The Legendary Mechanic - ตอนที่ 665-666
ตอนที่ 665 ประมือ
สามปีก่อนเมื่อมหันตภัยกลายพันธ์จบ กลุ่มการเงินทุกประเภทก็ติดตามแบล็คสตาร์และลงทุนในอความารีน ซึ่งเป็นเขตแดนของเกาะมังกรไปโดยปริยาย เทคโนโลยีที่ล้าหลังมานานรับความรู้จักรวาลเข้า และความคืบหน้าของอารยธรรมก็ค่อยๆเติบโต
ไม่มีใครลืมวีรกรรมของหานเซี่ยวคนที่เปลี่ยนชะตากรรมของดาวนี้ เบนเน็ตได้นำความพยายามในการสร้างเมืองภายใต้ชื่อเขตอนุรักษ์ปีศาจทมิฬ
นั่นคือเมืองแบล็คสตาร์
ผู้รอดชีวิตในเขตอนุรักษ์กลายเป็นพลเมืองและคนนับไม่ถ้วนจากหกประเทศก็ย้ายมาเมืองนี้ตอนนี้ เมืองแบล็คสตาร์โด่งดังสุดบนดาวอความารีน ศูนย์กลางของเมืองคือฐานกองทัพแบล็คสตาร์ หอคอยสูงทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสชี้ตรงไปยังท้องฟ้า โดยมีสัญลักษณ์กองทัพแบล็คสตาร์สลักอยู่บนหอคอย สะพานรางไฟฟ้าด้านบนตัดกัน ที่รถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าจะสลับกันอย่างต่อเนื่อง แสงสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน
กลุ่มการเงินมาเพราะแบล็คสตาร์และเกาะมังกรดังนั้นเมืองแบล็คสตาร์จึงได้รับเงินทุนมากมาย ระดับเทคโนโลยีของเมืองนี้สูงสุดบนอความารีน เมืองหลวงของหกประเทศเปรียบเสมือนชนบทไป เมืองแบล็คสตาร์คือเมืองแห่งอนาคตบนอความารีน
แม้สนธิสัญญาที่ร่างไว้โดยสามอารยธรรมจักรวาลจะมีกฏห้ามแทรกแซงความก้าวหน้าของอารยธรรมชั้นต่ำแต่สิ่งเหล่านี้ก็มีจุดประสงค์หลักเพื่อปกป้องอารยธรรมระดับต่ำจากการถูกละเมิด หากพวกเขาสนับสนุนการพัฒนา ตราบเท่าที่ผู้ปกครองอารยธรรมไม่ว่าอะไร จะไม่มีปัญหา แน่นอน โกโดร่าจะไม่ขวางหานเซี่ยวจากการสร้างบ้านเกิดเขาใหม่
ภายใต้การปกป้องของหานเซี่ยวหกประเทศกำลังพัฒนาเทคโนโลยี สนับสนุนการดำรงชีวิตของประชากรและฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เทียบกับสามปีก่อน ดาวอความารีนเปลี่ยนไปมาก ด้วยการอนุมัติของหานเวี่ยว เบนเน็ตจึงเปลี่ยนจุดประสงค์ขององค์กรและสร้างระบบการเมืองใหม่โดยมีเมืองแบล็คสตาร์เป็นเมืองหลวง สร้างประเทศที่เจ็ดในโลกขึ้น พวกเขาค่อยๆพัฒนาไปสู่อารยธรรมกาแล็กซี่
คนสิบคนรวมถึงสเตฟานีลอยลงในถิ่นทุรกันดารนอกเมืองแบล็คสตาร์มองไปยังเมืองที่ห่างไกล
“นี่คือบ้านเกิดของแบล็คสตาร์ตามข้อมูล ดาวแม่เขาสำคัญต่อเขามาก และเขาก็อุทิศชีวิตให้กับมัน”สมาชิกคนหนึ่งกล่าว
สเตฟานีพยักหน้า
หลังมาถึงวงแหวนดาวกระจายเธอก็ไม่รีบลงมือแต่กลับรวบรวมข้อมูลสักพัก เรียนรู้เกี่ยวกับความยุ่งเหยิงที่อัลเบิร์ตทิ้งไว้
คนที่อัลเบิร์ตจับมาล้วนได้รับการช่วยโดยแบล็คสตาร์และตอนนี้กำลังเชื่อมต่อกันหากเธอลงมืออย่างประมาท เมื่อเธอจับคนหนึ่ง คนอื่นจะตื่นตัวและรู้ว่ามีคนกำลังล่าพวกเขาอีกครั้ง ความล้มเหลวของอัลเบิร์ตทำให้งานของสเตฟานียากขึ้น
สเตฟานีไม่วางแผนสร้างฐานเหมือนอัลเบิร์ตเธอตัดสินใจอยู่ในที่มืด ส่งเป้าหมายหนึ่งไปทันทีหลังจับได้ ไม่คิดอยู่ในสถานที่เดิมเป็นเวลานาน
มันมีประสิทธิภาพน้อยกว่าแต่ก็เสี่ยงน้อยกว่า
เธอยังไม่วางแผนแสวงหาความร่วมมือจากเคล็นท์เคล็นท์ถูกพวกเขาใส่ร้าย ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงว่าพวกเขาจะขายเธอออกเพื่อกอบกู้ชื่อเสียง นอกจากนี้เธอไม่ได้สร้างฐาน ดังนั้นช่องทางข้อมูลจึงสำคัญน้อยมาก
ในกรณีนี้เป้าหมายที่ยากในการจัดการสุดอย่างแบล็คสตาร์ได้กลายเป็นเป้าหมายแรกของเธอ เขาฆ่าคนไปหกคนรวมถึงอัลเบิร์ต ช่วยคนที่ถูกจับจนหมดและทำให้เวลาหลายปีของอัลเบิร์ตสูญเปล่า แถม เขายังกลายเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ เขามีศักยภาพมากและเป็นเหยื่อที่ดีสุด ท่านพันเงาต้องชอบเขามาก
“แบล็คสตาร์อยู่ในสงครามดังนั้นเราจึงไม่มีโอกาสได้ตัวเขา แต่ตราบเท่าที่ศัตรูปรากฏบนดาวแม่เขา เขาจะต้องกลับมาจัดการแน่ ฉันไม่ประมาทเหมือนอัลเบิร์ตที่ไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆแบบนี้”
แทนที่จะโจมตีดินแดนของแบล็คสตาร์หรือไปยุ่งกับสงครามลับสเตฟานีเลือกวางกับดักล่อแบล็คสตาร์ สนามรบถูกตั้งไว้บนอความารีน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสนามรบที่โดดเด่นสำหรับแบล็คสตาร์ แต่จริงๆแล้วจะทำให้เขาระวังตัว
รวมถึงเธอ‘เงา’ภัยพิบัติสิบคนอาจไม่สามารถฆ่าแบล็คสตาร์ ฉายา’กายอมตะ’ได้ แต่การจับเขาเป็นอีกเรื่อง
“ต่อให้เขามีศักยภาพเป็นผู้อยู่เหนือเขาก็ยังไม่ใช่ผู้อยู่เหนือ”สีหน้าของสเตฟานีสงบและเย็นชา
เมื่อมองไปยังท้องฟ้าสดใสสเตฟานีก็สูดหายใจและรู้สึกเย็นในปอด เธอหรี่ตาและยิ้ม”ฮี่ๆ ฉันไม่คิดเลยว่าจะนึกถึงยุคสงครามหลังหลับมานาน สถานที่นี้เหมือนบ้านเกิดฉัน ดาวที่รุ่งเรือง..จนฉันอยากบดขยี้มัน”
อีกเก้ามองหน้ากันและไม่พูดอะไร
พวกเขาไม่คุ้นกับสเตฟานีแต่รู้ว่าหัวหน้าพวกเขาไม่ใช่’เงา’ในเวลาเดียวกับพวกเขา
…
หวือ!
ยานแสงทมิฬลงจอดบนดาวไร้คนอาศัยและหานเซี่ยว ดีโซโลกับคนอื่นก็เดินออกมา
“นี่แหละสถานที่นี้ใหญ่พอ ไม่ต้องกังวลถึงความเสียหาย”หานเซี่ยวยิ้ม
เขาไม่เลือกฐานเป็นที่ซ้อมมือแค่ผลกระทบจากการต่อสู้ของภัยพิบัติ ฐานก็พังหมดแล้ว แถม กำแพงห้องฝึกยังไม่แข็งพอ และเขาก็ไม่อยากสูญเสียโดยไม่จำเป็น
ดีโซโลเงียบและแสดงท่าทางมือเขายื่นออกไปด้านข้าง ลวดลายเวทย์สีทองสว่างปรากฏบนชุดคลุมดำเขาและพลังเวทย์ก็พุ่งพรวด ชุดคลุมกระพือราวกับมันถูกม้วนโดยพายุ รูม่านตาภายใต้ฮู้ดยังทอประกายเรืองกล้า
ลากีและอีกสองถอยจากสนามรบ
หานเซี่ยวดึงสร้อบคอเขาด้วยพลังจักรกลชุดจักรกลใหม่คลุมร่างเขา มันสวยกว่าลิงคลั่ง มันมีเปลือกสีดำเงินเพรียวพร้อมลวดลายสีฟ้าเปล่งประกาย
แม้จะมีสุนทรียภาพกว่าลิงคลั่งแต่มันกลับดุดันกว่ามาก
นี่คือรุ่นอัปเกรดของลิงคลั่งยังถือเป็นชุดนาโนของรุ่นลิงคลั่ง ชื่อมันคือ[ลิงภูเขา]!
แม้ข้อกำหนดระดับสำหรับลิงคลั่งจะเป็น135แต่สำหรับลิงภูเขาคือ165 สูงกว่า30ระดับ หานเซี่ยวใช้วัสดุหายากจำนวนมากและผสานเทคโนโลยีใหม่ ช่วยเพิ่มพลังของชุดจักรกลไปมาก
แต้มเกราะสูงกว่า110000และระดับพลังมันก็เกือบ5000 ประสิทธิภาพมันเหนือล้ำมาก
แม้ลิงคลั่งจะทรงพลังดุดันลิงภูเขาก็ถนัดในด้านพลังงาน นี่เพราะเตาปฏิกรณ์ไซโอนิค ชุดลิงคลั่งจะเน้นการต่อสู้ระยะประชิด ส่วนลิงภูเขาจะเน้นการใช้พลังงานไซโอนิคและสามารถทำได้ดีทั้งระยะประชิดและไกล มันอเนกประสงค์มากขึ้น
“มาเลย!”ดีโซโลตะโกนอัญมณีเวทย์บนคอเสื้อเขาเปล่งประกาย วินาทีต่อมา วงเวทย์ก็ปรากฏใต้เท้าเขา เลปี่ยนเป็นวังวนสีดำยักษ์คล้ายกับจุดเชื่อมกับมิติอื่น
ฝ่ามือขนาดยักษ์โผล่จากวังวนผิวมันเป็นเหมือนหินภูเขาไฟ เต็มไปด้วยรอยแตกสีทอง แค่มืออย่างเดียวก็ยาวเกือบร้อยเมตรแล้ว มันกระแทกกับพื้นอย่างแรง
ปัง!
พื้นสั่นสะเทือน!
“จอมเวทย์อัญเชิญ?นายแห่งยักษ์เวทย์?”หานเซี่ยวเลิกิ้ว
สายผู้อัญเชิญถือว่าไร้เหตุผลพอๆกับรูปแบบกองทัพจอมเวทย์ต้องห้ามทั้งหมดต่างเชี่ยวชาญคาถามากมาย มันดูเหมือนดีโซโลจะใช้คาถาอัญเชิญเป็นหลัก
ใช้คาถาอัญเชิญขนาดใหญ่ต่อหน้าฉัน?คิดว่าฉันไม่มีตัวตนอยู่?
หานเซี่ยวขดปากและไขว้มือสร้างเป็นทรงรีและเล็งดีโซโล อนุภาคแสงสีฟ้าปรากฏระหว่างฝ่ามือเขา จากนั้นก็ขยายอย่างรวดเร็ว ยิงออกไปเป็นลำแสงสีฟ้าขนาดใหญ่!
ขณะที่ดีโซโลกำลังร่ายคาถาอัญเชิญลวดลายบนชุดคลุมเขาก็สว่าง ม่านพลังเวทย์ปรากฏตรงหน้าเขา และลำแสงสีฟ้าก็ชนกับมัน อนนั้น ดีโซโลพลันรู้สึกถึงอันตราย รูม่านตาเขาหดลง และก็ยกเลิกคาถาอัญเชิญทันที วาร์ปหนีไปไกลหลายร้อยเมตร
บูม!
ลำแสงสีฟ้าพลันกลืนกินม่านเวทย์และจากนั้นก็พุง่ใส่พื้นพื้นแตกอย่างรวดเร็วและแสงสีฟ้าก็เปล่งออกจากรอยแตกและยิงขึ้นฟ้า
ครื่นนน!
เสาแสงสีฟ้าใหญ่กว่าลำแสงหลายสิบเท่าพุ่งจากพื้น
คลื่นไซโอนิค-วาฬ!
หนึ่งในความสามารถของลิงภูเขา!
ลำแสงพลังงานหายไปในท้องฟ้าและพ้นก็เปลี่ยนเป็นปล่องภูเขาไฟทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหลายร้อยเมตรด้วยความที่คาถาถูกหยุด ยักษ์เวทย์จึงอัญเชิญออกมาได้แค่แขนข้างเดียว ซึ่งใกล้จะถูกทำลายโดยระเบิด
“ท่านสามารถใช้พลังงานไซโอนิคได้แล้ว?!”
น้ำเสียงของดีโซโลเปลี่ยนไป
ช่างกลที่สามารถใช้ไซโอนิคและช่างกลที่ไม่อาจใช้ได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
“ก็อย่างที่เห็น..”
ก่อนหานเซี่ยวจะพูดจบร่างเขาก็เลือนราง แรงผลักดันรุนแรงผสานกับพลังงานไซโอนิค เปลี่ยนเขาเป็นสายฟ้า ทิ้งเงาสีฟ้าไว้ด้านหลัง หานฌซี่ยวมาโผล่ตรงหน้าดีโซโลในชั่วพริบา หมัดเขาห่อหุ้มด้วยม่านพลังไซโอนิค บดขยี้ใส่ม่านเวทย์ของดีโซโลโดยยังพูดไม่จบ!
“..ไม่ใช่หรอ?”
ปัง!
ทั้งสองปะทะกัน!
พลังงานมหาศาลมาจากม่านพลังไซโอนิคม่านเวทย์แตกเป็นเสี่ยงๆ!
ดีโซโลโดนทุบตีอย่างหนักและลอยไปเหมือนดาวหางหานเซี่ยวไล่ตามไปและจับหลังหัวไว้ มือเขาคว้าขอดีโซโลและโยนขึ้นฟ้า
ลิงภูเขา-เขวี้ยง!
เทียบกับเขวี้ยงเดือดของลิงคลั่งรุ่นลิงภูเขาจะมอบพละกำลังให้50แต่นับความเสียหายต่ำกว่า แถม มันยังมีโบนัสเวลามึนงง0.5วินาที
เปรี้ยง!
หานเซี่ยวหยุดชุดจักรกลบนแขนเขาเปลี่ยนเป็นปืนใหญ่พลังงาน กระบอกปืนนับสิบเล็งใส่ดีโซโลบนท้องฟ้า
ปังปัง ปัง!
ในชั่วพริบตาลำแสงไซโอนิคก็ระเบิดมาจากปากกระบอก ไล่ตามดีโซโล สร้างเป็นภาพที่น่าหวาดกลัว
บูม!
เกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่องในท้องฟ้า!
แสงสว่างในหมวกของลิงภูเขา และอากาศร้อนก็หมุนวน
ภายใต้หน้ากากหานเซี่ยวยิ้ม
จุดอ่อนของจอมเวทย์คือการต่อสู้ระยะประชิด!
หวือ!
ด้วยแสงสว่างดีโซโลย้ายออกจากระยะโจมตีอีกครั้ง เขาบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็เริ่มร่ายคาถาโดยไม่พูด เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือจอมเวทย์ชั้นสูงภายใต้ออสติน แม้สถานการณ์จะไม่ดี เขาก็ไม่ได้เอาชนะได้ง่ายๆ
แต่ดีโซโลต้องยอมรับว่าแม้เขาจะไม่ดูถูกแบล็คสตาร์ความสามารถของแบล็คสตาร์ก็เหนือกว่าที่เขาคิด
ซูม!
ด้วยแสงของคาถาอัญเชิญสิ่งมีชีวิตแปลกๆถูกอัญเชิญมาทีละตัว ดีโซโลยังร่ายคาถาเสริมพลังกับเขาเพื่อป้องกันหานเซี่ยวเข้าประชิดอีกครั้งง แต่ก็พบว่าหานเซี่ยวไม่มีเจตนาหยุดเขาอัญเชิญ
หานเซี่ยวยิ้มเขาปรบมือ อวกาศรอบเขาพลันเริ่มกระเพื่อนและส่งเสียง
“คาถาอัญเชิญ?ฉันก็ทำได้!”
ฮึม!
แสงสว่างรอบเขาและกล่องกองทัพ22กล่องก็ปรากฏออกจากอากาศธาตุ
เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของกองทัพหานเซี่ยวไม่สนใจเรื่องต้นทุนและติดตั้งกล่องกองทัพด้วยเตาพลังงานและเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไกรฟ์ แบบนี้ ระยะสนับสนุนและความเร็วของกองทัพจะเพิ่มขึ้นมาก เขาไม่ต้องพึ่งยานแสงทมิฬอีก
ที่สำคัญสุด..มันดูเท่กว่าเดิมมาก!
จุดประสงค์ของการประลองกับคนเหล่านี้ไม่ใช่แค่ภารกิจเลื่อนระดับแต่ยังเป็นการทดสอบความสามารถของกองทัพจักรกลใหม่แน่นอน เขาจะใช้ทุกอย่างที่เขามี
เมื่อหานเซี่ยวดึงหมดสายฟ้าของพลังจักรกลก็คว้ากับทุกกล่อง
บูมบูม บูม!
กล่องกองทัพสั่นและพวกมันก็เปิดบอลบีบอัดนับไม่ถ้วนพ่นออกมา เปลี่ยนเป็นกองทัพจักรกล
ต่อหน้ากองทัพจักรกลสิ่งมีชีวิตอัญเชิญของดีโซโลก็เหมือนแกะที่ถูกล้อมโดยฝูงหมาป่า ทั้งอ่อนแอและไร้อำนาจ
“จัดการเขา!’หานเซี่ยวชี้ดีโซโลผู้ตื่นตระหนก
บูม!
กองทัพจักรกลกลืนกองทัพสิ่งมีชีวิตอัยเชิญ
ฉากพลันวุ่นวาย
ทันทีที่กองทัพทั้งสองปะทะกันความแตกต่างก็ชัดเจน กองทัพของดีโซโลต้านได้ไม่กี่วินาที สถานการณ์พลันเปลี่ยนเป็นการฟาดฟันอยู่ข้างเดียว!
———————————–
ตอนที่ 666 รอบสาม
ทั้งรูปแบบกองทัพและอัญเชิญต่างพึ่งพาจำนวนสายอัญเชิญใช้มานาเป็นหลัก ดังนั้นมันจึงไม่ต้องเสียเงิน ต่อให้สิ่งมีชีวิตอัยเชิญถูกทำลาย พวกมันก็ยังเรียกใหม่ได้ในรอบหน้า แต่มันต้องใช้เวลานานเพื่ออัญเชิญสิ่งมีชีวิตในช่วงต่อสู้
สำหรับรูปแบบกองทัพมันต้องใช้แค่เงิน กองทัพจะถูกสร้างขึ้นก่อนการต่อสู้และสามารถใช้ทั้งหมดได้ทันที หลังถูกทำลาย ก็ต้องใช้เงินสร้างใหม่ สิ่งดีคือเวลาเตรียมกองทัพนั้นสั้นมาก
กองทัพจักรกลใหม่ใช้พลังงานไซโอนิคเป็นแกนเครื่องจักรส่วนใหญ่ได้รับการดัดแปลง ปืนใหญ่แม่เหล็กไฟฟ้าทั้งหมดเปลี่ยนเป็นปืนใหญ่ไซโอนิคที่รุนแรงกว่าหลายเท่า แม้กระทั่งทหารจักรกลก็ยังติดตั้งม่านพลังไซโอนิคและเลเซอร์ไซโอนิคลำกล้องเล็ก
เทคโนโลยีพลังงานไซโอนิคเป็นประโยชน์มากต้นทุนการสร้างเครื่องจักรไม่เพิ่มมากนัก แต่ความสามารถกลับพุ่งสูง
ภายใต้การควบคุมของฟิลลิปกองทัพจักรกลจึงทำลายสิ่งมีชีวิตอัญเชิญได้ง่ายๆ ด้วยโบนัส[ความรู้แท้จริงเกี่ยวกับเครื่องจักร] หานเซี่ยวจึงพอใจกับความสามารถต่อสู้ของทหารจักรกล เขาคาดการณ์ว่าทหารจักรกลหนึ่งนายสามารถล้มทหารจักรกลแบบเก่าได้ถึงห้านาย
ปังปัง ปัง!
เกิดการระเบิดต่อเนื่องในท้องฟ้าการต่อสู้เป็นอยู่ฝ่ายเดียว สิ่งมีชีวิตที่ดีโซโลอัญเชิญถูกกำจัด ทิ้งให้เขาเผชิญกับกองทัพจักรกลลำพัง แม้จะไม่มีคาถาอัญเชิญ ดีโซโลก็ยังเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งมาก คาถาที่เขาร่ายเร็วมาก
สนามรบคือดาวไร้คนอาศัยดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงไม่มีอะไรยับยั้ง พวกเขาปล่อยการทำลายล้างอย่างอิสระ ดีโซโลวาร์ปตลอด และกองทัพจักรกลก็ล้อมเขาและสกัดกั้น สนามรบเปลี่ยนไปมาและขยายไปกว่าพันกิโลเมตร คาถาต้องห้ามที่ทรงพลังและปืนใหญ่ไซโอนิคระเบิดใส่ผิวดาว พื้นเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต หากนี่คือดาวที่มีคนอาศัย คนคงไม่เหลือ
หลังถูกล้อมดีโซโลก็เสียเปรียบมากเหมือนเขาตกไปในบึงน้ำ ทุกการเคลื่อนไหวทำได้ยาก
หากนี่คือกองทัพจักรกลก่อนการเลื่อนขั้นสายอาชีพแม้กระทั่งภัยพิบัติทั่วไปก็ยังไม่รู้สึกคุกคามนัก สำหรับภัยพิบัติที่แข็งแกร่งเช่นแปดขุนพล พวกเขาคงสามารถเข้าและออกกองทัพจักรกลได้ตามใจชอบ ทั้งหมดที่มันสามารถทำได้คือลดพลังชีวิตและพลังงานของศัตรูเล็กน้อย
แต่กองทัพจักรกลหลังการเลื่อนขั้นสายอาชีพต่างออกไปปืนใหญ่ไซโอนิคและม่านพลังทำให้การโจมตีรวมและพลังป้องกันสูงขึ้นหลายระดับ
แม้กระทั่งภัยพิบัติที่แข็งแกร่งอย่างดีโซโลก็ยังลำบากปืนใหญ่ไซโอนิครุนแรงมาก ซึ่งหมายความว่าการโจมตีไม่จำเป็นต้องรวมในจุดเดียว ดังนั้น การโจมตีจากปืนใหญ่ไซโอนิคจึงเหมือนใยแมงมุมสีฟ้า มีอันตรายทุกมุม
ในแง่ของการป้องกันทีมคุ้มกันได้เชื่อมม่านพลังไซโอนิคพวกมันเป็นม่านพลังใหญ่หลายร้อยเมตร เหมือนฟองน้ำใหญ่ แม้กระทั่งคาถาระดับ6-7ก็ไม่อาจทำลายมันได้ ดีโซโลจำต้องใช้คาถาต้องห้ามที่ผลาญมานาสูงเพื่อสร้างความเสียหาย
“เขาถูกครอบงำอย่างสมบูรณ์เขาแพ้แน่”ที่มุมสนามรบ น้ำเสียงของสองจอมเวทย์ต้องห้ามเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ก่อนการต่อสู้ทั้งสองยังจับตาดูว่าแบล็คสตาร์แข็งแกร่งแค่ไหน แต่ฉากตรงหน้านี้ก็ทำให้พวกเขามึนงง พวกเขารู้ดีว่าดีโซโลแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาคิดว่าต่อให้แบล็คสตาร์จะเอาชนะดีโซโลได้ มันก็จะต้องต่อสู้กันอย่างรุนแรง แต่ทว่ากลับไม่ใช่
“เขาแข็งแกร่งขึ้น..”ลากีรู้สึกซับซ้อน
เวลาที่เขารู้จักหานเซี่ยวยังสั้นมากดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นความเร็วการเติบโตของหานเซี่ยว เมื่อพวกเขาเจอกันครั้งแรก แม้ลากีจะดูถูกพลังตัวเองตามเคย เขาก็ยังรู้สึกว่ามีโอกาส50%ที่จะเอาชนะแบล้คสตาร์ หนึ่งเดือนก่อน เมื่อหานเซี่ยวได้รับฉายากายอมตะ เขารู้สึกว่าเหลือโอกาสแค่30%
แต่ตอนนี้มันไม่เหลือเลย
“ความเร็วการเติบโตเช่นนี้นี่คือศักยภาพของผู้อยู่เหนือจริงๆ”ความคิดด้านลบของลากีหายไป และพลันรู้สึกว่าเขาไม่มีประเด็นให้ศึกษาเวทย์อีก เขาอาจกลับไปบ้านและเริ่มทำสวน…
บนสนามรบดีโซโลทนอยู่นานก่อนจะรู้สึกเบื่อกับกองทัพจักรกลจนเกือบอ้วก เขาไม่มีเจตนาสู้อีกและตะโกน”ยอมแพ้แล้ว!”
หานเซี่ยวยกนิ้วและหยุดกองทัพจักรกล
ด้วยแรงกดดันที่หายไปดีโซโลจึงรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น เขาสูดหายใจ ค่อยๆหันไปหาหานเซี่ยวและกล่าว”ท่านชนะแล้ว”
หากเขาสู้ต่อเขาก็ยังสู้ได้นาน แต่เขารุ้สึกว่ามันเปล่าประโยชน์ กองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์แกร่งมากและไม่มีโอกาสให้เขาเลย นอกจากนี้ แบล็คสตาร์ยังทำแค่ยืนดู ต่อให้สู้ต่อ เขาก็ไม่มีโอกาสชนะ
“นายเองก็แกร่งมากเหมือนกัน”หานเซี่ยวยิ้ม”นายควรพยายามเข้าใกล้ฉันนายอาจเอาชนะฉันได้”
ใบหน้าของดีโซโลดำมืดเขาอยากถามว่หานเซี่ยวรู้สึกอายบ้างไหมแต่ก็ไม่พูดอะไร
ฉายากายอมตะของแบล็คสตาร์ดังไปทั่วทุ่งดาวทุกคนรู้ว่าจุดแข็งของแบล็คสตาร์คือร่างกายเขา ดีโซโลไม่ได้โง่ มันคบ้าหากเขาเข้าใกล้หานเซี่ยว
นี่ยังเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ดีโซโลยอมรับความพ่ายแพ้เขาไม่เห็นโอกาสพลิกกระดานเลย
โชคดีที่ฉันไม่ขัดแย้งกับเขาดีโซโลดีใจที่เขาไม่คิดใช้กำลังกับหานเซี่ยว จากมุมมองเขา แม้แต่ศิษย์สามคนแรกของออสตินก็ไม่อาจเอาชนะหานเซี่ยวได้ง่ายๆ ฃ
ดีโซโลมั่นใจว่าเขายังห่างไกลกับเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ
หานเซี่ยวชมดีโซโลในฐานะผู้ชนะ เขามีสิทธิ์พูดแบบนี้ และดีโซโลก็ไม่เห็นปัญหาอะไร ภัยพิบัติไม่ใช่พวกไม่ยอมรับ ความพ่ายแพ้แค่ทำให้เขาไม่พอใจสักพักก่อนปล่อยมันไป ในเวลาเดียวกัน เขาก็ทิ้งความรู้สึกเหนือกว่าในฐานะคนของผู้อยู่เหนือไปและให้ความเคารพหานเซี่ยวขึ้น
การเคารพคนที่แกร่งกว่าเป็นกฏที่ไม่มีทางเปลี่ยน
ท่านได้รับแต้มทดสอบ6แต้ม
ความคืบหน้าปัจจุบัน: 6/50
ขณะคุยการแจ้งเตือนก็เด้งขึ้น
เขามีระดับสูงกว่าฉันอย่างน้อย20ระดับฉันเข้าใจแล้ว งั้นคำจำกัดความของการชนะก็คือให้อีกฝ่ายยอมรับความพ่ายแพ้..อืม คนหนึ่งสามารถให้แต้มได้ครั้งเดียว มีอีกสาม
หานเซี่ยวยินดีเขาหันมาและบอกให้พวกลากีมาประลองด้วย
เนื่องจากเขาคอประลองเองต่อให้อีกสองจอมเวทย์จะรู้ว่าไม่อาจชนะ พวกเขาก็ไม่ขี้ขลาดจนไม่กล้าสู้ เหนือสิ่งอื่นใด มันแค่การประลอง
ดีโซโลรู้สึกแปลกจากที่เขาเห็น หานเซี่ยวอยากประลองกับเพื่อนทั้งสองเขาหลังชนะเขาได้ มันชัดเจนว่าเป็นการอวดพลัง
“เห็นได้ชัดว่าแม้แบล็คสตาร์จะไม่แสดงออกเขาก็ไม่พอใจที่เราพาตัวลากีไป ดังนั้น เขาจึงขอประลองกับเรา เพื่อแสดงพลังของเขา”ดีโซโลรู้สึกว่านี่เป็นจริง แต่เขาก็ทำอะไรได้
สองจอมเวทย์ไม่ใช่ผู้อัยเชิญแต่ก็แข็งแกร่งพอๆกับดีโซโล หนึ่งในนั้นถนัดคาถาพลังจิต ซึ่งไม่สนใจวัฏจักรพลังชีวิตของหานเซี่ยวและทำให้เขาลำบากเล็กน้อย นี่คือหนึ่งในจุดอ่อนที่เขามี แต่เขาก็ไม่ยอมให้ใครรู้
เขามีพรสวรรค์[จิตแกร่งขั้นสูง]ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิงแม้จะไม่อาจดูดซับการโจมตีทางจิตได้ เขาก็ยังอึดมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกเลย
แถมหากเขาทุ่มสุดตัว เขายังสามารถสร้างความเสียหายให้ตัวเองเพื่อฟื้นฟูได้ ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับการประลอง จอมเวทย์ต้องห้ามผู้นี้สุดท้ายก็ยอมรับความพ่ายแพ้
ลากีนั้นยอมแพ้หลังสู้ได้นาทีเดียว
หลังประลองกับทั้งสี่หานเซี่ยวก็มีความคิดคร่าวๆถึงพลังรบเขา
ตอนนี้ฉันมีไพ่ตายสองใบความอึดและรูปแบบกองทัพ ตราบเท่าที่มันไม่เจอกับพวกเกรดA+ที่แกร่งมาก ฉันจะสามารถรักษาอัตราชนะกว่า50%ได้ เมื่อเจอกับศัตรูมากกว่าหนึ่ง ฉันสามารถรับมือกับสามภัยพิบัติได้พร้อมกัน หากเป้าหมายแค่ถ่วงศัตรู ไม่สนความจริงว่าศัตรูจะอยากหนี ฉันควรรับได้6-7…
สำหรับผู้ที่เป็นภัยต่อฉันการโจมตีทางจิตและช่างกลเสมือนโดดเด่นสุด ช่างกลรูปแบบกองทัพที่มีกองทัพจักรกลพลังงานไซโอนิคก็คุกคามได้ด้วย มันจะเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ด้วยทรัพยากร แต่ฉันได้เปรียบเรื่องความอึด แถม เอสเปอร์ที่มีความสามารถแปลกๆก็มักอันตราย
ขณะสรุปในหัวหานเซี่ยวก็คุยกับพวกดีโซโลไปด้วย
การประลองจบดีโซโลแสดงเจตนาออกไปและหานเซี่ยวก็ไม่หยุดเขา
ก่อนออกไปลากีสัญญา”ออสตินเป็นคนดี แม้ฉันจะถูกเขาไล่ เราก็ยังมีสายสัมพันธ์ และเขาก็จะไม่ทำให้ฉันลำบากใจ แบล็คสตาร์ ฉันจะกลับมาแน่”
“เอาละ”หานเซี่ยวยิ้ม”เมื่อนายกลับมานายจะเป็นรองหัวหน้า”
ลากีเพิ่งเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์ได้ไม่นานปัจจุบันเขาเป็นแค่พลรบระดับสูงและยังไม่มีตำแหน่ง ด้วยความสามารถเขา เขาย่อมมีสิทธิ์เป็นรองกัปตัน ไม่มีใครจะมีปัญหากับเกรดA+ แถม เขายังมีประวัติน่าทึ่ง
ลากีตกตะลึงก่อนลังเล”หมายความว่าฉันจะมีงานเยอะขึ้น?”
“…ฉันจะแค่ให้ตำแหน่งนายโดยไม่มีงานเป็นไง?”
จากนั้นลากีถึงยิ้ม
“ท่านแบล็คสตาร์เราต้องไปล้ว”
ดีโซโลและอีกสองพยักหน้าก่อนพาลากีขึ้นยานหานเซี่ยวคิดสักพักก่อนโยนตราสังเกตให้ลากี
การเลื่อนระดับเขาใกล้แล้วพรสวรรค์เผ่าเขาควรเปลี่ยนไป ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสใช้ตราสังเกตไม่มาก แม้ออสตินจะสามารถสังเกตเห็นตรา มันก็ไม่มีปัญหา เจตนาเขาไม่ใช่การลอบมองออสติน
เขาไม่หยุดลากีจากการกลับการใส่ตราสังเกตบนตัวเขาคือการแสดงทัศนคติต่อออสติน ว่าลากีสำคัญต่อเขา ไม่เหมือนฮีเบอร์ เขาไม่เคยขัดแย้งกับออสติน ในความเป็นจริง พวกเขามีความสัมพันธ์ดีต่อกันและออสตินก็หวังเขาไว้สูง
ยานอวกาศออกตัวและจากไป
หลังมองพวกดีโซโลหายไปหานเซี่ยวมองหน้าต่างสถานะ
ความคืบหน้าภารกิจคือ24/50
เยี่ยมฉันขาดแค่26แต้ม หากศัตรูฉันมีระดับสูงกว่า20กันหมด ฉันแค่ต้องสู้อีกห้าคน หากน้อยกว่ายี่สิบระดับหรือระดับเท่าฉัน มันจะต้องใช้อย่างน้อย7คน…
ครั้งนี้การแจ้งเตือนไม่คาดคิดเกิดขึ้นบนหน้าต่างสถานะ
ท่านได้กระตุ้นภารกิจรอบสามของ[เหยื่อ]แล้ว!
“หือ?”หานเซี่ยวตกใจและสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
———————————–