The Legendary Mechanic - ตอนที่ 667 -668
ตอนที่ 667 สถานการณ์ฉับพลัน
[รอบสาม: นักล่าใหม่]
คำแนะนำภารกิจ: ท่านได้เอาชนะนักล่ากลุ่มแรกและเห็นปลายยอดภูเขาของกองกำลังนี้ ตอนนี้ นักล่ากลุ่มใหม่มาถึง พวกเขาแข็งแกร่งและอันตรายยิ่งกว่า จ้องท่านในเงามืด พร้อมจะเคลื่อนไหว
ข้อกำหนดภารกิจ: แก้ไขการโจมตีจากทีมนักล่าใหม่
รางวัล: ค่าประสบการณ์78.5ล้าน สุ่มความสามารถหนึ่งจากหนึ่งในสมาชิกทีมนักล่า
ผู้บงการเบื้องหลังอัลเบิร์ตส่งทีมใหม่มาล่าอีกครั้ง?
สีหน้าหานเซี่ยวกลายเป็นจริงจังรางวัลสูงบ่งชี้ถึงความยากของรอบนี้
คำแนะนำภารกิจคลุมเครือทั้งหมดที่เขารู้คือมีกลุ่มศัตรูกำลังคืบคลานมา เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแผนการเลย
นี่เหมือนระเบิดเวลาและก็ไม่รู้ว่ามันจะระเบิดตอนไหน ข่าวดีเดียวคือการแจ้งเตือนที่อย่างน้อยก็ช่วยเตือนเขา
ตามเบาะแสในอดีตนายของนักล่าเหล่านี้ควรเป็นสมาชิกของแอนเชี่ยนวัน คนๆนั้นยังไม่ยอมแพ้และยังส่งทีมใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมา
หานเซี่ยวไต่รตรองอีกกลุ่มดันปรากฏในช่วงสงครามลับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี
หลังไตร่ตรองสักพักเขาก็รู้สึกว่าสิ่งสำคัญสุดตอนนี้คือการค้นหาว่าศัตรูอยู่ไหน เมื่อศัตรูแสดงตัว มันก็หมายความว่าพวกเขามีความมั่นใจพอจะจัดการกับเขา
เนื่องจากการแจ้งเตือนภารกิจเขาจึงอยากเตรียมตัว
เนื่องจากรอบสามปรากฏนี่หมายความว่าทีมใหม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขาแล้ว เพื่อจับฉัน มีหลายความเป็นไปได้…
หานเซี่ยวพิจารณาแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเขาไม่รู้ว่าตอนไหนและที่ไหนที่ศัตรูจะปรากฏ
ดูเหมือนฉันต้องยืมพลังของไสยศาสตร์..
เขาขึ้นยานอวกาศและกำหนดปลายทางยานแสงทมิฬยกตัวขึ้น เปลี่ยนเป็นแสงและหายไป
…
ไม่กี่วันต่อมายานอวกาศก็ลอยลงบนเกาะมังกร หานเซี่ยวไม่สนใจพวกโจรสลัดที่มองเขาอย่างขี้ขลาดและตรงไปยังบ้านของตาแก่อีซอป
ในอดีตชีวิตของตาแก่อีซอปเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและขาดความกลัวตาย แต่ทว่า ด้วยเหตุผลบางอย่าง อาจเพราะเขาแก่แล้ว เขาจึงมาอยู่บนเกาะมังกรอย่างสงบ ดังนั้นมันจึงง่ายมากที่จะหาตัวเขา
“เธอกำลังบอกว่ามีนักล่ากลุ่มใหม่ปรากฏและวางแผนมาหาเธอ?”
ในห้องอีซอปหาวและขยี้ตา แสดงสีหน้าสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่หานเซี่ยวบอก เดิมเขากำลังนอนเหมือนตาแก่ แต่ก็ถูกปลุกโดยการเรียกไม่หยุดของหานเซี่ยว
“ใช่แล้ว”หานเซี่ยวพยักหน้า
“งั้นเธอก็มาเพราะอยากให้ฉันช่วยทำนายว่าศัตรูจะทำอะไรสินะ?”อีซอปลูบเครา
“ใช่แล้วศัตรูซ่อนในเงา ผมต้องการความช่วยเหลือ”
อีซอปจ้องหานเซี่ยวและเปลี่ยนเรื่อง”ฉันได้ยินว่าเธอกลายเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือแล้ว?”
หานเซี่ยวตกตะลึงและไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาแต่ก็พยักหน้าตอบ
“อืมฉันไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น”อีซอปกล่าว”แต่อย่าเชื่อฉายานั่นมากนัก มันไม่ง่ายที่จะไปถึงผู้อยู่เหนือ มันไม่ใช่แค่การเพิ่มพลัง แต่เป็นการทะยานของรูปแบบชีวิต ผู้อยู่เหนือทุกคนคือเผ่าพันธ์ใหม่..”
อีซอปเคยติดต่อและสื่อสารกับผู้อยู่เหนือมามากดังนั้นเขาจึงบอกสิ่งที่เขารู้ให้หานเซี่ยวฟัง
หานเซี่ยวฟังอย่างอดทนแม้จะมีหน้าต่างสถานะ แต่ก็มีแต่ข้อดีในการฟังประสบการณ์ อย่างที่พูด การมีผู้อาวุโสที่บ้านก็เหมือนมีสมบัติ
หลังพูดสักพักอีซอปก็ส่ายหัว
“หากเธอเจอกับหนึ่งในหมื่นโอกาสและสามารถกลายเป็นผู้อยู่เหนือได้แอนเชี่ยนวันเบื้องหลังนักล่าจะหยุดไล่ล่าเธอทันที สงครามลับที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากยังจะจบเพราะเธอ ในฐานะผู้อยู่เหนือคนใหม่ของวงแหวนดาวกระจาย เธอจะสามารถนั่งบนโต๊ะชั้นสูง และอารยธรรมกลุ่มดาวเหล่านั้นก็จะนำเค้กมาแบ่งให้เธอ ตราบเท่าที่เธอแสดงเจตนา เธอจะได้รับการสนับสนุนจำนวนมาก ทุกสิ่งที่เธอหนักใจจะหายไปจนหมด..”
อีซอปหยุดชั่วขณะและถอนหายใจ”หากวันนั้นมาถึงจริงๆเธอจะต้องออกเกาะมังกรแน่ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้อยู่เหนือที่จะเป็นลูกน้องของผู้อยู่เหนืออีกคน”
หานเซี่ยวไม่ตอบ
หากเขาไปถึงระดับนั้นจริงๆเขาย่อมออกเกาะมังกรแน่
ตั้งแต่ต้นเกาะมังกรมักเป็นหินให้เขาก้าวเสมอ เขาได้ช่วยเกาะมังกรมาตลอดหลายปี ดังนั้นเขาจึงมีส่วนร่วมในฐานะสมาชิก ต่อให้เขาออกเกาะมังกร เขาก็จะไม่กลายเป็นศัตรูของเอเมส
เอเมสอาจไม่พอใจแต่เจนนี่ย่อมอยากให้เขาออกไป
อีซอปลูบหน้าผาก”ช่างตาแก่อย่างฉันเถอะคนแก่มักช่างพูด กลับเข้าเรื่องกัน เธอให้เบาะแสฉันมาน้อยไป ฉันไม่อาจรับประกันความแม่นยำได้ มันสามารถใช้ได้แค่อ้างอิง”
จากนั้นอีซอปก็หลับตาและเริ่มทำนาย
ไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้น
เมื่อเห็นหานเซี่ยวยังรออย่างอดทนอีซอปก็กล่าว”ฉันเห็นแค่ภาพเลือนราง เงาขนาดใหญ่ปกคลุมเธอ เธอพุ่งซ้ายขวาแต่ก็ไม่อาจหลบหนีเงาได้ไม่ว่าจะยังไง สุดท้าย เงานั่นก็กลืนกินเธอ”
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว”หมายความว่ายังไง?”
“สิ่งที่ฉันเห็นอาจไม่เป็นจริงมันอาจแค่สัญลักษณ์ ฉันคิดว่าการทำนายนี้หมายความว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนี้จะไล่ล่าเธอเรื่อยๆและเธอจะไม่อาจหลบหนีเขาได้ สรุปแล้ว มันหมายความว่าเธอตกอยู่ในอันตราย”
“แค่นั้น?”ปากของหานเซี่ยวกระตุก
“อย่างที่บอกเบาะแสน้อยเกินไป การทำนายเลือนรางมากและอาจไม่ถูกต้อง’อีซอปยักไหล่”หากฉันรู้หมด เธอคิดว่าเธอจะจับฉันได้งั้นหรอ?”
หานเซี่ยวพูดไม่ออก
นั่นไม่ต่างกับการไม่พูดเลยทำไมผมถึงรู้สึกว่าแม้กระทั่งบัตรอัญเชิญตัวละครบุตรแห่งโชคชะตายังมีประโยชน์กว่าคุณ?หากไม่ใช่เพราะมันใช้ได้แค่ครั้งเดียว ผมคงใช้มันไปนานแล้ว ตาแก่นี่พึ่งไม่ได้เลยจริงๆ
อีซอปไม่ได้ช่วยอะไรเลยดังนั้นหานเซี่ยวจึงไปหาเอเมส เนื่องจากเขามาแล้ว เขาย่อมไปหาเธอ
เอเมสอยู่ลำพังในวังและก็ดีใจที่เห็นหานเซี่ยวทั้งสองคุยกันสักพัก หานเซี่ยวไม่เห็นฮีล่าและออโรร่า ดังนั้นจึงถามเอเมส จากนั้นก็รู้ว่าฮีล่ามีแรงจูงใจสูงด้วยเหตุผลบางอย่าง ดังนั้นเธอจึงลากออโรร่าไปฝึกหนัก
หานเซี่ยวไม่บอกใครถึงการมาเยือนนี้ดังนั้นจึงไม่คิดรบกวนฮีล่าและออโรร่า เขาคุยกับเอเมสนานก่อนขอความช่วยเหลือจากเอเมส
เขารู้สึกได้ว่ารอบสามของภารกิจอันตรายมากหากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเอเมส เขาคงไม่ต้องกังวลอะไร
อย่างไม่คาดคิดเอเมสยิ้มและปฏิเสธเขา
“แบล็คสตาร์ครั้งนี้ไม่ได้ ฉันมีเรื่องอื่นต้องทำ แถม นายก็ไม่อาจขอความช่วยเหลือฉันแบบนี้ได้ตลอด บางทีนี่อาจอันตรายมาก แต่นายก็มีศักยภาพที่จะเป็นผู้อยู่เหนือในอนาคต ดังนั้นหากนายอยากไปถึงจุดนั้น นายก็ต้องพึ่งพาตัวเองเพื่อข้ามอุปสรรค”
จากข่าวลือเอเมสเห็นว่าหานเซี่ยวมีโอกาสจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือในอนาคต ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจไม่ช่วยหานเซี่ยว จากที่เธอเห็น อันตรายคือปุ๋ย มีเพียงการผ่านอันตรายเท่านั้นเมล็ดถึงจะงอกออกจากดินได้
เมื่ออีซอปเป็นอาจารย์เธอเขาเคยใช้รูปแบบการสอนแบบนี้เช่นกัน ปล่อยให้เธอเติบโตและเป็นอิสระ เอเมสเรียนรู้และใช้วิธีเดียวกันกับฮีล่าและออโรร่า ความแตกต่างเดียวคือสองสาวนั้นยังไม่ถึงมาตรฐานที่จะออกไปผจญภัย
สำหรับหานเซี่ยวเอเมสเชื่อมั่นใจพลังเขา เธอรู้สึกว่าการปกป้องแบล็คสตาร์มากไปไม่ใช่เรื่องดี มันจะลดโอกาสของเขา เธออยากเห็นแบล็คสตาร์แข็งแกร่งขึ้น และเธอก็รู้สึกมีความสุขที่มีเขาเป็นเพื่อน
หานเซี่ยวทำอะไรไม่ได้เหนือสิ่งอื่นใด เอเมสเป็นหัวหน้า เธอไม่เต็มใจช่วยเหลือเขาทุกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงความจริงว่าศัตรูยังไม่ปรากฏ
การขอความช่วยเหลือจากเอเมสก็แค่ทำให้เรื่องง่ายขึ้นหากจักรพรรดินีมังกรไม่ช่วย เขาก็ต้องทำเอง ในอดีต เขาเจอกับอันตรายมานับไม่ถ้วน ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเลย
หลังอำลาเอเมสหานเซี่ยวก็ออกเกาะมังกรไปด้วยยานอวกาศเขา
เขาไม่ได้รับอะไรมากจากการเดินทางมาเกาะมังกรดังนั้นเขาจึงผิดหวังเล็กน้อย ท้ายที่สุด การพึ่งพาตัวเองย่อมดีสุด
เมื่อเขาแกร่งขึ้นและองค์กรเขาพัฒนาการต่อสู้ที่เขาเจอก็ยิ่งใหญ่ขึ้น ความช่วยเหลือที่เกาะมังกรสามารถมอบให้ได้ไม่ดีเหมือนเคย
ในห้องขับหานเซี่ยวขับยานขณะคิดแผน
เอเมสไม่ช่วยและอีซอบก็ไร้ประโยชน์ดังนั้นฉันต้องทำการเลื่อนระดับให้เร็วที่สุด
หลังคิดหานเซี่ยวก็นำอุปกรณ์สื่อสารออกมาและกำลังจะติดต่อเพื่อนให้หาคนมาประลอง
ปี้บปี้บ!
อุปกรณ์สื่อสารกลับสั่นมันเป็นข้อความจากเบนเน็ต
หานเซี่ยวตกใจเขาอ่านและใบหน้าก็ดำมืด
ไม่ใช่ข่าวดี
นับตั้งแต่เบนเน็ตสร้างเมืองแบล็คสตาร์เนื่องจากเขามีงานให้จัดการทุกวัน มันจึงผ่านมาสักพักแล้วที่เขาไม่ติดต่อมา หากไม่มีเรื่องสำคัญ เบนเน็ตย่อมไม่รบกวนเขา
ดาวเริ่มต้นนี้มักสำคัญต่อหานเซี่ยวแม้ผู้เล่นเก่าจะเข้าร่วมกองทัพเขาแล้ว มันก็ยังมีผู้เล่นใหม่เพิ่มในอนาคต
เขาอ่อนไหวต่อเรื่องนี้มากไม่มีทางที่เขาจะไม่เชื่อมโยงสิ่งที่เกิดกับอความารีนเข้ากับรอบสามของเหยื่อ
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
“นี่คือกับดัก!”
…
หนึ่งวันก่อนหน้าบนอความารีน
ในตึกรัฐเบนเน็ตเพิ่มตรวจสอบไฟล์เสร็จ เขาถอนหายใจโล่งอก วางปากกาลงและนวดขมับ พยายามคลายความเหนื่อย
“เห้อการเป็นผู้นำประเทศเหนื่อยกว่าการสู้รบอีก”
เบนเน็ตถอนหายใจหยิบชาร้อนข้างๆขึ้นมาเป่าและจิบมัน ชาร้อนไหลลงคอ ทำให้ท้องเขาอบอุ่น ความเหนื่อยเริ่มจางหายและเขาก็หายใจสะดวก
เขาหันเก้าอี้ไปทางหน้าต่างมองไปยังเมือง รถไฟวิ่งตามราง คนเดินถนนหัวเราะ มันเป็นภาพที่มีชีวิตชีวามาก เขายิ้มอย่างยินดี
เมื่อเห็นว่าผู้คนสงบสุขเบนเน็ตก็รู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มค่า
กริ่ง!
ทันใดนั้นโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น
“ไม่มีเวลาให้พักเลย”
เบนเน็ตรับสาย
“ทะ-ท่านครับหกประเทศ!”
เจ้าหน้าที่รัฐอีกสายพูดติดอ่างด้วยเสียงแหลมเบนเน็ตสามารถได้ยินความตื่นตระหนกผ่านสาย เขารู้สึกว่าแก้วหูเขาเจ็บและนำโทรศัพท์ห่างหูเล็กน้อย
“คุณจะตะโกนทำไม?เกิดอะไรขึ้น?”
“หะ-หกประเทศประกาศสงครามกับเราพร้อมกันครับ!”
เบนเน็ตแข็งค้างดวงตาเขาเบิกกว้างและยืนขึ้นทันที
“พวกเขาบ้าไปแล้วหรือไง?!”
เผล้ง!
ถ้วยชาตกลงพื้นและชาร้อนก็สาดไปทั่ว
———————————–
ตอนที่ 668 เครือข่ายฉันเหนือกว่าที่พวกแกคิด
หกประเทศประกาศสงครามโดยไม่มีการเตือนดูเหมือนจะอยากกำจัดประเทศที่เจ็ด เบนเน็ตใช้เวลาทั้งวันเพื่อพิสูจน์มัน เขาได้โทรออกหลายสายหาผู้นำหกประเทศ ซึ่งถูกปฏิเสธมัน เขาไม่รู้ว่าทำไมหกประเทศถึงบ้าคลั่งแบบนี้ และเขาก็ไม่มีทางรู้ได้ เขาไม่อาจจัดการกับเรื่องใหญ่ได้ลำพัง ดังนั้นเขาจึงแจ้งหานเซี่ยว
หากรอบสามของภารกิจไม่ปรากฏหานเซี่ยวคงคิดว่านี่เพราะเทคโนโลยีที่มอบให้หกประเทศโดยกลุ่มการเงินทำให้พวกเขามีความมั่นใจ ดังนั้นจึงอยากได้รับอำนาจคืน..ซึ่งเป็นไปได้น้อยมาก หกประเทศไม่ใช่คนโง่ ยิ่งพวกเขาติดต่อกับกาแล็กซี่ พวกเขาก็ยิ่งรู้ว่าพวกเขาเล็กจ้อยแค่ไหน ความแตกต่างชัดเจนมาก หกประเทศไม่กล้าอวดดีแบบนี้
กลุ่มการเงินลงทุนในอความารีนเพราะเขาและเกาะมังกรเขาคือเหตุผลที่อความารีนกำลังพัฒนา หกประเทศควรรู้ดีว่าพวกเขากำลังพึ่งพาหานเซี่ยว การประกาศสงครามกับเขาย่อมหมายความว่าพวกเขากำลังขุดหลุมฝังศพตัวเอง
แต่หกประเทศต่างเสียสติพร้อมกันนี่ไม่สมเหตุสมผลเลย
“ฉันเกือบแน่ใจว่ามีคนบงการและก็น่าจะเป็นนักล่ากลุ่มใหม่ คนเหล่านี้จัดการได้ยากมาก พวกเขากำลังใช้ดาวอความารีนเพื่อล่อฉัน”หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
หากเขาไม่ได้รับการเตือนเขาต้องตกใจแน่ทันทีที่ได้ยินว่าหกประเทศทรยศ เขาจะต้องสงสัย แต่ก็คงไม่ตื่นตัวเท่าตอนนี้ ดังนั้นเขาต้องกลับไปเพื่อหาสาเหตุ
การทำให้หกประเทศทรยศเขาคือเหยื่อศัตรูจริงซ่อนในเงา พวกเขามีความสามารถทำลายอความารีตรงๆ แต่นั่นกลับไร้ความหมาย เป้าหมายจริงคือหานเซี่ยว หากพวกเขาทำแบบนั้น เขาก็จะรู้ตัว
หากอความารีนถูกทำลายมันหมายความว่าพวกเขาได้ทำลายหนึ่งในจุดอ่อนของแบล็คสตาร์ไป จากนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางหลอกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกใช้ดาวอความารีนเป็นกับดักและลอบวางแผนซุ่มโจมตี รอให้เขาไปติดกับ
“โชคดีภารกิจได้เตือนฉัน..”
หานเซี่ยวลอบโล่งใจเขายอมรับว่าศัตรูฉลาดขึ้นมาก หากเขาไม่ได้รับการแจ้งเตือน เขาอาจตกหลุมพราง จากนั้นเขาคงลำบาก
“ความได้เปรียบฉันคือศัตรูคิดว่าฉันไม่สงสัยแต่ฉันรู้แล้ว”
หานเซี่ยวไตร่ตรองพวกนักล่าทำให้หกประเทศทรยศเขา ซึ่งเป็นแผนการที่เขาจำต้องก้าวเข้าไป ดาวอความารีนมีความสำคัญต่อเขา มันคือสวนต้นหอมใหญ่ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเฝ้าดูศัตรูทำให้สวนที่เขาเฝ้าดูมาเละเทะ ดังนั้น เขาต้องกลับไปและจัดการหกประเทศ
ศัตรูย่อมรู้เรื่องนี้
“การซ่อนจากศัตรูจะทำให้เกิดความเสียหายมีเพียงการเผชิญหน้าถึงแก้ปัญหาได้ โชคดี ฉันมีเวลาให้คิดหาทางออก พลังของศัตรูและจำนวนไม่อาจรู้แต่ก็ไม่ควรน้อยกว่าหกคน ฉันต้องขอความช่วยเหลือ”
หานเซี่ยวลูบคางจักรพรรดินีมังกรบอกว่าจะไม่ช่วย เซ็คชั่นซีโร่กำลังทำสงคราม และองค์กรอื่นก็ใช้เวลาเดินทางนานไป หลังคิด มันก็ดูเหมือนว่าจะมีแค่โกโดร่าถึงช่วยได้
“อารยธรรมผลึกม่วงอาจช่วยด้วยเช่นกัน..”หานเซี่ยวลังเลผลึกม่วงมีภัยพิบัติแน่นอน พวกเขาเป็นคนของรัฐบาล ดังนั้นย่อมไม่ได้ร่วมในสงครามลับ
แต่หานเซี่ยวไม่แน่ใจว่าผลึกม่วงจะช่วยเขาไหมพวกเขาอาจสนใจสงคราม แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้
“ฉันควรลองดู”
หานเซี่ยวนำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา
เขากำลังขอความช่วยเหลือเว้นแต่จะไม่มีใครมาช่วย เขาจะไม่กลับไปลำพัง
ระบบเครือข่ายคือส่วนหนึ่งของพลัง!
…
ในแนวหน้าของสงครามลับกองทัพแดนหลั่งเลือดมาถึงชายแดนสามระบบดาวและเริ่มขยายอีกครั้ง เซ็คชั่นซีโร่ลำบาก พวกเขาทำได้แค่ส่งกองยานเล็กๆไปก่อกวนศัตรู พยายามชะลอ
พวกเขาอยู่ในสถานะเสียเปรียบมากและความยากนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นทุกวัน ความยากเช่นนี้ทำให้ราล์ฟเครียดมาก โดยเฉพาะปัญหากับพลรบระดับสูง
หลังการโน้มน้าวและการสัญญาทุกประเภทในที่สุดพลรบระดับสูงก็หยุดหลีกเลี่ยง แต่พวกเขาก็ยังไม่เต็มใจทุ่มสุดตัว พวกเขาเก็บออมพลัง70%ไว้เพื่อปกป้องตัวเองและใช้แค่30%เพื่อจัดการศัตรู ในแง่ของพลรบระดับสูง เซ็คชั่นซีโร่เสียเปรียบมาก นี่ทำให้ราล์ฟคิดถึงแบล็คสตาร์
แม้แบล็คสตาร์จะไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์สงครามได้แบล็คสตาร์ก็คือคนเดียวที่เขาหวังพึ่งได้
ราล์ฟยังจัดการกับปัญหาตอนอุปกรณ์สื่อสารเขาดังและเมื่อพบว่ามันมาจากแบล็คสตาร์ จิตใจที่เหนื่อยล้าก็มีพลังงานขึ้นมา
ทันทีที่ราล์ฟรับสายเขาก็กล่าว”แบล็คสตาร์ ในที่สุดคุรก็ติดต่อมา คุณพร้อมแล้ว?รีบกลับมาสนามรบเร็ว เราต้องการคุณ!”
หานเซี่ยวกระแอม”ขอโทษด้วยผมยังกลับไปไม่ได้ มีสงครามภายในเกิดขึ้นในบ้านผม ดาวอความารีน มีคนอยากโค่นล้มตัวแทนผม ผมต้องกลับไปจัดการ”
ราล์ฟผิดหวัง
“คุณโทรหาผมเพื่อแจ้ง?”
“ไม่ไม่ ผมอยากขอความช่วยเหลือจากผลึกม่วง”
ราล์ฟสับสน”จำเป็นขนาดนั้นเลย?มันแค่ความขัดแย้งของอารยธรรมระดับต่ำทำไมคุณถึงจัดการเองไม่ได้?”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้น…”
หานเซี่ยวไม่ปิดบังและบอกราล์ฟเกี่ยวกับนักล่ากลุ่มใหม่ขณะปล่อยแหล่งข้อมูลและเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่าง
ปัจจุบันมีเพียงหานเซี่ยว อีซอปและคนน้อยมากที่รู้ผู้บงการเบื้องหลังกลุ่มนักล่า ครั้งก่อน เมื่อกำจัดพวกอัลเบิร์ต หานเซี่ยวไม่หยุดอัลเบิร์ตจากการใส่ร้ายเคล็นท์ ดังนั้นองค์กรมากมายจึงคิดว่าเคล็นท์คือผู้บงการ รวมถึงผลึกม่วง
หานเซี่ยวพูดเป็นนัยๆว่าเคล็นท์ส่งนักล่ามากำจัดเขา
หลังราล์ฟได้ยินคำอธิบายเขาก็เชื่อมโยงจุดต่างๆและคาดเดาแรงจูงใจของเคล็นท์
แบล็คสตาร์ได้สู้กับแปดขุนพลลำพังแสดงศักยภาพของผู้อยู่เหนือ เคล็นท์จึงวางแผนล่วงหน้า พวกเขาไม่อาจปล่อยให้เกิดผู้อยู่เหนือในกลุ่มดาวโคลตันได้แม้จะมีโอกาสแค่หนึ่งในล้าน พวกเขาไม่อยากให้ผลึกม่วงมีโอกาสลงทุนกับแบล็คสตาร์ ดังนั้นพวกเขาจึงส่งกลุ่มคนลอบแทรกซึมระบบดาวกาตอน อยากกำจัดแบล็คสตาร์ เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ!
ราล์ฟตกใจและรู้สึกว่าเขาพบความจริงแรงจูงใจของอาณาจักรเคล็นท์ลงตัวมาก เขาไม่อาจพบข้อผิดพลาดได้ หากเขาเป็นเคล็นท์ เขาคงเลือกทำแบบเดียวกัน
สีหน้าราล์ฟกลายเป็นจริงจัง”เข้าใจแล้วมีเหตุผลเบื้องหลังเรื่องนี้ แบล็คสตาร์ เราหวังกับคุณไว้สูงมาก เราจะไม่ปล่อยให้เคล็นท์คุกคามคุณง่ายๆ ผมจะยอมรับคำขอคุณเดี๋ยวนี้ และเบื้องบนควรส่งพลรบระดับสูงไปช่วยคุณ”
หานเซี่ยวยินดีมันราบรื่นกว่าที่คิด ราล์ฟคุยง่ายจริงๆ
สิ่งที่เขาไม่รู้คือเบื้องบนของอารยธรรมผลึกม่วงได้ประชุมกันนานแล้วและตัดสินใจลงทุนกับเขาหานเซี่ยวยังคิดว่าเขาแค่สมาชิกเซ็คชั่นซีโร่ทั่วไป แต่จริงๆแล้ว ตราบเท่าที่คำขอเขาไม่เกินไป ผลึกม่วงย่อมเต็มใจช่วยเขา
“เพื่อรับประกันผมวางแผนขอความช่วยเหลือจากโกโดร่าด้วย”หานเซี่ยวกล่าวเสริม
“โกโดร่าคือผู้ปกครองระบบดาวกาตอนสินะ?ผมจำได้ว่าพวกคุณเป็นพันธมิตรกันเอาสิ พวกเขาอยู่ภายใต้เรา คุณอยากให้ผมบอกพวกเขาไหม?”
“..นั่นจะดีสุด”
หานเซี่ยวลอบแปลกใจที่ชักจูงคนของผลึกม่วงได้ง่าย
หลังวางสายหานเซี่ยวก็ติดต่อโกโดร่า
โกโดร่าคือพันธมิตรเก่าแก่เมื่อเซอร์เบียร์ที่ห้าได้ยิน เขาก็ตอบรับโดยไม่ลังเล
หากแค่แบล็คสตาร์ขอความช่วยเหลือพวกเขาอาจลังเล แต่ผลึกม่วงยืนยันว่าพวกเขาร่วมด้วย ชาวโกโดร่าจึงไม่มีอะไรต้องกลัวและตอบรับ
ในสายตาชาวโกโดร่าแบล็คสตาร์ได้ให้โอกาสพวกเขาสร้างสัมพันธ์กับอารยธรรมกลุ่มดาว
รายละเอียดแผนยังต้องหารือหานเซี่ยวเลือกดาวไร้คนอาศัยใกล้อความารีนเป็นจุดรวมตัวและมุ่งตรงไป
———————————–