The Legendary Mechanic - ตอนที่ 610 แย่งตัวแบบเปิดเผย

ตอนที่ 610 แย่งตัวแบบเปิดเผย
　　บัลลังก์ทั้งสามลอยอยู่กลางอากาศล้อมฑูตแห่งจักรวรรดิไว้ตรงกลาง
　　“แล้วเราจะได้อะไรหากช่วยคุณ?”
　　หลังไตร่ตรองสักพักออสตินก็เป็นคนแรกที่ตอบสนอง
　　ทุกคนล้วนมีสถานะและแม้กระทั่งฑูตของจักรวรรดิก็ไม่อาจหวังให้พวกเขาทำงานมือเปล่าได้
　　มันไม่มีอะไรมากกว่าฝันหากเขาอยากให้ตัวตนที่เหนือกว่าAมาช่วยเขาโดยไม่ต้องเสนอเงื่อนไขอะไร
　　“เขตแดนใหม่แสดงถึงโอกาสใหม่มีเพียงกระดาษขาวเท่านั้นที่ระบายสีได้ง่าย หากราสามารถแปลงกลุ่มดาวใหม่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของทุ่งดาราใหม่ ใครก็ตามที่อยากขยายเขตแดนจะต้องเข้าสู่อาณาเขตของทุ่งดาราใหม่ ในตอนนั้น ทุ่งดาราใหม่อาจกลายเป็นทุ่งดาราที่มีน้ำหนักเท่าวงแหวนดาวกระจาย ผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ย่อมน่ากลัว”โซเอลอธิบายพลางโบกมือเพื่อเผยแผนที่โฮโลแกรมจากอุปกรณ์สื่อสารเขา
　　มันอยู่นอกขอบเขตของวงแหวนดาวกระจายและพื้นที่ดำมืดไร้การสำรวจก็ถูกทำเครื่องหมายไว้
　　หลังข้ามผ่านแถบอวกาศว่างเปล่าบริเวณที่สว่างปรากฏจากภายในบริเวณมืดของอวกาศ นั่นคือกลุ่มดาวใหม่ที่สหพันธ์แห่งแสงพบ
　　จากเล็กสุดไปใหญ่สุดภูมิภาคของกาแล็กซี่ถูกจำแนกเป็นดาวเคราะห์ เขตดาว ระบบดาว กลุ่มดาว และสุดท้ายก็คือทุ่งดาว
　　จักรวรรดิคริมสันอยากได้รับกลุ่มดาวใหม่นี้ไม่ใช่แค่เพื่อขยายอาณาเขตแต่เพราะมันเป็นหัวสะพานสำหรับการสำรวจในอนาคตจากนั้นจักรวรรดิครัมสันจะสามารถใช้อาณาเขตใหม่นี้เป็นจุดเริ่มต้นการสำรวจของพวกเขาและขยายอาณาเขตต่อไปได้ ภูมิภาคใหม่ทั้งหมดที่พวกเขาพบหลังจากนี้จะเป็นของทุ่งดาราใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิคริมสัน
　　สหพันธ์แห่งแสงควบคุมวงแหวนดาวกระจายและจักรวรรดิก็อยากได้รับทุ่งดาราใหม่ใกล้ๆ พวกเขาไม่เต็มใจแบ่งปันเส้นทางสำรวจนี้ให้สหพันธ์แห่งแสง
　　ขณะที่โซเอลวิเคราะห์ข้อดีและเสียของการหนุนเขาออสตินและเอเมสก็ฟังเงียบๆ
　　สำหรับหานเซี่ยวความสนใจเขาถูกดึงไปยังแผนที่ดาว
　　ไม่ว่าเขาจะมองยังไงเขาก็รู้สึกว่าตำแหน่งของกลุ่มดาวดูคุ้นมาก
　　หลังมองใกล้ๆบางสิ่งก็ลงล็อคในหัวเขาและหานเซี่ยวก็ตื่นตูม
　　พระเจ้าไม่ใช่ว่านั่นคือส่วนหนึ่งของโลกริบหรี่
　　[โลกริบหรี่]คือเนื้อเรื่องหลักของเวอร์ชั่นหลังๆและมันก็เป็นทุ่งดาราใหม่จริงๆ ดดาวนับพันล้านส่องสว่างเพื่อจุดไฟให้จักรวาลมืดมิด
　　การสำรวจทุ่งดาราใหม่ย่อมนำมาซึ่งผลประโยชน์
　　ผู้เล่นทั้งกาแล็กซี่ได้เข้าร่วมภารกิจเนื้อเรื่องหลักนี้เพื่อบุกเบิกการค้นพบทุ่งดาราใหม่ยังมีเผ่าและอารยธรรมนับไม่ถ้วนที่เข้าสู่โลกริบหรี่ นี่กลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ก่อให้เกิดการสับเปลี่ยนขั้วอำนาจครั้งใหญ่
　　กลุ่มดาวใหม่ที่โซเอลแสดงคือส่วนหนึ่งของโลกริบหรี่มันคือปลายของภูเขาน้ำแข็ง
　　ใครจะไปคิดว่าเหตุการณ์ในเวอร์ชั่นถัดมาได้เริ่มคลี่ออกแล้ว?
　　มีการค้นพบเล็กๆอยู่เพื่อสำรวจภูมิภาคใหม่ มันต้องใช้เวลาหลายปี มันยังห่างไกลจากเวอร์ชั่นปัจจุบัน…
　　ในอดีตผู้เล่นได้ทำภารกิจกับองค์กรต่างๆ แต่ครั้งนี้ พวกเขาอาจมีโอกาสเป็นฝ่ายควบคุม อย่างที่ฑูตกล่าว อาณาเขตใหม่หมายถึงโอกาสใหม่ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสให้เขาขยับขึ้นไปบนห่วงโซ่อาหาร
　　แม้กองทัพแบล็คสตาร์จะไม่ทรงพลังพอและยังอยู่ห่างไกลจากองค์กรใหญ่เช่นแดนหลั่งเลือดหานเซี่ยวก็มีข้อได้เปรียบ เขารู้ว่าเรื่องนี้จะพัฒนาไปยังไง
　　หากเขาอยากมีสิทธิ์ควบคุมเขาต้องมีองค์กรที่ทรงพลัง ยิ่งแกแร่ง ผลประโยชน์ก็ยิ่งสูง ตัวเขาเองยังไม่พอ ต้องขอบคุณ ยังเหลืออีกหลายเวอร์ชั่น
　　หานเซี่ยวอดกังวลไม่ได้ขณะไตร่ตรองเงียบๆ
　　การเกิดของโลกริบหรี่หมายถึงสิ่งหนึ่งจักรวรรดิคริมสันจะสำเร็จในตอนท้ายและสามารถแย่งกลุ่มดาวใหม่จากสหพันธ์แห่งแสงได้และเปลี่ยนมันเป็นทุ่งดาวใหม่
　　เมื่อเขาคิดลึกโซเอลก็อธิบายเงื่อนไขเสร็จ สรุปแล้ว จักรวรริดจะให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างลับๆ
　　การสนับสนุนของอารยธรรมจักรวาลเป็นเงื่อนไขที่ดึงดูดมากแม้สหพันธ์แห่งแสงจะควบคุมวงแหวนดาวกระจาย พวกเขาก็แทบไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับองค์กรต่างๆของวงแหวนดาวกระจายและทำเป็นสูงส่ง
　　ออสตินขมวดคิ้วและมีสีหน้าจริงจังเมื่อรวมกับรูปร่างที่ดดูเด็ก มันจึงดูตลกและน่ารักมาก
　　“ผมไม่สนใจเรื่องแบบนี้และก็อยากศึกษาคำสาปที่บ้านดังนั้น ขอโทษด้วย แต่ผมอยากรักษาความเป็นกลาง ผมทำได้แค่รับปากว่าจะไม่ช่วยสหพันธ์แห่งแสง”
　　หลังพิจารณาออสตินก็ให้คำตอบ เขาอยากอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้
　　“ผมเข้าใจ”โซเอลไม่แปลกใจพวกเขาคือตัวตนชั้นสูง ดังนั้นเขาจึงไม่อาจบังคับได้ ผลลัพธ์ที่อีกฝ่ายยอมเป็นกลางนับว่าไม่เลวเกินไป เซเอลสามารถเกลี้ยกล่อมให้ฮีเบอร์ช่วยเขาได้หลังพยายามอย่างมาก เป้าหมายหลักของการประชุมนี้ก็เพื่อแจ้งให้พวกเขารู้จุดยืนของจักรวรรดิและลดจำนวนผู้ช่วยของสหพันธ์แห่งแสง
　　“แล้วเธอละเอเมส?”ฮีเบอร์ถาม
　　เอเมสไม่สนใจเรื่องแบบนี้และกำลังจะพูดดตามออสตินและปฏิเสธแต่เธอกลับหยุดและมองหานเซี่ยว
　　“แบล็คสตาร์นายคิดว่าไง?”
　　“อืม?”
　　หานเซี่ยวกำลังคิดดลึกและเมื่อถูกเรียก เขาก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ
　　หลังเห็นทุกคนจ้องเขาหานเซี่ยวก็ไตร่ตรองสักพัก”จักรวรรดิคริมสันย่อมเชื่อใจได้ ท่านฑูตพูดได้ถูกว่าเรื่องนี้เป็นโอกาส ผมรู้สึกว่าจักรวรรดิคริมสันมีโอกาสทำสำเร็จอย่างน้อย60%”
　　ดวงตาของโซเอลสสว่างและเผยรอยยิ้ม”ถูกต้องแล้ว”
　　หานเซี่ยวตอบกลับ”ดังนั้นฉันรู้สึกว่าเธอไม่ควรรีบปฏิเสธ “
　　เมื่อได้ยินเอเมสก็คิดสักพักและไม่ปฏิเสธโซเอลตรงๆ”งั้นขอคิดก่อน”
　　สีหน้าของทั้งออสตินและฮีเบอร์เปลี่ยนไป
　　ทั้งคู่รู้จักเอเมสมานานและรู้ว่าเอเมสตั้งใจปฏิเสธแต่เธอกลับเปลี่ยนความคิดหลังยินคำแนะนำของหานเซี่ยว
　　ความสำคัญของแบล็คสตาร์ที่มีต่อจักรพรรดินีมังกรเหนือกว่าที่พวกเขาคิด
　　ไม่ใช่แค่อันธพาลรับจ้างแต่เป็นที่ปรึกษา?ออสตินลูบคางและคิดใช่แล้ว ด้วยนิสัยของเอเมส เธอจะต้องมีนักยุทธศาสตร์ที่น่าเชื่อถือหากอยากขยายและแบล็คสตาร์ก็มีความสามารถจริงๆ
　　“แบล็คสตาร์ฉันได้ยินจากมาเลคิธว่าเขาพยายามแย่งตัวนาย แต่ก็ถูกปฏิเสธ”ฮีเบอร์กล่าว
　　หานเซี่ยวพยักหน้า
　　“ฉันแทบไม่เคยชวนใครเป็นครั้งที่สองแต่ฉันอยากถามนายอีกครั้ง”
　　ฮีเบอร์ยื่นแขนออกไปหาหานเซี่ยวและกล่าว”แบล็คสตาร์เข้าร่วมกับฉันซะ”
　　บูม!
　　กลิ่นอายของเอเมสระเบิดออกมาและแรงกดดันมหาศาลก็ขับอกอมา
　　น้ำเสียงเธอเย็นชา
　　“พยายามแย่งคนของฉันต่อหน้าฉันนายไม่ไว้หน้าฉันเลยสินะ?!”
　　แรงกดดันน่ากลัวเข้าโจมตีฮีเบอร์จากทุกทิศทางแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกเลย เขาไม่สนใจเอเมสและจ้องหานเซี่ยว”นายเห็นด้วยหรือไม่?”
　　ใบหน้าหานเซี่ยวเริ่มบิดเบี้ยว
　　พระเจ้าแย่งตัวคนอย่างเปิดเผย เขาเป็นเผด็จการอย่างแท้จริง
　　เขาไม่คิดเลยว่าฮีเบอร์จะเป็นคนเชิญด้วยตัวเองชายคนนี้ไม่สนใจอะไรเลย!
　　“ขอโทษด้วยแต่คำตอบของผมก็เหมือนเดิม”หานเซี่ยวส่ายหัว
　　ฮีเบอร์พยักหน้าและไม่โกรธมันราวกับเขาไม่เคยหยิบยกเรื่องนี้มาพูด
　　เขาชอบคนมีพรสวรรค์แต่ก็ไม่เต็มใจบังคับใคร
　　สนามพลังยังคงขยายและฮีเบอร์ก็หันไปมองเอเมส”ยังไม่หยุดสนามพลังเธออีก?อยากสู้?”
　　เอเมสยังคงไร้อารมณ์เธอแทบไม่สนใจคำแนะนำที่อีซอปแนะนำ
　　ออสตินจำต้องแทรกแซงเขาดีดนิ้วและร่ายคาถาสงบสติใส่เอเมส
　　“เอาละเอาละ นี่ไม่ใช่วันแรกที่รู้จักกัน อย่าทำตัวไร้เหตุผลสิ”