหญ่ที่ดาวประตูทองจะทำให้ดาราทมิฬคิดหนัก
　　“โชคดีมีตัวตนระดับภัยพิบัติแค่คนเดียว เขาคือเอ็มเบอร์ ผู้ฆ่าคนไปนับล้านในลองอาร์ค ฉันจะร่วมมือกับนายและกำจัดเขาซะ”
　　นากาคินจ้องเอ็มเบอร์อย่างกระตือรือร้น
　　สีหน้าของเอ็มเบอร์เปลี่ยนเป็นระวังและโกรธสองคนตรงหน้าเขาคือคนที่กำจัดอานู และแผลนี้ก็ยังสดใหม่
　　ด้วยกองยานป้องกันที่ถูกดึงกำลังกลับทำไมโกโดร่าถึงต้องทิ้งหนึ่งในยอดฝีมือเอาไว้?
　　เอ็มเบอร์เริ่มขมวดคิ้วภารกิจเขาคือการพัวพันกับแบล็คสตาร์และเขาก็มั่นใจพอสมควร แต่ทว่า ด้วยการคงอยู่ของนากาคิน แขนเขาจึงเริ่มเกร็ง
　　เราจะมีโอกาสชนะก็ต่อเมื่อเดกูลิชและเทอรี่มาถึงโชคดี พวกมันไม่รู้ว่าเรามีอีกสองคนกำลังรอซุ่มโจมตี บางทีเราอาจกำจัดยอดฝีมือโกโดร่าเป็นของแถมด้วยได้
　　เอ็มเบอร์จ้องทั้งสองด้วยความมั่นใจ
　　ตอนนี้หานเซี่ยวคว้าแขนนากาคินและกล่าว”ไม่ต้อง ให้ฉันจัดการเอง นายควรไปจัดการกองกำลังจู่โจมในอวกาศ บอกเฮอสัลและพวกเหนือมนุษย์ให้ไปช่วยหกประเทศ เขตอนุรักษ์มีเราสองคน ม่านพลัง และอาวุธต่อต้านอากาศ แต่ หกประเทศไม่มีอะไรเลย!”
　　นากาคินผงะและขมวดคิ้ว”นายหมายความว่ายังไง?ด้วยการร่วมมือของเราสองคนเราจะจัดการเขาได้ง่ายๆ เหมือนกับตอนนอเรียส”
　　“มันไม่ง่ายแบบนั้น”หานเซี่ยวโบกมือ
　　เขาเคยใช้บัตรอัญเชิญตัวละครจักรพรรดินีมังกรเพื่อสร้างโอกาสให้นากาคินโจมตีครั้งนี้ เขาไม่มีบัตรอีก และพวกเขาก็ไม่อาจกำจัดเอ็มเบอร์ได้อย่างรวดเร็ว
　　เนื่องจากแบบนั้นมันจึงดีกว่าที่เขาจะพัวพันกับเอ็มเบอร์และให้นากาคินปกป้องฐานเพื่อลดความสูญเสีย ในเวลาอันสั้น ตัววัดการทำลายล้างก็สูงถึง400แต้ม พวกเขาต้องหยุดกองยานเหล่านั้น
　　นอกจากนี้ยังมีสองภัยพิบัติกำลังรอซุ่มโจมตีเขา เขาจะสามารถดึงสนามรบและพัวพันกับทั้งสามได้ด้วยคนเดียว ด้วยบัตรอัญเชิญตัวละครออโรร่าและความสามารถการปั้นเขา การที่เขาจะตายเรียกได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้
　　แต่ทว่าเรื่องราวจะแตกต่างหากนากาคินอยู่ด้วย หากทั้งสามจากดาราทมิฬเลือกล้อมนากาคิน เขาต้องตกอยู่ในอันตราย แม้นากาคินจะเป็นนักสู้ระดับภัยพิบัติ ผิวเขาก็ไม่หนาเท่าหานเซี่ยว
　　‘เอาละฉันจะปล่อยให้เป็นหน้าที่นาย!”นากาคินกัดฟันและพยักหน้า เนื่องจากหานเซี่ยวยืนกราน เขาจึงทำได้แค่เลือกเชื่อใจสหายเขา เขาหันไปมองเอ็มเบอร์ก่อนวิ่งไปยังฐาน
　　เมื่อเห็นแบบนั้นเอ็มเบอร์ก็มองหานเซี่ยวด้วยท่าทางเยาะเย้ย
　　ภารกิจเสร็จสมบูรณ์!แบล็คสตาร์ติดกับแล้ว!
　　แกกลับปฏิเสธความช่วยเหลือของนากาคินและเผชิญหน้ากับฉันเพียงลำพังแกกำลังรนหาที่ตาย!
　　เมื่อเดกูลิชและเทอรี่มาถึงแกจะไม่มีทางหนีไปไหนได้!
　　ในสายตาเขาหานเซี่ยวไม่รู้ว่ามีการซุ่มโจมตี
　　เอ็มเบอร์ลอบยินดีเขาอยากเห็นว่าสีหน้าแบล็คสตาร์จะเป็นยังไงเมื่อกองกำลังซุ่มโจมตีปรากฏตัว!
　　ปัจจุบันเขตอนุรักษ์ถูกไฟลุกลามและเละเทะ เสียงปืนใหญ่ เสียงครวญครางสามารถได้ยินไปทั่ว ดาราทมิฬนำหายนะมาสู่ดาวนี้อย่างแท้จริง การหยุดมหันตภัยกลายพันธ์ส่งผลให้ดาราทมิฬโกรธแค้น
　　หานเซี่ยวสูดหายใจและระงับความคับข้องในใจเขาไม่สนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นยังโลกภายนอก เขาโยนทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทำลาย การบาดเจ็บล้มตายและความตายออกจากหัว
　　เอ็มเบอร์เหยียบคลื่นดำและลอยในอากาศกเมมองหานเซี่ยวจากด้านบน จิตสังหารเล็ดรอดออกจากหน้าเขา
　　หากแบล็คสตาร์อยู่ลำพังเขาย่อมไม่กังวล
　　“แกยังไม่ถึงระดับภัยพิบัติสินะ?หากไม่มีกับดักที่แกจัดตั้งไว้ครั้งก่อนแกจะรับมือกันฉันยังไงฦ.
　　เมื่อได้ยินเสียงของหานเซี่ยวก็ดังออกจากหมวก”มันก็ผ่านมากว่าปีแล้วตั้งแต่เราได้สู้กันครั้งนั้น แต่พลังแกกลับเพิ่มขึ้นไม่มาก ฉันไม่เหมือนกับแกหรอกนะ ฟิลลิป ปล่อยกองทัพทั้งหมดออกมา!”
　　“รับทราบฮึม..”
　　หู่!
　　เนื่องจากริสด้าไม่อยู่ฟิลลิปจึงรับผิดชอบการขับยานแสงทมิฬ ยานแสงทมิฬแหวกผ่านสนามรบระหว่างกองยานจู่โจมและทหารรับจ้าง ปรากฏเหนือหานเวี่ยว กล่องหลายกล่องถูกปล่อยออกจากท้องยานและก็บินมาหาหานเซี่ยว
　　ดวงตาของหานเซี่ยวทอประกายและเขาก็ยกมือขวาขึ้นฟ้าสนามพลังจักรกลพลันระเบิดออกมาและก่อตัวเป็นแส้สายฟ้านับไม่ถ้วนเพื่อเชื่อมต่อกับกล่องกองทัพทั้งหมด
　　“จงออกมากองทัพของฉัน!’