The Legendary Mechanic - ตอนที่ 629 นักฆ่าลึกลับ
ตอนที่ 629 นักฆ่าลึกลับ
ใครกันที่เอาชื่อแบล็คสตาร์เป็นเป้าหมาย?
ความแปลกใจปรากฏบนหน้าดาบคลั่ง
สีหน้าทุกคนแปลกไปแบล็คสตาร์คือหัวหน้าพวกเขาและเมื่อได้ยินว่ามีคนกำลังจะจัดการกับเขา ทั้งกลุ่มก็อดรู้สึกเกลียดชังต่ออีกฝ่ายไม่ได้
ดวงตาห่าวเทียนเป็นประกายและสื่อสารกับพวกเขาผ่านช่องทาง”เราอาจกระตุ้นภารกิจลับขึ้น ขี้เซา ถามต่อไป พยายามกระตุ้นเพิ่ม”
ฤดูหนาวขี้เซาพยักหน้า”แบล็คสตาร์คือหัวหน้าเราเราย่อมส่งมอบรายชื่อนี้ให้เขา แต่เราอยากรู้เพิ่ม คุณช่วยบอกเราได้ไหม?”
“คนบนรายชื่อล้วนเป็นบุคคลชื่อดังของวงแหวนดาวกระจาย”โรนัลโด้กล่าว”ไม่มีใครเป็นตัวตนระดับAทั่วไปทั้งมีอิทธิพลหรือเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งมาก เป้าหมายของพวกที่ปล่อยรายชื่อนี้ก็เพื่อฆ่าหรือจับกุม ตามที่ฉันรู้ มีคนบนรายชื่อได้หายสาบสูญไปแล้ว”
“ใครกันที่รับผิดชอบการไล่ล่าคนบนรายชื่อ?”ฤดูหนาวขี้เซาได้โอกาสเจาะลึก
“ดูเหมือนจะเป็นองค์กรลับฉันไม่รู้ต้นกำเนิดพวกเขาและแค่เรียกว่าเป็นนักล่า พวกเขาจับตัวตนทีท่แข็งแกร่งหลายคนบนรายชื่อ ฉันเคยเจอกับพวกเขา ตอนนั้น ฉันเจอกับนักล่าสองคน และพลังพวกเขาก็แข็งแกร่งมาก อาจถึงระดับA+”
ความรู้สึกหนักหน่วงฉายผ่านตาเขา”แขนฉันถูกทำลายไปโดยหนึ่งในนั้น”
“งั้นคุณก็เป็นเป้าหมายของพวกเขาด้วย?”
“ไม่”
ฤดูหนาวหยุดความสงสัยเต็มหน้าเขา”งั้นทำไม…”
โรนัลโด้อธิบายแทรก”ฉันคือคนน้อกที่ไปยุ่งเกี่ยวดังนั้น ฉันจึงถูกตัดแขนเท่านั้น”
หลังหยุดเขาก็กล่าว”ฉันมีเพื่อนที่เป็นตัวตนระดับภัยพิบัติเช่นกัน เขาคือเป้าหมายจริงๆบนรายชื่อ เขาทำองค์กรอาวุธในระบบดาวนภาเหิน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอารยธรรมฮัท”
“ปีก่อนขณะฉันกำลังไปเยี่ยมศูนย์ใหญ่เขา นักล่าสองคนพลันปรากฏ ทำการสังหารหมู่จนถึงศูนย์ใหญ่ โดยไม่มีใครสามารถหยุดได้ ดังนั้น ฉันจึงเจอกับศัตรูพร้อมเพื่อนฉัน แต่ทั้งสองก็ทรงพลังมากและเราก็ถูกจัดการ”
“ฉันสามารถขโมยข้อมูลมาได้ผ่านอุปกรณ์สื่อสารในช่วงการต่อสู้ซึ่งเป็นรายชื่อไม่สมบูรณ์นี้ เป้าหมายพวกเขาคือเพื่อนฉันและพวกเขาก็จับตัวเขาไป ทิ้งฉันไว้พร้อมบาดแผลสาหัส”
“ฉันคือตัวตนระดับAและเธอคิดว่าพวกเขาจะจับฉันเหมือนกัน แต่พวกเขากลับไม่มองแนด้วยซ้ำ พวกเขาดูจะไม่สนใจคนที่ไม่ใช่เป้าหมายเลย”
โรนัลโด้หัวเราะขมขื่น”พวกเขาไม่สนใจฉันเลยซึ่งทำให้ฉันหนีมาได้”
ทุกคนรู้สึกงงงวย
เป้าหมายของนักล่าคือการจับพวกแข็งแกร่งแต่พวกเขากลับไม่คิดลงมือตัวตนระดับภัยพิบัติที่ไม่อาจโต้ตอบได้ มันเพราะพวกเขามีเป้าหมายเจาะจงหรือเป้าหมายพวกเขาสูงส่งเกินไป?
ไม่ว่ายังไงนักล่ากลุ่มนี้ก็ลึกลับมาก
“เนื้อเรื่องลับนี้ดูจะไม่ใช่ง่ายๆ”ดาบคลั่งกล่าว
“แม้พวกเขาจะลึกลับมากแต่คนที่หายไปก็ไม่อาจปิดซ่อน นี่หมายความว่าพวกนักล่ายังคงเคลื่อนไหว โปรดทำให้มั่นใจว่ารายชื่อนี้จะส่งถึงแบล็คสตาร์ แม้ฉันจะไม่รู้จักเขา กลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์ก็เคยช่วยฉัน ฉันไม่มีทางลืมหนี้นี้”
เขายังคำนวณว่าเบื้องหลังแบล็คสตาร์คือจักรพรรดินีมังกรและพวกเขาอาจจัดการพวกนักล่าได้ หากแบล็คสตาร์ทำสำเร็จ เขาก็ไม่ต้องหลบซ่อนไปตลอด
เหตุผลที่เขาเก็บตัวเพราะเขากลัวว่าชื่อเขาอาจปรากฏบนรายชื่อเข้าสักวันแม้เขาจะเคยปะทะแค่ครั้งเดียว เขาก็กลัวมาก
ครั้งนี้หน้าต่างสถานะของผู้เล่นดังขึ้น
ท่านได้กระตุ้นภารกิจลับ: [รายชื่อการล่า]!
พวกเขาเหลือบมองกันและพยักหน้ารับ
…
ในระบบดาวแห่งหนึ่งของวงแหวนดาวกระตายยานอวกาศที่มีร่องรอยความเสียหายเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเต็มกำลัง เหมือนลำธารแสงข้ามจักรวาลมืดมิด
“คำเตือน!คำเตือน!ปริมาณเชื้อเพลิงสำรองลดลงจนถึงระดับวิกฤตกำลังออกไฮเปอร์ไดรฟ์ในหนึ่งนาที”ปัญญาประดิษฐ์ออกคำเตือน
“บัดซบ!พวกมันสองคนจะไล่ตามมาทันแน่!”
ปัง!
ภายในห้องขับเคอนิดทุบแผงควบคุมอย่างท้อแท้
เขาเป็นเผ่ามนุษย์ผิวเข้มมีริ้วรอยตามผิว เขาสวมชุดเกราะคาถาพิเศษที่ผสมผสานทั้งเทคนิคเวทย์และจักรกล เกราะเต็มไปด้วยอักษรลี้ลับนับไม่ถ้วนทั้งภายในและภายนอก มันติดตั้งเวทย์ไว้นับร้อยและก็เป็นประเภทที่ใช้กันมากสุดสำหรับจอมเวทย์
แต่ทว่าเกราะรูนระดับสูงนี้กลับเสียหาย เต็มไปด้วยเลือดของเคอนิด
เคอนิดคือตัวตนระดับภัยพิบัติรวมถึงเป็นสมาชิกอันทรงเกียรติของวิหารชุดคลุมแดง เขาเชี่ยวชาญเวทย์และมีชื่อว่าวอล็อคม่วง แต่ปัจจุบันเขากำลังหลบหนี
และทุกอย่างก็เพราะศัตรูสองคนที่ปรากฏโดยไม่คาดคิด
ขณะเขากำลังเพลิดเพลินกับวันหยุดสำรวจดวงดาว เขาก็เจอกับชายลึกลับสองคนที่โจมตีเขาโดยไม่พูดสักคำ
หลังจากนั้นเคอนิดก็พบว่าเขาไม่ใช่คู่มือของทั้งสองและได้รับบาดเจ็บสาหัส
โชคดีเขามีไพ่ตายและสามารถหนีขึ้นยานมาได้ แต่ทั้งสองก็ยังไล่ล่าไม่หยุด
ไฮเปอร์ไดรฟ์ผลาญเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วและความเร็วยานก็ช้าลงออกจากไฮเปอร์ไดรฟ์และกลับเป็นปกติ
“บัดซบ!”เคอนิดหลั่งเหงื่อเย็น
เมื่อเสียงเขาดังคลื่นเวทมนตร์ก็กระจายไปหลายชั้น เคอนิดจับคลื่นเวทย์ผ่านสัมผัสเขาได้ ทำให้สีหน้าเปลี่ยนไป
วงแหวนสีฟ้าสดใสสว่างรอบช่องท้องยานและวงแหวนก็ขยายอย่างรวดเร็วเป็นประตูมิติ คนสองคนก้าวออกมา
ทั้งสองสวมเสื้อคลุมสีขาวคล้ายกันวัสดุของเสื้อดูแปลกๆมาก ฉายแวววาวและเต็มไปด้วยจารึกเวทย์นับไม่ถ้วน
ทั้งสองสวมหน้ากากโลหะผสมพิเศษเพื่อปกปิดใบหน้าพวกเขาหน้ากากคล้ายหัวนก ส่วนผู้หญิงมีลักษณะคล้ายแมว
หนังสือโบราณดูหนากว่าสิบเล่มลอยรอบชายคนนั้นทั้งหมดเปิด พวกมันเต็มไปด้วยอักษรเวทย์และเปล่งแสงหลากสี จารึกสีเหลืองทองปรับเปลี่ยนเป็นวงกลมหลายวง รอบชายคนนั้น
“ยืนยันตำแหน่ง”
น้ำเสียงเขาเฉยเมยและเมื่อเขาสะบัดนิ้วหน้าหนังสือก็เปิด ประตูมิติด้านหลังเขาบีบแคบและหายไป ชายคนนี้คือจ้าวแห่งเวทย์!
ทันใดนั้นกำแพงกั้นตรงหน้าทั้งสองก็ระเบิดเป็นชิ้นๆเมื่อลำแสงสีม่วงพุ่งออกจากเคอนิดในห้องขับ แสงสีม่วงเจาะผ่านกำแพง เข้าโจมตีแขกไม่ได้รับเชิญทั้งสอง
เมื่อรู้ความสามารถพวกเขาเขาจึงเลือกโจมตีก่อน
บูม!
ระหว่างแสงชายสวมหน้ากากเปลี่ยนท่า ซึ่งทำให้หนังสือเริ่มพลิก วงเวทย์สีฟ้าคลุมตัวเขาและผู้หญิงด้านหลังพวก แยกพวกเขาจากการโจมตี
เคอนิดบินออกจากช่องว่างและเกราะเวทย์เขาก็เปล่งแสงสว่างไปทั่ว พลังเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนโอบล้อมเขาและเหมือนลำธารแสง มันเข้าปะทะกับวงเวทย์สีฟ้า
เขาต้องทนทุกข์จากการโจมตีและเพราะมันน่าละอายที่จะสู้กับศัตรูที่ถนัดเวทย์ระยะไกล เขาจึงเปลี่ยนเป็นระยะประชิด
เคอนิดรวมพลังทั้งหมดและการควบคุมเขาก็ยอดเยี่ยมมาก ไม่ยอมให้พลังงานใดๆสลายหาย หากตัวตนระดับAทั่วไปเจอการโจมตีนี้ พวกเขาคงเลือกหลบหนีปะทะ แต่ต่อหน้าศัตรูลึกลับทั้งสอง เขาไม่มั่นใจเลย
บูม!
เสียงที่ดังออกมาเหมือนเสียงระฆังขนาดใหญ่วงเวทย์สีฟ้าไม่อาจต้านทานได้และระเบิด เปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนพลังงานคล้ายแก้ว
“สำเร็จ!”เคอนิดลิงโลดและความมั่นใจเขาก็กลับคืนมา
แต่ทว่าเขาก็เห็นแสงที่ส่องสะท้อนหน้ากากของทั้งคู่ ดวงตาพวกเขายังสงบและไม่แยแส ราวกับพวกเขาไม่เห็นว่าพลังของเคอนิดเป็นภัยคุกคามเลย
วินาทีต่อมาพลังเวทย์ก็รวมกันก่อนระเบิดเป็นลำแสงสีฟ้าขาว ซึ่งกระแทกใส่เคอนิด ลำแสงซ่อนทับกับพลังที่เคอนิดใช้โจมตีพวกเขาก่อนหน้า ซึ่งเทียบเท่ากับเขากำลังรับการโจมตีของตัวเอง
การโจมตีที่เหลือของเคอนิดถูกขัดและเขาก็ถูกซัดลอยออกไปเขาระงับความเจ็บปวดและอุทานด้วความประหลาดใจ
“นื่คือเวทย์อะไรกัน?!”
มันแค่เวทย์ประภเทป้องกันแต่มันกลับต้านทานการโจมตีของเขาได้และยังสามารถสะท้อนกลับได้ นี่ฟังดูง่าย แต่ด้วยระดับพวกเขา มันจึงน่ากลัวมาก ไม่เหมือนโล่เวทย์ที่มีชั้นจารึกจำนวนมาก ส่งผลให้เกิด’การเปลี่ยนแปลงด้านปริมาณ’ แต่นี่เป็นด้านคุณภาพ
“สร้างเอง”ชายสวมหน้ากากตอบแค่นั้นแต่คำตอบนี้ก็ทำให้ดวงตาของเคอนิดเบิกกว้าง
ขณะนั้นเองผู้หญิงข้างๆก็โจมตี ยกมือขวาขึ้น เธอปล่อยหมัดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ปึกปัก!
ยานอวกาศทั้งลำเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ
ยานอวกาศพลันบิดเบี้ยวราวกับถูกทุบด้วยมือขนาดใหญ่ยักษ์
บูม!
ออกซิเจนรั่วไหลออกมาและถังเชื้อเพลิงรวมถึงเครื่องยนต์ของยานก็ระเบิด
ไฟระเบิดออกด้านนอกและทรงกลมของยานก็ระเบิดตรงๆสลายตัวทันที เศษซากกระจายออกไปทั่ว
ในวินาทีถัดมายานอวกาศก็กลายเป็นขยะอวกาศลอยรอบจักรวาล
ม่านพลังเวทย์ทรงกลมปกป้องทั้งสองช่วยให้พวกเขาลอยในจักรวาลได้ ไม่ไกลจากพวกเขา เกราะเวทย์ของเคอนิดยังเปล่งแสงป้องกันวิบวับ
ยานอวกาศที่ระเบิดทำให้บาดแผลของเคอนิดเลวร้ายขึ้นและเกราะเวทย์เขาก็ใกล้ระเบิด
โดยปราศจากยานไม่มีทางหลบหนี และความท้อแท้ก็เกิดขึ้นในสายตา
ภายในม่านพลังเวทย์เต็มไปด้วยออกซิเจนผู้หญิงสะบัดแขนเธอ
เศษซากทั้งหมดมารวมกันอีกครั้งครั้งนี้พวกมันบีบอัดเคอนิดไว้ตรงกลาง มันค่อยๆเปลี่ยนเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ ราวกับมีพลังที่มองไม่เห็นกำลังบดขยี้มัน บอลเหล็กค่อยๆหดลง
แม้จะมีการต่อต้ายภายในแต่มันก็เบาลงเรื่อยๆ ในที่สุดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอีก
“จับวอล็อคม่วงเคอนิดสำเร็จ”ผู้หญิงกล่าวเสียงเย็น
จากนั้นชายคนนั้นก็นำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาและเปิดรายชื่อขีดชื่อของเคอนิดและถอนหายใจ”ชานะ เป้าหมายต่อไปเป็นใคร?”
ชานะคือชื่อผู้หยิงเธอเหลือบมองรายชื่อ”ฉันเลือกเขา ผู้บัญชาการของกองทัพแบล็คสตาร์”
“โอ้ชายคนนี้เข้ามาในรายชื่อปีก่อน กองกำลังเขาพัฒนาเร็วมาก และหากไม่ใช่เพราะเหตุนั้น เราอาจไม่สนใจเขา ใช่แล้ว ชายคนนี้พิเศษหน่อย เขามีฉายาอมตะ ดูเหมือนจะจัดการได้ยาก เราควรนำเขาไปสถานที่แยกก่อนจับ นี่ต้องเตรียมการนาน และเราก็ยังต้องพาเคอนิดกลับไป เปลี่ยนเป้าหมายกันเถอะ”
“ไม่จำเป็นเราจะแยกกัน นายพาเชลยกลับไป ฉันจะไปจัดการแบล็คสตาร์”ชานะกล่าว”ตามข้อมูล เขาเพิ่งเข้าสู่ระดับภัยพิบัติสองสามปีก่อน แถม เขาเป็นช่างกล ฉันคนเดียวก็จัดการปัญหานี้ได้”
ชายคนนั้นหยุดก่อนยิ้ม”ฉันเกือบลืมไปความสามารถเธอสามารถยับยั้งพวกช่างกลได้ ดีมาก ฉันจะไปและทำภารกิจเราให้เสร็จ ส่วนเธอจะไปจับเขา”
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างแบล็คสตาร์และจักรพรรดินีมังกรพวกเขาไม่เคยกล่าวถึงเลย