The Legendary Mechanic - ตอนที่ 611 ส
ตอนที่ 611 สู้
หลังร่ายบัฟนับสิบใส่เอเมสความโกรธเธอก็บรรเทา เธอแค่นเสียงและถอนสนามพลังออกมา
ฮีเบอร์ไม่สนใจมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับเอเมส เขาหันไปพยักหน้าให้โซเอล
“งั้นผมก็ควรออกไปแล้วผมหวังว่าจะได้รับผลการพิจารณาของคุณ”โซเอลให้รายละเอียดการติดต่อกับเอเมส ยิ้มและหันเดินออกห้องไป
เมื่อมองฑูตหานเซี่ยวก็ลังเล ฉันควรปล่อยตราใส่โซเอลไหม?มันดูคุ้มนะ
เขาไม่ลืมว่านี่เป็นการประชุมส่วนตัวก่อนเริ่มงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการเมื่องานเลี้ยงเริ่ม ฮีเบอร์ถึงค่อยแนะนำโซเอลให้แขกรู้จัก นั่นจะเป็นเวลาที่สิ่งต่างๆเริ่มทวีความรุนแรง
จักรวรรดิคริมสันไม่ฉวยอาณาเขตด้วยตัวเองเพราะเมื่อพวกเขาลงมือสหพันธ์แห่งแสงย่อมลงมือและความขัดแย้งจะทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากนี่ยังไม่ถึงเวลา จักรวรรดิคริมสันจึงพยายามทำข้อตกลงกับองค์กรของวงแหวนดาวกระจาย
การโยนตราสังเกตจะช่วยให้เขาเห็นว่าจักรวรรดิคริมสันกำลังทำอะไรและมีกี่องค์กรที่เข้าร่วม นี่เป็นข้อมูลล้ำค่ามาก
แต่แม้ตราสังเกตจะแทบไม่ทิ้งร่องรอยไว้และแม้กระทั่งเอเมสก็ยังไม่รู้ตัวแต่ก็ยังมีอีกสองสุดยอด ซึ่งอาจสังเกตเห็น แถม คนของจักรวรรดิคริมสันย่อมมีเทคนิคพิเศษเพื่อป้องกันเรื่องแบบนั้น
อืมฉันจะลองดู ต่อให้ถูกสังเกต มันก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง เขาอยากให้เราอยู่ข้างเขา และเราก็ไม่ใช่ศัตรู
แสงสีเทาเล็กๆฉายผ่านตาเขาและตราสังเกตก็ประทับบนตัวโซเอล
เอเมสและฮีเบอร์ไม่สังเกตเห็นเขา
รวมถึงโซเอลเขาเดินออกห้องและประตูก็ปิดร่างเขาไป
ครั้งนี้หานเซี่ยวพลันตระหนักว่ามีบางคนกำลังมองเขา เขาหันไปและเห็นออสตินกำลังจ้องเขาอยู่
เขารู้?หัวใจหานเซี่ยวเต้นกระหน่ำ
ความสามารถของทุกคนแตกต่างเอเมสและฮีเบอร์ไม่รู้ตัวแต่ออสตินคือจอมเวทญ์ ดังัน้นเขาจึงไวต่อพลังงานทุกชนิด แม้ระลอกพลังงานมิติจะเบาบาง แต่ก็ยังไม่อาจเล็ดรอดสัมผัสเขาได้
แต่ออสตินก็ไม่พูดอะไรเขาแค่ยิ้มให้หานเซี่ยวและมองไปทางอื่น
หานเซี่ยวไม่เข้าใจความหมายเขายังไงก็ตาม มันเป็นเรื่องดี
“หากไม่มีอะไรแล้วฉันจะไปละ”เอเมสรำคาญฮีเบอร์และไม่อยากอยู่
“รอก่อน”ฮีเบอร์พูดขึ้น
“อะไรอีก?”เอเมสขมวดคิ้ว
“ฉันได้ยินว่าเธอกำลังขยายกองกำลังเราสามารถร่วมมือกันได้”ฮีเบอร์ค่อยๆกล่าว
“ร่วมมือกัน?”เอเมสยิ้มหยัน”คิดว่าความสัมพันธ์เราดีขนาดนั้นเลย?”
“ฉันสามารถทำเป็นลืมเรื่องไร้สาระตอนเธอบุกมายังดาวฉันได้”ฮีเบอร์กล่าว
“งั้นก็จำต่อไป”เอเมสไม่อยากเถียงเธอยืนขึ้นและออกไป
หานเซี่ยวจับฮีล่าและออโรร่าตามออกไป
ออสตินหัวเราะลั่น”ฮ่าๆๆฮี่เบอร์ เธอดูไม่ชอบนายมากขึ้นเรื่อยๆนะ”
“ไม่ต้องสนใจ”ฮีเบอร์ไม่สนใจ
“ฉันคิดว่านายกำลังจะขอเธอแต่งงานอีกครั้งซะอีก”
“ลืมมันซะเธอคงไม่ตอบรับเหมือนเดิม”ฮีเบอร์ส่ายหัว
“พวกนายต่างก็มีนิสัยคนละขั้วหากนายอยากได้ตัวเธอ นายก็ต้องลดมันลง”ออสตินกล่าวติดตลก นิสัยเขาง่ายมากและเขาก็มีความสัมพันธ์ดีกับทั้งสอง เขารู้ประวัติการไล่จีบของฮีเบอร์ดี
“ฉันจะไม่เปลี่ยนใจไปเลือกผู้หญิงคนไหน”ฮีเบอร์โบกมือ
เขาไม่แน่วแน่มากเกี่ยวกับเอเมสทั่ววงแหวนดาวกระจาย ฮีเบอร์คิดว่ามีเพียงเอเมสถึงคู่ควรกับเขา มีเพียงเธอถึงแข็งแกร่งพอจะยืนเคียงข้างเขา มันไม่มีองค์กรประกอบของความรักหรืออารมณ์
หากเขาได้ตัวเอเมสองค์กรเขาก็จะมีสองสุดยอด ซึ่งทรงพลังขึ้นมาก
ฮีเบอร์ไม่คิดเสียเวลาเขามักเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่หลีกเลี่ยงการพูดเป้าหมายจริงของการไล่ตื้อเอเมส
ออสตินยังจำได้ตอนฮีเบอร์ขอเอเมสแต่งงานครั้งแรกและเอเมสนั้นโกรธแค่ไหนเขาอยากหัวเราะทุกครั้งที่คิดถึงมัน..
ขณะที่หานเซี่ยวและคนอื่นมาถึงประตูวังแครอลก็ดันเดินผ่านมา
“พวกเธออีกแล้ว”
แครอลไม่มีเจตนายั่วยุและไมสบตากับเอเมสเหมือนครั้งที่แล้วสีหน้าเขาสงบราวกับหานเซี่ยวและคนอื่นแค่คนผ่านมา
เอเมสเหลือบมองเขาแม้เธอจะไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่อาจทำอะไรในอาณาเขตของฮีเบอร์
ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินผ่านกันหานเซี่ยวก็กดไหล่แครอลและคว้าเขาแน่นเหมือนกรงเล็บเหล็ก
แครอลหันมาและถาม”แกกำลังทำอะไร?”
“ฉันจำได้แกบอกว่าฉันมาแทนที่แก?”หานเซี่ยวหรี่ตา”ในเมื่อแกเรียกตัวเอาว่ารุ่นพี่ ก็ช่วยให้คำชี้แนะฉันหน่อยสิ”
สีหน้าแครอลเปลี่ยนไปเขาคิดว่าเหตุการณ์ครั้งก่อนจบลงแล้วซะอีก
เอเมสหยุดด้วยความแปลกใจ
“หมายความว่ายังไง?แกอยากสู้ที่นี่?นี่คือดาวฮีเบอร์!”แครอลกล่าวด้วยท่าทางคุกคาม
“ไม่ต้องห่วงฉันแค่อยากประลองกับแก ฉันอยากดูว่าคนทรยศจะแน่สักแค่ไหน”หานเซี่ยวหัวเราะ”ลูกน้องของฮีเบอร์ไม่กลับยอมรับการท้าทายสินะ?”
“ฉันเข้าใจนี่คือคำสั่งของเอเมสสินะ?”แครอลรู้สึกว่าเขาเดาถูก มันอาจเป็นเพราะเอเมสไม่พอใจกับผลลัพธ์ก่อนหน้า ดังนั้นเธอจึงสั่งให้แบล็คสตาร์มาท้าทายเขา หากมันแค่การประลองระหว่างเจ้าหน้าที่ ฮีเบอร์คงไม่ว่าอะไร
ฮี่ๆเธอมั่นใจในตัวเจ้าหน้าที่คนใหม่นี้มาก?
ใบหน้าของแครอลเปลี่ยนเป็นเย็นชา”ได้ฉันยอมรับ หวังว่าแกจะไม่แพ้เร็วเกินไปละ”
แดนหลั่งเลือดคือเวทีของเขาเขาสามารถใช้เครื่องจักรได้นับไม่ถ้วน ต่อให้ชื่อของแบล็คสตาร์จะโด่งดัง เขาก็ไม่คิดถอย
แครอลได้ยินเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ใหม่ของเอเมสมาเขายังอยากประเมินพลังของหานเซี่ยว เขาอยากดูว่าคนแบบไหนที่เอเมสเอามาแทนที่เขา
แถมตำแหน่งเขายังอ่อนไหวมาก ตอนนี้เขาเป็นตัวแทนของฮีเบอร์ เนื่องจากเอเมสสั่งให้แบล็คสตาร์ท้าทายเขา เขาย่อมถอยไม่ได้ ต่อให้ฮีเบอร์จะสามารถปกป้องเขาได้ แต่เมื่อพิจารณานิสัย เรื่องราวคงไม่ดีนักหากเขากลัวการท้าทาย
แดนหลั่งเลือดดูถูกคนขี้ขลาดเป็นที่สุดพวกที่ไม่คลั่งการต่อสู้ไม่มีทางได้รับตำแหน่งสูงภายใต้ฮีเบอร์
หานเซี่ยวขดปากและกล่าว”เราต่างก็เป็นช่างกลแค่ประลองกันคงไม่สนุก มาพนันกันหน่อยไหมละ?”
“อะไรละ?”
“มาเดิมพัน..พิมพ์เขียวเครื่องจักรห้าชุดเป็นไง?ผู้แพ้จะต้องให้พิมพ์เขียวอะไรก็ตามที่ผู้ชนะร้องขอ”หานเซี่ยวยิ้มชั่วร้าย
เดิมพันพิมพ์เขียว…แครอลขมวดคิ้วแน่นพิมพ์เขียวคือเส้นชีวิตของช่างกล ดังนั้นการเดิมพันพิมพ์เขียวจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
“ตกลง”แครอลพยักหน้า
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
มีหลายปัจจัยทำให้เขาท้าทายแครอล
เอเมสไม่อาจสู้ได้แต่เขาสามารถการทำตัวโดดเด่นและแสดงความสามารถย่อมช่วยเพิ่มตำแหน่งเขาในแวดวงนี้ แถ มมันยังช่วยคลายความโกรธของเอเมสได้
หากฮีเบอร์เข้ามาแทรกแซงมันย่อมน่าอับอาย
สองเขาคอยจับตามอแครอลมาตลอดและรู้คร่าวๆถึงพลัง รู้ว่าศัตรูไม่มีทางเอาชนะเขาได้ แถม เขายังสังเกตเห็นว่าแครอลมีเครื่องจักรดีๆมาก ดังนั้นเขาจึงเสนอเดิมพันด้วยพิมพ์เขียว
เขาไม่เคยต่อสู้โดยไร้ผลประโยชน์
สามและสำคัญสุดคือภารกิจกองกำลังใหม่ที่ปรากฏบนจอเขา
[ความโกรธของเอเมส]
คำแนะนำภารกิจ: การยั่วยุของคนทรยศและการไม่เคารพของฮีเบอร์ทำให้เอเมสโกรธ ในฐานะสมาชิกของเกาะมังกร ท่านรู้ว่าต้องทำอะไร
ข้อกำหนดภารกิจ: เอาชนะแครอลต่อสาธารณะ
รางวัล: ค่าประสบการณ์15ล้าน +2500ความโปรดปรานกองกำลังเกาะมังกร +30ความโปรดปรานเอเมส +2ความโปรดปรานฮีเบอร์ +15ชื่อเสียง
การลงโทษกรณีล้มเหลว: -20ความโปรดปรานเอเมส –5ความโปรดปรานฮีเบอร์
หมายเหตุ: ผลลัพธ์ภารกิจที่แตกต่างกันจะส่งผลให้ลักษณะต่างกัน