The Legendary Mechanic - ตอนที่ 663 -664
ตอนที่ 663 แกนไซโอนิคและสถานการณ์สงคราม
เสาจักรกลบางสี่อันสร้างเป็นทรง’X’และรักษาเตาปฏิกรณ์ทรงกลมขนาดเล็กไว้ตรงกลาง
เตาปฏิกรณ์ทรงกลมมีขนาดเท่ากำปั้นมันเป็นสีเงิน ผิวของบอลเนียนและเงา สะท้อนให้เห็นหน้าตาของหานเซี่ยว
“เตาปฏิกรณ์ไซโอนิคขนาดเล็กมีเกรดสีม่วงอ่อนและประสิทธิภาพของมันก็เหนือกว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นแบบเย็นหลายเท่า”
หานเซี่ยวมองเตาปฏิกรณ์ไซโอนิคและถอนหายใจโล่งอก
เขาใช้[พลังงานสภาวะผิดปกติ]เพื่อหมุนพิมพ์เขียวและได้รับพิมพ์เขียวสำหรับเครื่องจักรไซโอนิคเป็นจำนวนมากการสร้างครั้งแรกเขาใช้ชุดสกัดแบบไซโอนิคสมบูรณ์และทดลองหลายรอบอย่างระมัดระวัง กลั่นเป็นอนุภาคไซโอนิค จากนั้น อนุภาคก็รวมเข้าด้วยกัน และเขาก็ใช้การทดลองหลายวันก่อนในที่สุดก็สามารถสร้างเตาพลังงานไซโอนิคได้
เพราะพลังงานไซโอนิคมีความเสี่ยงหานเซี่ยวจึงไม่ค่อยกล้าเร่งกระบวนการผลิตหลังมั่นใจว่าทุกขั้นตอนเสถียรแล้วเท่านั้น
หลังสังเกตผลการทดสอบหานเซี่ยวก็ถอนบอลบีบอัดจากสร้อยคอเขาและโยนมันไปข้างๆ
พลังจักรกลยิงใส่บอลบีบอัดและทำงานในชั่วพริบตา บอลบีบอัดก็เปลี่ยนเป็นชุดจักรกลลิงคลั่ง นี่คือชุดสำรองในคลัง อันดั้งเดิมเขาถูกทำลายไปโดยแปดขุนพลแล้ว
“ฟิลลิปรักษาโหมดสแตนด์บายไว้และนำแกนพลังงานออก”
“ยืนยันคำสั่งฮึม..”
ชุดจักรกลลิงคลั่งเงยหัวขึ้นและยืนตรงจากนั้นชิ้นส่วนตรงหน้าอกก็เปิให้เห็นโครงในของชุดจักรกล
ฟู่!
เตาปฏิกรณ์พลังงานหนาแน่นดีดออกจากหน้าอกมันเปล่งแสงสีแดงราวกับเป็นหัวใจของชุดจักรกล
หานเซี่ยวเอาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ออกและวางมันไว้ข้างๆจากนั้นก็นำเตาปฏิกรณ์ไซโอนิคออกมาและยัดกลับไปเข้า
ฮึม!
เสียงหึ่งดังขึ้นและเตาปฏิกรณ์ก็สว่าง แสงสีฟ้าสดใสสามารถเห็นได้ และแสงก็กระจายไปทั่วชุด จากนั้นชุดจักรกลก็ดึงเตาปฏิกรณ์กลับไปและเริ่มปรับเข้ากับเตาปฏิกรณ์ใหม่
เตาพลังงานทำงานและช่วยให้กระแสพลังงานไซโอนิคด้วยเตาพลลังงานเป็นแกน เส้นแสงสีฟ้าจึงกระจายไปทั่วบนผิวชุดจักรกลลิงคลั่งและคลุมทั้งชุด แสงสีฟ้าสว่างสักพักก่อนหม่นแสงและกระพริบกว่าสิบวินาทีก่อนหยุด
“การปรับปรุงเตาปฏิกรณ์พลังงานเสร็จสิ้นชุดดดจักรกลทำงานได้อย่างสมบูรณ์…ฮึม”ฟิลลิปกล่าวด้วยน้ำเสียงเริงร่าเหมือนเด็ก
ขณะที่เขาสร้างเตาปฏิกรณ์พลังงานไซโอนิคเขายังพัฒนาโปรแกรมของฟิลลิปด้วยความสามารถใหม่ที่ได้มา นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของฟิลลิปแล้ว ฟิลลิปยังดาวน์โหลดโมดูลอารมณ์และตอนนี้ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้น ไม่ใช่แค่นั้น เขายังเลือกแทนที่เสียงด้วยเสียงเด็กชาย
เมื่อมองดูคำแนะนำอุปกรณ์บนหน้าต่างสถานะกำลังขับของชุดลิงคลั่งก็เพิ่มเป็นสามเท่า และโมดูลก็ถูกติดตั้งเพิ่ม ระดับพลังงานเดิมของชุดแค่สองหมื่น แต่ตอนนี้มันเพิ่มเป็น57000!
ด้วยสถานะที่ก้าวกระโดดมันย่อมเห็นได้ว่าความรู้ล้ำยุคสำคัญแค่ไหน
หานเซี่ยวปล่อยพลังจักรกลจากฝ่ามือเขาและเชื่อมต่อกับชุดลิงคลั่งอึดใจต่อมา ชุดลิงคลั่งก็ขยายคลุมตัวอย่างรวดเร็วและกระบวนการติดตั้งก็ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที
ด้วยความคิดเดียวแขนของชุดจักรกลพลันเปลี่ยนเป็นกระบอกปืนใหญ่ และหานเซี่ยวก็เล็งไปยังกำแพงโลหะผสมที่เคยใช้ทดสอบอาวุธ
หลังจากเตาพลังงานถูกแทนด้วยไซโอนิคอาวุธของชุดลิงคลั่งก็พัฒนากลายเป็นอาวุธไซโอนิค หลังปรับปืนใหญ่เป็นโหมดระเบิด หานเซี่ยวก็ยิงโดยไม่ลังเล
ปัง!
เสียงแสบหูดังขึ้นและคลื่นสีฟ้าก็ยิงออกจากปืนลำแสงสีฟ้าขยายอย่างรวดเร็วผ่านอากาศและระเบิดเมื่อชนกับเป้าหมาย
แสงแสบตาสว่างจ้า
บูม!
หานเซี่ยวหรี่ตาและเมื่อเขามองกำแพงอีกครั้ง กำแพงโลหะผสมทั้งหมดก็ลดเป็นเศษหินโดยมีฝุ่นยังลอยในอากาศ
“ไม่เลว”หานเซี่ยวยินดี
พลังงานไซโอนิคมีพลังตามชื่อเสียงมันแค่การเปลี่ยนเตาพลังงานอย่างเดียวก็ทำให้พลังเพิ่มขึ้นมากแล้ว แน่นอน ยังมีผลกระทบของ[กำลังขับพลังงานขั้นสูง]
เพราะพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มไม่มั่นคงอาวุธไซโอนิคทั่วไปจึงทำได้แค่ใช้พลังงานไซโอนิคหยุดนิ่งที่ผลิตจากเตาปฏิกรณ์ไซโอนิคเท่านั้น ก่อนพลังงานไซโอนิคจะทำงาน มันไม่ขยายตัว
มีเพียงอาวุธสายกลยุทธ์ระหว่างอารยธรรมเท่นั้นที่จะมีพลังทำลายล้างพอๆกับพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มอย่างไรก็ตาม อาวุธไซโอนิคที่มีพลังทำลายล้างสูงถูกจำกัดหนัก หากอารยธรรมใช้อาวุธดังกล่าว อารยธรรมกลุ่มดาวหรือสามอารยธรรมจักรวาลได้สืบสวเรื่องนี้ เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีใครอยากเห็นดาวภายในอาณาเขตตนเองถูกทำลายด้วยอาวุธ
ทุกอารยธรรมต่างระวังช่างกลที่ใช้พลังงานไซโอนิคมากมันไม่สำคัญว่าพวกเขาอยากเป็นแมลงตัวน้อยไหม แต่พวกเขาไม่อาจเลือกใช้พลังงานไซโอนิคได้อย่างอิสระ
หานเซี่ยวยังไม่อาจกลั่นบางสิ่งเช่นอาวุธทำลายดาวได้ระดับเขา สติปัญญาและความรู้ยังไม่พอ เขาสามารถทำได้หลังไปถึงระดับของแมนิสันจากจักรวรรดิช่างกล นี่คือความพิเศษของผู้อยู่เหนือ
จากนั้นหานเซี่ยวก็ทดสอบการเจาะเต็มกำลังและโหมดอื่นๆของปืนใหญ่ไซโอนิคก่อนทดสอบโมดูลม่านพลังของลิงคลัง่
เพราะเตาพลังงานใหม่ม่านพลังจึงเปลี่ยนเป็นม่านพลังไซโอนิค รูปลักษณ์ของม่านพลังนิวเคลียร์คือกระจกกึ่งโปร่งใสเหมือนกระจกเปล่งแสงสีเหลืองหรือฟ้า
สำหรับม่านพลังไซโอนิคด้านนอกมันเหมือนฟองที่สองในสามมันโปร่งใสและไร้สี นอกจากความไร้สี ม่านพลังเป็นสีฟ้า และค่อยๆเข้มขึ้นไปทางด้านนอก ทั่วม่านพลังเป็นทรงกลมขึ้นและไม่มีมุมเหมือนเดิมด้วยความทนทานที่เพิ่มขึ้นมาก
ในเวลาเดียวกันเพราะคุณสมบัติดูดซับของพลังงานไซโอนิค ม่านพลังไซโอนิคจึงดูดซับความเสียหายจำวนน้อยตอนถูกกระแทกเพื่อเพิ่มความทนทานของม่านพลังให้นานขึ้น
ม่านพลังไซโอนิคยังมาพร้อมความสามารถในการชาร์จระยะสั้นหานเซี่ยวยังเปิดงานม่านพลังไซโอนิคและชาร์จใส่กำแพงเหล็ก ทำให้มันบุบเป็นวงกลม
ขณะที่ชนความทนทานของม่านพลังก็ลดลงเล็กน้อยและเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์เพื่อเพิ่มความเสียหาย
ต่อให้เป็นคนธรรมดาที่ปกคลุมหมัดด้วยม่านพลังไซโอนิคและชกธรรมดาพวกเขาก็จะสามารถงอเสาเหล็กได้ง่ายๆ นี่เป็นวิธีการสำคัญสำหรับช่างกลในการต่อสู้ระยะประชิด
“ถูกต้องฉันคิดว่าเตาปฏิกรณ์ไซโอนิคมีความสามารถเพิ่มเติม”
จากนั้นหานเซี่ยวก็ยกมือขึ้นและควบคุมพลังงานด้วยการสะบัดข้อมือ บอลพลังงานไซโอนิคลอยอยู่บนฝ่ามือเขา มันอยู่ในสภาพนิ่งเฉยและมั่นคงมาก
จากนั้นเขาก็กดบอลพลังงานไซโอนิคกับกำแพงโลหะผสมและอึดใจต่อมา ทั่วกำแพงก็สั่นและรอยแตกก็กระจายออกจากผิวกำแพง
“ชุดจักรกลไซโอนิคสามารถปล่อยพลังงานไซโอนิคตรงๆได้”
หานเซี่ยวพอใจกับผลการทดสอบเป็นอย่างมากพลังงานที่ปล่อยตรงๆเป็นประโยชน์มาก ไม่ใช่แค่จะเพิ่มความสามารถต่อสู้ระยะประชิด มันยังช่วยให้เขาสามารถใช้ได้หลากหลาย
หลังทดสอบทักษะต่างๆหานเซี่ยวก็เริ่มอัปเกรดเครื่องจักรเขา อันแรกที่เขาอัปเกรดคือชุดลิงคลั่ง
ชุดลิงคลั่งถูกสร้างขึ้นตอนเขาระดับประมาณ140และตอนนี้ที่ทักษะเขาพัฒนา มันก็ได้เวลาปรับปรุงชุด หานเซี่ยวเตรียมพร้อมทำการอัปเกรดรอบด้าน
แถมยังสร้างกองทัพจักรกลไปพร้อมกันหานเซี่ยวกลั่นอนุภาคพลังงานไซโอนิคจำนวนมากเป็นวัสดุแกนและลงทุนค่าประสบการณ์จำนวนมากเพื่อสร้างสายผลิตเตาพลังงานไซโอนิคขนาดเล็ก
นอกจากนั้นด้วยความที่ระดับหานเซี่ยวเพิ่ม พิมพ์เขียวระดับสูงขึ้นจึงปลดล็อค หานเซี่ยวพนันพิมพ์เขียวก่อนสร้างสายผลิตใหม่ อย่างรวดเร็ว เครื่องจักรระดับสูงชุดใหม่ออกจากเตาสดๆร้อนๆ
โรงงานทหารของกองทัพแบล็คสตาร์ได้แบ่งเขตชัดเจนเป็นสองส่วนจุดประสงค์ของโรงงานที่เรย์โนลดูแลคือเพื่อสนับสนุนทั้งกองทัพ และก็ผลิตอุปกรณ์ทั่วไป โรงงานของหานเซี่ยวคือส่วนตัว และทั้งหมดก็เป็นอุปกรณ์ชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือคุณภาพการผลิต มันเหนือกว่าโรงงานโลจิสติกส์มาก
จนถึงวันนี้หานเซี่ยวให้โรงงานยืมแค่เรย์โนลเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่ามีเพียงภัยพิบัติถึงได้รับอนุญาติให้ใช้โรงงานส่วนตัวเขา
สายผลิตที่หานเซี่ยวสร้างขึ้นเองมีสถานะเพิ่มมากพรสวรรค์ใหม่เขา[ความรู้แท้จริงเกี่ยวกับเครื่องจักร]ได้เพิ่มสถานะของผลิตภัณฑ์ในโรงงานเขามาก ปัจจุบัน ทหารจักรกลแนวหน้ามีสถานะไม่ต่ำกว่าทหารชั้นสูงของกองทัพเขาก่อนเลื่อนขั้นสายอาชีพ
ในระดับเขาเขาได้เพิ่มความเร็วการผลิตจนเต็มกำลัง ตราบเท่าที่เขาเต็มใจใช้เงิน เขาจะสามารถสร้างกองทัพใหม่ได้ในเวลาอันสั้น!
หานเซี่ยวใช้เงินเหมือนน้ำและในเวลาไม่กี่เดือน เขาก็สร้างกองทัพจักรกลใหม่จนเสร็จ ขนาดมันใหญ่กว่าเดิมมากและทหารที่เขามีก็นับล้าน!
หมายเลขชุดกองทัพธรรมดาเป็น016และเขาก็มีกองทัพชั้นสูงหกกองทัพที่มีเลข101-106 ทำให้มันรวมเป้นกล่องกองทัพ22กล่อง
เขาสามารถทำตามที่เขาปราถนาได้หากเขารวย!
…
ในเดือนที่ผ่านมาแดนหลั่งเลือดได้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและกองทัพหน้าอีกสองก็ได้เผยตัวและบุกระบบดาวอีกสองแห่ง
จากจุดนี้เป้าหมายของแดนหลั่งเลือดชัดเจน พวกเขาอยากยึดลมตะวันตก คาย่าและไชด้า สามระบบดาวที่เป็นชายแดน
แดนหลั่งเลือดตั้งใจแยกส่วนสนามรบออกเป็นหลายภูมิภาคและเซ็คชั่นซีโร่ก็ให้สมาชิกทั้งหมดพวกเขาตีโต้ในสามระบบดาวแต่ทว่าภายใต้การจู่โจมของแดนหลั่งเลือด เซ็คชั่นซีโร่จึงเป็นฝ่ายแพ้
สถานการณ์ในคาย่าและไชด้าดีกว่าสนามรบทางลมตะวันตกเ,กน้อยซึ่งอันตรายสุด แปดขุนพลได้รวมตัวกัน ทำให้พลรบระดับสูงของเซ็คชั่นซีโร่เลือกหลีกเลี่ยง พวกเขาไม่อาจหยุดแดนหลั่งเลือได้ และศัตรูก็ได้ตั้งฐานบนดาวเคราะห์ไปหกดวงแล้ว
เมื่อพวกเขายึดดาวได้มากขึ้นแดนหลั่งเลอืดก็เริ่มลดความเร็วการบุก กองทหารของทัพหน้ามีจำกัด หลังทิ้งทหารไว้คุ้มกันดาว จำนวนทหารที่พวกเขาระดมได้ก็ลดลงมาก หลังหลายศึก กองทัพหน้าก็ยังเสียหายหนัก แต่ทว่า กองทัพหน้าก็ได้นำโรงงานโลจิสติกส์มาด้วยและเริ่มสร้างยานรบเพื่อชดเชย
ภารกิจของกองทัพหน้าคือตั้งสะพานให้ทัพหลักพวกเขาใช้เวลาแค่เดือนเดียวในการทำภารกิจ และหลังจากนั้น พวกเขาก็หยุดรุกและรอให้กองทัพหลักมาถึง
กองทัพหลักจะไม่ข้ามแนวจักรวาลช้าๆเหมือนกองทัพหน้าเคล็นท์ได้เตรียมการมานานแล้วโดยการลอบตั้งสถานะขนส่ง พวกเขาใช้ทักษะระดับกลุ่มดาวเพื่อสร้างประตูดาวที่มั่นคงพอจะส่งกำลังหนุนและทรัพยากรตลอดเวลา
สถานีขนส่งของเคล็นท์ซ่อนอยู่ภายใต้แถบจักรวาลแห้งแล้งแม้อารยธรรมผลึกม่วงจะไม่รู้ตำแหน่งแน่นอน พวกเขาก็ตระหนักถึงการมีอยู่ของมัน
บนฐานที่พวกเขาสร้างกองทัพหน้ายังนำอะไหล่และเทคโนลยีของเคล็นท์มาตั้งประตูดาว วินาทีที่การก่อสร้างเสร็จ ปัญหาด้านโลจิสก็หมดไป
ต่อให้ผลึกม่วงรู้พวกเขาก็ไม่มีพลังจะหยุด หลังกองทัพหน้าสร้างฐาน พวกเขาก็ตั้งสถานีกระโดดควอนตัมเพื่อเชื่อมต่อฐานทั้งหมดเพื่อเสริมกำลังกัน
วินาทีที่หนึ่งในฐานถูกโจมตีฐานอื่นจะส่งกำลังหนุนมา
เพื่อรับมือกับมหันตภัยกลายพันธ์โกโดร่าก็เคยใช้สถานีควอนตัม แต่นี่คืออุปกรณ์ระดับกลุ่มดาวที่ใช้กันทั่วไปในสงคราม โกโดร่ายังซื้อมันมาจากอารยธรรมกลุ่มดาว
เซ็คชั่นซีโร่ได้พยายามทำลายประตูดาวได้หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว จากนั้นพวกเขาถึงเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้ไม่เสียทหารเปล่า พวกเขาเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นมุ่งเน้นการก่อกวน
ผลึกม่วงลงทุนทรัพยากรไปมากเพื่อให้สมาชิกของเซ็คชั่นซีโร่ขยายกองยานและเติมกำลังทหาร
แม้ราล์ฟจะไม่พูดถึงมันก็ชัดเจนว่าเซ็คชั่นซีโร่ตัดสินใจรับคำแนะนำเขา
ด้วยทรัพยากรและความสามารถการผลิตของอารยธรรมกลุ่มดาวตราบเท่าที่แดนหลั่งเลือดสร้างประตูดาวเสร็จ สงครามนี้จะเป็นสงครามยาว ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเติมกองทัพได้ตลอด
แม้ทหารจะตายยานรบก็ไม่มีวันหมด
ความสามารถของทั้งสองฝ่ายในการทำศึกเป็นสิบปีการทำสงครามต้องใช้เงินและทั้งสองฝ่ายก็แข่งขันกันในด้านความสามารถการผลิต
หลังไม่เข้าร่วมสงครามเป็นเวลาหนึ่งเดือนสถานการณ์ของสงครามลับก็ไม่มีอะไรให้หานเซี่ยวทำมาก เขาสร้างกองทัพจักรกลใหม่และขยายกองทัพต่อ ทรัพยากรกลุ่มแรกที่ผลึกม่วงให้เขาถูกใช้จนหมด เงินสิบล้านเต็มก็เช่นกัน และเขายังใช้เงินบางส่วนจากเงินออมเขาเอง
หลังใช้เงินไปมากกองทัพแบล็คสตาร์ก็สร้างยานใหม่กว่าร้อยและจ้างทหารรับจ้างชุดใหม่
การทำสงครามเผาเงินไปมากหากเขาไม่ร่วมในสงครามลับ หานเซี่ยวคงไม่ได้รับการสนับสนุนจากอารยธรรมกลุ่มดาว
หลังเตรียมการมาเดือนหานเซี่ยวก็เตรียมทำภารกิจเลื่อนระดับเขาก่อนกลับสนามรบ
การเก็บแต้มโปรดปรานยังเป็นประโยชน์เพราะผลึกม่วงยังมีความรู้ล้ำยุคอยู่
หานเซี่ยวอยากสู้กับลากีเพื่อรับแต้มแต่แขกไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏที่ฐานเขาก่อนต
—————————————
ตอนที่ 664 อดีตของลากี
หลังเริ่มสงครามลับกองทัพแบล็คสตาร์ก็ได้รับคนเพิ่ม ต้นกล้าของค่ายฝึกเติบโตแล้ว และทหารรับจ้างอิสระหลายคนก็ยังถูกรับ กองทัพแบล็คสตาร์ได้รับพวกเลือดใหม่ ด้วยจำนวนของทหารรับจ้างที่เกินกว่าสองแสน จำนวนคนที่ฐาน1จึงสูง
จอมเวทย์สวมหน้ากากสามคนในชุดฮู้ดดำเดินมาในโถงของฐาน1ดึงดูดสายตาของทหารรับจ้างจำนวนมาก วิหารชุดแดงเป็นที่รู้จักไปทั่วทุ่งดาว จอมเวทย์ต้องห้ามของ’เมกัส’โด่งดังมาก
ทำไมคนของออสตินถึงมาหากัปตัน?
ทุกคนรู้ว่ากัปตันเป็นคนของจักรพรรดินีมังกรเมื่อเห็นหานเซี่ยวติดต่อกับผู้อยู่เหนืออีกคน พวกเขาจึงอดสงสัยไม่ได้
..
สามจอมเวทย์ต้องห้ามมาถึงห้องรับแขกที่พวกเขาเห็นหานเซี่ยวและพยักหน้าอย่างสุภาพ
หานเซี่ยวโบกมือและบอกซิลเวียให้กลับไปอ่านหนังสือจากนั้นก็มองทั้งสามและถาม”จอมเวทย์ต้องห้ามของออสติน นี่มันเรื่องอะไร?”
จอมเวทย์ตัวเตี้ยตรงกลางดีโซโลคือหัวหน้าของทั้งสาม เขาแนะนำตัวสั้นๆและจากนั้นก็ตัดบท
“ท่านเมกัสสั่งให้เรามาหาคนบางคนหนึ่งในลูกน้องของท่าน เรามาที่นี่เพื่อพาตัวเขากลับไป”
หานเซี่ยวงุนงงนี่ทำให้เขาแปลกใจ”ลากีสินะ?”
ในบรรดาคนทั้งหมดลากีมีต้นกำเนิดลึกลับสุด แถม เขายังเป็นจอมเวทย์เกรดA+ ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสสูงว่าจะเป็นเป้าหมาย
“ใช่ชื่อเต็มของเขาคือลากี ชเวิด เขาเคยทำงานภายใต้ท่านเมกัสมาก่อน”น้ำเสียงของดีโซโลสงบ คำพูดเขาคลุมเครือ และมันก็ดูเหมือนไม่อยากให้รายละเอียด
หานเซี่ยวลอบแปลกใจลากีถูกขังมาเป็นสิบปี และไม่มีใครช่วยเขา ตอนนี้ที่เขาหลบหนีได้ คนของออสตินก็มาหาเขา
แม้เขาจะรู้ชัดเจนว่าออสตินไม่ใช่พวกน่ารังเกียจมันก็ยังรู้สึกรำคาญ
เขาคิดและตระหนักว่ามันแปลกหากลากีคือคนของออสติน เขาจะถูกจับง่ายๆได้ยังไง?ลากีดูเหมือนพวกหมาป่าเดียวดายก่อนถูกจับ และหากมันจริง มันก็หมายความว่าเขาถูกขับไล่ออกจากกองกำลังของออสตินแล้ว แล้วทำไมออสตินถึงส่งคนมาพาลากีกลับ?
“ทำไมถึงมาพาเขากลับไป?”หานเซี่ยวถาม
ดีโซโลส่ายหัว“นี่คือคำสั่งของท่านเมกัส เราแค่ทำตาม”
หานเซี่ยวหรี่ตา”แล้วหากฉันปฏิเสธละ?”
เสียงของดีโซโลสงบและไม่สั่นไหว”ท่านเมกัสบอกว่าท่านเป็นหนี้เขาและจะไว้หน้าเขา”
ปากของหานเซี่ยวกระตุกในช่วงงานเลี้ยง ออสตินให้แกนจ้าวมิติเขาโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นเขาจึงเป็นหนี้ มันไม่มีของฟรีในโลกจริงๆ
ตอนนี้หานเซี่ยวคิดไม่ตกกับออสตินผู้มีความสัมพันธ์ดีกับเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรับของขวัญจากออสตินดังนั้นเขาจึงไม่อาจปฏิเสธ เหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์ต่างกัน Aช่วยB ดังนั้นBจึงควรช่วยAในอนาคต ไม่งั้น มันจะเป็นการกลบฝังความสัมพันธ์ไป
หานเซี่ยวลังเลลากีคนนักสู้ที่แข็งแกร่งสุดเป็นอันดับสองในกองทัพแบล็คสตาร์ รองจากหานเซี่ยวเท่านั้น หากเขาออกไป มาตรฐานของกองทัพจะลดลงมาก
หลังพิจารณาสักพักหานเซี่ยวก็คิดข้ออ้างได้”คุยไปก็เปล่าประโยชน์ ฉันคิดว่ามันต้องถามความเห็นเขา หากเขาอยากกลับไป แน่นอนว่าฉันจะไม่บังคับให้เขาอยู่ หากเขาไม่อยากไป ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”
‘ตกลง”ดีโซโลพยักหน้าและไม่คัดค้าน
ในความเป็นจริงระหว่างทางดีโซโลได้จินตนาการสถานการณ์มากมาย หากแบล็คสตาร์อ้างนู่นนี่เพื่อขัดขวางเขาและไม่ไว้หน้าออสติน เขาก็จะใช้กำลัง
เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะพลันกลายเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือโดยการสู้กับแปดขุนพลพร้อมกัน นี่ทำให้เขาตกใจ
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจทำแบบนั้นได้ดีโซโลกลัวแบล็คสตาร์ แบล็คสตาร์ได้แสดงว่าเขามีศักยภาพกลายเป็นผู้อยู่เหนือ แม้ออสตินจะหนุนหลังเขา มันก็ไม่ดีนับที่จะสร้างความสัมพันธ์แย่ๆกับแบล็คสตาร์ ดังนั้นเขาจึงแสดงท่าทีเป็นมิตร
หานเซี่ยวส่งข้อความหาลากีหลังผ่านไปสักพัก ลากีก็เปิดประตูและเดินมาขณะบ่น
“มีภารกิจอันตรายอีก?ฉันบอกนายแล้วฉันจะตายเร็วๆนี้หากนายยังส่งฉัน..หืม?”
ลากีเดินเข้ามาและเห็นสามจอมเวทย์ต้องห้ามเขาหยุดบ่นและสีหน้าก็เปลี่ยนไปขณะพึมพำ”ไม่แปลกใจที่ช่วงนี้ฉันฟุ้งซ่าน มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นจริง เห้อ..”
ความเย็นชาฉายผ่านตาของดีโซโลขณะที่กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส”ไม่เจอกันนานเลยนะลากี”
“ช่วยแกล้งทำเป็นไม่เห็นฉันได้ไหม?”ใบหน้าของลากีขมขนื่
“คิดว่าไงละ?”ดีโซโลตอบ
ลากีหันไปมองหานเซี่ยวอย่างเศร้าใจ
ตาของหานเซี่ยวกระตุก”อย่ามองฉันแบบนั้นพวกเขามาหาฉันและบอกว่าพวกเขาจะพาตัวนายกลับ งั้น นายก็เคยเป็นคนของออสติน ทำไมไม่บอกฉัน?เขาและฉันสนิทกัน”
“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่านายรู้จักออสติน”ลากีกล่าว
การเป็นลูกน้องออสตินนับว่าน่าทึ่งและเขาจะมีตำแหน่งสูงมากในองค์กรใหญ่ลากีไม่บอกหานเซี่ยวเพราะอยากอยู่เงียบๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกว่าแบล็คสตาร์และออสตินไม่ควรเกี่ยวกัน เขาไม่เคยคิดว่าหานเซี่ยวและออสตินจะเคยคุยและหัวเราะด้วยกันมาก่อน
“นายดูไม่เหมือนอยากเจอพวกออสตินนะ”หานเซี่ยวขมวดคิ้ว”ไม่จำเป็นต้องปิดบังอดีตบอกฉันมา.
ดีโซโลเหลือบมองและไม่พูดอะไร
ลากีถอนหายใจและแสดงสีหน้าเศร้าๆเหมือนไม่อยากบอกหานเซี่ยวแทบอยากจะยืนบุหรี่ให้เขาเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ
“เอาละฉันจะบอกนาย สิบปีก่อน ฉันคือผู้บัญชาการจอมเวทย์ต้องห้ามของวิหารชุดแดง ศิษย์คนที่สี่ของเมกัส”
ดวงตาของหานเซี่ยวเบิกกว้าง
พระเจ้า..นั่นจริงหรอ?
ตำแหน่งของผู้บัญชาการจอมเวทย์ต้องห้ามเทียบได้กับหัวหน้าขุนพลภายใต้ฮีเบอร์ศิษย์คนที่สี่หมายความว่าเขาคือหนึ่งในผู้อุปถัมภ์ของออสติน เมื่อรวมสองฉายานี้เข้าด้วยกัน ตำแหน่งของลากีในอดีตย่อมเป็นมือขวาของออสติน
ลากีโบกมือ”แต่หลังจากนั้นฉันก็ทำพลาดและออสตินก็เตะฉันออกจากวิหารชุดแดง ฉันออกมา กลายเป็นพวกโดดเดี่ยวและถูกจับ นายช่วยฉันและจากนั้นก็อยากที่นายรู้”
หานเซี่ยวตกใจด้วยตำแหน่งของลากี ความผิดพลาดอะไรกันที่ทำให้ออสตินถึงกับไล่เขา?”
ดีโซโลพลันกระแอม”ท่านแบล็คสตาร์มันจะดีกว่าหากท่านไม่รู้”
ดวงตาของหานเซี่ยวขยับด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นจากนั้นก็หันไปเห็นสีหน้าของลากีกำลังซบเซา
“อนิจจาทุกคนต้องเคยเด็กและป่าเถื่อนมาก่อน เมกัสเป็นคนดีจริงๆ มันเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่ฉันยังมีชีวิตมาถึงตอนนี้”ลากีพูดด้วยน้ำเสียงคิดถึง
ปากของหานเซี่ยวกระตุกมันยากมากสำหรับเขาที่จะจินตนาการตอนลากียังเด็กและป่าเถื่อน มันรู้สึกเหมือนชายที่เกิดมาพร้อมชื่อเช่นเขาไม่อาจนำไปเชื่อมโยงกับคำว่า’เด็ก’และ’ป่าเถื่อน’ได้เลย
“เอาละงั้นก็กลับเข้าเรื่อง ฉันเคารพการตัดสินของนาย หากนายอยากกลับไป ฉันจะไม่หยุด แต่หากอยากอยู่ ฉันจะช่วยนายปฏิเสธ”
คิ้วของดีโซโลขมวดเขาคิดสักพักและไม่พูดอะไร
เขาลูบหน้าแล้วถอนหายใจ”ฉันจะกลับไป”
ดีโซโลถอนหายใจโล่งอกโชคดี ลากีอ่านสถานการณ์ออก
เขาหันไปหาหานเซี่ยว”ท่านแบล็คสตาร์เขาเต็มใจมากับเรา โปรดปฏิบัติตามข้อตกลงของเรา”
“งั้นก็ได้”
หานเซี่ยวถอนหายใจลากีเป็นผู้ช่วยที่ยากจะได้รับ และตอนนี้เขากำลังเสียไป มันรู้สึกเหมือนเพื่อนบ้านเอื้อมมือมาแย่งพืชผลเขาไป
ครั้งนี้ลากีเปิดปากและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แบล็คสตาร์นายช่วยฉัน อย่าสงสัยในตัวฉัน ฉันจะกลับไปบอกกับออสตินให้ชัดเจน ไม่งั้น พวกเขาจะไม่ยอมแพ้และฉันก็ไม่อยากทำให้นายลำบาก..”
หลังได้ยินหานเซี่ยวก็พลันเข้าใจว่าเขามองลากีผิดไป ความไม่พอใจเล็กๆน้อยๆในหัวใจเขาหายไปทันที เขายังรู้สึกประทับใจ
ว้าวนายเชื่อถือได้จริงๆ การช่วยนายไม่เสียเปล่า
จากนั้นลากีก็หันไปพูดด้วยน้ำเสียงเดิม”ยังไงนายก็ชนะออสตินไม่ได้อยู่แล้วไม่มีประโยชน์แม้ฉันจะปฏิเสธ การกลับไปย่อมดีต่อทุกคน เห้อ..”
อะไรนะ?นั่นไม่ผิดเลย!
หานเซี่ยวอดดอถามดีโซโลไม่ได้”ออสตินคิดอะไรถึงแต่งตั้งเขาเป็นผู้บัญชาการของจอมเวทย์ต้องห้าม?เขาไม่กังวลว่าจอมเวทย์ต้องห้ามทั้งหมดจะกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าภายใต้การนำของเขางั้นหรอ?”
“เอ่อ..ในอดีตเขาไม่ได้เป็นแบบนี้”น้ำเสียงของดีโซโลดูอึดอัด
พวกเขาคุยกันไม่กี่คำจากนั้นดีโซโลก็ยืนขึ้น”ภารกิจของผมลุล่วงแล้ว ผมควรพาเขากลับไป”
หานเซี่ยวกำลังจะพยักหน้าแต่ก็นึกถึงบางสิ่งและรีบหยุด
“รอเดี๋ยวฉันต้องการความช่วยเหลือหน่อย”
ดีโซโลมองกลับมา”โปรดบอกมาเลยครับ”
‘เอ่อ..ฉันอยากประมือกับพวกนายหน่อย’หานเซี่ยวกล่าว
รวมถึงลากีมีคนแข็งแกร่งสี่คนตรงหน้าเขา ทั้งหมดควรมีระดับสูงกว่าเขา20ระดับ นี่เป็นโอกาสดี หากเขาเอาชนะทั้งหมดได้ มันจะมอบแต้มให้เขาถึง24 บรรลุภารกิจถึงครึ่งทีเดียว โอกาสเช่นนี้จะไม่ได้มาบ่อยๆ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงเอ่ยปาก
ตามคาดพวกดีโซโลรู้สึกสับสน
เหตุใดแบล็คสตาร์ถึงร้องขอแบบนี้?
ดีโซโลสับสนสักพักก่อนถาม
“เอ่อ..ทำไมละ?”
“เมื่อฉันเห็นคนที่น่าเกรงขามฉันก็อดอยากสู้ไม่ได้ จอมเวทย์ต้องห้ามมีชื่อเสียงมาก ดังนั้นฉันจึงอยากทดสอบพลังของพวกนายและทดสอบอาวุธใหม่ฉันไปด้วย”หานเซี่ยวคิดเหตุผล
“เอ่อ..”ดีโซโลยังลังเล
หานเซี่ยวกัดฟันและหยิบไพ่ตายออกมา
“เล่นกันนิดหน่อยหน่า….
มันเป็นไพ่ตายที่มีแนวโน้มสุดเมื่อใช้ ดีโซโลจะไม่รู้วิธีปฏิเสธ
เดิมทีเขาแค่อยากนำลากีกลับมาและทำภารกิจให้เสร็จก่อนเวลา
แต่ตอนนี้เขาได้รับเชิญให้ร่วมสู้เขาจึงสนใจ!
คนมักบอกว่าแบล็คสตาร์คือเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือมีเพียงคนไม่กี่สิบที่ได้รับเกียรติเช่นนี้
แม้ดีโซโลจะเป็นแค่คนของผู้อยู่เหนือเขาก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้อยู่เหนือ
ดีโซโลอยากวัดฝีมือกับเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือและดูว่าแตกต่างกันแค่ไหน
เมื่อคิดดีโซโลก็หยุดลังเลและกลายเป็นกระตือรือร้น เขาจ้องหานเซี่ยวและกล่าว”ตกลง ท่านเลือกสถานที่เลย”
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็ยิ้มยินดี วิธีที่เขามองดีโซโลและคนอื่นเหมือนกำลังมองกระเทียมเดินได้
“ฉันเองก็อยากประลองกับนายด้วยนะ”หานเซี่ยวชี้ลากี
ใบหน้าของลากีกลายเป็นขมขื่นและพึมพำ”ฉันเข้าใจแล้วงั้นนี่ก็จะเป็นการบังเอิญฆ่าฉันในช่วงประลองสินะ..”
…
ในขณะเดียวกันบนดาวเคราะห์อความารีน..
“งั้นนี่ก็คือบ้านเกิดของแบล็คสตาร์..”
ยานอวกาศในโหมดซ่อนตัวลอยในอวกาศผ่านหน้าต่าง สเตฟานีมองไปยังดาวสีฟ้า
‘อัลเบิร์ตโง่มากมีจุดอ่อนที่ชัดเจน แต่ก็ยังไม่รู้วิธีใช้ประโยชน์จากมัน..”
—————————————