The Legendary Mechanic - ตอนที่ 607 ยั่วย
ตอนที่ 607 ยั่วยุ
แสงสีเขียวพุ่งผ่านตาเอเมสเธอจ้องมาเลคิธและกล่าว”พวกนายคิดจะทำอะไรกับคนของฉันอีก?”
“ท่านจักรพรรดินีมังกรไม่ต้องจริงจังไป แบล็คสตาร์และผมแค่บังเอิญเจอกัน”มาเลคิธตอบ
เอเมสหรี่ตาและหันไปมองหานเซี่ยว
หานเซี่ยวไม่ปิดบังอะไรเขาตอบตามตรง”เขามาหาฉันและอยากให้ฉันออกเกาะมังกรไปเข้าร่วมแดนหลั่งเลือด จิ๊จิ๊ เขาให้เงื่อนไขดีด้วยนะ”
“และ?นายพูดว่าไง?”เอเมสถามด้วยรอยยิ้ม
“หากฉันตอบตกลงเขาคงไม่หยิบเรื่องนี้มาพูดหรอก”หานเซี่ยวยักไหล่
เอเมสยิ้มหันไปมองมาเลคิธและกล่าว”ได้ยินไหม”เลิกเล่นลิ้นและนำทางไปได้แล้ว”
เมื่อเห็นว่าการยั่วยุไม่ได้ผลมาเลคิธจึงไม่พูดอีกและนำทาง
ยังมีเวลาหลายวันกว่าจะถึงงานเลี้ยงแต่หลายคนก็มาถึงแล้ว แดนหลั่งเลือดเตรียมห้องมากมายไว้ให้แขก
ทั้งสี่มุ่งหน้าไปห้องขณะที่เดินผ่านฐานมากมาย ทหารลาดตระเวนก็มีอยู่ทั่ว
หานเซี่ยวใช้เวลาสังเกตสิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภทบนแดนหลั่งเลือดมันคล้ายกับที่เขาจำได้ ในชีวิตก่อนหน้าเขา มีผู้เล่นได้รับการคัดเลือกจากแดนหลั่งเลือด ดังนั้นเขาจึงจำโครงสร้างของดาวฮีเบอร์ได้
หากฉันจำไม่ผิดผิวดาวฮีเบอร์เป็นส่วนเล็กๆ มีฐานที่ใหญ่กว่าอยู่ใต้ดิน
ครั้งนี้เสียงของคนแปลกหน้าก็ดังจากด้านหลัง
“ไม่เจอกันนานเลยนะเอเมส”
สัญชาตญาณแรกของหานเซี่ยวคือเสียงของคนๆนี้ดูกวนส้นเท้ามาก
พวกเขาหันไปทีมทหารอัดแน่นรอบชายคนหนึ่งปรากฏด้านหลังพวกเขา ชายตรงกลางคือผู้พูด เขาสวมชุดคลุมสวยงามและมีความเป็นผู้หญิงบนใบหน้าที่เป็นผู้ชาย จ้องเอเมสด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
ดวงตาของเอเมสพลันเปลี่ยนไป”แครอล”
ดวงตาของแครอลไล่ไปตามใบหน้างดงามของเอเมสคอขาว ท้องแบนรอบ และขายาว สำรวจเธออย่างไร้ความกลัว เขาหัวเราะและกล่าว”ฉันออกเกาะมังกรมานานแล้ว แต่เธอก็ยังสวยเหมือนเดิม”
ใบหน้าของเอเมสกลายเป็นเย็นชา
หานเซี่ยวสังเกตเห็นปฏิกิริยาผิดปกติของเอเมสมันคล้ายกับว่าความสัมพันธ์ของเธอกับชายคนนี้ผิดปกติ เขาหันไปและจ้องมาเลคิธและเห็นสีหน้าไร้ยางอายบนใบหน้าของปีศาจเขาหักผู้นี้
เข้าใจแล้วแครอลคือลูกน้องของเอเมส..
หากแครอลลาออกตามปกติเอเมสคงไม่ว่าอะไร แต่แครอลกลับออกอย่างเปิดเผยและเข้าร่วมแดนหลั่งเลือด เขายังเอาข้อมูลลับของเกาะมังกรไปด้วย แถม ตอนนี้เขายังมีตำแหน่งสูง สำหรับเอเมส นี่คือการทรยศ เธอรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อแดนหลั่งเลือด โดยเฉพาะแครอล ย้อนกลับไป เมื่อเธอสู้มาจนถึงดาวฮีเบอร์ เธอมีเป้าหมายหนึ่งคือฆ่าแครอล แต่ก็ถูกหยุดโดยไทแรนด์
ความจริงเป็นเหมือนที่หานเซี่ยวเดาเอเมสและอดีตลูกน้องเธอแครอลเป็นศัตรูกันมานานแล้ว
“กล้ามาเจอหน้าฉันแกคงเบื่อชีวิตแล้วสินะ”เอเมสกล่าวเสียงเย็น
แครอลมีไทแรนด์หนุนดังนั้นเขาจึงมั่นใจและไม่กลัว “นี่คือศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือด อะไร เธออยากฆ่าผู้จัดการโลจิสติกส์ของไทแรนด์?อืม ฉันได้ยินว่าเธอพบแมลงมาแทนที่ฉัน ฮี่ๆ เธอมีรสนิยมแย่จังเลยนะ”
เอเมสเริ่มปล่อยแรงกดดัน
ฮีล่าและออโรร่าสังเกตเห็นว่าบรรยากาศไม่ถูกต้องและเริ่มตื่นตัว
แต่แครอลกลับไม่หยุดมันเห็นได้ชัดว่าเขามาเพื่อยั่วยุ เขาหันไปมองหานเซี่ยวและกล่าว”แบล็คสตาร์สินะ?เจ้าหน้าที่ใหม่ของเอเมส?ฉันสามารถือได้ว่าเป็นรุ่นพี่นาย นายอยากได้คำแนะนำหน่อยไหม?”
“คำแนะนำ?”หานเซี่ยวเลิกคิ้วเขาแค่ยืนข้างๆและไม่ได้พูดอะไร แต่แครอลกลับมาพูดกับเขาซะงั้น
“ใช่แล้วฉันรู้จักเธอดี และฉันก็รู้สึกว่านายต้องการคำแนะนำของฉัน”แครอลยักไหล่และถากถาง”นายก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงเธอ นายรู้ไหมว่าเจ้านายชอบอะไร?”
“ว้าวนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเจอคนที่พูดได้ระยำกว่าฉัน”หานเซี่ยวระเบิดเสียงหัวเราะ”อุ้บ นายเคยเผลอชกหน้าตัวเองบ้างไหมตอนส่องกระจก?”
แครอลคิดว่าหานเซี่ยวจะโกรธกับคำพูดเขาดังนั้นเขาจึงสำลักน้ำลายกับคำพูดไม่คาดคิดนี้ เขาหยุดจากนั้นก็กล่าวอีกครั้ง”ไม่ต้องโกรธไป ฉันแค่พูดความจริง นายก็เหมือนกับฉัน แค่สัตว์เลี้ยงของเธอ ความแตกต่างคือนายมาแทนที่ฉัน หากไม่มีนาย มันก็จะมีเรดสตาร์หรือไวท์สตาร์มาแทนที่นาย”
หานเซี่ยวลูบคางก่อนจะได้พูดสวน เอเมสก็กล่าวขึ้นก่อน
“แบล็คสตาร์ไม่เหมือนแกเขาน่าเชื่อถือกว่าแก”
“โอ้งั้นนายก็ต้องระวังให้มากขึ้นหน่อยละ”แครอลจ้องหานเซี่ยว “ยิ่งเธอไว้ใจ เมื่อนายอยากทิ้งเธอ เธอก็ยิ่งอยากฆ่านาย..ฮี่ๆ นายอาจเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยง แค่ทาสของเธอ”
ชายคนนี้พูดจาหน้าตายจริงๆ..หานเซี่ยวกลอกตาแค่คำพูดแค่นี้ไม่พอจะทำให้เขาโกรธหรอก
จากนั้นแครอลก็มองเอเมสอีกครั้งด้วยความต้องการทางเพที่ชัดเจนขึ้น”เธอรู้อะไรไหม?ฉันเคยไม่มีความกล้าจะเงยหน้าขึ้นมองเธอ แต่ตอนนี้…”
“ฉันไม่สนใจว่าแกคิดอะไร”เอเมสหยุดแครอลจากนั้นก็ยกมือขึ้นและกล่าว”ในเมื่อแกจงใจสบประมาท แกก็คงพร้อมจะรับผลที่ตามมาสินะ”
บูม!
ทันทีที่พูดจบสนามพลังเกรี้ยวกราดก็ระเบิด และพื้นใต้เท้าเธอก็แตกกระจาย สนามพลังมุ่งตรงไปทางแครอล
ครั้งนี้เสียงคำรามสามเสียงดังขึ้น เงาสามร่างรีบขยับมาตรงหน้าแครอล และเพลิงนักสู้หนาก็ลุกจากร่างพวกเขา
ทั้งสามขวางสนามพลังไว้ด้วยพลังของพวกเขา
ทั้งสามคือขุนพลของแดนหลั่งเลืออดหนึ่งในนั้นก็คือมาเลคิธ
ทันใดนั้นคลื่นพลังก็ระเบิดและทหารของแดนหลั่งเลือดทั้งหมดก็กลิ้งลมลง
สามขุนพลถูกส่งลอยออกไปเช่นกันพวกเขาระเบิดคลื่นพลังงานกลางอากาศเพื่อหยุดโมเมนตัม ลอยลงพื้นและจ้องเอเมสอย่างตื่นตัว
มันต้องใช้สามคนเพื่อหยุดการโจมตีสนามพลังง่ายๆของเอเมส
“ตามคาด”สายตาของเอเมสเปลี่ยนไปและอากาศก็เริ่มสั่นสะเทือน
การโจมตีก่อนหน้าแค่การโจมตีพื้นๆและตอนนี้เธอก็กำลังเอาจริง
ฮูม!
สนามพลังแข็งแกร่งกว่าเดิมระเบิดออกมาบดขยี้พื้นและอาคารรอบๆก็เริ่มแตก
เมื่อเห็นแบบนี้หานเซี่ยวก็จำต้องกล้าวไปยืนข้างหน้าเอเมส ปล่อยพลังจักรกลให้อุปกรณ์เฝ้าสังเกตลอยด้านหลังเขาเป็นวงกลม
แสงสีดำปรากฏในปากกระบอกปืนของโล่ลอยฟ้าเล็งใส่ศัตรู หานเซี่ยวแสยะยิ้มและกล่าว”งั้น พวกแกอยากเดี่ยวกับฉันหรืออยากรุมละ?ฉันได้หมดนะ”
ดวงตาของสามขุนพลรวมถึงมาเลคิธเป็นประกาย
แม้จะพูดอย่างนั้นหานเซี่ยวก็รู้ว่าการต่อสู้คงไม่เกิด นี่คือการแสดงอำนาจของแดนหลั่งเลือด ไทแรนด์ย่อมแทรกแซง เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาคือแขก แถม ฮีเบอร์ย่อมไม่ยอมให้เอเมสทำลายงานเลี้ยงของเขา
อย่างไรก็ตามเขายังต้องแสดงจุดยืน เขาไม่อาจเพิกเฉยและปล่อยให้เอเมสเผชิญหน้ากับศัตรูเพียงลำพังได้
เมื่อทุกอย่างกำลังจะปะทุพลังใหม่ก็ยิงขึ้นฟ้า ราวกับจะปกคลุมไปทั่วแดนหลั่งเลือด แม้กระทั่งแสงดาวบนท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะเสียสีของพวกมันและกลายเป็นริบหรี่
บูม!
ไกลออกไปเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้น ดังสนั่นเหมือนเสียงฟ้าร้อง
“เอเมสจะไม่ไว้หน้าฉันเลยงั้นหรอ?!”
ทันทีที่เขาได้ยินเสียงนี้หานเซี่ยวก็รู้สึกขนลุก
โดยไม่รู้ตัวเขานึกถึงตอนเขาไปสวนสัตว์และเจอกับเสียงคำรามของเสือ
เผด็จการฮีเบอร์!