The Legendary Mechanic - ตอนที่ 583 ศึกมักถูกตัดสินก่อนเริ่ม

ตอนที่ 583 ศึกมักถูกตัดสินก่อนเริ่ม
　　การต่อสู้เข้าสู่จุดสูงสุดทันทีที่เริ่ม
　　ด้านนอกช่องหน้าต่างกองยานโกโดร่า กองยานทหารรับจ้างและกองยานดาราทมิฬเปิดฉากยิงใส่กัน แสงจากปืนใหญ่นำแสงหลากสีสู่อวกาศ ตามด้วยวความตายนับไม่ถ้วน
　　ปืนใหญ่ยิงผ่านแผ่นเกราะของยานทีละลำเปลี่ยนคนด้านในให้เป็นเถ้าถ่าน
　　เนื่องจากเดกูลิชไม่อาจออกคำสั่งได้กองยานดาราทมิฬจึงสูญเสียการควบคุม ได้แต่สู้ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นพวกเขาถึงเริ่มรวมกันกลุ่มได้ภายใต้คำสั่งของเบื้องบนของคนอื่นและพยายามฝ่าวงล้อม
　　น่าเศร้าเนื่องจากคำสั่งแรกมาไม่ทันเวลา ดาราทมิฬจึงเสียโอกาสหลบหนีไปแล้ว วิธีที่พวกเขาพยายามผลักไปข้างหน้าภายใต้ปืนใหญ่ก็เหมือนการพยายามเคลื่อนที่ในโคลน
　　“ดูเหมือนว่าเราไม่ต้องทำอะไรเลย”
　　หานเซี่ยวส่ายหัวมองดูสถานการณ์
　　ด้วยการร่วมมือของโกโดร่าและทหารรับจ้างพลังของกองยานย่อมเหนือกว่าดาราทมิฬไปมาก มันเป็นไปได้สูงมากว่าอาจไม่ต้องเข้าสู่การต่อสู้ระยะประชิด พวกเขาสามารถเปลี่ยนกองทัพดาราทมิฬเหล่านี้ให้เป็นเศษซากที่ลอยในอากาศ
　　ภารกิจของกองทัพแบล็คสตาร์คือจัดการการต่อสู้ระยะประชิดดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถของพวกเขา ทำได้แค่อยู่ข้างหลังและรอ
　　ดาราทมิฬเริ่มแตกพ่ายยานรบดาราทมิฬบางลำอยากหลบหนีจากยานแม่ ไม่น่าแปลกใจ พวกเขากลายดอกไม้ไฟกลางคัน
　　หานเซี่ยวคิดสักพักการไม่ทำอะไรไม่เหมาะกับเป้าหมายการสร้างชื่อให้กองทัพเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสร้างโอกาสให้ตัวเอง
　　“ริสด้าช่วยบังคับยานแม่ได้ไหม?”
　　“ได้”
　　‘ขับยานแม่และเข้าไฮเปอร์ไดรฟ์ระยะสั้นชนกับดาวที่ใกล้สุด ฉันจะโน้มน้าวให้โกโดร่าปล่อยนายไป”
　　เมื่อเขาพูดหานเซี่ยวก็ติดต่อตำหนักสงครามผ่านช่องส่วนตัว
　　“นี่คือแบล็คสตาร์ผมกำลังจะควบคุมยานแม่ให้ชนกับผิวดาวและทำการต่อสู้ภาคพื้น รองผู้นำดาราทมิฬอยู่บนยานแม่นั่น นี่เป็นโอกาสจับเป็นเขาพร้อมกับยึดยานแม่ดาราทมิฬ”
　　เดกูลิชยังเป็นเป้าหมายภารกิจของ[พันธมิตรแห่งโกโดร่า]ดังนั้นการจับเขาเป็นๆและส่งตัวเขาให้โกโดร่าก็จะทำให้ได้รับรางวัลเหมือนกับการฆ่าเขา นอกจากนี้ การมอบยานแม่ให้ยังเพิ่มรางวัลภารกิจ
　　โกโดร่าเตรียมการมาดีสงครามนี้อาจเป็นศึกสุดท้ายของดาราทมิฬ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงอยากเพิ่มคะแนนภารกิจให้ได้มากที่สุด
　　ตำหนักสงครามให้ความสนใจกับการต่อสู้ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องบนย่อมไม่สงสัยหานเซี่ยวอีก นอกจากนี้ การจับเดกูลิชและชิงยานแม่ยังเป็นประโยชน์มาก หลังหารือ เบื้องบนก็ตัดสินใจทำตามแผนหานเซี่ยว พวกเขามั่นใจในการควบคุมสถานการณ์ ดังนั้นจึงยอมเสี่ยงและรีบสั่งผู้บัญชาการกองยาน
　　คำสั่งนี้ทำให้ผู้บัญชาการสับสนมากแต่เขาก็เชื่อฟังในฐานะทหาร ดังนั้นจึงรีบบอกลูกน้องเขา
　　ริสด้าควบคุมยานแม่ดาราทมิฬและเบี่ยงจากกองยานค่อยๆเร่งความเร็ว
　　ยานแม่ลำอื่นย่อมไม่ได้รับการปฏิบัติดังกล่าวพวกเขาเจอกับการยิงอย่างหนักขณะเฝ้าดูยานแม่ของริสด้าค่อยๆลอยห่างออกไป
　　ก่อนผู้โดยสารบนยานนี้จะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็เข้าไฮเปอร์ไดรฟ์และมาถึงดาวที่ใกล้สุด ดาวแห้งแล้งที่กองยานโกโดร่าสุ่มก่อนหน้านี้
　　บูม!
　　ยานแม่แหวกผ่านชั้นบรรยากาศและดิ่งลงพื้นอย่างรวดเร็วสร้างเป็นหลุมลึก
　　สมาชิกดาราทมิฬภายในยานแม่ถูกโยนจากกผลกระทบ
　　เดกูลิชคือตัวตนระดับภัยพิบัติคนเดียวบนยานแม่ด้วยพลังของเขา เขาไม่บาดเจ็บแต่หน้าเขากลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
　　ทันทีที่อุปกรณ์สื่อสารถูกตัดเขาก็เริ่มสงสัยและความจริงที่ยานแม่ขับเคลื่อนด้วยตัวมันก็พิสูจน์ความสงสัยเขา เห็นได้ชัดว่ายานแม่เขาถูกศัตรูควบคุม
　　ไม่แปลกใจที่พวกมันถึงรู้ตำแหน่งเราแม้กระทั่งยานแม่พวกเขาก็ยังเป็นของศัตรู!
　　ศัตรูไปทำแบบนั้นตอนไหน?เดกูลิชทั้งโกรธและตกใจ
　　ข้อมูลของยานแม่ชนผิวดาวถูกส่งมากองยานทหารรับจ้างและกูเรจาก็รีบติดต่อหานเซี่ยว
　　“แบล็คสตาร์ถึงตานายแล้ว”
　　“รับทราบ”หานเซี่ยวพยักหน้า
　　ยานแสงทมิฬหมุนตัวตามด้วยกองยานแบล็คสตาร์ลำอื่น พวกเขาแยกจากกลุ่มพันธมิตรและมายังยานที่ยานแม่ดาราทมิฬตก
　　สมาชิกดาราทมิฬทุกคนรวมถึงเดกูลิชติดอยู่บนดาวและสงครามภาคพื้นก็เหมาะกับผู้เล่นมาก
　　“ลงไป!”หานเซี่ยวสั่วยานค่อยๆลงจอดบนดาว
　　ผู้เล่นภายในยานต่างรออยู่หลังประตูพร้อมโจมตีตลอดเวลา
　　ควรมีสมาชิกดาราทมิฬนับหมื่นอยู่ในยานแม่และต้องมีพวกระดับBจำนวนหนึ่ง แน่นอน พวกแข็งแกร่งจะต้องถูกจัดการโดยเจ้าหน้าที่เขา ผู้เล่นแค่ต้องจัดการทหารทั่วไป
　　ครั้งนี้ฮีล่าผู้ยืนข้างๆหานเซี่ยวถาม”แล้วเราละ?”
　　หานเซี่ยวหันมาไตร่ตรองสักพักและกล่าว”พวกเธอสามารถเข้าร่วมได้”
　　ฮีล่าและออโรร่าไม่ตายง่ายขนาดนั้นแถม พวกเธอยังต้องทำความคุ้นเคยกับการต่อสู้บนอวกาศ ดังนั้นพวกเธอจึงต้องฝึก นี่คือโอกาสที่ค่อนข้างปลอดภัย ดังนั้น หานเซี่ยวจึงไม่คิดหยุดฮีล่า
　　หลังรับรู้ถึงความไว้วางใจคิ้วของฮีล่าก็คลายตัวและพยักหน้า
　　เธอไม่ชอบการถูกปกป้องตลอดและหวังจะเป็นประโยชน์
　　ทหารดาราทมิฬบนผิวดาวปกป้องยานแม่สุดกำลังขณะที่ยานทหารรับจ้างแบกผู้เล่นมาล้อมพวกเขาจากทุกทิศทาง
　　หวือ!
　　ประตูเปิดออกทีละลำ
　　ผู้เล่นเดินออกจากยานและล้อมนักรบดาราทมิฬไว้
　　ยานแสงทมิฬลอยกลางอากาศและหานเซี่ยวก็กระโดดลงมา เขาไม่ต้องเท้าแตะพื้น สนามพลังจักรกลคลุมตัวเขาและสร้างเป็นแรงผลักดันเมื่อเขาเกือบจะถึงพื้น เขาแค่ลอยอยู่เหนือพื้นไม่ถึง20เซนติเมตร
　　“แบล็คสตาร์!แกอีกแล้ว!”
　　เดกูลิชกัดฟัน
　　หานเซี่ยวกล่าวหน้าตาย”ครั้งก่อนพวกแกสามคนรุมฉัน ตอนนี้ ฉันมีแค่แกและจะไม่มีใครมาช่วยแกได้ต่อให้แกร้องดังแค่ไหนก็ตาม”
　　ตอนนี้เขาคือภัยพิบัติเหมือนกับเดกูลิชความแตกต่างด้านพลังพวกเขาลดลงอย่างมาก!
　　ความกระวนกระวายฉายผ่านตาเดกูลิชเขายังหวาดกลัวถึงความอึดของหานเซี่ยว ดังนั้นจึงรีบคิดหาวิธี แต่ทว่า ยิ่งคิด เขาก็ยิ่งหมดหวัง เขาไม่อาจนึกถึงความเป็นไปได้ที่จะหลบหนี กองยานแทบล่มสลาย ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้
　　ข้อได้เปรียบเดียวคือแม้การฆ่าแบล็คสตาร์จะยาก แต่แบล็คสตาร์ก็แค่เกรดB ดังนั้นเขาจึงถ่วงเวลาได้นานฮ
　　ฮึม!
　　เพียงเมื่อเดกูลิชมีความคิดนี้ประกายไฟฟ้าก็ยิงออกจากร่างหานเซี่ยว บอลบีบอัดยิงออกมาทีละลูก นื่คือครั้งแรกที่เขาใช้พลังเต็มกำลังหลังเข้าสู่ระดับนี้ พลังงานหนาแน่นกระจายไปทั่ว เผยให้เห็นระดับพลังงานของตัวตนระดับภัยพิบัติ!
　　หลังเห็นขั้นพลังงานสีหน้าของเดกูลิชก็เปลี่ยนไป
　　“แก—แกบรรลุระดับภัยพิบัติแล้ว?!”
　　ตอนพวกเขาสู้กันแบล็คสตาร์ก็แค่ระดับB!
　　มันพัฒนาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?!
　　โดยไม่พูดสักคำเดกูลิชหมุนตัว เปลี่ยนเป็นเส้นแสงและหายไปทันที ทิ้งนักรบดาราทมิฬไว้ด้านหลัง
　　ก่อนแบล็คสตาร์จะเป็นภัยพิบัติเขาก็ไม่มีหวังแล้ว ตอนนี้เขาคือระดับภัยพิบัติ เขาจะไปสู้ด้วยได้ยังไง?!
　　“ฉันจะตามล่าเขาพวกนายจัดการกับกองทัพดาราทมิฬ”
　　เมื่อมาถึงจุดนี้ชุดจักรกลใหม่ยังไม่ถูกสร้าง หานเซี่ยวสวมชุดสำรอง เร่งตัวขับเต็มกำลัง และพุ่งใส่เดกูลิชเหมือนสายฟ้า หายไปต่อหน้าทุกคน
　　ไม่นานเสียงการต่อสู้จากระยะไกลก็ดังขึ้น และพื้นก็สั่นสะเทือน
　　ราวกับนี่คือสัญญาณ!
　　นักรบดาราทมิฬปะทะกับผู้เล่นอย่างดุเดือด
　　บูม!
　　ความสามารถและกระสุนนับไม่ถ้วนบดบังฟ้านำความโกลาหลมาสู่สนามรบ
　　ผู้เล่นล้มลงเป็นว่าเล่นเหนือสิ่งอื่นใด นักรบดาราทมิฬก็คือนักรบอวกาศ พลังเฉลี่ยพวกเขาแข็งแกร่งมาก
　　อย่างไรก็ตามยิ่งสู้ ใบหน้าของพวกดาราทมิฬก็ยิ่งเปลี่ยน พวกเขาเกรี้ยวกราด จากนั้นก็เหนื่อย และไม่นาน พวกเขาก็หมดแรง ท้ายที่สุด นักรบดาราทมิฬก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ
　　ศัตรูไม่มีวันตายไม่ว่าจะฆ่าไปกี่ครั้ง มันก็ไร้ประโยชน์ เมื่อตระหนักได้ ความคิดของนักรบดาราทมิฬก็แพ้พ่ายทันที
　　จากการถือไพ่เหนือในการต่อสู้นักรบดาราทมิฬค่อยๆเริ่มแพ้ คนนับหมื่นไม่อาจรั้งแนวป้องกันได้อีก พวกเขาถูกกินทีละเล็กน้อย ไม่นาน กองทัพดาราทมิฬก็ถูกคลื่นผู้เล่นเหยียบจม
　　เอ็มเบอร์ผู้มีความสามารถเอสเปอร์สุดทรงพลังไม่อยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่มีใครฆ่าผู้เล่นได้
　　เจ้าหน้าที่ดาราทมิฬที่แข็งแกร่งถูกจัดการโดยพวกเฮอลัสและทหารดาราทมิฬคนอื่นก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของผู้เล่น
　　…
　　ต่อมาสนามรบก็สงบลง เหลือแค่เสียงร้องโหยหวน การต่อสู้จบลงแล้วและพื้นก็เต็มไปด้วยศพทหารดาราทมิฬ สมาชิกที่เหลือยอมจำนนและถูกมัดไว้
　　ผู้เล่นเก็บกวาดสนามรบอย่างตื่นเต้นอุปกรณ์ของนักรบดาราทมิฬเกลื่อนไปหมด ยังมีผู้เล่นที่ต่อสู้แย่งของกัน เฮอลัสไม่หยุดพวกเขา ตามกฏของทหารรับจ้าง อุปกรณ์นั่นจะเป็นของทหารรับจ้าง
　　“หานเซี่ยวเป็นยังไงบ้าง?”
　　ฮีล่าเช็ดคราบเลือดบนหน้าเธอและเดินมาหาเฮอลัส
　　เธอมีส่วนร่วมในการต่อสู้และได้รับประสบการณ์จากอวกาศเป็นครั้งแรก
　　ลำธารสีแดงเล็กๆบินออกจากนักรบดาราทมิฬที่ตายแล้วนับหมื่นและถูกดูดซับโดยฮีล่า
　　สิ่งมีชีวิตที่เพิ่งตายสามารถมอบพลังงานให้เธอได้ฮีล่าสามารถเพิ่มพลังของความสามารถเธอได้ผ่านการสังหารหมู่ ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว เธอฆ่าไปหลายเผ่าพันธ์และใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มพลังเธอ แต่ตอนนี้เธอย่อมไม่เลือกวิธีแบบนั้นแล้ว
　　“กัปตันสามารถจัดการกับสามภัยพิบัติได้ก่อนหน้านี้มันต้องไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
　　เฮอลัสไม่กังวลเลยเขานำอุปกรณ์สื่อสารออกมาและติดต่อหานเซี่ยว
　　“กัปตันเรียบร้อยยัง?”
　　“บังเอิญจริงๆฉันเพิ่งจัดการเขาเสร็จ รอนั่นแหละ ฉันกำลังกลับไป”
　　…
　　หลังวางสายหานเซี่ยวก็มองเดกูลิช
　　เดกูลิชกำลังหอบหนักและย่ำแย่เขามีความแข็งแกร่งเหลือเกือบ0และกำลังจ้องหานเซี่ยวอย่างอาฆาต
　　ร่องรอยจากการต่อสู้ทอดยาวหลายร้อยกิโลเมตรพื้นเว้าแหว่งไปทั่ว เต็มไปด้วยหลุม บางอันยังเป็นร่องลึก
　　หานเซี่ยวใช้พลังของภัยพิบัติโดยไม่เก็บรั้งเพลิดเพลินกับพลังทำลายล้าง
　　ผลที่ตามมาของศึกระดับภัยพิบัติย่อมเปลี่ยนภูมิประเทศได้ง่ายๆ
　　เดกูลิชสามารถทำให้พื้นแตกได้ด้วยหมัดหรือเตะธรรมดาแต่ไม่อาจทำลายการป้องกันของหานเซี่ยวได้เลย
　　หานเซี่ยวยังเป็นระดับภัยพิบัติแล้วดังนั้นเดกูลิชจึงไม่อาจข่มเขาได้เหมือนตอนอความารีน เขาไม่อาจชนะหรือหนีได้ สถานการณ์เขาน่าอับอายมาก แต่หากเขาสู้กัลบ เขาอาจต้องเสียพลังงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ แถมยังทำร้ายแบล็คสตาร์ไม่ได้
　　การต่อสู้ดุเดือดกำลังแผ่วลงเมื่อระดับพลังงานเขาตก พลังเขาก็จะลดลงด้วย การโจมตีของหานเซี่ยวยิ่งนำบาดแผลมา
　　การต่อสู้ด้านค่าความแข็งแกร่งคือของถนัดของหานเซี่ยวแม้กองทัพจักรกลจะยังไม่ฟื้นและเขาก็ยังไม่ได้พัฒนาอุปกรณ์ตน แต่ดด้วยพรสวรรค์และความสามารถหายาก เขาจึงจัดการเดกูลิชได้ง่ายๆ
　　เดกูลิชกระอักเลือดกัดฟันและเริ่มกระตุ้นพลังงานที่เพิ่งฟื้น
　　“หยุดเถอะแกไม่มีพลังพอจะสู้อีกแล้ว”
　　หานเซี่ยวพูดไม่ออกเดกูลิชคือนักสู้ระดับภัยพิบัติ แม้ค่าความแข็งแกร่งเขาจะหมด เขาก็สามารถฟื้นได้ในเวลาไม่กี่วินาที
　　เมื่อเห็นเดกูลิชยังพยายามฟื้นพลังหานเซี่ยวก็ถาม’แกรู้ไหมว่าทำไมตำแหน่งแกถึงถูกเปิดโปง?”
　　ใบหน้าของเดกูลิชเปลี่ยนไปการเคลื่อนไหวหยุดชะงัก และพลังงานที่ฟื้นตัวก็หายไป
　　“หรือ…”
　　“ก่อนคนของแกจะโจมตีดาวอความารีนฉันได้รุกยานแม่แกตอนแกโจมตีดาวประตูทอง กล่าวได้ว่า สงครามนี้เป็นฝีมือฉัน”
　　ใบหน้าเดกูลิชดำมืด
　　ครั้งนี้อุปกรณ์สื่อสารดังขึ้นอีก มันเป็นข้อความจากกูเรจา
　　“แบล็คสตาร์การต่อสู้เกือบจบแล้ว ยานแม่ดาราทมิฬทุกลำถูกทำลาย เหลือแค่ไม่กี่คนที่หลบหนีไปได้ ชาวโกโดร่ากำลังไล่ล่าพวกเขา เรายังไม่รู้ว่ามีพวกระดับสูงคนไหนรอด ทางนายจัดการเสร็จยัง?”
　　“ใช่ภารกิจเสร็จแล้ว มาเลย”
　　สงครามเป็นชัยชนะสมบูรณ์ตามคาดข้อมูลที่ริสด้ามอบให้ละเอียดมาก พวกเขาไม่ได้รู้แค่ตำแหน่ง พวกเขายังรู้จำนวน แถม โกโดร่ายังมีเวลามากพอเพื่อรวบรวมกองกำลัง
　　โกโดร่าควบคุมทั้งระบบดาวและหากพวกเขายังไม่อาจเอาชนะอย่างยิ่งใหญ่ได้ มันคงเป็นเรื่องน่าอับอาย
　　โดยปราศจากโหมดล่องหนดาราทมิฬย่อมไม่อาจต่อกรกับอารยธรรมระบบดาวที่โจมตีพวกเขาเต็มกำลังได้ หากไม่ใช่ความสามารถล่องหน ดาราทมิฬก็คงถูกทำลายไปนานแล้ว
　　สิ่งที่หานเซี่ยวให้คือสิ่งที่โกโดร่าต้องการมากสุด
　　เหตุผลหลักก็เพื่อกวาดล้างดาราทมิฬ
　　หานเซี่ยวไม่สนใจว่าเดกูลิชจะอยู่ข้างๆเขาจบการสนทนาต่อหน้าเขา
　　เดกูลิชคุกเข่าอยู่บนพื้นและหยุดต่อต้านเขาหลับตาและคร่ำครวญ”ดาราทมิฬจบสิ้นแล้ว…”