The Legendary Mechanic - ตอนที่ 625 ชนเผ่าที่แข็งแกร่งสุด ปล่อยอาวุธชีวภาพ
ตอนที่ 625 ชนเผ่าที่แข็งแกร่งสุด ปล่อยอาวุธชีวภาพ
“ในเมื่อชาวซันนิลเชื่อว่าอสูรใต้ดินต้องถูกกำจัดคุณก็ต้องจ่ายเงิน”หานเซี่ยวแกว่งนิ้ว”ผมขอเตือนคุณ อสูรใต้ดินตอนนี้คือเชลยและสินสงครามเรา หากคุณอยากให้ผมละทิ้งสินสงคราม คุณก็ต้องจ่าย”
เขาสงสัยมานานเลยวว่าชาวซันนิลไม่อาจจ่ายได้อีกซึ่งช่วยให้เขาใช้สิ่งนี้เป็นรูปแบบของการปฏิเสธ
ตอนนี้ที่พวกเขาตัดสินใจอพยพอสูรใต้ดินมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแผนเป็นการสังหารพวกมัน ไม่อย่างนั้นมันเท่ากับการหลอกเฟย์ดิน เด็กชายที่ถูกเลี้ยงโดยเทพแห่งโชคชะตาย่อมโกรธ และความโปรดปรานเขาย่อมลดลง
นอกจากนี้การกลับคำพูดจะทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพแบล็คสตาร์ในใจผู้เล่นลดลง
สีหน้าโอติสสลับกันระหว่างขาวและเขียวเขาปราถนาที่จะกำจัดอสูรใต้ดินมาก แต่เขาไม่เต็มใจจ่ายเงิน
“สถานการณ์ทางการเงินเราไม่สู้ดีนักเราใช้เงินเก็บไปมากเพื่อจ้างคุณสำหรับภารกิจนี้ คนของเราทนทุกข์และต้องไม่มีความเสี่ยงอีก เนื่องจากมันง่ายเท่ากับการยกมือคุณ..”
โอติสไม่ยอมแพ้ในฐานะมือขวาของผู้นำซันนิล เขาคือเขตกันชนสำหรับการสื่อสารระหว่างสองฝ่าย แม้เขาจะเห็นความหมายของคำพูดหานเซี่ยว เขาก็ยังแสร้งทำเป็นไม่เขาใจและพยายามบังคับเขา
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็หมดความอดทนและรอยยิ้มเขาก็หายไป”การเงินคุณไม่สู้ดี?อย่าลืมว่า หากมันไม่ใช่ส่วนลดที่ผมมอบให้ คุณคงไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อจ้างผมได้”
โอติสตื่นตกใจ
“ชะตากรรมของซันนิลเกี่ยวกับผมยังไง?หากไม่ใช่เพราะเฮอลัสคุณคิดว่าผมจะสนใจชีวิตและความตายของพวกคุณงั้นหรอ?”
คำพูดติดอยู่ในคอของโอติสสถานการณ์ปัจจุบันต้องยกความดีให้เฮอลัสและเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้
ดวงตาของหานเซี่ยวเปลี่ยนไปและออกคำเตือน”อย่าทำให้ความเมตตาที่ผมมีหายไป”
นี่คือคำเตือน
บรรยากาศเปลี่ยนไป
“คุณ..คุณเข้าใจผิด..”โอติสรีบอธิบายปากเขาสั่นและฝ่ามือก็หลั่งเหงื่อเย็น เขาไม่กล้าขัดหานเซี่ยว
“ผมไม่อยากได้ยินคำแนะนำในการทำลายทั้งเผ่าอีก”หานเซี่ยวโบกมือ”ซิลเวียพาเขาออกไป”
ประตูเปิดและซิลเวียก็ยืนอยู่ด้วยสีหน้าเฉยเมย
“โปรดตามฉันมา”
“ท่านแบล็คสตาร์ท่านเข้าใจผิดแล้ว…”
เมื่อเห็ฯสีหน้าไม่แยแสของหานเซี่ยวโอติสก็ทำได้แค่กัดลิ้น ไม่กล้าอธิบายอีก เขาตามหลังซิลเวียไป รวบรวมความกล้าเพื่อกล่าวอำลาตอนอยู่หน้าประตู
“ผมขออภัยที่มารบกวนท่าน”
“อืม”หานเซี่ยวโบกมือเมื่อเห็นโอติสออกไป เขาก็อดเยาะเย้ยไม่ได้
“ฝันหวานนักไม่เต็มใจจ่ายเงินแต่อยากเห็นคนเล่นบทคนร้าย?ไม่มีใครยอมรับข้อตกลงนี้หรอก”
เพราะนี่เป็นการประชุมส่วนตัวหานเซี่ยวจึงไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ปัจจุบัน ชาวซันนิลร้องขอความช่วยเหลือเขา ซึ่งทำให้พวกเขาไม่พยายามทำอะไรล้ำเส้น แต่เขาก้ไม่หวังอะไรกับรัฐบาลพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเขาทำตามข้อกำหนดและเงื่อนไข เขาไม่สนใจว่าพวกเขาจะมองเขายังไง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็นำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาและติดต่อกลุ่มการเงินทั้งสอง
เนื่องจากภารกิจผ่านมากว่าครึ่งทางแล้วมันจึงถึงเวลาเริ่มแผนอพยพ การย้ายอสูรใต้ดิน2-3พันล้านไม่ใช่งานง่าย และก็ต้องใช้ยานอวกาศจำนวนมาก ดังนั้น มันง่ายกว่าที่จะใช้อิทธิพลของกลุ่มการเงิน
…
รัง77เป็นชนเผ่าอสูรใต้ดินขนาดใหญ่สุดนี่คือเป้าหมายใหม่ของทีมเจรจา
ตามสถิติที่จัดทำโดยเรดาห์รัง77มีประชากรประมาณ30-40ล้าน เฮอลัสไม่กล้ากระทำการอุกอาจและทำได้แค่ใช้วิธีเดิมเพื่อให้เผ่าต้นกำเนิดเจรจาและพยายามโน้มน้าว
หัวหน้าเผ่าต้นกำเนิดนำคนของเขาเข้าใกล้รัง77พวกเขาพบยามที่หยุดพวกเขาไว้
หลังแสดงเจตนาเผ่าต้นกำเนิดก็สร้างการเชื่อมโยงจิต เชื่อมต่อกันผู้นำของรัง77
“ฉันคือต้นกำเนิดฑูตของแบล็คสตาร์”
“ฉันคือซูลูซูลู ผู้นำของเผ่าหินใหม่ เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้สื่อสารกับคุณ”อีกฝ่ายตอบอย่างเป็นมิตร
ต้นกำเนิดตื่นเต้น”เยี่ยมเลยพวกนายก็มีชื่อเหมือนกัน!”
หลังโน้มน้าวมาหลายเผ่านี่คือเผ่าแรกที่มีชื่อ
ซูลูซูลูเองก็มีความสุข”เราเดาถูกโลกยังมีเผ่าอื่นคล้ายกับเรา”
แม้จะมีหลายชนเผ่าภายในสายพันธ์อสูรใต้ดินความก้าวหน้าของชนเผ่าหินใหม่ก็ล้ำกว่าใคร แต่เผ่าต้นกำเนิดไม่เข้าใจความหมายภายในคำพูดของผู้นำหินใหม่ ทั้งสองเริ่มสนทนากัน
ซูลูซูลูเริ่มอธิบายประวัติของเผ่าเขา
“สถานที่นี้มีสี่รังภายใต้การนำของบรรพบุรุษเรา เราสู้กับเผ่าอื่นอย่างดุเอด ในที่สุดก็สามารถผนวกส่วนที่เหลือและรวมกันเป็นชนเผ่าหินใหม่ได้ นี่คือสถานที่ที่เราอาศัยอยู่ แต่เรามักเชื่อว่ามีสายพันธ์อื่นเหมือนกับเราในโลกนี้ วันนี้ ในที่สุดเราก็ได้พบกับพี่น้องเรา นี่คือการค้นพบครั้งใหญ่…”
ซูลูซูลูตื่นเต้นมาก
ผู้นำต้นกำเนิดฟังเหมือนคนเมาหรือโง่นี่คือครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องเล่า หากหานเซี่ยวอยู่ เขาย่อมรู้ทันทีว่าอารยธรรมของเผ่าหินใหม่มาถึงระดับใหม่แล้ว ด้วยแนวคิดของประวัติศาสตร์ พวกเขารู้วิธีบันทึกการกระทำในอดีต ส่งมอบมรดกและความคิด มันถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นสายพันธ์ทรงสติปัญญา
หากปล่อยไปเผ่าหินใหม่ย่อมมีโอกาสรวมเผ่าอสูรใต้ดินไว้ได้
เมื่อมันถึงคราวผู้นำต้นกำเนิดพูดเขาก็ไม่ลืมสิ่งที่หานเซี่ยวบอกเขาและถ่ายทอดความหมายของการยอมจำนนแทนการต่อสู้ รวมถึงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับจักรวาล
อย่างไรก็ตามไม่เพียงซูลูจะไม่กลัว เขายังโกรธ”นี่คือบ้านเกิดของเรา เราจะไม่จากไปไหน!”
ข่าวที่ผู้นำต้นกำเนิดนำมาเหนือกว่าความคิดของซูลูแต่ เผ่าหินใหม่พวกเขาได้พัฒนาจิตสำนึกรักบ้านเกิดแล้ว ต่อหน้าการสังหารหมู่ เขายังเลือกต่อต้าน
ภายในเครือข่ายจิตสมาชิกเผ่าหินใหม่แสดงความสามัคคีต่อศัตรู เรื่องนี้ทำให้เผ่าต้นกำเนิดตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมสมาชิกเผ่าหินใหม่ถึงโกรธเพราะพวกเขายังไม่เข้าใจแนวคิดเรื่องความเกลียดชัง
“ฑูตแห่งแบล็คสตาร์เราขอบคุณสำหรับเจตนาดี แต่เราตัดสินใจต่อต้านจนถึงที่สุด!”ทัศนคติของซูลูซูลูนั้นมั่นคง
เรื่องนี้บทบาทสะเทือนใจของหานเซี่ยวนั้นสำคัญ สำหรับพวกอสูรใต้ดิน เขาอยู่ฝ่ายดี ช่วยพวกเขาจากเงื้อมมืออันชั่วร้ายของซันนิล ในฐานะฑูตของแบล็คสตาร์ เผ่าต้นกำเนิดมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความอยู่รอดและได้ยึดถือเป็นภารกิจของชนเผ่า ดังนั้น ซูลูจึงไม่โกรธเผ่าต้นกำเนิด แต่แค่ส่งพวกเขาออกจากเผ่าหินใหม่
เมื่อกลับค่ายชั่วคราวผู้นำต้นกำเนิดก็เล่าว่าชนเผ่าหินใหม่ไม่มีเจตนายอมจำนน
เฮอลัสไม่มีทางเลือกนอกจากนำทัพต่อต้านเผ่าหินใหม่ศัตรู30-40ล้านนับว่ามาก มากกว่ากองกำลังพวกเขานับร้อยเท่า
แต่อีกการต่อสู้ก็เกิดขึ้นทหารกล้าซันนิลและผู้เล่นทำสิ่งนี้มานานจนชาด้านแล้ว ความแตกต่างคือการต่อสู้นี้รุนแรงกว่าเผ่าก่อนหน้าทั้งหมด
…
ตึงตึง ตึง!
เหล็กแผ่นรีบร้อนเจาะผ่านเปลือกอสูรใต้ดินเลือดกระจายเหมือนดอกไม้สีแดงฝบานสะพรั่ง อสูรใต้ดินนับไม่ถ้วนล้มลง แต่จำนวนของเผ่าหินใหม่ก็ดูเหมือนไร้สิ้นสุด
ทีมซันนิลรับผิดชอบแนวป้องกันนี้นิ้วพวกเขาพันรอบไกปืนแน่น เทกล่องกระสุนกันไม่หยุด พื้นด้านล่างพวกเขาเต็มไปด้วยปลอกโลหะเปล่า
เมื่อมาถึงจุดนี้อสูรใต้ดินชั้นสูง ขนาดใหญ่กว่าปกติสองหรือสามเท่าก็ปรกาฏในพื้นที่ที่ทีมนี้รับผิดชอบ มันสะบัดหนวดบนหัวมัน และคลื่นพลังจิตก็พุ่งออกไป ไม่สนใจการป้องกันของเกราะทหาร เจาะสมองโดยตรง
“อ้ากก!”
ทหารซันนิลหลายคนรู้สึกราวกับสมองถูกผ่าด้วยมีดเลือดฉีดออกจากปากพวกเขาและพวกเขาก็รู้สึกภาพเลือนรางและร่างก็เสียการควบคุม
ผลลัพธ์นั้นคือชีวิต
อสูรใต้ดินที่ทำหน้าทีเป็นแนวหน้ารีบกรูกันเข้าแนวป้องกันนี้หางและปากพวกมันทำให้เกิดประกายไฟเมื่อพวกมันปะทะกับเกราะและเกราะก็ถูกฉีกขาด
ซวบ!
มีดทรงจันทร์เสี้ยวกวาดเข้ามาแยกอสูรใต้ดินนับร้อยเป็นสองส่วน
เฮอลัสลากดาบผ่ายานรบยาวสิบเมตรมาและเริ่มโจมตีกลับ กู้คืนสถานการณ์
ทีมเดิมเกือบถูกทำลายโดยพวกอสูรใต้ดินแต่กำลังเสริมก็รีบมาอุด
เฮอลัสปาดเลือดและเหงื่อบนหน้าแต่ก็ไม่มีเวลาพัก ขณะที่เขากำลังจะกลับตำแหน่งเดิม เขาก็มองทหารบนพื้น เกราะพวกเขาถูกฉีก และอวัยวะก็ไหลทะลัก
เฮอลัสพบคนคุ้นเคยฝีเท้าเขาช้าลงและเพ่งมอง
ทหารที่ปกคลุมด้วยเลือดตาเขาเบิกกว้างและกำมีดไว้ในมือ เขาแทงหนึ่งในอสูรใต้ดิน ราวกับเขาตายไปพร้อมกับมัน แต่ทว่า ใบหน้าเขากลับดูเด็กเล็กน้อย
เฮอลัสพลันนึกได้ว่าทหารที่ตายไปคือหนึ่งในเพื่อนบ้านตอนเขากำลังเปิดร้านในเมืองชื่อเขาคือ..ลาน่า
เด็กนี่กลับเลือกเป็นทหาร
ความทรงจำผุดเหมือนน้ำเดือดเฮอลัสเอาอารมณ์ความรู้สึกส่วนเกินนั้นออกไป รีบกลับเข้าไปร่วมต่อสู้
…
ขนาดของเผ่าหินใหม่ใหญ่เกินไปและศัตรูก็ไม่มีสิ้นสุดแม้จะสังหารไปมาก ชนเผ่าหินใหม่ก็ไม่เลือกหลบหนีเหมือนรังอื่นแต่กลับดุดันยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ที่ใช้โดยชนเผ่าหินใหม่แตกต่างและได้เปรียบจากใต้ดินเต็มที่นี่คือบ้านพวกมัน และพวกมันก็สามารถขุดอุโมงค์จากด้านบนหรือด้านล่างได้ เข้าสู่ค่ายโดยตรง ผ่านเครือข่ายทางจิต การร่วมมือของชนเผ่าหินใหม่จึงไร้ที่ติและยากจะคาดเดา
การสูญเสียของทางฝั่งซันนิลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและแม้กระทั่งผู้เล่นก็ตายกันไปคนละสองสามครั้งทุกคนเหนื่อยล้าและในที่สุดเฮอลัสก็ตัดสินใจถอย กลับไปค่ายชั่วคราว
แต่ทว่าสมาชิกชนเผ่าหินใหม่กลับไล่ตามพวกเขาตลอด โจมตีค่ายตรงๆ เฮอลัสนำกองทัพไปต้านทานสักพักแต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงกดดันได้และล่าถอยไปบนพื้นผิว พวกเขาถูกบังคับให้ออกจากใต้ดินโดยชนเผ่าหินใหม่
ดวงอาทิตย์แผดเผาเหนือหัวและหลังพวกเขาออกจากใต้ดินเผ่าหินใหม่ถึงหยุดไล่ล่า อสูรใต้ดินเกลียดแสง และหลายตัวก็ถูกแดดเผา ดังนั้นพวกมันจึงกลับไปรัง
ชนเผ่าหินใหม่บังคับให้ผู้บุกรุกต้องถอยและการสูญเสียทั้งสองฝั่งก็มาก
เพราะพวกเขาถอยอย่างเร่งรีบพวกเขาจึงไม่อาจเก็บศพของสหายมาได้ เฮอลัสอารมณ์บูดบึ้ง ปล่อยให้กองทัพพักผ่อนขณะนับการบาดเจ็บล้มตาย จากนั้นเขาก็ติดต่อหานเซี่ยว
“พวกนายถูกขับไล่?”หานเซี่ยวตกใจ
“จำนวนศัตรูเหนือกว่ามากและเราก็ทำได้แค่กำจัดรังพวกมันช้าๆแต่การสูญเสียเราก็ยากจะแบกรับ…”เฮอลัสกัดฟัน”แบล็คสตาร์ ฉันอยากใช้อาวุธชีวภาพ ป้องกันการบาดเจ็บล้มตาย”
“จัดการเองเลย”หานเซี่ยวส่ายหัวก่อนตัดการสื่อสาร
เฮอลัสสูดหายใจความทรงจำเขาฉายภาพศพของทหารหนุ่มและเขาก็ไม่ลังเลอีก
เขาเรียกเจ้าหน้าที่จากหน่วยลิสจ้องใบหน้าเปื้อนเลือดของอีกฝ่าย”ส่งคนไปโยนอาวุธชีวภาพทั้งหมด ดำเนินการทันที!”
“ครับ!”
…
สมาชิกเผ่าหินใหม่ลากร่างเหนื่อยล้ากลับรังและเก็บกวาดสนามรบพวกมันซ้อนศพสหาย สร้างเป็นเนินเขาเล็กๆ
ภายในเครือข่ายจิตสมาชิกเผ่าคุยกันไม่หยุด การต่อสู้ก่อนหน้าสร้างผลกระทบต่อพวกมันมากและด้วยการตายของสมาชิก มันจึงมอบความรู้สึกกลัว โกรธและความปราถนาล้างแค้น แต่พวกมันก็ยินดีกับชัยชนะที่ขับไล่ศัตรูไปได้
แม้จะสูญเสียไปมากซูลูก็ยังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ บรรพบุรุษของเขาส่งผ่านความคิดที่ว่าแม้ศัตรูจะถอยกลับ แต่ก็อาจโจมตีได้ตลอด หากพวกมันอยากชนะ พวกมันก็ต้องกำจัดรังศัตรู
จากนั้นอสูรใต้ดินก็รวบรวมศพทหารซันนิลอสูรใต้ดินแก่ค่อยๆเดินมาและตัวอื่นก็คำนับให้
อสูรใต้ดินตนนี้มีความสำคัญมากในชนเผ่าหินใหม่และมันก็สามารถดึงความทรงจำผู้ตายได้ ในทั่วชนเผ่าหินใหม่ มีเพียงอสูรใต้ดินตนนี้ที่ครอบครองความสามารถนั้น
หากหานเซี่ยวอยู่เขาย่อมรู้ว่าอสูรใต้ดินนี้ได้ปลุกพลังเอสเปอร์ขึ้น
หนวดบนหัวมันแตะกับทหารซันนิลทีละศพและความทรงจำมากมายก็ผุด มันเรียบเรียงข้อมูลที่มันต้องการและแบ่งปันภาพความทรงจำในเครือข่ายจิต
มันเป็นภาพของเมืองป่ารวมถึงแผนที่ดาวซันนิล
“รังของผู้อาศัยบนพื้นผิว”
“ช่างเป็นรังที่แปลกมาก”
“ศัตรูอาศัยบนพื้นผิวเราจะไปหาพวกมันได้ยังไง?”
สมาชิกชนเผ่าหินใหม่เริ่มถกเถียง
ในเวลานั้นหมอกหนาก็ปรากฏตรงขอบรังและแพร่กระจาย