The Legendary Mechanic - ตอนที่ 612 ต่อสู้ด้วยทรัพยากร
ตอนที่ 612 ต่อสู้ด้วยทรัพยากร?
“ที่นี่แหละ”แครอลพาคนอื่นไปสนามฝึกรบกลางแจ้งหมายเลข30และยืนตรงข้ามหานเซี่ยวจากนั้นก็ทิ้งระยยะห่างไกลจนหานเซี่ยวกลายเป็นจุดเล็กๆในสายตาเขา
หานเซี่ยวมองรอบๆสนามฝึกนี้ว่างเปล่าและไร้สิ่งกีดขวาง รอบขอบมันมีหอคอยกลไกสูงที่เชื่อมต่อกันด้วยสายแม่เหล็กไฟฟ้าอุณหภูมิสูงหลายเส้น มันดูเหมือนสนามเบสบอลแห่งอนาคต แต่ใหญ่กว่าหลายเท่า
พื้นทำจากแผ่นโลหะเทารอยไหม้จากการระเบิดและรอยฟันสามารถเห็นได้ทั่ว แถมยังมีหลุมด้วย
“ในอาณาเขตฉันแกต้องทำตามกฏฉัน”แครอลกล่าวขึ้น”อย่างแรก พื้นที่ต่อสู้จะจำกัดอยู่ที่สนามฝึกนี้ หากแกสร้างความเสียหายไปด้านนอก แกจะต้องรับผลที่ตามมา สอง ไม่อาจทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสได้ ดังนั้น ไม่ต้องห่วง ชีวิตแกจะไม่เป็นอันตรายย”
เมื่อแครอลพูดเขาก็เปิดใช้งานสนามฝึก พื้นสั่นสะเทือน หลุมปรากฏขึ้นจากพื้นโลหะและทหารจักรกลก็ผุดขึ้นทีละตัวรอบแครอล
ฮึม!
หอคอยจักรกลขอบสนามฝึกสั่นลำแสงยิงออกจากยอดหอคอยย รวมตัวกันด้านบน ก่เป็นภาพฉายจับเวลา3นาที
แครอลยิ้ม”อย่าหาว่าฉันรังแกละก่อนเราเริ่ม แกมีเวลาเตรียมตัวสามนาที หลัวสมนาที สถานที่นี้จะปกคลุมด้วยม่านพลัง”
แบล็คสตาร์คือแขกเขาย่อมไม่นำเครื่องจักรต่อสู้มามาก และพวกมันอาจถูกเก็บไว้ในยานเขา ด้วยการให้เวลาเขาสามนาที หลังม่านพลังปกคลุม แบล็คสตาร์ย่อมไม่อาจได้รับการสนับสนุนจากภายนอกและสามารถต่อสู้ได้ด้วยเครื่องจักรที่มีติดตัวเท่านั้น
สำหรับแครอลเขามีกองทัพสนับสนุนเพราะสนามฝึกนี้มีเครื่องจักรมากมายด้านหลังเพื่อปล่อยให้คนฝึก มีหลายเส้นทางที่ใช้ลำเลียงทหารจักรกลซ่อนอยู่ใต้แผ่นโลหะบนพื้น เชื่อมกับคลังใต้ดิน นี่หมายความว่าแครอลจะมีกองทัพไม่มีวันหมด
แครอลรู้ว่าการต่อสู้ระหว่างสองช่างกลย่อมกลายเป็นการต่อสู้ของทรัพยากรแบล็คสตาร์มีทรัพยากรจำกัด ส่วนเขามีไม่จำกัด ดังนั้นเขาจึงถือว่าไร้พ่าย
ม่านพลังโปร่งใสมันเป็นโอกาสที่เขาจะทำให้แบล็คสตาร์อับอาย
เขายังเห็นจุดจบของการต่อสู้เครื่องจักรของแบล็คสตาร์หมด เศษโลหะกระจายไปทั่ว แบล็คสตาร์ถูกล้อมด้วยกองทัพเขาและเขาก็สามารถกดแบล็คสตาร์ลงมาได้ ทำให้แบล็คสตาร์ยอมรับความพ่ายแพ้
เอเมสอยากให้ลูกน้องเธอระบายความโกรธเธอดังนั้นการเอาชนะลูกน้องเธอย่อมทำให้เธออับอายมากขึ้น
นอกจากนี้เขายังไม่ปิดบังความได้เปรียบเขา หากแบล็คสตาร์ขี้ขลาดและยกเลิกการท้าทาย เอเมสก็ยังเสียหน้าเช่นกัน
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเขาคือผู้ได้รับผลประโยชน์
แครอลยิ้มอย่างมั่นใจ
อีกด้านหานเซี่ยวไม่แปลกใจกับเวทีของแครอลเลย เขาติดต่อริสด้าและบอกให้นำยานแสงทมิฬมา ทิ้งกล่องกองทัพให้เขา
เอเมสยังยืนข้างเขา”แบล็คสตาร์นายมั่นใจไหม?”
“นิดหนึ่ง”หานเซี่ยวตอบ
“งั้นฉันก็เชื่อใจนาย”
น้ำเสียงของเอเมสอ่อนโยนเหมือนลมแม้หานเซี่ยวจะทำให้เธอประหลาดใจ มันก็ชัดเจนว่าหานเซี่ยวทำเพื่อเธอ เธอกลับมีความสุขโดยไม่รู้ตัว
เธอมักเชื่อใจหานเซี่ยวมากและนี่ก็ไม่เว้น เธอตบไหล่หานเซี่ยวและพาฮีล่ากับออโรร่าออกไป ขึ้นไปบนตึกสูงข้างสนามฝึกและเฝ้าดูจากด้านบน
รอบสนามฝึกมีคนปีนขึ้นบนตึกเพื่อดูการต่อสู้มากขึ้น มีหลายร้อย ทั้งคนของแดนหลั่งเลือด มาเลคิธและเหล่าขุนพลก็ยังรวมอยู่ด้วย
การต่อสู้ระหว่างแครอลและแบล็คสตาร์ไม่ใช่ความลับข้อความกระจายไปอย่างรวดเร็ว พวกเขามาเพื่อดูการต่อสู้
“แบล็คสตาร์กล้ามากที่มาท้าทายในอาณาเขตเรา”ขุนพลกล่าว
“เขาท้าทายแครอลเพราะเขาคือคนทรยศของเกาะมังกร?”
“ต้องใช่แน่ไม่กี่วันก่อน เอเมสถูกท่านฮีเบอร์บังคับให้จำยอม เธออาจไม่พอใจ ดังนั้นจึงให้แบล็คสตร์มาสู้แทนเธอ ฮี่ๆ”บางคนมองเอเมสและคาดเดา”บางทีเอเมสคงหยุดการต่อสู้เมื่อลูกน้องเธอตกอยู่ในอันตราย”
“พลังของแครอลจิ๊..”มาเลคิธส่ายหัวเล็กน้อย
ความประทับใจที่ขุนพลมีต่อแครอลซับซ้อนมากด้านหนึ่ง เขาคือคนทรยศ แม้ฮีเบอร์จะมั่นใจมาก การเป็นคนทรยศก็ทำให้คนอื่นไม่อยากสนิทกับเขา
อีกด้านแครอลรับผิดชอบด้านโลจิสและแทบไม่มีโอกาสได้สู้ ไม่เหมือนพวกเขา เหล่าขุนพลที่เป็นสัญลักษณ์ของแดนหลั่งเลือด มาเลคิธและคนอื่นไม่รู้ถึงพลังของแครอลดี ทั้งหมดที่พวกเขารู้คือเขาก็เป็นเกรดA
“ยังไงเขาก็อยู่ในตำแหน่งได้เปรียบเขาย่อมไม่แพ้”
…
ในวังฮีเบอร์ยังคุยกับออสติน
ครั้งนี้สีหน้าออสตินพลันเปลี่ยนไป และกล่าวด้วยน้ำเสียยงแปลกๆ”ฮีเบอร์ ดูเหมือนจะมีปัญหาในอาณาเขตนายนะ”
ฮีเบอร์ขมวดคิ้วนำเอาอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา กดไม่กี่ครั้งและได้รับรายงาน
“แบล็คสตาร์ท้าแครอล?”
ออสตินร่ายคาถาและเกิดระลอกมิติขึ้น กระจกใหญ่ปรากฏ แสดงฉากของสนามฝึก
“ดูเหมือนพวกเขากำลังจะสู้กันนายไม่คิดหยุดงั้นหรอ?”ออสตินถาม
ฮีเบอร์มองกระจกคิดสักพักและส่ายหัว”ในเมื่อเอเมสไม่ยุ่ง ฉันก็ไม่มีเหตุผลไปหยุดการประลองทั่วไป”
“แล้วหากคนของนายแพ้ละ?”
“แดนหลั่งเลือดของฉันไม่ใช่พวกไม่ยอมรับความพ่ายแพ้”ฮีเบอร์ชี้กระจก”ดูต่อไป”
…
ในเวลาเดียวกันแขกสามฝ่ายก็ตามทหารแดนหลั่งเลือดมาเดินชมดาว
ตัวแทนของอารยธรรมผลึกม่วงราล์ฟกำลังเดินข้างกับคนของเคล็นท์และคุยกัน ความสัมพันธ์ระหว่างผลึกม่วงและเคล็นท์มักเป็นไปด้วยดี
ด้านหลังพวกเขาหัวหน้าของกลุ่มการเงินตามมา ชื่อเขาคือโรซอสซี่ ธุรกิจเขาใหญ่โตและลงทุนทั้งสองกลุ่มดาว เขาถือได้ว่าเป็นเพื่อนของพวกราล์ฟ
ทั้งสามคุยกันเรื่องธุรกิจเมื่อกลุ่มคนบินผ่านพวกเขา พวกเขาก็ถูกคว้าความสนใจ
“คนเหล่านี้กำลังไปไหน?”ราล์ฟถามอย่างอยากรู้
ทหารส่ายหัวและกล่าว”ผมไม่รู้พวกเขาดูเหมือนกำลังไปสนามฝึกหมายเลข30”
เมื่อเขาพูดจบคนอีกกลุ่มก็พุ่งผ่านพวกเขาและยานอวกาศสีดำก็บินผ่านมา
ทั้งสามเป็นคนมีความรู้พวกเขาจำได้ว่ายานนั่นคือยานของสหพันธ์แห่งแสง และในบรรดาแขก มีเพียงคนเดียวที่มียานนั้น
แบล็คสตาร์!
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเคล็นท์พลันสนใจ”ดูเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นไปดูกัน”
ราล์ฟยักไหล่
…
เมื่อเวลานับถอยหลังอยู่ประมาณนาทีครึ่งยานแสงทมิฬก็มาถึงด้านบน กล่องกองทัพหกกล่องตกลงมาเหมือนอุกกาบาต ลากเป็นหางไฟยาว
หานเซี่ยวยกมือขึ้นฟ้าและสายฟ้าทรงต้นไม้ก็ยิงขึ้นฟ้าจากพื้น ชนเข้ากับกล่องกองทัพทั้งหก พวกมันเปิดกลางอากาศและบอลบีบอัดก็ตกลงมาเหมือนฝน
เกร๊ง
วินาทีที่พวกมันตกถึงพื้นบอลบีบอัดก็ขยายและเปลี่ยนเป็นอกงทัพจักรกลหกกองทัพ
กองทัพอสูรจักรกลกองทัพป้อมปืน กองทัพเหล็กG1 ไรเดอร์เกราะหนักG2 และกองทัพลูกบาศก์
ผู้รักษาสัจจะทั้ง12ยืนรอบหานเซี่ยวเกราะนอกพวกมันขยับจากหัวจรดเท้า กำลังทำการตรวจสอบตนเอง
ป้อมปืนทั้งหมดปักหลักอยู่ด้านหลังเขาหรือลอยในอากาศนอกจากป้อมปืนแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วไปและป้อมปืนเลเซอร์ ยังมีป้อมปืนลาวาและป้อมปืนความร้อน
จำนวนกองทัพสูงเล็กน้อย
แครอลประหลาดใจ
แต่เขาก็ยังมั่นใจมาก
กองทัพของแบล็คสตาร์แค่ส่วนน้อยบนสนามฝึกส่วนกองทัพเขามีจำนวนมากกว่าและยึดเกือบครึ่งสนาม
และมันยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีประตูขนส่งเครื่องจักรตรงขอบสนามทหารจักรกลมาตรฐานคลานออกมาทีละตัว ล้อมกองทัพแบล็คสตาร์ไว้
ด้วยกำลังหนุนไร้สิ้นสุดนี่จึงเป็นแหล่งความมั่นใจของแครอล
เครื่องจักรมากนักแบล็คสตาร์ต้องใช้เงินไปมากแน่
เจตนาชั่วร้ายฉายผ่านตาของแครอล
หากฉันทำลายกองทัพเขาจนหมดพลังของแบล็คสตาร์ย่อมลดลง
ขบวนรบก่อตัวเนื่องจากจะมีม่านพลัง หานเซี่ยวจึงไม่ใช้เนตรพระเจ้า เขาตรวจสอบผ่านเครื่องจักร เหลือเวลาประมาณสิบวินาที
บูม!
หอคอยจักรกลตรงขอบสนามทำงานม่านพลังสีฟ้าอ่อนค่อยๆก่อตัวรอบสนามฝึก
เพดานสูงกว่าร้อยเมตรเมื่อม่านพลังปิดตัว เวลานับถอยหลังก็หมดลง
สไตล์เทคโนโลยีและรูปแบบเครื่องจักรของแครอลล้วนต่างจากหานเซี่ยว ส่วนใหญ่เป็นแค่เครื่องจักรมาตรฐาน
บูซ!
ทั้งสองปล่อยพลังจักรกลพร้อมกันสายฟ้าคำราม ช่างกลเกรดภัยพิบัติล้วนมีความสามารถสนามพลังจักรกล ซึ่งทำให้พลังจักรกลปกคลุมไปด้วย
หลังผ่านไปนานในที่สุดฉันก็ได้เจอช่างกลระดับเดียวกัน หานเซี่ยวหรี่ตา นี่คือครั้งแรกที่เขาได้สู้กับช่างกลระดับเดียวกัน
ลิงคลั่งคลุมรอบตัวเขาและหน้าจอเสมือนก็ปรากฏตรงหน้าแสดงภาพการ
บุกรุกเสมือน
แครอลไม่ใช่ช่างกลเสมือนเขาสวมชุดจักรกลเดี่ยว ชิ้นส่วนเกราะขยายจากเกราะเขาและเปลี่ยนเป็นป้อมปราการหนาสูง30เมตร คลุมแครอลไว้จากทุกมุม เกราะหนาหนักนี่คือความสามารถการป้องกันที่เขาภูมิใจ
จากช่องว่างระหว่างป้อมมีปืนใหญ่มากมายยื่นออกมา
แครอลใช้รูปแบบเครื่องจักรหนักเกราะหนา ใหญ่ พลังยิงสูง..นี่คือความถนัดของเขา แครอลอยากใช้จุดแข็งเขาในการต่อสู้ของทรัพยากร ดังนั้นเขาจึงขังตัวเองในกระดองเต่า
เขาไม่ใช่หานเซี่ยวเขาไม่มีร่างกายอึดทนและกลัวศัตรูเข้าใกล้ ดังนั้น เขาจึงใช้กลยุทธ์ป้องกันและวางแผนไม่ให้หานเซี่ยวแตะตัวเขาได้
“ฉลาดมาก”มาเลคิธและคนอื่นพยักหน้าพวกเขาไม่คิดว่าแครอลขี้ขลาด นี่คือกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์
เมื่อป้อมปราการของแครอลขยายจนเต็มม่านพลังก็ปิดตัวโดยสมบูรณ์และเวลานับถอยหลังก็หมดลง!
บูม!
วินาทีถัดมาเลเซอร์และปืนใหญ่ก็สำแดงอำนาจพวกมัน!
การต่อสู้ปะทุขึ้น!
กองทัพจักรกลของหานเซี่ยวปะทะกับของแครอล!
บูมบูม บูม!
กองทัพปะทะกันอย่างดุเดือด
เครื่องจักรไม่อาจพูดดังนั้นพวกมันจึงสู้กันเงียบๆ โลหะปะทะโลหะ สร้างเป็นประกายไฟ
บูม!
ปืนใหญ่บนป้อมของแครอลล็อคเป้าหานเซี่ยวและยิงทุกนัดจะทำให้ปากกระบอกปืนหดตัว เสียงของการยิงเหมือนค้อนทุบบนโลหะ
ฮู่!
บอลแสงขนาดใหญ่พุ่งตรงใส่หานเซี่ยวและอุณหภูมิสูงก็ทำให้อากาศรอบพวกเขาบิดเบือน
ขณะที่พวกมันกำลังจะถึงตัวหานเซี่ยวอุปกรณ์เฝ้าสังเกตก็ปรากฏเหมือนนกยูงเปิดขนมัน มันปรากฏด้านหลังหานเซี่ยวและบินมาตรงหน้าเขา เปลี่ยนเป็นสนามพลัง การโจมตีไม่ระเบิดเมื่อกระทบกับม่านพลังแต่กลับถูกเบี่ยงไปทางอื่ น
ปังปัง ปัง!
กระสุนทั้งหมดถูกเบี่ยงบางนัดยังลอยไปไกล ชนกับม่านพลังและระเบิด บางอันตกใส่พื้น เกิดเป็นลมแรง ทำลายจักรกลของทั้งสองฝ่าย
หานเซี่ยวเหลือบมองเขากำหมัด พลังจักรกลปกคลุมอะไหล่บนพื้น [การดัดแปลงของเสีย]ได้คืนชีพทหารจักรกล ช่วยวให้พวกมันสู้ต่อไปได้
เมื่อเห็นแครอลก็หยุดโจมตีหานเซี่ยว ป้อมปราการหนักของเขาเริ่มยิงไปยังกองทัพจักรกลของหานเซี่ยว อยากกำจัดกองทัพเขา
“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”หานเซี่ยวแค่นเสียง
บูซ!
เขายกมือท่อบนแขนเขายิงบอลบีบอัดออกมา พวกมันขยายกลางอากาศและเปลี่ยนเป็นแขนจักรกลขนาดใหญ่นับสิบ วินาทีถัดมา แขนจักรกลก็ผสานรวมกันและเปลี่ยนเป็นฝ่ามือกว้างร้อยเมตร ซึ่งใหญ่กว่าป้อมปราการหนักของแครอลถึงสามเท่า!
หานเซี่ยวโดบกมือฝ่ามือยักษ์ตบลงใส่ด้านบนของป้อมปราการ เหมือนฝ่ามือกำลังตบลูกปิงปอง
บูม!
ลมแรงพัดทหารจักรกลรอบๆออกมาแม้จะอยู่นอกม่านพลัง พวกมาเลคิธและคนอื่นก็ยังรู้สึกได้
พื้นโลหะแตกเปิดจากแรงกดดันหนักแต่ป้อมปราการหนักกลับถูกปกคลุมด้วยม่านพลังและได้รับความเสียหายหนัก
ภายในป้อมปราการแครอลหัวเราะเยาะ ป้อมปราการไม่ใช่สิ่งธรรมดาแต่เป็นอุปกรณ์สำคัญของเขา มันสามารถกันการโจมตีระดับภัยพิบัติได้
ครั้งนี้แครอลรู้สึกว่าป้อมปราการเริ่มสั่น
นิ้วของฝ่ามือยักษ์เริ่มงอและดึงป้อมปราการออกจากพื้นเหมือนกำลังขว้างลูกเบสบอล มันเหวี่ยงและส่งป้อมปราการลอยออกไปไกล กระแทกกับม่านพลังอย่างแรงและสร้างประกายไฟขึ้น
บูม!
ทหารแดนหลั่งเลือดทางนั้นเกือบล้มเหลวเมื่อเห็นก้อนโลหะหนาลอยมาทางพวกเขา
ป้อมปราการหนักกลิ้งและกระแทกกับพื้นทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน แต่ทว่าม่านพลังก็ยังขวางป้อมปราการไว้ ความเสียหายมันเล็กน้อย มีเพียงแครอล ผู้อยู่ภายในถึงเจ็บจากการกระแทก
มาเลคิธเห็นและวิเคราะห์”การป้องกันของแครอลแข็งแกร่งมากแบล็คสตาร์ดูเหมือนจะไม่สามารถทำลายเกราะของแครอลได้ ดูเหมือนการต่อสู้นี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของแครอลและเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ของทรัพยากรโดยสมบูรณ์ นั่นคือจุดอ่อนร้ายแรงของแบล็คสตาร์”