The Legendary Mechanic - ตอนที่ 638 พายุกำลังก่อตัวขึ้น 2
ตอนที่ 638 พายุกำลังก่อตัวขึ้น 2
“ในกลุ่มดาวโซลเขตแดนอาณาจักรเคล็นท์ ศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือด ดาวฮีเบอร์…
ภายในวังฑูตจากเคล็นท์ได้มาพบฮีเบอร์เพื่อส่งข้อความจากเบื้องบน
“อารยธรรมผลึกม่วงได้กำจัดทีมสอดแนมที่เราส่งไปโคลตันนี่คือคำเตือนของพวกเขา ตามข้อมูลที่ส่งกลับมา คนที่โจมตีทีมสอดแนมคือกองกำลังส่วนตัวในกลุ่มาดาวโคลตัน นี่หมายความว่าผลึกม่วงกำลังสร้างพันธมิตร เราต้องทำปฏิกิริยาที่สอดคล้องกัน”
“อยากให้ฉันช่วยสินะ”
“ใช่ในสองปีนี้ เคล็นท์ได้ช่วยคุณรวบรวมกองกำกลังเอกชนเป็นจำนวนมาก ขนาดของแดนหลั่งเลือดใหญ่กว่าสองปีก่อนมาก เราวางแผนสร้างกองกำลังพันธมิตรโดยมีคุณเป็นแกนและลอบบุกกลุ่มดาวโคลตัน เริ่มสงครามลับกับอารยธรรมผลึกม่วง”
“ตกลง”ฮีเบอร์ให้คำตอบสั้นๆ
“แม้จักรพรรดินีมังกรเอเมสจะอยู่ในโคลตันเธอก็เป็นกลาง แต่ทว่า กองทัพแบล็คสตาร์ภายใต้เธอดูเหมือนจะอยู่ข้างผลึกม่วง หากเอเมสแทรกแซง เราหวังว่าคุณจะจัดการกับเธอ”
“เมื่อมันจำเป็นฉันจะลงมือ”ฮีเบอร์ส่ายหัว
ย้อนกลับไปที่งานเลี้ยงจักรพรรดินีมังกรและแบล็คสตาร์ไม่ได้ปฏิเสธคำเชิญของจักรวรรดิคริมสันตรงๆ หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่ทำการตัดสินใจใดๆ แต่ทว่า ต่อให้เกาะมังกรเลือดข้างจักรวรรดิคริมสัน นั่นก็ยังไม่ใช่พันธมิตรเขา ทั้งสองมีเป้าหมายแตกต่างกันและอยู่ในอารยธรรมกลุ่มดาวที่ตรงข้ามกัน จักรวรรดิคริมสันไม่สนใจเกมหมากรุกของพวกเขา ยิ่งสถานการณ์วุ่นวาย มันยิ่งดี
เคล็นท์ยินดีก้าวไปข้างหน้าและปฏิบัติตามความเชื่อของจักรวรรดิคริมสันด้วยผู้สนับสนุน เคล็นท์จึงหาญกล้ามากขึ้นในช่วงสองปี โดยเฉพาะต่ออารยธรรมเป็นกลางที่ไม่ได้อยู่ภายใต้สามอารยธรรมจักรวาลเช่นผลึกม่วง
กลุ่มดาวโซลภายใต้การปกครองของเคล็นท์เป็นกลุ่มดาวที่มีขนาดเล็กสุดเป็นอันดับสองในวงแหวนดาวกระจายรวมถึงกลุ่มดาวโคลตันเพื่อนบ้าน เคล็นท์ทะเยอทะยานมาก เป้าหมายพวกเขาไม่ใช่แค่การกัดบนผลกำไรของโลกริบหรี่แต่ยังเป็นการยึดโคลตันอีกด้วย แม้ผิวเผินจะมีความสัมพันธ์กับโคลตัน พวกเขาก็ลอบอยากชิงระบบดาวจากผลึกม่วง
แน่นอนนี่ไม่มีทางเกิดขึ้นในอดีต แต่ตอนนี้จักรวรรดิคริมสันยื่นมือเข้ามา ข้อจำกัดของสนธิสัญญาจึงกลายเป็นอ่อนลง ผู้แข็งแกร่งมีสิทธิ์สร้างกฏ กฏหมายและสมดุลในกาแล็กซี่ดูเหมือนจะไม่อาจทำลายได้ในสายตาคนปกติ แต่มันบอบบางมาก อารยธรรมอื่นเป็นแค่ผู้เล่นที่ต้องทำตามกฏของเกมที่พวกเขาตั้งไว้
แม้กระทั่งฮีเบอร์ก็ยังรู้สึกว่าเคล็นท์โลภมาก
แต่ทว่านี่ก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการมิตรที่ทะเยอทะยาน ยิ่งโลภ มันก็ยิ่งต้องพึ่งพาเขา
ฮีเบอร์ยืนขึ้นร่างขนาดใหญ่เขาฉายเงาทับเหนือหัวฑูตเคล็นท์
“ฉันเข้าใจสิ่งที่เคล็นท์ต้องการกลับไปและบอกหัวหน้าของนายว่าฉันจะรับผิดชอบสงครามนี้เอง ไม่ต้องกังวลอะไร”
ฑูตเคล็นท์พยักหน้าและยิ้มด้วยความมั่นใจ
ความแตกต่างระหว่างแดนหลั่งเลือดและกองกำลังพันธมิตรที่ถูกสร้างโดยผลึกม่วงก็เหมือนหมัดเหล็กและแผ่นทรายสำหรับสงครามลับนี้ เคล็นท์ได้เตรียมการมาสองปี ปฏิกิรยาของผลึกม่วงเพิ่งตอบสนองภายหลัง นี่หมายความว่าพวกเขาเสียเปรียบก่อนสงครามจะเริ่ม
ด้วยการอยู่ของเผด็ตการฮีเบอร์การทำลายล้างกองกำลังพันธมิตรของผลึกม่วงก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ผ่านชัยชนะอย่างต่อเนื่องแดนหลั่งเลือดไม่เคยทำให้เคล็นท์ผิดหวังมาก่อน
…
ชานะกลับศูนย์ใหญ่ที่น่าตกใจในบริเวณชนบทแถวขอบวงแหวนดาวกระจายไม่มีคนอยู่เลย มันเป็นพื้นที่ไร้คนอาศัยอย่างแท้จริง
ทุ่งดาวทั้งหมดมีพื้นที่รกร้างที่น้อยคนจะเหยียบย่างมันมีดาวน้อยมาก ยากจะมีทรัพยากรและสัญญาณชีวิต อาชญากรบางคนหรือองค์กรลึกมักเลือกบริเวณเหล่านี้เป็นที่ตั้ง
เมื่อชานะเข้าศูนย์ใหญ่เพื่อนร่วมงานทุกคนก็กำลังรอเธอ นอกจากอีเลียตแล้วมีอีกสี่คน พวกเขาล้วนสวมหน้ากากที่ต่างกันและให้ความรู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ พวกเขาล้วนกำลังมองชานะ
ด้วยเสียงแหบแห้งเหมือนชายชราชายเตี้ยในหมู่พวกเขากล่าว”เธอล้มเหลวและเปิดเผยใบหน้า สำหรับหลายปีถัดไป เธอจะต้องมาแทนที่เอเดรี่ยนพเอคุ้มกันศูนย์ใหญ่ เขาจะออกไปทำภารกิจกับอีเลียตแทน”
“ฮึม”ชานะไม่พอใจแต่ก็ไม่คัดค้านนี่คือกฏภายในของพวกเขา เพื่อไม่ให้ถูกกำหนดเป็นเป้าหมาย เมื่อล้มเหลว มันต้องมีการสับเปลี่ยน
องค์กรลับนี้มีสมาชิกน้อยมากแต่พวกเขาก็ล้วนเป็นยอดฝีมือ
เอเดรี่ยนคือชายกล้ามโตตัวสูงมีลักษณะของกึ่งมนุษย์ เขานำเอาแผ่นเหล็กขนาดเท่าฝ่ามือออกมาและโยนให้ชานะ”มันถึงคราวของเธอเฝ้าศูนย์แล้ว ขอให้สนุกละ”
แผ่นโลหะนี้คือหนึ่งในกุญแจที่ทำเป็นพิเศษของเรือนจำภายในศูนย์มีกุญแจทั้งหมดสี่ดอก
เป้าหมายที่ถูกจับทั้งหมดบนรายชื่อถูกขังไว้ในคุกนี้โดยปกติ สี่คนจะเฝ้าศูนย์และสองคนจะออกไปจับเป้าหมายบนรายชื่อ นี่คือการทำงานของพวกเขา
อีเลียตยักไหล่”ดูเหมือนว่าเราจะไม่อาจเป็นคู่หูกันได้น่าเสียดาย ฉันมักคิดว่าเราร่วมมือกันได้ดี”
เอเดรี่ยนชี้ตัวเขา”ฉันเองก็เป็นคู่หูเก่านายเหมือนกัน”
อีเลียตยักไหล่”นอกจากมิสเตอร์อัลเบิร์ตทุกคนเคยเป็นคู่หูฉัน”
อัลเบิร์ตคือชายชราผู้นำของทีมนี้และมักเฝ้าศูนย์ใหญ่
เอเดรี่ยนไม่เคยล้มเหลวดังนั้นเขาจึงเป็นคนเดียวที่ไม่เคยถูกสับเปลี่ยน อีกสี่คนเคยเป็นคู่หูเขามาก่อน
“ตอนนี้มาพูดถึงปัญหาเรื่องแบล็คสตาร์กัน”อัลเบิร์ตจ้องชานะ”เนื่องจากเธอล้มเหลว ตอนนี้เราจึงเสี่ยงจะถูกเปิดโปง แบล็คสตาร์ตื่นตัวมากและจะต้องหาที่อยู่เราแน่ เรามีสองทางเลือด หนึ่งคือไม่สนใจแบล็คสตาร์และรอให้ฝุ่นจางก่อนเคลื่อนไหวอีกครั้ง อีกทางคือจับตัวเขาให้เร็วที่สุดและกำจัดความเสี่ยง จากนั้นเราก็จะเก็บตัวต่อไปได้..”
“ฉันได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเขาแล้ว”ชานะพลันกล่าว”ก่อนหน้านี้องค์กรดาราทมิฬของระบบดาวกาตอนไม่ยึดถือเขาจริงจังแต่แรกและถูกเขาทำลาย ชายคนนี้อันตรายมาก เราไม่อาจปล่อยเขาไปได้”
อัลเบิร์ตพยักหน้า”สมเหตุสมผลเขาอันตราย อีเลียต เอเดรี่ยน เป้าหมายของพวกนายคือแบล็คสตาร์ จับตัวเขามาให้ได้ หากจับเป็นไปได้ ก็กำจัดเขาซะ”
“เข้าใจแล้ว”อีเลียตพยักหน้า
“มิสเตอร์อัลเบิร์ตฉันเคยสู้กับแบล็คสตาร์มาก่อนและไม่อาจทำให้เขาแสดง’ได้ เขายังมีความลับอีก สองคนไม่พอ ความสามารถฉันนับว่าข่มเขาสุด โปรดให้ฉันเข้าร่วมภารกิจด้วย”ชานะกล่าว
อัลเบิร์ตไตร่ตรองและรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลเขาบอกให้ชานะมอบกุญแจให้เขา”ตกลง ฉันจะยกเว้นให้เธอ ครั้งนี้พวกนายสามคนจะร่วมมือกัน อย่าประมาทละ”
ชานะพยักหน้าการล้างแค้นเป็นส่วนหนึ่งที่เธอยืนกรานจะเข้าร่วมภารกิจ ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่เธอกล่าว แม้เธอจะแพ้ เธอก็จำการต่อสู้ได้และความสามารถเธอก็เหมาะกับการรับมือกับแบล็คสตาร์มาก
“เคล็นท์ดูเหมือนจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้วเห็นได้ชัดว่าพวกมันกำลังเริ่มสู้กับอารยธรรมผลึกม่วง แบล็คสตาร์ควรมีส่วนร่วม เราจะมีโอกาสมากมาย”
อีเลียตยิ้มเขาคือเกรดA+ และอีกสองก็เกือบเป็นA+ แต่ศัตรูก็แค่แบล็คสตาร์คนเดียว
เขารู้สึกว่าความสำเร็จนั้นแน่นอน
..
ในเวลาเดียวกันภายในฐาน1ของกองทัพแบล็คสตาร์…
“จิ๊ๆส่งสามคนมาจัดการฉัน น่ากลัวจริงๆ’
ผ่านตราสังเกตหานเซี่ยวเฝ้าดูการสนทนาระหว่างชานะและคนอื่นเหมือนดูหนัง
หลังรอมาหลายวันหานเซี่ยวก็ได้รับข้อมูลมีค่าจากตราสังเกต เขาค่อนข้างตกใจ
เขาสงสัยว่าชานะจะเป็นเกรดA+ส่วนอีกสองคนคงไม่ด้อยไปกว่าเธอ การส่งทั้งสามมาจับเขา..ฉันไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษพวกแกงั้นหรอ?
อย่างไรก็ตามหานเซี่ยวไม่ตื่นตระหนก เหนือสิ่งอื่นใด ปัญหามันใหญ่มาก ดังนั้นตื่นตระหนกไปก็ไม่มีประโยชน์
ด้วยพลังฉันโอกาสชนะทั้งสามน้อยมาก ต่อให้ฉันจะอึดมากและไม่อาจถูกฆ่าได้ ฉันก็ยังถูกจับได้ หากหกคนเหล่านี้มีพลังเท่ากัน พวกเขาสามารถจับใครก็ได้ภายใต้ผู้อยู่เหนือ
การเป็นเป้าโดยคนเหล่านี้หานเซี่ยวรู้สึกกดดันมาก
คนเหล่านี้ดูเหมือนจะรับคำสั่งจับเป็นมาหานเซี่ยวรู้สึกว่าทั้งหกคนที่เขาเห็นเป็นแค่ส่วนหนึ่งขององค์กรลับนี้
แต่ทว่าไม่ใช่แค่หานเซี่ยวจะไม่ตื่นตระหนก เขายังเกือบหัวเราะ
เดิมทีสถานการณ์คือศัตรูอยู่ในที่ลับ ส่วนเขาอยู่ในที่เปิด หากชานะไม่เข้าร่วมภารกิจ เขาจะไม่อาจป้องกันการโจมตีของศัตรูได้ทัน
แต่ทว่าชานะยืนยันจะเข้าร่วมภารกิจและกลายเป็นกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่ที่ช่วยให้หานเซี่ยวจับตาดูการเคลื่อนไหวพวกเขาได้ตลอด
เยี่ยมมาก!
ชานะมีค่ากว่าที่เขาคิด
หานเซี่ยวอดรู้สึกดีใจไม่ได้หากพวกเขามุ่งตรงมาทางนี้เลย สถานการณ์เขาคงลำบาก
อืมขอฉันคิดก่อน ฉันควรต้อนรับพวกเขายังไง…
หานเซี่ยวลูบคางและไตร่ตรอง