The Legendary Mechanic - ตอนที่ 669-670

ตอนที่ 669 การซุ่มโจมตีและแผนโต้ตอบ
ในห้องขังมืดชายที่มือเท้าถูกใส่กุญแจมือกำลังนั่งบนพื้น แสงสลัวส่องผ่านหน้าต่างและฉายบนใบหน้าแดงก่พเขา
“โลกภายนอกกำลังวุ่นวายฉันไม่อาจอยู่ที่นี่ได้!”
เสียงของเขาแหบแห้งเต็มไปด้วยความกังวล
หากหานเซี่ยวอยู่เขาคงจำชายคนนี้ได้ ชายที่ถูกขังนี้คือนายเก่าของเขา อดีตผู้อำนวยการแผนกป้องกัน กู่หุ่ย
เขารอดชีวิตจากมหันตภัยกลายพันธ์สามปีก่อนตอนอความารีนเติบโต เขาได้เกษียณจากแผนก13และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพวกระดับสูงในรัฐบาล
แต่ทว่าไม่กี่วันก่อนหน้า ตำแหน่งเขาถูกริบและเขาก็ถูกขัง
กู่หุ่นสูดหายใจลึกภาพจากไม่กี่วันก่อนฉายในหัวเขา
เขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมในการประชุม ผู้นำชาติพลันตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับอีกห้าประเทศและประกาศสงครามกับเมืองแบล็คสตาร์ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะคัดค้านยังไง ผู้นำก็แข็งกร้าวและปฏิเสธคนเหล่านั้น เจ้าหน้าที่ระดับรองหลายคนเลือกเงียบและไม่คัดค้านเช่นกัน
เมื่อทั้งสองฝ่ายยืนยันแบบนี้การประชุมจึงจบลงโดยที่ตกลงกันไม่ได้ แต่ก่อนกู่หุ่นจะหายจากอาการตกใจได้ หนึ่งชั่วโมงหลังการประชุมจบ เขาก็ถูกจับและโยนเข้าคุก
“ฉันต้องไม่ใช่คนเดียวที่ถูกจับฝ่ายค้านทั้งหมดคงถูกขังเช่นกัน เบื้องบนกำลังประกาศสงคราม นี่คือเผด็จการ!”
กู่หุ่ยยังไม่อาจหาเหตุผลเบื้องหลังได้เขารู้จักผู้นำดี พฤติกรรมรุนแรงและไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย
ตอนนี้แบล็คสตาร์คือผู้พิทักษ์ดาวอความารีนแต่พวกเขาต้องการต่อสู้กับผู้พิทักษ์ตัวเอง?
กู่หุ่ยถูกขังมาหลายวันและกังวลมากถึงโลกภายนอกตั้งแต่ฝ่ายค้านถูกจับ ก็ไม่มีใครหยุดผู้นำได้อีก เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง เขาทำได้แค่สวดอ้อนวอนให้กองทัพมีความชัดเจนและไม่ทำตามคำสั่งแบบคนตาบอด
“นี่จะต้องทำให้แบล็คสตาร์โกรธแค้นแน่!”กู่หุ่ยไม่อยากนึก
ชายคนนั้นไม่ใช่ปีศาจทมิฬที่อ่อนแออีกแล้ว!
เขาสามารถบดขยี้ทั้งดาวอความารีนได้ลำพัง!
…
“หกประเทศเหล่านั้นประกาศสงครามกับกองกำลังแบล็คสตาร์ดาวนี้เป็นสวนของเขา ดังนั้นเขาย่อมต้องได้รับข่าวแน่”
ในเมืองแห่งหนึ่งของหกประเทศสเตฟานีและคนอื่นกำลังเดินบนถนนแออัด สังเกตอย่างเย็นชา
ไม่กี่วันก่อนเมืองนี้ยังสงบสุข แต่ตอนนี้ กลุ่มคนกำลังประท้วง พวกเขาโกรธและไม่พอใจคัดค้านกับการประกาศสงครามของรัฐบาล
ทหารร่วมมือกับตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยการตะโกน ก่นด่ามีอยู่ทั่ว บางคนยังโยนขวดไฟใส่อาคาร จุดไฟและสู้กับตำรวจ
ฉากนี้เกิดขึ้นกับหลายเมืองของหกประเทศ
สเตฟานีมองฉากวุ่นวายและยิ้มพอใจ
“ดีแบล็คสตาร์จะต้องกลับมาสืบสวนแน่ เขาไม่มีทางรู้ว่าเราอยู่เบื้องหลัง เขาจะไม่รู้ว่ากำลังตกเป็นเป้า เราแค่ต้องรอโอกาสในความมืด ทำให้เขาประหลาดใจ!”
ขณธที่เธอพูดทั้งเก้าก็หมุนตัวและเดินหายไป
ทีมนี้มีสมาชิกสิบนแต่กลับมีเพียงเก้าคนที่ปรากฏตัว
…
สิบวันต่อมากระแสแสงก็พุ่งไปยังดาวไร้คนอาศัย นี่คือจุดรวมตัวที่หานเซี่ยวตั้งไว้ มันไม่ไกลจากดาวอความารีน
ยานแสงทมิฬวนรอบดาวสักพักจากนั้นก็ได้รับสัญญาณจากผิวและติดต่อกับสัญญาณที่ส่งมา ผลึกม่วงและโกโดร่าได้มาถึงก่อนเขาแล้ว
ยานอวกาศลงจอดและหานเซี่ยวก็เดินออกมา ผู้ช่วยเข้าหาเขา หานเซี่ยวมอง มีทั้งหมดหกคน
“สวัสดีแบล็คสตาร์เรามาที่นี่เพื่อช่วยคุณ คุณสามารถเรียกผมว่าวิลตันได้ ผมคือเจ้าหน้าที่เกรดภัยพิบัติของผลึกม่วง สองคนนี้คือสมาชิกทีมผม..”
วิลตันดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าหานเซี่ยวพยักหน้าและจับมือกับทั้งหกทีละคน ทั้งหกล้วนเป็นภัยพิบัติ ผลึกม่วงและโกโดร่าส่งมาฝ่ายละสาม หัวหน้าของฝั่งโกโดร่าคือคนคุ้นตา นากาคิน
แม้กระทั่งอารยธรรมกลุ่มดาวภัยพิบัติก็ยังถือเป็นคนสำคัญ แต่ผลึกม่วงก็ยังส่งคนสามคนมาช่วยเขา แสดงถึงความจริงใจ
“ตามคำสั่งจากเบื้องบนคุณคือผู้บัญชาการและสามารถออกคำสั่งกับเราได้ คุณอยากให้เราทำอะไร?”วิลตันกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
หานเซี่ยวสังเกตเห็นความไม่พอใจได้เขาคิดสักพักและรู้ว่าทำไม
วิลตันคือพลรบระดับสูงของอารยธรรมกลุ่มดาวดังนั้นเขาย่อมรู้สึกเหนือกว่าและหยิ่งผยอง แต่ทว่า เขาจำต้องทำตามคำสั่งของคนระดับเดียวกันที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐบาล แม้เขาจะไม่คัดคำสั่งของเบื้องบน เขาก็ยังไม่เต็มใจ
หานเซี่ยวไม่ว่าอะไรเขาไม่ต้องการให้พวกเขาเต็มใจหรืออะไรก็ตาม เขาแค่ต้องการให้พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งเขา
“ผมสงสัยว่าความขัดแย้งภายในบนดาวอความารีนเป็นแผนการของใครบางคนเป้าหมายพวกมันอาจเป็นการลอบสังหารผม..”หานเซี่ยวกล่าว
“แล้วคุณอยากให้เราทำอะไร?”วิลตันถาม
หานเซี่ยวคิดสักพักและกล่าว”ในเมื่อศัตรูพยายามดึงดูดความสนใจผมด้วยสงครามภายในพวกเขาก็อาจซ่อนตัวจนกระทั่งผมปรากฏ อย่าให้พวกเขารู้ตัว ผมจะกลับไปลำพังก่อน พวกคุณรอใกล้ๆดาวอความารีน เมื่อศัตรูเผยตัว พวกคุณค่อยมาสนับสนุนผม”
“ตกลง”
วิลตันไม่มีปัญหากับแผนแม้เขาจะไม่ชอบแบล็คสตาร์ นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขากังขาพลังของหานเซี่ยว เหนือสิ่งอื่นใด เขาเคยต้านรับการโจมตีของแปดขุนพลมาก่อน ดังนั้นแบล็คสตาร์ย่อมทนได้จนกระทั่งพวกเขาไปถึง
หลังหารือกันสักพักหานเซี่ยวก็วางแผนเสร็จ ศัตรูได้วางกับดักให้เขาเข้าไปเหยียบ แต่เขาก็จะใช้วิธีเดียวกันเพื่อล่อพวกเขาออกมา นี่คือการแข่งขันระหว่างการซุ่มโจมตีและการโต้ตอบ
หลังยืนยันแผนหานเซี่ยวก็มองพวกเขา ทันใดนั้นก็มีความคิด”ผมมีคำขอ ผมหวังว่าจะได้ประลองกับพวกคุณเพื่อทดสอบความสามารถ จากนั้นผมถึงจะรู้พลังรวมของเรา”
มีหกภัยพิบัติมันเป็นโอกาสดีที่จะได้รับแต้มทดสอบ ความคืบหน้าภารกิจเลื่อนระดับเขาอยู่ที่24/50 หากทั้งหกแข็งแกร่งพอ เขาอาจสามารถบรรลุภารกิจได้เลย
วิลตันขมวดคิ้ว
คำขอของหานเซี่ยวไม่ได้ไร้สาระแต่มันตรงไปตรงมาเกิน มันราวกับเขากังขาพลังพวกเขา นี่ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนดูถูก
แต่เขาก็ไม่คิดสู้กับหานเซี่ยวจริงจังสำหรับเขา ภารกิจสำคัญสุด เขาระงับความโกรธและประมือกับหานเซี่ยว ครั้งนี้ การประมือใช้เวลาสั้นกว่าตอนเขาสู้กับเหล่าจอมเวทย์ต้องห้าม ทั้งสองหยุดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมและไม่ทุ่มสุดตัว
หานเซี่ยวประลองกับทั้งหกทีละคนมันราบรื่นและไม่เสียเวลามาก เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งหกคือคนของเขาชั่วคราว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คัดค้าน
ท่ามกลางทั้งหกมีเพียงวิลตันที่ระดับสูงกว่าเขา20ถึงให้6แต้ม ที่เหลือมีระดับมากกว่าเขาไม่ถึง20 หานเซี่ยวพบข้ออ้างประลองกับพวกเขาสองครั้งและให้เขามาสี่แต้ม โดยรวม เขาได้รับมา22แต้ม
ความคืบหน้าเป็น46/50สี่แต้มจากการทำเสร็จ น่าเศร้า มีชาวโกโดร่าคนหนึ่งระดับต่ำกว่าเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ให้แต้ม
อีกแค่4ฉันต้องหาศัตรูอีกหนึ่ง..หานเซี่ยวลังเล เขาอยากหาคนอีกคนมาประลองและทำภารกิจให้เสร็จก่อนกลับอความารี
แต่การหาคู่ต่อสู้ใหม่ต้องใช้เวลาเบนเน็ตได้ส่งรายงานหาเขาทุกวัน สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากล่าช้า
นอกจากนี้ทันทีที่เขาทำภารกิจ เขาจะผ่านการวิวัฒนาการเผ่า และความสามารถตราสังเกตอาจหายไป นี่เป็นความสามารถที่มีประโยชย์ โดยเฉพาะกับนักล่าที่เขาใจยากพวกนี้
หลังไตร่ตรองหานเซี่ยวก็ตัดสินใจ ศัตรูกำลังซุ่มโจมตีฉัน ดังนั้นเราจะสู้กันในไม่ช้า ฉันมีผู้ช่วยแล้ว มันจะไม่ง่ายสำหรับศัตรู มันจะไม่สายเกินไปที่จะทำภารกิจให้เสร็จในช่วงต่อสู้ มันดีกว่าที่จะเก็บตราสังเกตไว้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์
หานเซี่ยวเรียบเรียงความคิดและให้ฟิลลิปจัดการที่เหลือในกรณีที่ศัตรูมีวิธีตัดการสื่อสาร ฟิลลิปจะสามารถเรียกกำลังเสริมให้เขาได้
เมื่อเตรียมการเสร็จหานเซี่ยวก็ไม่อยู่บนดาวนี้ เขาขึ้นยานและตรงไปดาวอความารีน
…
ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์กลางเมืองแบล็คสตาร์ทหารรับจ้างประจำการที่นั่นและเจ้าหน้าที่บางคนภายใต้เบนเน็ตก็ได้รับข่าวและรอการกลับของแบล็คสตาร์
เบนเน็ตเดินไปมาและเหลือบมองฟ้าเป็นครั้งคราว
หู่!
เสียงของยานอวกาศดังฝูงชนรีบแหงนมองและเห็นยานของแบล็คสตาร์กำลังลอยลง ทุกคนรู้สึกโล่งใจมาก
ยานแสงทมิฬหยุดและหานเซี่ยวก็ก้าวมาบนอความารีนอีกครั้งเขาเห็นเบนเน็ตและคนอื่นทันทีและเดินมา
“ในที่สุดนายก็กลับมา!’
เบนเน็ตรู้สึกเหมือนไหล่เขาเบาขึ้นเหมือนน้ำหนักทั้งหมดถูกลบเขาเครียดมาตลอด แต่ทันทีที่เห็นแบล็คสตาร์ เขาก็ไม่รู้สึกเครียดเลย แบล็คสตาร์คือผู้พิทักษ์ของอความารีน เขาจะต้องแก้ปัญหาได้
หานเซี่ยวพยักหน้าและเดินไปทางฐานเบนเน็ตและคนอื่นตามมา
“สถานการณ์เป็นยังไง?”
“หกประเทศได้ประกาศสงครามคนของพวกเขาและคนของเราโกรธ สายที่ฉันฝังไว้ในหกประเทศบอกฉันว่าหกประเทศได้เตรียมยิงขีปนาวุธใส่เมืองแบล็คสตาร์ ฉันไม่กล้าปิดม่านพลังเลย พวกเขาบ้าไปแล้ว!”เบนเน็ตรีบพูด
หานเซี่ยวขดปาก”เจ้าหน้าที่ของหกประเทศเห็นด้วยงั้นหรอ?ฉันไม่เชื่อว่าทุกคนจะขาดสติกันหมดมีข้อมูลอะไรไหม?”
เบนเน็ตกล่าว”นายพูดถูกการตัดสินใจของหกประเทศฉับพลันมาก เจ้าหน้าที่หลายคนไม่รู้มาก่อน หลายคนคัดค้าน แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ฝ่ายค้านก็ถูกจับ หกประเทศกลายเป็นเผด็จการไปแล้ว”
“เผด็จการแบบกลุ่ม?ฮ่าๆ”หานเซี่ยวทำเหมือนเขาอยากรู้และถาม”ได้ติดต่อกับผู้นำของหกประเทศไหม?”
“ไม่พวกเขาปฏิเสธที่จะสื่อสาร ฉันไม่รู้ว่าทำไม”
หานเซี่ยวหรี่ตา”งั้นฉันจะไปคุยกับพวกเขาเอง”
เขาอยากดูว่านักล่าเหล่านี้ทำอะไรกับหกประเทศ
ด้วยสีหน้ากังวลเบนเน็ตกล่าว”หกประเทศไม่มีทางยอมให้นายเข้าใกล้ นายต้องระวัง พวกเขาอาจยิงขีปนาวุธใส่นาย”
“ก็ลองดูสิ”น้ำเสียงหานเซี่ยวกลายเป็นเย็นชา”ฉันต่อสู้ภายในมาพอแล้วอารยธรรมถูกแบ่งแยกมานานเกินไป มันถึงเวลารวมเข้าด้วยกัน”
เนื่องจากเขากำลังทำตัวเป็นเหยื่อเขาจึงต้องทำให้สมจริง หานเซี่ยวลอบมองเจ้าหน้าที่ด้านหลังเขา
ศัตรูอาจกำลังมองเขาอยู่

ตอนที่ 670 การละเล่น
เนื่องจากเป้าหมายศัตรูคือเขาหานเซี่ยวจึงรู้สึกว่าพวกเขาควรมีมาตรการเพื่อยืนยันการกลับมาของเขา สิ่งที่น่าเป็นไปได้มากสุดคือมีคนจับตาดูเขาในเมืองแบล็คสตาร์เพราะคนของอวคมารีนไม่มีทางพบศัตรู ในฐานะภัยพิบัติ การเล่นกับอารยธรรมเช่นนี้เป็นเรื่องง่ายเหมือนการกินดื่ม
ด้วยการลงทุนจากกลุ่มการเงินดาวอความารีนจึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่ปี พวกเขาอาจสามารถสร้างอาณานิคมบนดาวไร้คนอาศัยและอื่นๆได้ แต่ทว่า ดาวอความารีนก็ยังถือเป็นดาวชั้นต่ำอยู่ พวกเขาไม่มีโอกาสได้กับเหล่าภัยพิบัติ
เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาต้อนรับเขามีชื่อเขียวหมดแต่หานเซี่ยวก็ไม่ได้พึ่งพาหน้าต่างสถานะจนหมด ในชีวิตก่อนหน้าเขา มีความสามารถพิเศษที่สามารถหลอกหน้าต่างสถานะได้ ในความเป็นจริง ตราสังเกตเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
หานเซี่ยวดูปกติแต่ตื่นตัวเสมอเริ่มตั้งแต่วินาทีที่เขาลงพื้น ศัตรูอาจโจมตีได้ตลอด
หลังคุยสักพักหานเซี่ยวก็เข้าใจสถานการณ์จากเบนเน็ต เขายิ้ม”ฉันเข้าใจสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องให้หกประเทศเตรียมตัว ฉันจะไปคุยกับพวกเขาเดี๋ยวนี้”
จากนั้นโดยไม่รอให้คนอื่นตอบ ชิ้นส่วนจักรกลก็คลุมตัวเขาในชั่วพริบต เปลี่ยนเป็นชุดลิงภูเขา ไฟสีฟ้ายิงออกจากด้านหลัง และหานเซี่ยวแหวกผ่านอากาศ กลายเป็นจุดสีดำ หายไปอย่างรวดเร็ว
เบนเน็ตผ่อนคลายด้วยการคงอยู่ของแบล็คสตาร์ เขารู้สึกมั่นใจมาก
..
ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์กาแล็กซี่หานเซี่ยวบินภายในชั้นบรรยากาศดาว ทิวเขาและภูมิทัศน์อื่นๆเคลื่อนผ่านอย่างรวดเร็วภายใต้เขา หานเซี่ยวทิ้งเส้นสีฟ้าไว้ด้านหลัง มันชัดเจนมากแม้จะเป็นเวลากลางวัน ทุกที่ที่เขาผ่าน ผู้อาศัยบนผิวดาวจะแหงนมอง
ไม่นานหานเซี่ยวก็มาถึงเมืองหลวงมังกรดารา
เมื่อมองไปยังเมืองคุ้นเคยหานเซี่ยวก็เห็นภาพมากมายในอดีต เวลามันผ่านไปเกือบสิบปีแล้ว เมืองนี้คือที่ที่เขาเริ่มต้น
หลังคิดสักพักหานเซี่ยวก็ไม่ซ่อนตัวและลอยลงบนถนน ไม่ไกลนัก กลุ่มคนกำลังประท้วง วินาทีที่พวกเขาเห็นแบล็คสตาร์ ใบหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นและส่งเสียงให้กำลัง
“ดูนั่นแบล็คสตาร์!”
“โปรดหยุดรัฐบาลเราด้วย!”
“แบล็คสตาร์เจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่ใช่ตัวแทนของเรา เราสนับสนุนคุณ ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูคุณ!”
ฝูงชนเบียดเสียดและตะโกนวุ่นวายแต่หานเซี่ยวก็ยังเข้าใจความหมายได้
เมื่อเขาแก้ไขมหันตภัยกลายพันธ์ชื่อเสียงเขาบนดาวก็สูงขึ้นมาก เขาเป็นที่ชื่นชมจากประชากรทั่วดาวอความารีน
ฉันเป็นที่นิยม
หานเซี่ยวรู้สึกแปลกเขาไม่รู้สึกลำบากใจ แต่ก็ไม่รู้สึกยินดีที่เป็นที่รักของใครหลายคน เหนือสิ่งอื่นใด เป้าหมายเขาไม่เพียงเป็นการกำจัดกับดักแต่ยังเป็นการใช้โอกาสนี้เพื่อคว่ำหกประเทศ
เนื่องจากชื่อเสียงฉันสูงมากเรื่องก็คงง่ายขึ้น
หานเซี่ยวพยักหน้าโดยไม่ทักทายพลเรือน เขารีบเดินข้ามครึ่งเมือง
ในเมื่อเขากลับมาแล้วหานเซี่ยวก็อยากไปดูโรงงานที่เขาเคยทำงาน
ในช่วงมหันตภัยกลายพันธ์เมืองกลายเป็นเละเทะ เพื่อความปลอดภัย หลายคนตัดสินใจทิ้งเมือง ลู่เฉียนหายไป ร้านนี้ปิดมานานมากและก็มีร่องรอยพังเสียหายทุกที่
ตอนนี้ผ่านสามปีแล้วร้านนี้ก็ยังไม่มีใครกลับมา
หานเซี่ยวส่ายหัวด้วยการปกป้องของเฒ่าหมานลู่ ลู่เฉียนย่อมไม่ตายในมหันตภัยกลายพันธ์ พวกเขาอาจปักหลักในเมืองอื่นและไม่กลับมา เนื่องจากเธอไม่มาหาเขา เขาจึงไม่อยากไปรบกวน
หลังไปเยือนสถานที่ในอดีตหานเซี่ยวก็บินไปหอคอยเขามังกรที่ตั้งรัฐบาล ตรงไปหาผู้นำมังกรดารา
หอคอยเขามังกรใหญ่โตมากหานเซี่ยวมาถึงปลายทาง ลอยอยู่ในอากาศ ก้มมองและยิ้ม
พื้นรอบหอคอยแตกเปิดเผยให้เห็นป้อมปืนมากมายกำลังผุดขึ้น กองทัพหุ้มเกราะปรากฏจากภายในและมีอาวุธปืนทุกชนิดเล็กมายังเขา
ด้านใต้หอคอยเขามังกรคือฐานทัพเมื่อหานเซี่ยวเผยตัวในเมือง ทัพมังกรดาราก็ได้รับข่าว การมาอย่างกะทันหันทำให้มังกรดาราไม่มีเวลาพอจะเตรียมขีปนาวุธและทำได้แค่เตรียมการอย่างเร่งรีบ
ด้วยพลังของหานเซี่ยวกองทัพเหล่านั้นจึงไม่ระแคะระคายอะไร อาวุธดินปืนกลายเป็นของล้าสมัยสำหรับเขา
หานเซี่ยวส่ายหัวและยืดแขนพลังจักรกลพลันระเบิดจากมือเขา
เกร๊ง!
รถถังและป้อมปืนบนพื้นถูกดูดขึ้นทันทีและรื้อเป็นชิ้นๆเปลี่ยนเป็นของเสีย กองทัพนี้ถูกกำจัดทันที ทิ้งทหารไว้บนพื้น
“พิธีต้อนรับยังไม่กระตือรือร้นพอนะ”
หานเซี่ยวรู้สึกเหมือนเขากำลังแกล้งเด็ก…แต่มันรู้สึกดี
ด้วยพลังเขาการกำจัดหกประเทศง่ายเหมือนปอกกล้วย
…
ภายใต้หอคอยเขามังกรผู้นำมังกรดาราเข้าเซฟเฮาส์พร้อมทหาร หลังปิดประตูเหล็กหนา เขาก็ถอนหายใจโล่งอก
เซฟเฮ้าส์นี้เหมือนตู้นิรภัยมันหนามากและไม่เคยถูกเจาะด้วยขีปนาวุธ
“กองทหารเป็นยังไง?”ผู้นำมังกรดารารีบถาม
“ถูกกำจัดหมดแล้วครับแบล็คสตาร์แค่ยกมือขึ้น”
“เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไง?!”ผู้นำมังกรดาราสูดหายใจ
ทันใดนั้นเสียงดังก็มาจากประตู
บูม!
ด้วยแสงของพลังงานไซโอนิคเซฟเฮาส์ที่หยุดขีปนาวุธได้กลับมีรู หานเซี่ยวเดินเข้า ผ่านรู คนภายในห้องเห็นทหารรับไม่ถ้วนด้านหลังหานเซี่ยวที่กำลังนอนบนพื้น
หานเซี่ยวไม่อยากฆ่าล้างดังนั้นเขาจึงควบคุมพลังและแค่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บ
“เราเจอกันอีกแล้ว”หานเซี่ยวมองผู้นำมังกรดารา
“กะ-แกเข้ามาได้ยังไง?!”ผู้นำมังกรดาราหวาดกลัว
“หืม?”หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
ผู้นำหกประเทศควรรู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่คิดว่าเขาสามารถทำลายกำแพงเหล็กหนาได้ แต่ความตกใจบนหน้าผู้นำมังกรดารากลับดูไม่ใช่การแสดง
หานเซี่ยวหรี่ตาก่อนชกกำแพงข้างๆเขา
บูม!
เซฟเฮ้าส์ทั้งหลังสั่นทุกคนไม่อาจรักษาสมดุลได้และล้มลง
หน้าต่างสถานะได้รับข้อมูลจำนวนมากหานเซี่ยวรีบเปิดและอ่านมัน
ระดับของทุกคนน้อยมากดังนั้นสถานะพวกเขาจึงชัดเจน
รวมถึงผู้นำมังกรดาราแถบสถานะของทุกคนในห้องมีสถานะพิเศษ
[ดัดแปลงความทรงจำ]: ความทรงจำของบุคคลนี้ได้รับการดัดแปลง
ระยะเวลาคงเหลือ: 2วัน13ชั่วโมง
“ไม่แปลงใจเลย..”
ความสงสัยทั้งหมดกระจ่างนี่คือเหตุผลที่หกประเทศประกาศสงคราม
นี่คือการกระทำของพวกนักล่าอย่างไม่ต้องสงสัยเขาไม่รู้ว่าความทรงจำประเภทใดที่ศัตรูยัด แต่พวกเขาดูเหมือนจะลืมพลังเขาไปสนิท ไม่แปลกใจที่พวกเขาต่อต้านอย่างไร้ความหมาย แม้กระทั่งคิดฝันยึดอำนาจจากเขาและโค่นล้มเบนเน็ต
นิสัยของคนตัดสินจากประสบการณ์เมื่อความทรงจำเปลี่ยน นิสัยก็เปลี่ยนด้วย ผู้ใช้พลังจิตหรือเอสเปอร์มีความสามารถทำแบบนี้ ต้องมีคนจำนวนนี้ในหมู่ศัตรู
สิ่งเหล่านี้ไร้ประโยชน์กับคนที่แข็งแกร่งพวกพิเศษมีการต้านทานทางจิตสูง แต่ ดาวอความารีนมีพวกพิเศษไม่กี่คน คนที่แกร่งสุดก็แค่เกรดC ต่อนหน้าภัยพิบัติ พวกเขาไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย
การเปลี่ยนความทรงจำเป็นวิธีซ่อนเร้นนอกจากพวกพิเศษที่มีความสามารถทางจิต สายอื่นไม่อาจพบได้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคนเหล่านี้
แต่หานเซี่ยวเป็นข้อยกเว้น
ศัตรูคงคิดว่าฉันไม่มีทางพบเพราะฉันเป็นช่างกล
หานเซี่ยวหัวเราะเยาะในใจ
เนื่องจากศัตรูสามารถดัดแปลงความทรงจำได้มันก็ไร้ประโยชน์ที่เขาจะทำอะไรกับคนเหล่านี้เพราะศัตรูคงดัดแปลงความทรงจำคนเหล่านี้อีกครั้ง
ทันใดนั้นหานเซี่ยวก็มีความคิด
ความสามารถประเภทนี้ต้องอยู่ระยะใกล้ระยะเวลาสถานะของคนเหล่านี้แค่สองวันครึ่ง ตอนนั้น ศัตรูลับจะต้องลอบปรากฏและดัดแปลงความทรงจำอีกครั้ง…ฮี่ๆ จากนั้นฉันก็จะพบตำแหน่งพวกมัน
หานเซี่ยววางตราสังเกตบนผู้นำมังกรดาราก่อนแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องการดัดแปลงความทรงจำและทำเหมือนที่เขาควรข่มขู่ผู้นำมังกรดาราให้หยุดประกาศสงคราม
เจ้าหน้าที่รัฐบาลลืมเรื่องพลังหานเซี่ยวไปหมดดังนั้นพวกเขาจึงกลัวและยอมแพ้ พวกเขาออกคำสั่งและปล่อยเจ้าหน้าที่ที่ถูกจับออกมา
หานเซี่ยวเห็นเพื่อนเก่าเขากู่หุ่ยแต่เขาก็แค่เหลือบมองและไม่ตั้งใจทักทาย ในเมื่อศัตรูยังซ่อนอยู่ มันจึงไม่ใช่เวลา
หลังเห็นผู้นำมังกรดาราทำตามคำสั่งเขาหานเซี่ยวก็ออกเมืองหลวงมังกรดาราไป
ผู้นำมังกรดาราและเจ้าหน้าที่คนอื่นไม่อยากเชื่อแค่นั้น?พวกเขาคิดว่าพวกเขาคงตายแน่
เจ้าหน้าที่ที่ถูกจับรวมถึงกู่หุ่ยยินดีที่หานเซี่ยวไม่ฆ่าคนเหล่านี้ชัดเจนว่าเขากำลังให้โอกาส
เพราะความผิดพลาดนี้กู่หุ่ยและหลายคนจึงตัดสินใจฟ้องร้องผู้นำ พวกเขาไม่อาจปล่อยให้คนบ้านี้นำประเทศต่อได้
…
หลังจากนั้นหานเซี่ยวก็ไปเยือนอีกห้าประเทศและโน้มน้าวทุกคน
เขาใช้ตราสังเกตได้แค่ห้สตราที่เขาฝังไว้กับลากีถูกลบไปโดยออสตินแล้ว
เมื่อการเลื่อนระดับอยู่ใกล้หานเซี่ยวจึงกวาดเป้าหมายของตราสังเกตทั้งหมดและมอบให้ผู้นำห้าประเทศ จากนั้นก็กลับไปเมืองแบล็คสตาร์และรอให้ตราสังเกตแจ้งข้อมูล นี่เหมือนการตกปลา มันต้องใช้ความอดทน
ด้วยความแปลกใจศัตรูลับไม่โจมตีเขาในช่วงเวลานี้ พวกเขากำลังรออะไร?
เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรกับอัลเบิร์ตศัตรูควรระวังตัวมากและต้องยืนยันว่าเขาติดกับจริงๆ
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหกประเทศก็ถอนประกาศพร้อมกัน คนนับไม่ถ้วนยินดี
แต่ก่อนพวกเขาจะได้ยินดีแค่หนึ่งวันต่อมา ทุกคนก็งุนงงกับการกระทำของหกประเทศ
หลังถอนประกาศสงครามหกประเทศก็ยิงขีปนาวุธใส่เมืองแบล็คสตาร์ในวันต่อมา!
ราวกับคำสัญยาวันก่อนแค่การหาเวลาเตรียมการ
ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกขัดขวางและม่านพลังระดับกาแล็กซี่ของเมืองแบล็คสตาร์ก็หยุดที่เหลือไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ทุกคนในเมืองแบล็คสตาร์กลับโกรธหกประเทศมาก
แม้กระทั่งคนของหกประเทศก็ยังไม่อยากเชื่อ
รัฐบาลของเราบ้าไปแล้วจริงๆ?!
พวกเขากำลังร้องขอความตาย?พวกเขาจะหยุดเมื่อแบล็คสตาร์ฆ่าพวกเขาจนหมด?
แต่หานเซี่ยวกลับไม่โกรธเลยมันเห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพราะศัตรูได้ดัดแปลงความทรงจำอีกครั้ง ความขัดแย้งทางการเมืองของอารยธรรมพื้นผิวไม่ต่างจากการเล่นของเด็ก
ข่าวดีคือเขาไม่ต้องรออีกสองวันเพื่อรับข้อมูล
ผ่านตราสังเกตในที่สุดศัตรูก็ปรากฏ
“เผยตัวแล้วสินะ”
หานเซี่ยวยิ้ม
…
หนึ่งวันต่อมากู่หุ่ยถูกขังอีกครั้งก่อนจะได้ดำเนินตามแผน
การถูกขังเป็นครั้งที่สองทำให้เขาไม่โกรธอีก
นี่คืออะไร?
ผู้นำคิดว่าเรื่องสำคัญของชาติเป็นเหมือนการละเล่นสามารถทำได้ตามใจชอบ?
แน่นอนกู่หุ่ยไม่รู้ว่าความทรงจำพวกเขาถูกดัดแปลง เขาพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง