The Legendary Mechanic - ตอนที่ 571 มันเป็นแมลงสาบหรือไง
ตอนที่ 571 มันเป็นแมลงสาบหรือไง?
ในเวลาเดียวกันหกประเทศได้ถูกโจมตีโดยยานรบดาราทมิฬ โดยปราศจากการปกป้องของหานเซี่ยว ทั่วเมืองจึงแหลกเละ มีศพนอนกองอยู่ทั่วถนน
รถถังยิงใส่ยานอวกาศบนท้องฟ้ากระสืนปืนใหญ่ระเบิดเป็นควันดำเมื่อยิงโดนม่านพลังงานของยานรบ แต่ แม้กระทั่งกระสุนเจาะเกราะก็ยังไม่อาจทำลายม่านพลังของเทคโนโลยีระดับดวงดาวได้ ยานรบดาราทมิฬยังไม่สะทกสะท้าน
ปืนใหญ่เลเซอร์เจาะผ่านเกราะรถถังได้ง่ายๆ
อารยธรรมของสองฝ่ายแตกต่างกันเกินไปหกประเทศไม่มีทางต่อต้านได้เลย
แต่ทว่าเครื่องบินรบยังคงยิงใส่ยานรบดาราทมิฬต่อ แม้จะต้องแลกด้วยการถูกทำลาย แต่ก็ไม่มีลำไหนคิดหนี พวกเขาคล้ายกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
ต่อให้พวกเขาจะรู้ว่าไม่อาจทำลายยานอวกาศได้เครื่องบินรบก็ยังดื้อหัวชนฝา
มนุษย์ต่างดาวประสงค์จะทำลายดาวทั้งดวงดังนั้นการหลบหนีจึงไม่มีประโยชน์อะไร ไม่มีทางให้พวกเขาถอย และหายนะครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะปลุกความดื้อรั้นของชาวอความารีน หกประเทศสาบานที่จะปกป้องบ้านเกิดจนกว่าจะหมดลมหายใจ
ต่อให้พวกเขารู้ว่านี่เป็นเหมือนตั๊กแตนที่พยายามหยุดรถเข็นพวกเขาก็ยังพยายามต่อต้าน แม้จะอ่อนแอ!
เมื่อเบื้องบนของหกประเทศเฝ้าดูดาราทมิฬทำลายเมืองพวกเขาก็รู้สึกโศรกเศร้า
ยุคเก่าเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายและเพราะพวกเขาเคยประสบกับสงครามมานับไม่ถ้วน ทุกคนจึงคุ้นชินกับมัน แต่ตอนนี้พวกเขาต้องเสียทหารพวกเขาไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ตายโดยไม่มีความหมายอะไร นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์
เบื้องบนของหกประเทศล้วนมีสีหน้าสงบนิ่งแต่หมัดพวกเขากำแน่นจนเลือดไม่ไหล ไม่กี่เดือนก่อน พวกเขารู้สึกเสียใจที่เป็นอารยธรรมล้าหลัง มันคล้ายกับเด็กที่ถูกผู้ใหญ่รังแก
ในเวลานี้กำลังเสริมจากเขตอนุรักษ์มาถึง ผู้เล่นหลายคนยังถูกพามาด้วย แม้ยานรบของศัตรูจะมีมากกว่า ส่วนหนึ่งก็สามารถควบคุมได้ ช่วยให้หกประเทศมีพื้นที่หายใจ
“คนของแบล็คสตาร์มาถึงแล้ว”หมัดของเหล่าผู้นำคลายลง
ขอบคุณพระเจ้า…บนดาวที่อ่อนแออย่างเราเรายังมีคนอย่างแบล็คสตาร์
มีเพียงเขาเท่านั้นถึงมีพลังพอโต้ตอบ
..
เหนือเขตอนุรักษ์มียานรบดาราทมิฬจำนวนมาก พวกเขายังคงระดมยิงใส่ม่านพลังเขตอนุรักษ์ เกิดการสั่นสะเทือนอย่ารุนแรง ด้วยกองกำลังของนากาคินที่ก่อกวนยานรบตลอด พวกเขาจึงไม่อาจทุ่มเทกับการทำลายม่านพลังได้
นี่เฉพาะกับนากาคินผู้ไม่ต้องการวิธีอื่นในการจัดการกับยานอวกาศในชั้นบรรยากาศ เปลวไฟจากร่างเขาสามารถฉีกม่านพลังของยานรบได้ และหมัดเขาก็มากพอจะทำลายทั้งยาน!
เขามีสีหน้ากังวลตลอดเวลาคอยเหลือบมองทางหานเซี่ยว เขาสังเกตเห็นการปรากฏของเดกูลิชและเทอรี่ จากนั้นเขาถึงรู้ว่าเป้าหมายการโจมตีครั้งนี้คือแบล็คสตาร์
นากาคินอยากกลับไปช่วยหานเซี่ยวแต่หานเซี่ยวกลับแจ้งเขาผ่านอุปกรณ์สื่อสารว่าไม่จำเป็น แบล็คสตาร์จะจัดการกับสามภัยพิบัติ ส่วนนากาคินจะรับผิดชอบการโจมตียานอวกาศ
ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!
นากาคินไม่อยากนึกว่าหานเซี่ยวจะรับมือสามภัยพิบัติได้ยังไงหากมันเป็นเขา มันคงเท่ากับความตาย!
หลังหานเซี่ยวบอกเขาว่าเขาจะร้องเรียกหากรับมือไม่ไหวนากาคินจึงโยนความคิดนั้นทิ้ง เขาคอยจับตามองตลอดและรู้ว่าทหารรับจ้างผู้นี้คือของจริง
เขาไม่เคยเสียสละตัวเองเพื่อเกียรติและต้องมีการรับประกันก่อนดำเนินแผนดังนั้น เขาจึงยับยั้งความกังวลได้แม้จะไม่รู้ว่าหานเซี่ยวจะรับมือกับทั้งสามได้ยังไง
ภายในม่านพลังประชาชนนับไม่ถ้วนมองม่านพลังเหนือหัวด้วยความกลัว นี่คือด่านป้องกันสุดท้ายของพวกเขา ทุกคนกลัวจนตัวสั่นและสวดภาวนาไม่หยุด
ยานอวกาศดาราทมิฬส่วนหนึ่งพลันเปิดออกเพื่อปล่อยกองกำลังภาคพื้นซึ่งกระโดดผ่านม่านพลังลงมา ผู้เล่นนับหมื่นกรูกันไปเพื่อฆ่าทันที และกองทหารก็ถูกกลืนด้วยจำนวนของผู้เล่น
ด้วยยอดมนุษย์นับหมื่นแทบทุกคนยังเป็นอมตะ ความสามารถต่อสู้ประเภทนี้จึงทำให้ดาราทมิฬกลัวจนไม่กล้าทำการโจมตีภาคพื้น หน่วยรบภาคพื้นของดาราทมิฬกอดประตูยานแน่น ปฏิเสธที่จะลงไป
บัดซบอยู่ในอากาศก็ดีอยู่แล้ว อย่าส่งฉันลงไปขุดหลุดศพเลย!
ทหารดาราทมิฬไม่อาจจัดการกับพวกอมตะเหล่านี้ได้ทำได้แค่ระดมยิงเมือง เพราะมีผู้เล่นไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้สิทธิ์ขึ้นยานเพื่อสู้ทางอากาศ ส่วนใหญ่จึงทำได้แค่แหงนคอมอง
แต่ทว่าคนเหล่านั้นก็พบบางสิ่งอย่างอื่นให้ทำและหันหัวไปมองสนามรบที่หานเซี่ยวอยู่
…
บูม!
เดกูลิชส่งหมัดผ่านหนึ่งในหอคอยม่านพลังของนักรบเหล็กG1พลังนักสู้แผ่ออกไป และนักรบจักรกลรอบๆก็ระเบิดกระจาย
ในขณะเดียวกันเทอรี่ก็หมุนเหมือนไจโร มีระยะสังหรามากกว่าร้อยเมตร ทหารจักรกลที่อยู่ในระยะเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ
ด้วยการพ่วงเข้ามาของทั้งสองคลื่นดำของเอ็มเบอร์จึงสามารถแสดงศักยภาพการฆ่าได้ในที่สุด คลื่นดำกวาดไปทั่วเหมือนสึนามิ กลืนทุกอย่างในเส้นทางมัน แค่เขาคนเดียวก็ทำลายเครื่องจักรได้มากกว่าสองพันแล้ว
การโจมตีของสามภัยพิบัติเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างจำนวนเครื่องจักรในกองทัพจักรกลลดลงไปหนึ่งในสามทันที
หากอยากใช้กองทัพจักรกลปัจจุบันเพื่อต่อต้านสามภัยพิบัติคงเป็นไปไม่ได้หานเซี่ยวมีสีหน้ามืดมน
แต่การสูญเสียเหล่านั้นยังอยู่ภายในความคิดเขาตัวตนระดับภัยพิบัติไม่ใช่อะไรที่เขาจะรับมือด้วยได้ง่ายๆ ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องจักรเขา เขาต้องเสียพวกมันนับหมื่นก่อนเขาจะสามารถลดทอนพลังงานของตัวตนระดับภัยพิบัติให้เป็นศูนย์ได้ เขายังเห็นว่าศัตรูมีความสามารถอะไร หากมันเป็นคนที่มีทักษะหมู่อย่างอานู งั้นความยากก็จะยิ่งเพิ่ม
โชคดีความสามารถของเอ็มเบอร์เหมาะจะใช้กับสิ่งมีชีวิตฐานคาร์บอน แม้มันจะเด่นทั้งการโจมตีและป้องกัน แต่ก็ผลาญพลังงานมาก เดกูลิชคือนัแกสู้ และแม้การโจมตีเป้าหมายเดี่ยวเขาจะรุนแรง เขาก็ขาดทักษะหมู่ ในฐานะนักสู้จักรกล เทอรี่ก็เหมือนกัน ดังนั้น กองทัพจักรกลจึงยังมีผลกับพวกเขา ช่วยลากถ่วงเวลาได้มาก
แต่ทว่าหานเซี่ยวกลับทำได้แค่หลบอยู่สักพักก่อนกระโจนเข้าใส่
เดกูลิชและเทอรี่ต่างก็เก่งการต่อสู้ระยะประชิดการจู่โจมเขาเหมือนพายุ หานเซี่ยวทำได้แค่ป้องกัน ม่านพลังงานเขาแตกอย่างต่อเนื่องและโล่ลอยฟ้าก็ยังถูกผ่าครึ่ง มือจักรกลเขาถูกระเบิด และทำได้แค่พึ่งพาความแข็งของชุดจักรกล พลังชีวิตเขาค่อยๆลดลง
เมื่อใดก็ตามที่เขาสั่งให้กองทัพจักรกลยิงเอ็มเบอร์จะควบคุมคลื่นดำเขาไปรับและปล่อยให้ทั้งสองรุมโจมตีหานเซี่ยว
คลื่นดำแยกกองทัพจักรกลออกจากหานเซี่ยวด้วยกองทัพที่อยู่ด้านนอกและหานเซี่ยวด้านใน แม้กองทัพจักรกลจะอยากเข้ามาด้านในเพื่อช่วยหานเซี่ยว พวกมันก็ถูกขับไล่โดยเอ็มเบอร์ เพราะจำนวนพวกมันลดน้อยลง แรงกดดันที่มีต่อเอ็มเบอร์จึงอ่อนลงไปด้วย และตอนนี้เขาก็มีพลังพอจะโจมตีหานเซี่ยวเป็นครั้งคราว
มีเพียงผู้รักษาสัจจะทั้งแปดถึงคอยยืนพิทักษ์ข้างหานเซี่ยวพวกมันช่วยเขาต่อสู้แต่ก็พังไปทีละตัว ผู้รักษาสัจจะคือเครื่องจักรชั้นยอด และภายใต้โบนัสที่หานเซี่ยวมอบให้ พวกมันจึงมีความสามารถต่อสู้กับตัวตนระดับB อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ ศัตรูคือระดับภัยพิบัติ และก็ยังมีถึงสาม!
ปัง!
ผู้รักษาสัจจะตัวสุดท้ายถูกเดกูลิชเตะอย่างแรงและชิ้นส่วนมันก็ทะลักออกมาเหมือนลำไส้จากนั้นเดกูลิชก็คว้าหัวมันและกระชาก น้ำมันเครื่องสาดกระจายไปทั่ว แทบยังมีสายไฟที่ปล่อยสะเก็ดไฟออกมา
“แกยังมีอะไรอีกเอาออกมาให้หมด!”เดกูลิชโยนหัวของผู้รักษาสัจจะทิ้ง กล่าวอย่างอวดดี
ผู้รักษาสัจจะทั้งแปดพังและหานเซี่ยวก็คุกเข่าอยู่บนพื้น กระอักเลือดไม่หยุด ชุดจักรกลเขาได้รับความเสียหายไปทั่ว
สภาพแวดล้อมเขาคือคลื่นดำบดบังกองทัพจักรกลทั้งหมดของเขาผ่านการควบคุมของเอ็มเบอร์
หานเซี่ยวสูดหายใจตรวจสอบสถานะเขา พลังชีวิตเขายังอยู่ที่82% พลังงานเขาเพิ่งกลับมาเต็ม แต่ ชุดจักรกลเขาได้รับความเสียหายและก็เหลือความทนทานแค่8% เปิดใช้ทักษะมันอย่าง[ความแข็งที่ไม่อาจทำลาย] นี่ช่วยมอบภูมิต้านทานให้มัน แต่เขาก็ต้องรับความเสียหายด้วยร่างเขาเพื่อเปิดใช้[การดูดซับพลังงาน]
ชุดจักรกลมังกรมิติเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมและเขาก็ใช้มันมานาน มันสามารถไล่ตามการเลื่อนระดับเขาได้ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่อยากเสียมันไป และเมื่อเห็นความทนทานมันแทบติดดิน เขาจึงรีบเก็บมันไป เผยร่างเขาต่อสามภัยพิบัติ
จากนั้นทั้งสามจึงได้เห็นหน้าเขา
“ในที่สุดแกก็ยอมออกมาจากกระดองเต่า”มุมปากของเอ็มเบอร์ขดขึ้น
เมื่อช่างกลถอดชุดจักรกลและเผยร่างจริงมันก็หมายความว่าเขาถูกบังคับให้ตายแล้ว
“หยุดพูดไร้สาระและรีบฆ่าเขาซะ”เทอรี่หมดความอดทนสะบัดชิ้นส่วนเหล็ก เปลี่ยนพวกมันเป็นใบมีดที่เต็มไปด้วยพลังงาน
ทันใดนั้นหานเซี่ยวพลันดีดตัวขึ้น สีหน้าเขาไม่กังวลเลยและท่าทางเขาก็ทำให้ทั้งสามจากดาราทมิฬขมวดคิ้วแน่น
“อย่ารีบดีใจไปการต่อสู้มันเพิ่งเริ่มขึ้น!”
เมื่อเขาพูดหานเซี่ยวก็กระทืบเท่า
ฮึม!
สนามพลังจักรกลไร้สิ้นสุดกระจายจากเท้าเขาคล้ายใยแมงมุม มันพุ่งผ่านคลื่นดำไปง่ายๆ ปกคลุมทั้งสนามรบ
เศษโลหะนับไม่ถ้วนที่นอนกองบนพื้นเชื่อมต่อกันส่งเสียงดังสนั่น
วินาทีถัดมาเศษโลหะนับไม่ถ้วนก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และเศษเหล็กที่ผิดรูปร่างก็ฟื้นคืนรูปร่างเดิมมันผ่านสนามพลังจักรกล พวกมันก่อตัวกันเป็นนักรบจักรกลอย่างรวดเร็ว
ภายในคลื่นดำผู้รักษาสัจจะทั้งแปดยืนขึ้นอีกครั้ง และหนึ่งในนั้นก็ดึงหัวที่ถูกโยนลงพื้นขึ้นมา ติดตั้งใหม่บนหัวมัน
[การดัดแปลงของเสีย]!
เครื่องจักรที่ถูกทำลายได้รับการซ่อมแซมอีกครั้ง
เมื่อเห็นผู้รักษาสัจจะทั้งแปดก่อตัวขึ้นใหม่สีหน้าของพวกเดกูลิชก็บิดเบี้ยว
“ลูกเล่นเยอะนักนะ!”เทอรี่สาปแช่ง
“ไร้ประโยชน์หากไม่มีชุดจักรกล เขาก็เป็นแค่คนที่ตายไปแล้ว”เดกูลิชโต้กลับด้วยความโกรธ
เอ็มเบอร์ยิ้มเย็นพลังปัจจุบันของกองทัพจักรกลกลับคืน และแรงกดดันทางเขาก็เพิ่มขึ้น เขาไม่อาจไปโจมตีหานเซี่ยวได้อีกและทำได้แค่ต้านรับการโจมตีของกองทัพจักรกล
ใบหน้าของหานเซี่ยวกระตุกการใช้[การดัดแปลงของเสีย]กับเครื่องจักรจำนวนมากเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมาก แถบพลังงานเต็มเขาลดไปกว่าครึ่งทันที!
การผลาญพลังงานของทักษะนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ครอบคลุมและจำนวนเครื่องจักรในเวลาเดียวกัน มันก็วัดค่าสัมประสิทธิ์ของ0.x โดยที่xเป็นตัวแปร หลังคูณทกอย่าง นั่นก็เท่ากับการผลาญพลังงานเขา ยิ่งระดับสูง ค่าสัมประสิทธิ์นี้ก็จะน้อยลง ดังนั้น เมื่อระดับของช่างกลเพิ่ม ต้นทุนของมันก็จะลดลงตามธรรมชาติ
บูม!
วินาทีถัดมาเดกูลิชและเทอรี่ต่างโยนตัวออกไปข้างหน้าอีกครั้งและโจมตีด้วยพายุพลัง!
หมัดกระทบใส่ตัวหานเซี่ยวอย่างรุนแรงและดาบโลหะผสมก็เฉือนลงบนตัวเขา
โดยปราศจากโบนัสชุดจักรกลหานเซี่ยวจึงกลายเป็นคนเฉื่อยกว่าเดิม เขาถูกทุบตีอย่างแรง กระอักเลือดไม่หยุด ดูราวกับเขาเจียนตาย การโจมตีของตัวตนระดับภัยพิบัติทรงพลังมาก และเมื่อกระทบบนตัวเขา พวกมันจะทำความเสียหายหลักพันต่อวินาที
แต่ทว่าหลังทุบตีเขาเป็นเวลานาน ในที่สุดเดกูลิชก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
รอเดี๋ยว!
ไอหมอนี่กระอักเลือดออกมาหลายลิตรแล้วทำไมเขาถึงยังไม่ตาย?!
หากเดกูลิชสามารถเห็นหน้าต่างสถานะของหานเซี่ยวเขาจะเห็นแถบพลังชีวิตและพลังงานที่ขยับขึ้นลงไม่หยุด เมื่อสีแดงเพิ่ม สีฟ้าจะตก และเมื่อสีแดงตก สีฟ้าจะเพิ่ม แม้จะดูน่ากลัว แต่ปริมาณพลังชีวิตรวมของหานเซี่ยวไม่เคยลดน้อยกว่าครึ่ง
แม้หานเซี่ยวจะเต็มไปด้วยบาดแผลคล้ายคนใกล้ตาย แต่จริงๆแล้วเขาเหมือนสุนัขเก่าที่ไร้ความรู้สึก!
เขาได้รับความเสียหายหลายพันหน่วยต่อวินาทีและด้วยความเสียหายที่บ้าคลั่ง แถบพลังงานเขาจึงพุ่งอย่างบ้าคลั่ง แม้เดกูลิชและเทอรี่จะมีพลังสูง มันก็ไม่อาจไล่ทันคำสั่งความคิดของหานเซี่ยวได้!
หานเซี่ยวลอบผ่อนคลายหลังการทดลองส่วนตัวนี้ ในที่สุดเขาก็พบความดื้อรั้นของพลังชีวิตเขา แม้กระทั่งบัตรอัญเชิญออโรร่าที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป!
[การควบคุมการแพร่กระจายเซลล์ขั้นกลาง]
[การดูดซับพลังงาน]
ความสามารถการปั้นทั้งสองโกงเกินไป!
เฟย์ดินจงเจริญ!
แม้เขาจะไม่อยู่ในอันตรายร้ายแรงแต่เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกทุบตี แต่ทว่า เทียบกับความเจ็บปวดที่เขารู้สึกตอนวิวัฒนาการเผ่าพันธ์แล้ว นี่เหมือนการเกาเท่านั้น
เดกูลิชทุบตีเขาอยู่ครึ่งวันสีหน้าเขาเปลี่ยนจากความชั่วร้ายเป็นประหลาดใจ ประหลาดใจเป็นตกใจและสุดท้ายก็กลายเป็นความโง่งม
ไม่ว่าเขาจะใส่พลังไปมากแค่ไหนทำให้แบล็คสตาร์อ้วกเป็นเลือด แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะบาดเจ็บ เขายังวิ่ง กระโดดและเปิดปากสุนัขออกมาได้
ไม่ใช่แค่เดกูลิชแต่แม้กระทั่งเทอรี่ก็ยังตกตะลึง
บ้าอะไรกันวะ?ไอหมอนี่มันโกงไปแล้ว!
เขาเป็นแมลงสาบหรือไง?!ทำไมถึงไม่ตาย?!
ปัง!
หมัดลอยมาอีกครั้งทำให้หานเซี่ยวถูกกระแทกลอยออกไปและกระแทกกับพื้นอย่างแรง แต่เดกูลิชและเทอรี่กลับไม่โจมตีต่อ พวกเขากลับยืนนิ่ง สงสัยว่าพวกเขากำลังสู้กับหานเซี่ยวจริงหรือเปล่า
“อ้าว?ทำไมไม่สู้ต่อละ?”
หานเซี่ยวปาดเลือดตรงมุมปากยืนขึ้นอีกครั้ง ชุดเขาเต็มไปด้วยคราบเลือด และหลังปัดฝุ่นออก เขาก็ฉีกยิ้ม ราวกับเขาเต็มไปด้วยพลังงาน
“แค่นี้หรอ?ฉันยังรู้สึกปวดเมื่อยอยู่เลยใส่ความพยายามกันมากกว่านี้หน่อยสิ พวกแกไม่ค่อยดื่มนมหรือไง?”
รูม่านตาเอ็มเบอร์หดลงและเขาก็มีสีหน้าเหลือเชื่อ เขาจำอดีตตอนเขาสู้กับหานเซี่ยวบนเกาะมังกรได้ หานเซี่ยวได้แสดงความสามารถการรักษาสุดเหลือเชื่อ ท้ายที่สุดก็บังคับให้เขาต้องถอย
ครั้งนั้นเอ็มเบอร์คิดว่าความสามารถของหานเซี่ยวต้องมีจำกัด ตราบเท่าที่รุนแรงพอ มันย่อมฆ่าเขาได้ อย่างน้อย เขาก็คิดจนถึงตอนนี้
อย่างไรก็ตามหานเซี่ยวกลับใช้กายเนื้อเขารับการโจมตีของสองภัยพิบัติ และแม้กระทั่งผืนดินก็ยังถูกถล่ม แต่เขากลับยังแข็งแรงและเริงร่า!
เอ็มเบอร์เริ่มกลัว
หรือ..เขาจะคิดผิดตั้งแต่ต้นและไอหมอนี่มีความสามารถฟื้นฟูไร้ขีดจำกัด?!
งั้นเขา..ก็คือพวกอมตะที่ไม่อาจฆ่าได้?!
ขณะที่ทั้งสามต่างตกใจเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น ราวกับกองทัพนับหมื่นกำลังเดินขบวนมา แม้กระทั่งพื้นก็ยังเริ่มสั่นสะเทือน
พวกเขาเห็นผู้เล่นนับหมื่นกำลังรุดหน้ามาหาหานเซี่ยวเนื่องจากพวกเขาไม่อาจขึ้นยานอวกาศได้ พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมสนุก
แม้พวกเขาจะเป็นยอดมนุษย์เกรดต่ำแต่ก็มีมากกว่าหมื่น แถมหลายคนยังทะลวงผ่านระดับ60และบรรลุการวิวัฒนาการครั้งแรกแล้ว พวกเขาถือได้ว่าเป็นกลุ่มปีศาจน้อย
“รนหาที่ตายฉันจะจัดการกับกลุ่มนี้เอง พวกนายคิดหาวิธีกำจัดแบล็คสตาร์ไป”
เอ็มเบอร์ระงับความกลัวและความตกใจดวงตาเขาทอประกายเย็นชา เขาเตรียมใช้ความสามารถเขาเพื่อทำลายทั้งกลุ่ม
หาวิธี?พวกเขาจะไปมีได้ยังไง?
เดกูลิชกัดฟันสุดท้ายก็เปิดอุปกรณ์สื่อสารและสั่งยานแม่
“เปิดใช้งานปืนใหญ่รังสีหลักของยานแม่ซะ!”
“ท่านครับเราควรเล็งเป้าที่ไหน?”
“เล็งไอระยำแบล็คสตาร์!”
ไม่ไกลนักรอยยิ้มของหานเซี่ยวพลันหุบลง