The Legendary Mechanic - ตอนที่ 626 ชัยชนะ
ตอนที่ 626 ชัยชนะ
สิบวันต่อมากองกำลังขับไล่ก็กลับไปรัง77อีกครั้งและทั่วชนเผ่าก็กลายเป็นทุ่งแห่งความตาย ศพอสูรใต้ดินเกลื่อนไปทั่วโลกใต้ดิดน
แม้กระทั่งทหารหาญวันนิลก็ยังอสูดหายใจไม่ได้เมื่อเห็นฉากอันชั่วร้ายตรงหน้าพวกเขาผู้เล่นหลายคนรู้สึกว่าหัวใจตัวเองสั่นและอดรู้สึกสงสารไม่ได้
ด้วยอารมณ์บูดบึ้งเฮอลัสสั่งให้ขุดศิลาพยากรณ์และเผาศพทั้งหมด
พวกเขายังเริ่มค้นหาศพของพี่น้องที่ล่วงลับ
หลังเก็บกวาดชนเผ่าหินใหม่ภารกิจขับไล่ก็ไม่เจอกับปัญหาใดอีก พวกเขาสู้ต่อและชักชวนเผ่าอื่นๆโดยไม่มีปัญหา
หลังต่อสู้มานานชนเผ่าสุดท้ายก็ยอมจำนนและเฮอลัสก็กลับเมืองป่า
….
ด้านนอกเมืองป่าชาวซันนิลเกือบทุกคนออกเมือง และก็รอท่ามกลางสายฝนพเอต้อนรับการกลับของกองทัพ
ฮู่!
ยานอวกาศนับสิบบินมาและจอดนอกเมือง
เมื่อประตูยานเปิดทหารซันนิลทั้งหมดก็ออกจากยาน สวมชุดเครื่องแบบปกติด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ผู้เล่นอยู่ในสภาพดีกว่า และยังดูเต็มไปด้วยพลังงาน
เฮอลัสก้าวออกจากยานและนำทัพเข้าเมือง
“วีรบุรุษ!”
ทันใดนั้นชาวซันนิลก็ส่งเสียงร้องและรีบวิ่งไปล้อมเหล่านักรบ ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขอบคุณ
เฮอลัสถูกล้อมด้วยคนนับไม่ถ้วนและทุกที่ที่เขามอง เขาจะเห็นความขอบคุณและความเคารพในตา
ชาวซันนิลรู้ว่ากองทัพแบล็คสตาร์เต็มใจช่วยพวกเขาเพราะเฮอลัสในสายตาของชาวซันนิล สถานะของเฮอลัสเหนือกว่าใครอื่น เขาคือวีรบุรุษและไอดอลของชาวซันนิลทุกคน
ฝูงชนส่งเสียงดังและเต็มไปด้วยคกยกย่องที่มีต่อกองกำลังขับไล่รวมถึงผู้เล่น
พูดให้ถูกชาวซันนิลรู้สึกขอบคุณกองทัพแบล็คสตาร์มากและหานเซี่ยวก็เหมือนผู้ปลดปล่อยของพวกเขา
“เราขอขอบคุณพวกท่านอย่างแท้จริง”
“พวกท่านคือผู้มีพระคุณของซันนิล!”
“กองทัพแบล็คสตาร์ท่านคือผู้มีพระคุณของเรา”
ชาวซันนิลล้อมผู้เล่นไว้
หลายคนผงะและรู้สึกไม่อาจอธิบายความสำเร็จในหัวใจได้ภารกิจครั้งนี้มีความหมายมากและความพยายามของพวกเขาก็ได้ปเลี่ยนชะตากรรมของซันนิล
ความรู้สึกนี้แตกต่างอย่างแท้จริงพวกเขารู้สึกพอใจ นี่คือสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ มันเป็นความรู้สึกพอใจของก้นบึ้ง
ทหารหนุ่มหลายคนไปหาครอบครัวและอ้อมกอดของครอบครัวก็ได้กำจัดความเหนื่อยล้าไปสวมรอยยิ้มสดใสบนหน้าพวกเขา
พ่อแม่รับลูกๆภรรยาต้อนรับสามี และเด็กๆก็ต้อนรับพ่อ
ฉากแสนอบอุ่นนี้กระจายไปทั่ว
ทุกๆวันครอบครัวของทหารจะใช้ชีวิตอย่างขลาดกลัว ความกลัวที่ที่ว่าวันหนึ่งจะได้รับการแจ้งถึงการตาย ตอนนี้ ทุกอย่างจบลงแล้วและจะไม่มีการเสียสละอีก
ไม่จำเป็นต้องสิ้นหวังหรือกลัววันอันงดงามกำลังรอคอยพวกเขา
ความมืดหายไปแล้วและซันนิลก็สามารถมองเห็นแสงสว่างได้
วันคืนแสนสงบได้มาถึงแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนหน้าของพวกเขาทหารซันนิลก็รู้สึกสบายใจ ทุกสิ่งที่พวกเขาทำมันคุ้มค่า
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่มีความสุข
ด้วยอารมณ์และสีหน้าหนักอึ้งเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบศพของทหารที่เสียชีวิตให้ครอบครัว
มีคนที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อโต้เถียงเสียงดังและบางคนก็ร้องไห้ขณะกอดกล่องขี้เถ้า
เสียงร้องของครอบครัวเหล่านี้แตกต่างกันฝูงชนที่ส่งเสียงดัง
พ่อแม่ของลาน่ากอดกล่องเถ้าเขาและคุกเข่าบนพื้นราวกับเสียวิญญาณ
เมื่อเฮอลัสเห็นเขาก็อดพยุงพ่อแม่ของลาน่าขึ้นไม่ได้และกล่าวเสียงเบา”เขาเป็นคนที่น่ายกย่องมาก”
พ่อแม่ลาน่ามองเขาและไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นเฮอลัสก็รู้สึกคำพูดปลอบใจใดๆล้วนไร้ความหมาย เขาหันหลังและเดินจากไปเงียบๆ ชาวซันนิลผ่านการแยกจากมามาก ต้องขอบคุณ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
เฮอลัสเห็นหานเซี่ยวกำลังยืนอยู่นอกฝูงชนพร้อมเจ้าหน้าที่ของกองทัพ
เมื่อเห็นเฮอลัสเข้าใกล้หานเซี่ยวก็กล่าว”มันจบแล้ว เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้นภารกิจถึงลุล่วง”
เฮอลัสมองหานเซี่ยวและก้มหัวคำนับ”ฉันขอขอบคุณนายแทนเผ่าซันนิลทั้งเผ่า”
“ไม่ต้องทำขนาดนั้นหรอกฉันแค่ทำตามคำสัญญา”หานเซี่ยวกล่าวและยกมือขึ้นเพื่อพยุงเฮอลัสขึ้น แต่เฮอลัสกลับปฏิเสธ
“ไม่ปล่อยให้ฉันทำเถอะ”
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็ปล่อยให้เฮอลัสก้มหัวต่อไป
จากนั้นเฮอลัสก็กล่าว”ชื่อของนายควรถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติของเผ่าซันนิลเรานายไม่ใช่แค่ผู้มีพระคุณของเผ่าซันนิลเรา แต่ยังเป็นผู้มีพระคุณของฉัน..”
“ในสายตาฉันนี่ไม่ใช่แค่คำสัญญา การทำธุรกรรมหรือการจ้างงาน นี่คือความเมตตาที่ฉันไม่มีทางตอบแทนคืนได้”
“แบล็คสตาร์จากวันนี้ไป ฉันเต็มใจเป็นดาบให้นายและจะตามนายไปสุดขอบจักรวาล”
เสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วเจ้าหน้าที่ทุกคนมองเฮอลัสด้วยอารมณ์หลากหลาย
เขาให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อฉันสินะ?หานเซี่ยวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า”ดี”
จากนั้นเฮอลัสก็เงยหน้าขึ้นและเผยรอยยิ้ม
“ราคาของความสงบสุขมักเต็มไปด้วยเลือด”กีเน็ตส่ายหัวเธอ
“ฉันหวังว่าเผ่าซันนิลจะจำสงครามนี้ได้หวังว่าพวกนายทุกคนจะจำความรุนแรงครั้งนี้ได้”เฮอลัสอาลัย
“นี่คือการคัดเลือกของธรรมชาติทุกอารยธรรมจะกลายเป็นปีศาจ จำต้องแบกประวัติไว้บนหลังและเดินทางต่อไป”หานเซี่ยวกล่าวก่อนมองไปด้านข้าง เบื้องบนของซันนิลเดินมาและครั้งนี้ มันไม่ใช่โอติสที่เป็นคนพูดกับเขา แต่เป็นผู้นำซันนิล
ผู้นำซันนิลแสดงความขอบคุณต่อเขาและหานเซี่ยวก็ตอบอย่างเหมาะสม
หลังสนทนากันสักพักผู้นำซันนิลก็แสดงว่าการจ้างงานจะถือว่าลุล่วงเมื่อพวกอสูรใต้ดินอพยพจนหมด
หลังเห็นการจากไปของเบื้องบนซันนิลซิลเวียก็ตบหลังเฮอลัสและกล่าวอย่างโกรธๆ”เจ้าพวกนี้น่ารำคาญมาก”
เฮอลัสไม่ปฏิเสธ”ฉันเองก็เกลียดการเมือง”
ครั้งนี้เฟย์ดินกล่าว’แบล็คสตาร์ เกี่ยวกับการอพยพ..”
เพียงเมื่อหานเซี่ยวกำลังจะตอบอุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดังขึ้น เขากล่าวพร้อมหัวเราะ”เหมาะเจาะมาก”
วินาทีถัดมาวิสัยทัศน์เขาก็ดำมืด และเงาขนาดมหึมาก็ปกคลุมพวกเขาทั้งหมด
ชาวซันนิลและผู้เล่นแหงนมองด้วยความประหลาดใจ
ยานบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่กว่าร้อยลำลอยลงจากฟ้าและบดบังดวงอาทิตย์
“ฉันเรียกคนมาขนย้าย”
หานเซี่ยวปล่อยลมหายใจยาวและยิ้ม
เขายืมยานอวกาศขนส่งกลุ่มใหญ่จากสองกลุ่มการเงินเพื่อขนส่งอสูรใต้ดินทั้งหมดตราบเท่าที่ยานอวกาศเหล่านี้เดินทางไม่กี่รอบ มันก็จะขนพวกอสูรใต้ดินและศิลาพยากรณ์ไปยังดาวไร้ผู้อาศัยได้จนหมด เนื่องจากอสูรใต้ดินกินหินเป็นอาหาร มันจึงง่ายต่อการหาดาวที่เหมาะสม
ผู้เล่นได้รับแจ้งเกี่ยวกับแผนอพยพและเมื่อเห็นการมาของยานอวกาศ หลายคนก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“นั่นควรเป็นกองยานอพยพสินะ?”
“การช่วยประชากรนับพันล้านเป็นภาพที่น่าชมมาก”
“อสูรใต้ดินไม่ถูกกำจัดแบล็คสตาร์ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง.”
เมื่อได้เห็นกองกำลังตนเองแสดงฉากน่าประทับใจผู้เล่นก็อดภาคภูมิใจไม่ได้ ในเวลาเดียวกัน หลายคนก็เห็นด้วยกันการตัดสินใจของแบล็คสตาร์ที่จะย้ายอสูรใต้ดิน
หลังผ่านการต่อสู้มานานและเห็นโศกนาฏกรรมผู้เล่นมากมายก็รู้สึกว่าอสูรใต้ดินนั้นเป็นกลุ่มอ่อนแอ
การสงสารคนอ่อนแอเป็นนิสัยและจากวินาทีที่ผู้เล่นสงสารอสูรใต้ดินพวกเขาก็เริ่มเห็นด้วยกันแผนอพยพ ผลลัพธ์ของทางเลือกนี้คือการสร้างความรู้สึกต่อกองทัพแบล็คสตาร์ขึ้น
หานเซี่ยวชัดเจนถึงประเด็นนี้และก็ตั้งใจใช้ความเห็นอกเห็นใจพวกเขาเพื่อสร้างความประทับใจลึกขึ้น
ผลลัพธ์ค่อนข้างดี
เฟย์ดินยังเผยรอยยิ้มกว้างเขารู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่ดีสุดในการแก้ไขปัญหาสำหรับทั้งสองฝ่าย
เมื่อมองแผ่นหลังของหานเซี่ยวเฟย์ดินก็อดคิดไม่ได้
พลังเขาเติบโตอย่างรวดเร็วและก็สามารถสะกดเฉินซิ่งได้ด้วยตัวคนเดียวนอกจากนี้ ความขัดแย้งของเขากับเฉินซิ่งก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือของกองทัพแบล็คสตาร์อีก
เดิมทีเขาตั้งใจหาเวลาเพื่อกล่าวคำอำลาแต่เวลานี้ เขารู้สึกว่าการอยู่ในกองทัพแบล็คสตาร์ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เลวร้ายนัก