The Legendary Mechanic - ตอนที่ 642 เอาคืน
ตอนที่ 642 เอาคืน
เคอนิดค่อยๆลืมตาตรงหน้าเขาเป็นม่านแสงโปร่งใส และด้านนอกก็เหมือนคุก กรงขังเดี่ยวโปร่งใสกระจายอยู่ทั่วและเกือบทุกกรงขังก็มีคน
เขาคือหนึ่งในนั้น
นี่คือคุกที่เป็นของพวกชานะมันคือคุกที่ไว้จับเป้าหมายบนรายชื่อ
นักโทษทั้งหมดจะมีแหวนจักรกลที่ทำขึ้นพิเศษบนข้อมือและศอกนี่คือการกำจัดพลังของพวกภัยพิบัติ แหวนเหล่านี้เจาะไปในเนื้อพวกเขา แหวนบนข้อมือจะส่งเข็มระดับนาโนเข้าไปในเส้นเลือด หัวใจ สมองและจุดสำคัญอื่น แหวนจักรกลบนศอกจะมียายับยั้งยีนพิเศษที่ทำให้ความเร็วการฟื้นฟูอ่อนกำลัง
พวกเขามีปลอกคออีกด้วยมันเสริมด้วยพลังเวทย์รุนแรงที่จะห้ามไม่ให้พวกเขาใช้คาถาและทำให้อ่อนแอ คนที่ร่ายคาถาเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าพวกนักโทษมาก ดังนั้นผลจึงอยู่นาน
นอกจากนี้ยังมียามากมายฉีกเข้าไปในตัวพวกเขา ป้องกันไม่ให้ร่างกายพวกเขาสร้างพลังงาน
มีวิธีอีกมากที่ทำให้พวกพิเศษเหล่านี้อ่อนแอ
ในวันแรกที่เคอนิดถูกจับเขาก็ตกใจที่พบว่าคนอื่นที่ถูกขังล้วนเป็นบุคคลชื่อดังและสำคัญเท่าเขา แต่พวกเขากลับถูกจับกันหมด
เคอนิดพยายามหลบหนีแต่ก็ล้มเหลวมีหลายคนที่ไม่อาจหลบหนีได้และเขาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นอกจากนี้ ต่อให้เขาหลบหนีออกจากคุกได้ แต่ก็ยังมีศัตรูคอยเฝ้ารออยู่ด้านนอก ซึ่งทำให้เขาสิ้นหวัง
หลังถูกขังมาหลายวันเขาก็ยอมแพ้และรู้ว่าเขาไม่มีทางหลบหนีได้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดที่เขาทำได้คือสวดภาวนาให้มีคนมาช่วยเขา แต่ทว่า ไม่มีใครมาเพื่อช่วยนักโทษอย่างพวกเขา เขาอดรู้สึกว่าโอกาสหลบหนีนั้นเป็น0ไม่ได้ เขาเริ่มมองโลกในแง่ร้าย
อย่างไรก็ตามพูดถึงการมองโลกในแง่ร้าย เขายังด้อยกว่าเพื่อนบ้านเขา
มนุษย์อวกาศชายถูกขังในกรงข้ามเคอนิดคนๆนั้นอยู่มานานมาก เขาไม่ได้ดูน่าสังเวชแต่หดหู่ ชื่อของเขาคือลากี ภัยพิบัติไร้สังเกต จากสิ่งที่เขากล่าว เขาถูกขังมาเกือบสิบปีแล้ว เขานับว่าอาวุโสสุด
วันที่ถูกจองจำน่าเบื่อมากความบันเทิงอย่างเดียวของพวกเขาคือการคุยกัน พยายามหาความสุขเล็กๆน้อยๆ
เมื่อนักโทษเหล่านี้มีช่วงเวลาดีๆกันตราบเท่าที่ลากีเปิดปาก เขาจะทำลายบรรยากาศจนหมด
ทุกคนเคยเป็นคนสำคัญและทุกคนก็มองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับจุดจบนี้แต่ในแง่ของการมองโลกในแง่ร้าย เคอนิดรู้สึกว่าพวกเขาด้อยกว่าลากีมาก
ครานี้ประตูคุกเปิด อัลเบิร์ต ชานะและอีเลียตเดินเข้ามา
“ปล่อยฉันออกไปแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?!”
“แกมาตอแยกับคนที่ไม่ควรตอแยด้วยแกต้องชดใช้!”
“เป้าหมายของพวกแกคืออะไร?!”
หลายคนคำรามทุกครั้งที่มีคนเดินเข้ามา พวกเขาจะพยายามข่มขู่
ทั้งสามไม่สนใจพวกเขาไม่ได้มาเพื่อตรวจสอบนักโทษ เนื่องจากการจับแบล็คสตาร์ล้มเหลว อัลเบิร์ตจึงตัดสินใจเก็บตัวและไม่ทำอะไรเป็นเวลาหลายปี ดังนั้น พวกเขาจึงมานับนักโทษและเตรียมขนย้ายไปที่อื่น
พวกเขาไม่ได้จับเป้าหมายเหล่านี้เพราะอยากสะสมพวกเขามีเป้าหมายอื่น สถานที่นี้ไม่ใช่ตำหแน่งสุดท้ายที่นักโทษเหล่านี้จะลงเอย
เสียงตะโกนและก่นด่าดังไม่หยุดแต่ทั้งสามไม่สนใจ พวกเขาแยกย้ายและนับ ในไม่ช้า ชานะก็มาถึงกรงของเคอนิด
เคอนิดทุบกำแพงโปร่งใสและคำราม”ฉันจำแกได้แกคือคนที่จับฉัน!อารยธรรมอักขระแสงจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”
ชานะเย้ยหยัน”แกยังไม่ยอมแพ้อีกงั้นหรือ?แกคิดว่าจะมีคนมาช่วยแก?”
ครั้งนี้ลากีค่อยๆกล่าว”ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครมาช่วยเราหรอก เราทุกคนต้องตายแน่”
เคอนิดสูญเสียคำพูดทันทีเขาเอามือกุมหน้าและกล่าว”แกอยู่ข้างไหนกันแน่?”
แม้กระทั่งชานะก็ยังพูดไม่ออกชายคนนี้ถูกขังมาเกือบสิบปี ดังนั้นเขาจึงสติแตกไปแล้ว
หลังนับทั้งสามก็เตรียมออกไป นักโทษยังตะโกนก่นด่า อัลเบิร์ตหยุดก่อนหันไปมองและกล่าวกับทุกคน”ฉันรู้ พวกแกคิดว่าพวกแกคือคนสำคัญ ในความเป็นจริง ตำแหน่งพวกแกในวงแหวนดาวกระจายยังไม่อยู่ในสายตาฉันด้วยซ้ำ ไม่กี่วันหลังจากนี้ ฉันจะแช่แข็งพวกแกและส่งพวกแกออกนอกวงแหวนดาวกระจาย แกจะถูกตัดสินว่าหายสาบสูญ แกจะไม่ได้เห็นหน้าองค์กรหรือครอบครัวแกอีก”
นักโทษทั้งหมดเงียบโกรธและท้อแท้ หากอัลเบิร์ตพูดจริง มันก็นับเป็นจุดจบของพวกเขาแล้ว
หลายคนหมดหวังวิตกกังวลและกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ไม่มีใครรู้เป้าหมายขององค์กรนี้
ลากีถอนหายใจ”เห้อฉันเดาดว่าพวกแกคงกำลังจะทดลองกับเราและศึกษาร่างกายเรา เมื่อเราเสียคุณค่า จากนั้นพวกมันจะทำกายวิภาคเรา ฉีกกระดูก กล้ามเนื้อและอวัยวะเรา และวางไว้ในภาชนะบรรจุ ชื่อเราและประสบการณ์ชีวิตเราอาจถูกเขียนไว้บนภาชนะเหล่านั้น จากนั้นเราจะกลายเป็นของสะสมคนอื่น’ดูสิ นี่คือสมองของเคอนิด’และอื่นๆ..”
คนอื่นรู้สึกหนาวสั่น
ใบหน้าของเคอนิดเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามทำไมแกไม่ใช้ชื่อแกวะ?!
อัลเบิร์ตเงียบไปคิดและตัดสินใจไม่อธิบาย”ยังไงก็เถอะ จงเพลิดเพลินกับชีวิตที่เหลือซะ ครั้งหน้าที่แกตื่น แกจะอยู่ในทุ่งดาวอื่น.”
วินาทีที่เขาพูดจบ
บูม!
ปัง!
ทั่วคุกเริ่มสั่นสะเทือนอย่างแรง!
อัลเบิร์ตเซและเกือบกัดลิ้นตัวเอง”เกิดอะไรขึ้น?”
“มีบางอย่างเกิดขึ้นด้านบน!”อีเลียตกล่าวด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาทั้งสามรีบออกคุกและปิดประตูไปนักโทษต่างมองหน้ากัน
‘เป็นไปได้ไหมว่ามีคนมาช่วยเรา?”
พวกเขามีกำลังใจทันที
ลากีกล่าวขึ้น”ต่อให้มีคนจะมาช่วยเราพวกเขาก็อาจสู้กับศัตรูไม่ได้ พวกเขาจะถูกฆ่าแน่ๆ ทั้งหมดจะต้องตาย กองยานจะถูกทำลาย และคนภายในจะถูกระเบิด เพื่อนพวกนาย ลูกน้องและครอบครัวอาจอยู่ด้วย จากนั้นนายจะถูกบังคับให้กินอวัยวะพวกเขา..”
“หุบปากซะ!”
…
เกิดการสั่นสะเทือนไม่หยุดอัลเบิร์ตและคนอื่นกลับไปโถงหลักและพบกับอีกสาม
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ศัตรู!”
ใบหน้าของอัลเบิร์ตดำมืดจากนั้นก็พาคนอื่นออกไปด้านนอก เมื่อพวกเขาออกมา พวกเขาก็พบว่ามีพลังมหาศาลกำลังขุดศูนย์ใหญ่พวกเขาขึ้นจากพื้น
มีคนสองคนลอยอยู่ในท้องฟ้าเมื่อพวกเขาเห็นคนสองคน อัลเบิร์ตและคนอื่นก็ตกตะลึง
แบล็คสตาร์!
จักรพรรดินีมังกร!
เอเมสกำลังใช้ความสามารถเอสเปอร์เธอเพื่อฉีกพื้นดึงฐานพวกเขาออกจากพื้น
“เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”อัลเบิร์ตเบิกตากว้าง
พวกเขาโจมตีแบล็คสตาร์ไปไม่นานและตอนนี้เขาก็อยู่นี่ ตำแหน่งพวกเขาลับมาก แบล็คสตาร์หาพวกเขาเจอได้ยังไง?!
อีเลียตไม่อยากเชื่อเขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะปรากฏ
ความคิดพลันปรากฏในหัวเขาเขาเพิ่งกลับและแบล็คสตาร์ก็พบสถานที่นี้ หรือมันจะเป็นเขาที่เปิดเผยที่ซ่อน?!
ครั้งก่อนที่พวกเขาโจมตีแบล็คสตาร์เขาทำได้แค่รอการโจมตีครั้งต่อไปอย่างตื่นตัว แต่ทว่า หลังความล้มเหลว ตอนนี้แบล็คสตาร์กลับมาหาพวกเขาเอง ต่อให้เขาจะไม่เข้าใจว่าแบล็คสตาร์ทำได้ยังไง เขาก็ทำได้แค่ตำหนิตัวเอง ไม่มีคำอธิบายอื่น
เป็นไปได้ไหมว่าการปล่อยเขาให้หนีก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนแบล็คสตาร์?
อีเลียตโง่งมรู้สึกอับอาย คิดย้อนไปตอนเขาหลบหนีจากการซุ่มโจมตีของแบล็คสตาร์ได้ เขารู้สึกเหมือนเขาเป็นไอโง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร
ชานะอารมณ์เสียมากเธอรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะความล้มเหลวของเธอตอนโจมตีแบล็คสตาร์ครั้งแรก หากเธอไม่ลงมือลำพัง แต่ร่วมมือกับคู่หูเธอ เธอคงจับเขาได้และแบล็คสตาร์ก็จะกลายเป็นนักโทษพวกเธอช
อัลเบิร์ตบังคับให้ตัวเองสงบสติลงเขารู้ว่าแบล็คสตาร์อันตราย แต่ไม่คิดว่าการโต้ตอบของแบล็คสตาร์จะเร็วขนาดนี้ นำอันตรายมาสู่พวกเขา
จักรพรรดินีมังกรมาช่วยแบล็คสตาร์เขาไม่มีความมั่นใจที่จะสู้กับผู้อยู่เหนือเลย แต่เขาก็ไม่สิ้นหวัง
“อย่าตื่นตระหนกแม้ศัตรูจะเป็นผู้อยู่เหนือ เราก็ยังมีความหวังบ้าง แม้เราจะไม่อาจสู้กับจักรพรรดินีมังกรได้ เราก็สามารถถ่วงเวลาได้บ้าง อีเลียต ไม่ว่าเราจะหลบหนีได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับนายแล้ว เราจะสร้างโอกาสให้นายร่ายคาถา”อัลเบิร์ตกัดฟัน
เมื่อมาถึงจุดนี้เขาไม่อาจสนใจพวกนักโทษได้อีก พวกเขาอยู่ในอันตราย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องละทิ้งสิ่งที่ทำงานมาหลายปี
พวกเขาต้องเอาตัวเองให้รอดก่อนการอธิบายไว้ทีหลัง!
“เข้าใจแล้ว!”อีเลียตตอบ
ในเวลานั้นหานเซี่ยวพลันสูดหายใจลึกและตะโกน”ทุกคน ออกมา!”
ฮึม!
วินาทีถัดมาลำธารแสงนับไม่ถ้วนก็ฉีกผ่านท้องฟ้าและลอยเหนือหานเซี่ยว
กองยานบดบังท้องฟ้าและปืนใหญ่นับไม่ถ้วนก็เล็งมายังทั้งหกตัวตนระดับภัยพิบัติมาถึงและปิดเส้นทางหลบหนีทั้งหมดไว้
อัลเบิร์ตและคนอื่นกลายเป็นหินไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
แบล็คสตาร์..รวมคนมามากขนาดนี้ได้ยังไง?!
“ลงมือ!”
โดยไม่พูดให้มากความหานเซี่ยวบอกทุกคนให้โจมตีพร้อมกัน
ตัวร้อยมักตายจากการพูดมากเขาไม่มีเจตนาคุยกับศัตรู หลังพวกเขาจับศัตรูได้ นั่นถึงมีเวลาคุย
“หนี!”อัลเบิร์ตกรีดร้อง
เมื่อเห็นศัตรูจำนวนมากความหวังสุดท้ายของเขาก็แตกสลาย
อีเลียตรีบร่ายคาถาเคลื่อนย้ายแต่เมื่อเขาสร้างวังวนมิติได้ มันก็กลายเป็นไม่มั่นคง ประตูมิติที่เขามักใช้ได้ผลพลันหายไป
ไม่ไกลสายตาของจอมเวทย์เกรดAในชุดแดงกำลังทอประกายเรืองกล้า และคฑาในมือเขาก็เปล่งแสง
ย้อนคาถา!
ครั้งนี้ความคิดเดียวในหัวของอีเลียต ชานะ อัลเบิร์ตและอีกสามคือ
มันจบแล้ว!
ปล.ชื่อ’ลากี’หมายความว่า’ขยะ’