The Legendary Mechanic - ตอนที่ 643 บดขย
ตอนที่ 643 บดขยี้
การต่อสู้แตกหัก
อัลเบิร์ตและคนอื่นถูกล้อมแต่ยังไม่ยอมแพ้พวกเขาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อหลบหนี
อันที่จริงทุกคนแข็งแกร่งมาก แต่พลังของพวกเขาไม่อาจเอาชนะเหล่าภัยพิบัติหลายสิบได้
มีเพียงผู้อยู่เหนือถึงรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้แม้พวกเขาแต่ละคนจะแกร่งกว่า พวกเขาก็ยังอยู่ในขอบเขตระดับภัยพิบัติ
บูม!
การต่อสู้รุนแรงและสนามรบก็ทอดยาวหลายร้อยกิโล พื้นแตกเปิด และพื้นก็สั่นสะเทือน ความสามารถทุกประเภทสาดไปทั่ว แม้กระทั่งภูมิประเทศก็ยังเปลี่ยนไป
ตามข้อมูลของหานเซี่ยวจอมเวทย์หลายคนได้จับตามองอีเลียตตลอด ทันทีที่เขาแสดงสัญญาณจะใช้คาถาเคลื่อนย้าย พวกเขาจะใช้ความสามารถทุกประเภทเพื่อแทรกแซง
อีเลียตถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์เขาโกรธและไม่มีที่ให้หนี
เขาเสียใจที่ใช้คาถาเคลื่อนย้ายเพื่อหลบหนีจากการซุ่มโจมตีของแบล็คสตาร์ก่อนหน้านั่นเป็นสาเหตุให้ศัตรูเตรียมตัว
ท่ามกลางทั้งหกอัลเบิร์ตแข็งแกร่งสุด เขาคือผู้ใช้พลังจิต คลื่นพลังจิตทรงพลังเขาปกคลุมไปทั่ว เขารับมือกับหลายคนเพียงลำพัง หวังสร้างโอกาสให้อีเลียตร่ายคาถา แต่ก็สูญเปล่า
แบล็คสตาร์รวมคนมามากกว่าที่เขาคิดอัลเบิร์ตเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แค่ตัวตนระดับภัยพิบัตินับสิบก็ทำให้พวกเขาลำบากมากพอแล้ว แต่ยังมียานรบนับหมื่นและจักรพรรดินีมังกรบนท้องฟ้า
กองกำลังที่เขารวมมามากพอจะท้าทายอารยธรรมกลุ่มดาวด้วยซ้ำ!
เขารู้ว่าแบล็คสตาร์อันตรายแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้!
บนยานผู้เล่นที่หานเซี่ยวพามาตื่นเต้นมาก
พวกเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ความตื่นเต้นและความน่าเกรงขามของการต่อสู้ระหว่างภัยพิบัตินับสิบถึงขึ้นเทียบได้กับวิดิโอตอนจักรพรรดินีมังกรบดขยี้ยานแม่ นอกจากนี้ ในแง่ของความตื่นเต้น นี่ยังมากกว่า
ผู้เล่นก้มมองจากด้านบนพวกเขาสามารถเห็นการต่อสู้ทั้งหมดได้ชัดเจน พวกเขาต่างบันทึกวิดิโอและรู้สึกว่าวิดิโออาจกลายเป็นวิดิโอที่น่าอัศจรรย์สุดบนฟอรั่ม
หานเซี่ยวเฝ้าดูด้านข้างด้วยผู้ช่วยจำนวนมาก เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเลย เขาต้องซ่อมแซมเครื่องจักรหากพวกมันได้รับความเสียหาย
มันเป็นการรุมยำอยู่ฝ่ายเดียว
เขาวางแผนรับรางวัลภารกิจรอบสองหลังแตะเฟย์ดินแต่คิดว่าการโจมตีฐานศัตรูอาจเป็นภารกิจรอบสาม ดังนั้นเขาจึงทำรอบสองไปนานแล้ว หวังได้รับภารกิจรอบต่อไป แต่รอบสามกลับไม่ปรากฏ การโจมตีฐานไม่ได้กลายเป็นข้อกำหนดภารกิจ
หานเซี่ยวไม่แปลกใจเขาไม่อาจตัดสินข้อกำหนดภารกิจได้ แม้นี่จะไม่ใช่ภารกิจ เขาก็ยังโจมตีฐานอยู่ดี ความจริงที่รอบสามไม่ปรากฏไม่ได้หมายความว่าไม่มีศัตรูอีก เขาต้องหาตัวตนจริงขององค์กรนี้
โดยปราศจากการแตะตัวเฟย์ดินความสามารถที่เขาสุ่มได้จากรอบสองธรรมดามาก หานเซี่ยวเลือกหนึ่งในพรสวรรค์ทั่วไปของเอเดรี่ยน’กระดูกเหล็ก’ ซึ่งช่วยเพิ่มพละกำลัง30หน่วยและความทนทาน20หน่วย นี่ถือว่ามีประโยชน์สุดแล้ว มันเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดเขาอีกประมาณสามพัน
ปังปัง ปัง!
การต่อสู้เป็นฝ่ายเดียวตั้งแต่ต้นจนจบและก็กินเวลาแค่ชั่วขณะการต่อต้านของทั้งหกไร้ความหมาย พวกเขาไม่มีโอกาสหนี พวกเขาถูกจับโดยไม่มีโอกาสขัดขืน
หลังจับทั้งหกองค์กรทั้งหมดก็ส่งคนไปในคุกเพื่อหาคนที่หายไป
อัลเบิร์ตและคนอื่นบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวไปหาหานเซี่ยวหน้ากากพวกเขาถูกทอด เผยให้เห็นใบหน้าโกรธแค้น ยังมีความตกใจในตาพวกเขา พวกเขายังไม่อยากเชื่อว่าพวกเขาจะถูกแบล็คสตาร์จัดการ
การโต้กลับของแบล็คสตาร์เร็วมากแถมยังรุนแรงพอจะจัดการทั้งหมด นี่ยากเกินไปที่ทั้งหกจะยอมรับ
หานเซี่ยวมองผ่านพวกเขาและพยักหน้า
ท้ายที่สุดทั้งหมดก็ถูกจับและไม่มีใครหนีไปได้ เขาบรรลุเป้าหมายแล้ว
“แกเป็นใคร?”
อัลเบิร์ตเงียบและจ้องหานเซี่ยว
“ไม่ตอบ?งั้นฉันขอเปลี่ยนคำถาม”หานเซี่ยวนำรายชื่อการล่าออกมา”ใครสั่งให้พวกแกจับคนเหล่านี้ในวงแหวนดาวกระจาย?รายชื่อนี้มาจากไหน?”
อัลเบิร์ตตกใจ”ทำไมแกถึงมีรายชื่อนี้ได้?!”
“แกคิดจริงๆว่าฉันไม่รู้?ฉันรู้เกี่ยวกับคนของแกมานานแล้วใครคือผู้บงการเบื้องหลัง?”
ชานะไม่อยากเชื่อเธอคิดว่าเป็นความล้มเหลวเธอที่ทำให้แบล็คสตาร์รู้ตัว แต่มันกลับเป็นว่าแบล็คสตาร์รู้เกี่ยวกับพวกเขานานแล้ว เขาไปเอาข้อมูลนั่นมาจากไหน?
อัลเบิร์ตยังเงียบดูเหมือนเขาจะตัดสินไม่ขายคนบงการ
หานเซี่ยวกอดอกและกล่าว”แกคิดว่าแกจะอยู่เงียบได้หลังตกอยู่ในเงื้อมมือฉัน?ฉันมีหลายวิธีจะทำให้แกเปิดปาก”
ด้านหลังหานเซี่ยวมีภัยพิบัติของหลายองค์กรยืนอยู่จ้องพวกอัลเบิร์ตเขม็ง พวกเขาไม่มีทางปล่อยคนที่อยู่เบื้องหลังนี้ไปง่ายๆ หากอัลเบิร์ตและคนอื่นไม่พูด พวกเขาก็จะถูกทรมาน องค์กรเหล่านี้กำลังคิดหาวิธีล้วงข้อมูล
อัลเบิร์ตมองคนเหล่านี้และกล่าว”ยังไงปลายทางก็คือความตายไม่แตกต่างอะไรว่าเราจะพูดหรือไม่พูด เว้นแต่พวกแกจะปล่อยเราไป”
“แกไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะต่อรองได้”หานเซี่ยวกล่าว”ฉันสามารถรับรองได้แค่ว่าพวกแกจะไม่ทรมาน”
“ตกลง..ฉันจะบอก’อัลเบิร์ตตัดสินใจ”อาณาจักรเคล็นท์สั่งเราให้ทำแบบนี้”
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
“ฉันต้องการหลักฐาน”
“ฉันสามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์เรากับเคล็นท์ได้ข้อมูลเรามาจากองค์กรข้อมูลภายใต้แดนหลั่งเลือด มีบันทึกอยู่ รายชื่อนักล่าถูกมอบให้เราโดยเบื้องบนของเคล็นท์ พวกเขาอยากให้วงแหวนดาวกระจายโกลาหลขึ้น ดังนั้นจึงข้างเราให้กำจัดศัตรูและจับกุม”อัลเบิร์ตกล่าวช้าๆ
ไม่มันไม่ใช่เคล็นท์ หานเซี่ยวขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม มันฟังดูเหมือนทุกสิ่งประติดประต่อกัน แต่คำแนะนำภารกิจกลับไม่ใช่ ความจริงต้องไม่ง่ายแบบนี้
เขารู้สึกว่าเคล็นท์น่าจะเป็นผู้บงการเบื้องหลังกลุ่มลึกลับนี้มีความขัดแย้งทั้งในวิธีการและแรงจูงใจ อัลเบิร์ตอาจจงใจใส่ร้ายเคล็นท์
อัลเบิร์ตอาจทำเพราะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องให้ข้อมูลเขาอาจโกหกเพื่อปิดความจริงและปกป้องผู้บงการตัวจริง
สำหรับเหตุผลที่เขาเลือกเคล็นท์มันอาจเพราะเคล็นท์เชื่อมโยงกับองค์กรลับนี้จริงๆ มันยังอาจเป็นเพราะเคล็นท์คือตัวเลือกที่ดีในการผลักโทษให้
หานเซี่ยวจ้องตาอัลเบิร์ตแต่มองไม่เห็นอะไรนอกจากความจริงใจเขาหรี่ตาแต่ไม่ถามต่อ
“ฉันเข้าใจ”หานเซี่ยวพลันยิ้ม”งั้นเคล็นท์ก็คือผู้บงการ ฉันเชื่อแก”
“ถูกต้องหากอยากได้หลักฐาน ฉันสามารถพิสูจน์ได้ ฉันหวังว่าแกจะรักปากและไม่ทรมานฉัน”อัลเบิร์ตยืนยันว่ามันเป็นเคล็นท์
ฑูตขององค์กรอื่นรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อเคล็นท์มากพวกเขาโกรธจัด
“เคล็นท์ขาดสติไปแล้ว?พวกมันกล้าทำอย่างนี้ได้ยังไง?คิดว่าเราจะรังแกได้ง่ายๆ?”
หลังเคล็นท์เข้าร่วมจักรวรรดิคริมสันพวกเขาก็ยิ่งอวดดีขึ้น หลายองค์กรรู้ว่าเคล็นท์ทะเยอทะยาน ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อ’ความจริง’จากปากอัลเบิร์ต
ดวงตาของฑูตอารยธรรมผลึกม่วงเป็นประกายและลอบยินดี หากเคล็นท์ถูกใส่ร้าย พวกเขาก็เต็มใจเชื่อมันไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง นี่จะทำให้องค์กรเหล่านี้เป็นศัตรูต่อเคล็นท์
ศัตรูของศัตรูคือมิตร
อัลเบิร์ตและคนอื่นอยากปิดบังผู้บงการตัวจริงแต่หานเซี่ยวไม่คิดเปิดโปงและปล่อยให้เคล็นท์ถูกใส่ร้าย
เขาสามารถค้นหาความจริงเป็นการส่วนตัวได้เหนือสิ่งอื่นใด คนเหล่านี้อยู่นืมอเขาแล้ว เขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ การปล่อยให้เคล็นท์รับโทษนั้นเหมาะสุดแล้ว แบบนี้ เขาจะได้รับพันธมิตรเพิ่มเพื่อช่วยลดความกดดันระหว่างสงครามลับ
หลังหลายองค์กรพบความจริงเรื่องนี้ข่าวก็กระจายไปทั่ววงแหวนดาวกระจาย จากนั้น ชื่อเสียงของเคล็นท์ก็ตกฉวบ ต่อให้มันไม่จริง มันก็กลายเป็นความจริงสำหรับใครหลายคน ไม่มีทางที่เคล็นท์จะแก้ต่างได้
เดิมทีหานเซี่ยวอยากให้องค์กรเหล่านี้เป็นหนี้เขาและสร้างสายสัมพันธ์การปล่อยให้เคล็นท์รับผิดเป็นของแถม นอกจากนี้ เขาไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
ครั้งนี้ทีมที่ไปหานักโทษได้นำพวกเขากลับมา คนที่โชคร้ายเหล่านี้ถูกปล่อยตัวและในที่สุดก็เริ่มฟื้นพลังได้
“ฮ่าๆๆมีคนมาช่วยเราจริงๆ!”
“มีหลายคนเลย”
เคอนิดและคนอื่นยินดีมากหลายคนเห็นองค์กรตัวเองและกลับไปหาเพื่อน ในไม่ช้า พวกเขาก็รู้ว่ามันเป็นแบล็คสตาร์ที่ช่วยพวกเขา
พวกเขามาหาหานเซี่ยวทีละคนเพื่อแสดงความขอบคุณ
“หากไม่ใช่คุณเราคงจบสิ้นแล้ว”
“ขอบคุณมากเราเป็นหนี้คุณ หากมีอะไรที่คุณอยากให้เราช่วยในอนาคต โปรดบอกเรา”
‘แบล็คสตาร์จากนี้ไป คุณเป็นพี่น้องเรา”
หานเซี่ยวตอบทุกคนอย่างเป็นมิตรการแจ้งเตือนผุดไม่หยุดบนหน้าต่างสถานะเขา ความสัมพันธ์กับองค์กรเหล่านี้พุ่งทะยานและกลายเป็น’เป็นมิตร’ สำหรับคนที่ถูกช่วยเช่นเคอนิด ความโปรดปรานพวกเขาเพิ่มมากสุด
เขาแสดงความตั้งใจรักษาสายสัมพันธ์นี้แน่นอน คนอื่นไม่ปฏิเสธ ไม่ต้องพูดถึงความโปรดปรานนี้ ตัวกองทัพแบล็คสตาร์ก็เป็นองค์กรที่พวกเขาเต็มใจร่วมมือด้วยแล้ว เหตุการณ์นี้กลายเป็นสะพานทอด
หลังช่วยคนโชคร้ายเครือข่ายของหานเซี่ยวก็ขยายขึ้นมาก
ฑูตอารยธรรมผลึกม่วงได้สิ่งที่ต้องการเช่นกันบางองค์กรเต็มใจเข้าร่วมเซ็คชั่นซีโร่และช่วยผลึกม่วงสู้กับเคล็นท์
นี่ต้องขอบคุณหานเซี่ยวความโปรดปรานเขากับอารยธรรมผลึกม่วงเพิ่มขึ้นสองพันทันที เข้าใกล้ความรู้ล้ำยุคขึ้น
หานเซี่ยวมีเป้าหมายอื่นบางคนที่ถูกจับเป็นพวกไร้สังกัด หลังช่วยพวกเขาและเพิ่มความโปรดปราน มันก็มีโอกาสรับสมัคร
หลังถามส่วนใหญ่ปฏิเสธเขาและแสดงว่าพวกเขาไม่มีเจตนาเข้าร่วมองค์กรอื่น มีเพียงคนเดียว ซึ่งทำให้หานเซี่ยวยินดีมาก
การรับสมัครแค่คนเดียวก็ดีพอแล้วปัจจุบันเขาคือภัยพิบัติคนเดียวของกองทัพ การเพิ่มมาอีกหนึ่งย่อมดีมากโข
นี่ยังเป็นเกรดAคนแรกที่เขารับสมัคร
คนที่ยอมรับคำเชิญดูหดหู่มากมันไม่ใช่ใครนอกจากลากี
ลากีไม่ลังเลตอนถูกเชิญหลังถูกขังมานับสิบปี เขาไม่อยากไปไหนอีก หานเซี่ยวช่วยเขา ดังนั้นเขาจึงเต็มใจติดตามหานเซี่ยว จากที่เขามอง ไม่ว่าเขาจะไปไหน เขาก็เป็นขยะอยู่ดี มันไม่แตกต่าง
หานเซี่ยวจับมือและกล่าว”ยินดีต้อนรับสู่กองทัพแบล็คสตาร์นายจะต้องพอใจกับผลประโยชน์ของเราแน่ เราจะเป็นมิตรกันนับจากนี้ นายชื่ออะไร?”
ลากีจับมือหานเซี่ยวถอนหายใจและกล่าว”ฉันคือ’ขยะ’”
“ไม่เอาหน่าพวกนายถ่อมตนไป..”