The Legendary Mechanic - ตอนที่ 573 ต้านรับปืนใหญ่ 2
ตอนที่ 573 ต้านรับปืนใหญ่ 2?
ความเร็วของปืนใหญ่หลักเร็วอย่างไม่ต้องสงสัย และตอนนี้ที่มันล็อคเป้าแล้ว เขาจึงไม่คิดพยายามหลบ กระบวนการทั้งหมดจากการยิงของปืนใหญ่จนถึงเวลายิงนับเป็นมิลลิวินาที แม้แต่เดกูลอชและอีกสองคนก็ยังรีบหลบก่อนปืนใหญ่ยิง
เนื่องจากเขาไม่อาจขึ้นยานแสงทมิฬได้เขาจึงไม่หวังหลบด้วยความเร็วเขา ทักษะท่องมิติอาจสามารถหลบได้นัดหนึ่ง แต่ตราบเท่าที่ปืนใหญ่หลักยังทำงาน พวกเขาก็แค่ต้องยิงอีกนัดหากเห็นเขาหลบ
กลับกันมันดีกว่าที่เขาจะใช้เวลาจำกัดในการรวบรวมอุปกรณ์ป้องกันทั้งหมด จากนั้นก็ใช้ทักษะขวากนามเพื่อเป็นหลักประกันและรับความเสียหาย ด้วยมาตรการมากมาย โอกาสรอดชีวิตเขาจึงสูงมากและหากเขารอด มันก็จะสามารถทำให้ศัตรูตกใจกลัวได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้พลังงานน่ากลัวก็ตรวจพบ เขาเพิ่งรู้สึกถึงมันตอนการโจมตีทั้งหมดมาถึงแล้ว
หานเซี่ยวหดหัวในป้อมปราการเขาเขาไม่อาจเห็นมุมมองด้านนอกของรังสีที่ยิงลงมาได้และรู้สึกผลตอบรับผ่านสนามพลังจักรกลเขาตอนโล่ต่างๆแตก และทหารจักรกลจำนวนมากเขาก็ถูกทำลาย แสงสีขาวเจาะมาในวิสัยทัศน์เขาและความร้อนที่น่ากลัวก็คลุมทั้งร่างเขา
บูม!
พลังมหาศาลดูเหมือนจะกดลงบนตัวเขาคล้ายภูเขาตบหานเซี่ยวลงแบนกับพื้นและห่อหุ้มเขาไว้ใน วิสัยทัศน์เขาว่างเปล่าและรังสีพลังงานก็สาดเทลงมาอย่างต่อเนื่องเหมือนน้ำตก บังคับให้เขาต้องนอนอยู่อย่างนั้น
ระดับพลังชีวิตเขาลดอย่างรวดเร็วและแม้จะหักความเสียหาย30%จากทักษะผลกระทบแรกก็ยังลดพลังชีวิตรวมเขาไปหนึ่งในสาม อุณหภูมิสูงและพลังงานยังผลาญพลังชีวิตเขาอย่างต่อเนื่อง หานเซี่ยวไม่อาจขยับได้ และรู้สึกว่าเลือดเนื้อเขากำลังละลายและระเหยไป สถานะด้านลบต่างๆปรากฏบนหน้าต่างสถานะเขา
หากมันเป็นคนธรรมดาแค่ผลกระทบแรกก็จะสลายพวกเขาไปแล้ว แม้กระทั่งกากซากก็ยังไม่เหลือ
หานเซี่ยวกัดฟันเปิดใช้ทักษะ[การควบคุมการแพร่กระจายเซลล์]เพื่อเติมพลังชีวิตเขาให้เร็วที่สุด ฟื้นฟูพลังชีวิตรวมเขา28% สูสีกับพลังชีวิตที่ลดลง มาตรวัดกระโดขึ้นและลง ทำให้เขาขนลุก และเขาก็เตรียมใช้บัตรอัญเชิญตัวละครออโรร่าทุกเมื่อ
เพื่อฟื้นคืนพลังชีวิตกว่าหมื่นทุกวินาทีมันเทียบกับการใช้พลังงาน2-3พันโอน่า โชคดี ด้วยปืนใหญ่ที่สร้างความเสียหาย มันจึงช่วยเติมพลังงานเขา และส่งผลให้ความสามารถฟื้นฟูเขาทำงานเต็มที่
หน้าต่างสถานะท่วมท้นด้วยการแจ้งเตือนถึงการรับความเสียหายขณะที่การโจมตีจากปืนใหญ่หลักเต็มไปด้วยความเสียหายจริง มันก็ถูกลบล้างด้วยพรสวรรค์[กายเหล็ก]ของหานเซี่ยว ประเด็นนี้สำคัญมาก มันช่วยลดความเสียหายส่วนใหญ่ ทำให้เขารับแค่ความเสียหายปกติ
…
ไม่กี่วินาทีก่อนหน้า…
ยานรบดาราทมิฬอีกลำถูกสอยร่วงและมนุษย์ไฟ นากาคินก็หยุดกลางอากาศ ก้มมองสนามรบของหานเซี่ยว ความแปลกใจปรากฏในสายตาเขา
แบล็คสตาร์สามารถต้านทานการโจมตีของสามภัยพิบัติได้จริงๆ!เขาทำได้ยังไง?!
นากาคินแปลกใจมากแม้กระทั่งเขาก็ยังไม่อาจทำได้
เมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็ตระหนักว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง เขาเห็นแค่ว่าแบล็คสตาร์กำลังเสริมการป้องกันอย่างต่อเนื่องด้านบน ส่วนสามภัยพิบัติก็กำลังถอยห่าง ราวกับกำลังหลบซ่อนจากอันตราย
“ทำไมพวกเขาถึงหยุดสู้กัน?แบล็คสตาร์กำลังป้องกันตัวเองจากอะไร?”
นากาคินแสดงสีหน้าสับสนแต่ก่อนเขาจะได้ถึงหาเหตุผล คำตอบก็แสดงต่อหน้าเขา
สวบ!
ลำแสงขนาดใหญ่ยิงลงมาจากฟ้าเชื่อมต่อสวรรค์และโลกเข้าด้วยกันเพื่อโจมตีตำแหน่งของหานเซี่ยว คำว่า’โจมตี’อาจไม่ถูก เพราะลำแสงนั่นมีความกว้างหลายร้อยเมตร!
จากฟ้าสู่พื้นเวลาที่ลำแสงใช้เดินทางเร็วกว่าการกระพริบตา แม้จะด้วยความเร็วของนากาคิน เขาก็ยังไม่มีเวลามากพอหลบหนี
ปัง!
มันคล้ายกับหอกของพระเจ้าได้แทงลงสู่พื้นเกิดเป็นภาพลวงตาว่ามันสามารถเจาะผ่านดาวนี้ การโจมตีนี้ทำให้ทุกคนบนดาวถึงกับสั่นสะท้าน!
แสงแทงลงมาและนากาคินก็พยายามฝืนเปิดตาเขา
พวกมันบ้าไปแล้ว?!ถึงกับใช้ปืนใหญ่หลักเพื่อจัดการกับเป้าหมายเดียว..”
แบล็คสตาร์ปั่นหัวพวกมันขนาดนั้นเลย?!
บูม!
วินาทีต่อมาการระเบิดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น คลื่นกระแทกกระจายออกจากจุดศูนย์กลางและเศษดินก็ถูกพัดออก
ปืนใหญ่ของยานแม่ดาราทมิฬใช้เตาเผาพลังงานแยกดังนั้น พลังสังหารจึงสูงกว่าอาวุธเบาหลายเท่า ขณะที่อาวุธเบามุ่งเน้นพลังเจาะ ปืนใหญ่หลักมุ่งเน้นความเสียหายเป้าเดียว แน่นอน หากมีคนบ้าพอจะใช้ปืนใหญ่หลักยิงใส่คน งั้นผลกระทบก็ไม่ต่างจากทักษะหมู่
ปืนใหญ่หลักปล่อยพลังงานอย่างต่อเนื่องอุณหภูมิสูงน่าหวาดหวั่นทำให้อากาศแปรปรวน คลื่นกระแทกระเบิดอย่างต่อเนื่อง แผ่นดินถล่มและพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยลำแสงก็เปลี่ยนเป็นพายุวงแหวน และยังขยายอย่างต่อเนื่อง
ภายในม่านพลังใบหน้าของผู้เล่นนับไม่ถ้วนส่องสว่างด้วยแสงสีขาว และสีหน้าพวกเขาก็เหมือนลาโง่ เห็นแค่แสงสีขาวในสายตา
นั่น..การลงโทษของพระเจ้า?!
ซู่!
ปืนใหญ่หลักหยุดยิงลำแสงค่อยๆหายไปจากแกนกลางของหลุมลึก
บูม!
พลังงานที่สะสมภายในพลังระเบิดอย่างรุนแรงกว่าครั้งไหนเปลวไฟและควันกระจายออกด้วยความเร็วสูงราวกับร่มเปิด
ลมร้อนพัดออกมาและภูเขาก็สั่นสะเทือน!
แม้แต่คนที่ซ่อนอยู่ภายในม่านพลังยังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
ไม่นานพลังงานภายในก็กระจัดกระจาย ควันบดบังวิสัยทัศน์ของทุกคน และใครก็สามารถเห็นได้ว่ามีหลุ่มขนาดใหญ่ทิ้งไว้ภายนอกเขตอนุรักษ์ ราวกับอุกกาบาตได้พุ่งชนลงตรงนั้น
“นั่นคืออะไร?”
หัวใจของผู้เล่นระส่ำระส่าย
แม้กระทั่งเบนเน็ตก็ยังพูดไม่ออก
ฮีล่ากระแทกกับม่านพลังรูม่านตาเธอหดเป็นจุดเล็กๆ
นากาคินยืนอยู่บนม่านพลังด้วยสีหน้ากังวลไม่ละสายตาจากจุดที่หานเซี่ยวอยู่
เดกูลิชเอ็มเบอร์และเทอรี่ยืนขึ้น ใบหน้าพวกเขาปกคลุมไปด้วยเขม่า พวกเขาพยายามวิ่งหนีก่อนปืนใหญ่จะยิงและถูกกระแทกด้วยคลื่นเศษหินและดิน กระเด็นไปกันคนละทิศทาง หลังยืนขึ้น พวกเขาก็หันไปมองหลุมพร้อมกัน อยากรู้ผลลัพธ์
ยานรบดาราทมิฬและโกโดร่าทั้งหมดหยุดยิงลอยขึ้นไปในท้องฟ้า เฝ้าดูผลลัพธ์ด้านล่าง
หลังควันกระจัดกระจายพวกเขาก็เห็นได้ว่าศูนย์กลางของหลุมนั้นลึกหลายเมตร ดินกลายเป็นสีแดง มีหลายพื้นที่ตกผลึกเนื่องจากอุณหภูมิสูง หินบางก้อนละลายเป็นหินหนืดขณะไหลย้อยลง
ชิ้นส่วนเครื่องจักรนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปทั่วมีบางส่วนถูกหลอมเป็นเหล็กเหลว
ใจกลางหลุมเงาร่างหนึ่งค่อยๆปีนขึ้นมา ร่างไหม้เกรียมเขาปล่อยควันออกมา เขาดำยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืน และหลังสลัดตัวหลายครั้ง ผิวหนังที่ไหม้ก็หลุด เผยให้เห็นผิวขาวซีด สนามพลังจักรกลกระจายออกไป ชิ้นส่วนเครื่องจักรแปรเปลี่ยนเป็นกางเกงเพื่อปกป้องร่างส่วนร่างเขา
หานเซี่ยวยืนอยู่ตรงนั้นร่างส่วนบนเขาเปลือยเปล่า มือหนึ่งกำลังนวดหลังคอ และฉีกยิ้มกว้าง
“อู้ว..นั่นกำลังดีเลยฉันรู้สึกว่าร่างกายฉันสบายยิ่งกว่าเดิมซะอีก!”
สายตาของทุกคนหยุดที่หานเซี่ยวปากของพวกเขาเปิดกว้าง
เขา..เขายังไม่ตาย?!
แบล็คสตาร์ที่กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาตรงกันข้ามกับหลุมที่เต็มไปด้วยความตาย
ภาพฉากนี้ทำให้เดกูลิชเทอรี่ เอ็มเบอร์ นากาคิน ฮีล่าและผู้เล่นแทบตาถลน